เวรันนที # ตอนที่ 3 วารีส่องร่าง #
|
 |
ภายใต้วารีมรกตนั้นทันทีที่ศีรษะจมมิดลงไป เท้าของรัชชตะก็สัมผัสถูกพื้นสากๆก้นสระ เมื่อประเมินตามความรู้สึกพื้นนั้นน่าจะเป็นพื้นหินปูนธรรมชาติเป็นแน่ เขายังสามารถมองเห็นบันไดทางขึ้นฝั่งเทวรูปได้เป็นภาพลาง ๆ ดังเช่นทุกครั้งที่ว่ายน้ำในสระสาธารณะต่างๆ เมื่อประเมินตามระยะทางที่เห็นนั้นคิดว่าไม่ไกลนัก ซึ่งเป็นระยะที่สามารถเดินถึงได้ภายในหนึ่งลมหายใจสำหรับคนที่เชี่ยวชาญการว่ายน้ำเช่นรัชชตะ ทว่าเมื่อเดินไปสักครู่ การณ์ต่าง ๆดูจะไม่ได้เป็นดังที่คาดไว้ สายตาที่เคยมองเห็นบันไดฝั่งตรงข้ามมาบัดนี้ได้เปลี่ยนไป สิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้านั้นมิใช่น้ำสีมรกตอีกแล้ว มันกลับกลายเป็นภาพของสถานที่แห่งหนึ่ง ภวังค์ รัชชตะรู้ตัวว่าตกอยู่ในภวังค์หากแต่ไม่สามารถบังคับจิตใจให้ต่อต้านการรับรู้ได้เลย ภาพที่เห็นนั้นคือตนเองนั่งประคองร่างของชายผู้หนึ่ง พร้อมกับหมู่บริวารที่นั่งคุกเข่ารายล้อม พวกเขาเหล่านั้นรวมทั้งรัชชตะอยู่ภายใต้เสื้อผ้าอาภรที่ดูแปลกตาต่างสีสัน จากลักษณะที่เห็นไม่ต่างอะไรกับชุดของเหล่าเทวดาที่รัชชตะเคยเห็นในละครหรือหน้าปกหนังสือนิยาย ภายในถ้ำกว้างแห่งนั้นประกอบด้วยหินสีขาวมุกที่ระยิบระยับวับวาว ความสงบภายในได้ถูกทำลายด้วยเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่นคล้ายแผ่นดินไหว ทว่าแรงสั่นสะเทือนนั้นดูจะไม่สามารถทำลายจิตใจที่จดจ่ออยู่กับความเศร้าสลดของผู้ที่อยู่ในที่นั้นได้ เหล่าบริวารทั้งหลายต่างก้มหน้านิ่ง รัชชตะยิ่งดูเศร้าสลดกว่าบริวารเหล่านั้น เขายังประคองร่างที่บาดเจ็บของผู้มีประกายรัศมีแผ่อร่ามเรืองรองที่ทอดกายอยู่บนพื้นถ้ำนั้นไว้ รัชชตะ อีกไม่ช้านานเหล่าครุฑาจะพังผนังศิลาเข้ามาภายในได้สำเร็จ เจ้าจงให้คำมั่นสัญญาต่อพ่อว่าจะช่วยเหลือบริวารภุชนาคินของเรา และแม่ของเจ้าที่ถูกฝังจมอยู่ที่ภุชะคูหา รับปากพ่อรัชชตะ ก่อนที่พ่อจะทำลายสังขารเพื่อสืบทอดบารมีแก่เจ้า ไม่ ข้าจะออกไปสู้กับวิรุฬหัตถี ท่านพ่อต้องไม่เป็นไร ลูกชายทัดทานพร้อมน้ำตาที่เอ่อคลอ รัชชตะเอย เจ้าเพิ่งจุติเป็นนาคายังหาได้มีบารมีจะต่อกรวิรุฬหัตถีไม่ พ่อจะสืบบารมีแก่เจ้า และเจ้าจงเดินทางผ่านข้ามวารีมรกต ณ.วิมานอันเป็นที่สถิตแห่งอินทนาคราชสหายข้า เจ้าจะได้ล้างชาติแห่งนาคาไปเป็นมนุษย์ และได้บวชอยู่ในบวรพุทธศาสนา เมื่อนั้นบารมีของเจ้าจึงพร้อมมาทำดังคำมั่นสัญญา ท่านพ่อ อย่าจากข้าไป รัชชตะสะอื้นไห้ รั้งร่างผู้เป็นพ่อมากอดไว้แน่น ลูกเอ๋ย สรรพสิ่งล้วนเวียนว่ายตายเกิด ไม่ว่าจะเป็น บาดาล เทวโลก หรือแม้แต่ พรหมโลก แต่หากเรายึดถือดำเนินตามรอยทางพระพุทธศาสนา สักกาลหนึ่งเบื้องหน้าการเวียนว่ายตายเกิดจึงจะยุติลง อย่าอาลัยอาวรณ์เลย เราไม่มีเวลาแล้ว ประเดี๋ยวเจ้าจงหนีไปกับบริวารที่เหลือ ด้านหลังถ้ำ ท่านพ่อ ชายหนุ่มซบหน้าลงบนอกของผู้เป็นพ่อ อีกสิ่งหนึ่ง จงดูแลชานตตี พ่อของนางยอมสละชีวิตเป็นผู้ปิดปากถ้ำอยู่ด้านนอก จงยกย่องนางดังเช่นคู่บุญของจ้าวอาณาจักรภุชนาคิน รับปากกับพ่อทั้งสองสิ่ง รัชชตะ ผู้เป็นพ่อเริ่มพูดกระท่อนกระแท่นเหมือนจะสิ้นลมปราณ ข้าให้คำมั่นสัญญา จะช่วยเหลือบริวารแห่งภุชนาคิน และจะดูแลชานตตีนาคีตราบสิ้นบารมี! รัชชตะพูดเน้นเสียงหนักแน่นดั่งเป็นการประกาศสัจจะวาจาต่อเขาเหล่านั้น โดยทั่วกัน พลางกวาดสายตามองไปยังบริวารทุกร่าง และหยุดนิ่งลง ที่บริวารสตรีนางหนึ่งดั่งให้คำมั่น ทันใดนั้นวาสุกรีนาคราชกลับกลายร่างเป็นงูใหญ่ที่มีเกล็ดทองอร่ามงดงามยิ่ง เสียแต่ว่าร่างนั้นไม่อาจเลื้อยฉวัดเฉวียนแหวกผืนฟ้าฝ่าผืนน้ำได้เหมือนกาลที่ผ่านมาอีกแล้ว ร่างนั้นค่อยๆขยับกายเป็นระลอกๆตั้งแต่กลางท้องจนมาถึงปาก และเมื่อนั้นเองจึงได้คลายลูกแก้วกลมใสวับวาวออกมา รัชชตะนาคราชเห็นดังนั้นจึงรับรู้ได้ถึงสิ่งที่ต้องปฏิบัติ เขากลายร่างเป็นงูใหญ่พร้อมเปิดปากรับลูกแก้วกลมใสแล้วกลืนลงสู่ร่างของตน เมื่อการสืบบารมีเสร็จสิ้นลงฉับพลันร่างของท้าววาสุกรีจึงสูญสลายไปสิ้น! ต่อหน้าบุตรชายและบริวารทั้งหลายเหล่านั้น ภวังค์ยังไม่หยุดลงเพียงเท่านั้น ยังคงมีบางอย่างวิ่งเข้าจู่โจมหัวสมองของรัชชตะ เกิดเป็นมโนภาพมากมายในส่วนลึกที่บอกให้เขารู้ว่า ตัวเขาและวาสุกรีนาคราชนั้น ได้สานสัมพันธ์สืบเนื่องต่อกันมาหลายภพหลายชาติเกิดเป็นความระลึกรู้ถึงความรักและอาทรที่มีต่อกันมาอย่างยาวนาน ภาพชัยชนะที่ได้มาอย่างไม่เป็นธรรมของบรรดาเหล่าครุฑาทั้งหลาย มันยิ่งตอกย้ำความรู้สึกให้ต้องการทวงความเป็นธรรมกลับคืนเพื่อสืบเผ่าพันธุ์นาคา และสานต่อประสงค์ของผู้เป็นพ่อ ขณะนี้ภายใต้วารีสีมรกตไม่ได้มีร่างของชายหนุ่มที่ผอมบางคนเดิมอีกแล้ว ทว่าเขาได้กลับกลาย เป็นชายหนุ่มผู้มีร่างกายสูงใหญ่แข็งแรงด้วยมัดกล้ามเนื้อได้รูป ผมที่เคยตัดสั้นบัดนี้เหยียดยาวประบ่า ใบหน้าที่เคยขาวค่อนซีดกลับกลายเป็นคมเข้มน่าเกรงขามอย่างประหลาด เขายังคงสงบและหลับตานิ่งเพื่อระลึกรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในภวังค์ สักพักใหญ่จนกระทั่งภวังค์เหล่านั้นสลายไป วารีมรกตที่เคยสงบกลับเชี่ยวกราก พัดกระแทกร่างของรัชชตะที่ขณะนี้ตื่นจากภวังค์มาพบกับความเป็นจริงแล้ว! โอ้ย ไม่ไหวแล้ว ตัวจะระเบิด ชานตตี ช่วยด้วย ช่วยด้วย รัชชตะคิดในใจเพื่อหวังเรียกให้ชานตตีมาช่วยเหลือ เมื่อพบว่าตัวเองถูกแรงดันของน้ำรอบข้างดันกระแทกเข้าอย่างจัง ความรู้สึกในตอนนี้กระอักกระอ่วนบีบรัดจนร่างจะแหลกสลาย อดทน ท่านกำลังจะคืนร่างเป็นนาคา เสียงหญิงสาวแว่วมาเข้าหูจากระยะไกล ไม่ไหวแล้ว โอ้ย
คราวนี้ไม่เพียงแค่คิด ทว่ารัชชตะตะโกนออกไปสุดแรงภายใต้วารีมรกต ด้วยพลังเสียงที่เปล่งออกมาสุดกำลัง ก่อให้เกิดเป็นระลอกคลื่นยักษ์ยกตัวสูงดันร่างภายใต้น้ำขึ้นสู่อากาศด้านบน เกิดกระแสน้ำพุ่งขึ้นเป็นทางยาวตามร่างที่บัดนี้กลับคืนเป็นพญานาคตนใหญ่ตามกำเนิดที่แท้จริง มิใช่ร่างของชายหนุ่มอีกต่อไปแล้ว! ร่างที่แท้จริงของจอมนาคาประกอบไปด้วยเกล็ดสีเงินระยับ อีกทั้งกรอบไปด้วยหนอกและหงอนสีทองอร่าม กำลังพุ่งทะยานขึ้นเหนือผิวน้ำ ผ่านออกไปทางหน้าต่างหินสีมุกบานใหญ่พุ่งออกไปสู่สนามหญ้า ที่เจ้าตัวเรียกขานว่าเป็น'สนามฟุตบอล'ภายนอก มันเกินการควบคุมที่รัชชตะจะประคองร่างใหญ่โตของตนเองให้เหินลงสู่พื้นอย่างนิ่มนวล เขาเพียงแค่คิดว่าอยากลงร่างนั้นก็ลงสู่พื้นเต็มแรง! ครืน
. เสียงรัชชตะนาคราชกระแทกพื้นสะเทือนลั่นไปทั่วสนามฟุตบอล โอ้ย เจ็บ! เจ้าตัวร้องออกมาทันทีที่รู้สึกปวดไปทั่วสันหลังยาว ชานตตีและช่อนาคีบริวารรีบทะยานตามออกมาจากห้องวารีมรกตนั่นอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าชานตตีจะเข้าใจว่านั่นเกิดจากพลังที่ซ่อนเร้นของรัชชตะ ทว่าเขากลับไม่สามารถจะควบคุมพลังของตนเองไว้ได้เลยนั่นคือสิ่งที่เธอเป็นห่วงจนต้องรีบติดตามออกมา ชานตตี นี่ตัวผมเหรอเนี่ย น่ากลัว น่าแขยง ผมไม่อยากเป็นยังงี้ ช่วยผมให้กลับคืนร่างเร็ว เร็วสิ รัชชตะร้องเสียงดังเมื่อมองสำรวจไปจนตลอดร่างของตนเอง ที่ประกอบไปด้วยเกล็ดเรียงรายเป็นชิ้น ๆ นับร้อยนับพัน อุ๊ย นายท่านจะรีบคืนร่างทำไมเจ้าคะ เกล็ดสีเงินอร่ามตาเช่นนี้ ตั้งแต่เกิดมาช่อนาคีไม่เห็นมีใครเป็นได้ คิก คิก ช่อนาคีพูดจาทำท่ากรุ้มกริ่มเมื่อเห็นสีเกล็ดของผู้เป็นนายคนใหม่ว่าเป็นสีเงินระยิบงดงามยิ่งนักในสายตาของเธอ ช่อนาคี ไม่ใช่เวลานี้! นายผู้หญิงส่งเสียงกำราบชัดเจน เจ้าค่ะ ช่อนาคีหุบรอยยิ้มลงแทบไม่ทัน พูดอะไรกันอยู่เนี่ย ชานตตีผมบอกให้ช่วยผมเร็วเข้า ดูตัวผมดิแปลกประหลาดจะตายอยู่แล้ว นี่จะเป็นบทเรียนแรกของท่าน คือ การแปลงกาย โดยปกติร่างของเหล่านาคานาคีเช่นเราก็คือร่างที่แท้จริงเช่นที่ท่านเป็นอยู่ตอนนี้ แต่หากต้องการแปลงร่างเป็นมนุษย์ท่านจะต้องกำหนดขึ้นมาเอง เสียงเรียบไม่ร้อนรนเหมือนฝ่ายตรงข้าม แล้วจะกำหนดยังไง นั่นแหละที่อยากรู้น่ะ รัชชตะนาคราชร้อนใจหนักขึ้น กลัวว่าตนเองจะต้องเป็นเช่นนี้ตลอดไป กำหนดด้วยจิตของท่าน ตั้งสมาธิให้มั่นคง แล้วน้อมนำจิตใจตนเองไปสู่ร่างที่ต้องการ ชานตตีพูดด้วยเสียงสงบ พูดง่ายทำยากนะนั่น แล้วคาถาล่ะจะให้พูดว่าไงตอนแปลงร่างน่ะ
จากคุณ |
:
may_plk
|
เขียนเมื่อ |
:
วันฉัตรมงคล 54 19:28:38
|
|
|
|