Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
:-:~:-:~:-: กลางผืนทราย ปลายผืนฟ้า บทนำ - บทที่ 1:-:~:-:~:-: ติดต่อทีมงาน

บทนำ

โซ่ตรวนศาสนาที่มองไม่เห็นพันธนาการรอบข้อมือข้อเท้าของเด็กน้อยเอาไว้อย่างแน่นหนา แม้เพียงคิดจะหนีไปจากที่นี่ก็ยังทำไม่ได้ เสียงร้องไห้โหยหวนราวกับสัตว์บาดเจ็บดังมาให้ได้ยินอยู่เกือบทุกค่ำคืน สะท้อนหินอ่อนเย็นยะเหยือกภายในศาลากว้างใหญ่ให้ดูน่าวังเวงน่ากลัว

เด็กน้อยยกสองมือเล็ก ๆ ขึ้นมาปิดหูไว้ ทั้งที่จะน่าจะชินชากับเสียงที่ได้ยินทุกค่ำคืนหลังตะเกียงดวงน้อยมอดดับลง แว่วเสียงกรีดร้องผสมผสานกับเสียงหอบหายใจครวญครางหนักหน่วง บางครั้งก็กลายเป็นเสียงสะอื้นเพียงแผ่วเบา หรือบางครั้งก็กรีดเสียงร้องราวกับโดนทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส เด็กน้อยเบือนหน้าอาบน้ำตา ออกไปเบื้องนอก ทอดสายตาผ่านหน้าต่างบานเล็ก ติดลูกกรงแน่นหนาในห้องพักอันมืดทึบ อับแคบ ชั้นบนของศาลาศักดิ์สิทธิ์มองออกไปเบื้องนอกอย่างไม่รู้จุดหมายปลายทางแห่งชีวิต

ครู่ใหญ่ เสียงนั้นหยุดลงมีเสียงสวบสามของเสื้อผ้าที่สวมใส่ เสียงประตูเปิดและปิดลงทันที แต่สิ่งที่ดังขึ้นแทนคือเสียงสะอื้นแผ่วเบาราวกับไม่ต้องการให้ผู้ใดได้ยิน บาดลึกเข้าไปในความรู้สึกน้อย ๆ ของคนที่ฟังอยู่ทุกคืนค่ำ

มือที่อุดหูคลายลงแล้ว แต่สายตายังคงทอดมองไปยังเบื้องนอก ราตรีถูกทักทอด้วยสีดำมืดของม่านราตรีซึ่งตัวยาวจากฟากฟ้าปกคลุมเมืองทั้งเมืองไว้ในอ้อมแขนแห่งความมืด เสียงกระซิบแผ่วเบาของลมจากทะเลทรายพัดพริ้วมาแตะแต้มก่อนพรากหยาดน้ำตาบนแก้มน้อยให้แห้งหาย

แต่มันจะกลับคืนมาใหม่ เพราะนี่คือชะตาชีวิตที่ถูกกำหนดแล้ว นับตั้งแต่วันที่เธอตื่นขึ้นมาลืมตาดูโลกใบนี้ ภายใต้ธงของศาสนาและความเชื่อหนึ่งในหลายศาสนา ของเมืองคนบาปอย่างอาร์ด้า

ตั้งแต่จำความได้ เธอถูกสั่งสอนอบรม อยู่เพียงแค่ภายในศาลาศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีสิทธิ์ออกไปด้านนอกเหมือนดังเด็กคนอื่น และยังรู้ดีอีกว่า ตัวเธอนั้นมีหน้าที่สืบทอดตำแหน่งต่อจากมารดาผ่านทางสายเลือดที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่เมื่อนี่คือโชคชะตาไม่มีใครเลือกเกิดเลือกเป็นได้ เธอจึงต้องแบกภาระนี้ไว้บนบ่าน้อยๆ ทั้งสองข้าง มองดูโลกภายนอกผ่านลูกกรงเล็ก ๆ จากห้องซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยหลับนอน

คนเดียวที่คุ้นเคย ก็คือ มารดาที่ให้กำเนิด และเหล่านักบวชในศาลาศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมองเธอด้วยสายตาแปลก ๆ  เช่นเดียวกับที่ใช้มองมารดาของเธอ มีเด็กถูกนำมาจากภายนอกและถูกกักเพื่อร่ำเรียนเหมือนอย่างที่เธอทำอีกหลายคน บางคนอยู่ในวัยเดียวกับเธอ บางคนก็อายุน้อยกว่าเธอเสียด้วยซ้ำ มารดาของเด็กเหล่านั้นนำพวกเธอมาไว้ที่นี่ รับเงินแล้วก็จากไป

ถึงลูกจะร้องไห้ปานจะขาดใจคนเป็นแม่ก็ได้แต่ยืนมองน้ำตาซึม ด้วยรู้ดีว่าหากลูกได้อยู่ที่นี่อย่างน้อยก็ไม่ต้องกลัวว่าจะอดตาย เพราะคิดแบบนั้นเด็กหน้าตาดีหลายคนจึงถูกส่งเข้ามาอยู่ภายใต้การดูแลของศาลาศักดิ์สิทธิ์ โดยพวกแม่ ๆ ไม่มีทางรู้เลยว่าสายตาของเหล่านักบวชที่มองเด็กเหล่านั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา เป็นวัตถุไร้ค่าไร้ราคา แต่ต้องรักษาและเก็บไว้รอวันเวลาอันสมควรเท่านั้น

สายลมหนาวเย็นพัดพาเข้ามาทางหน้าต่างบานน้อย แต่ร่างน้อยก็ไม่มีทีท่าว่าจะเอื้อมมือไปหยิบผ้าห่มมาคลุมกาย เด็กน้อยยังคงจ้องมองไปในความมืดโดยไม่รู้ทิศรู้ทาง หรือเวลาจนกระทั่ง สองแขนอุ่นโอบกอดมาจากด้านหลัง เสื้อนนอนผ้าฝ้ายเก่าบางจนเกือบขาด เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาของใบหน้าที่ทาบทับลงมาบนแผ่นหลังน้อย ๆ อาการสะอื้นเล็ก ๆ อาการรับรู้ของร่างน้อย ๆ จึงเกิดขึ้น เธอหันไปโอบกอดร่างที่ใหญ่กว่าตัวเองเอาไว้แน่น พยายามกัดริมฝีปากไม่ให้เสียงสะอื้นไห้ของตัวเองดังออกมา

เพราะคนที่เสียใจร่ำไห้มีเพียงคนเดียวในตอนนี้ก็เศร้าเกินพอแล้ว...

---------------------------------------------------------------------------

จากคุณ : เปียร์รุส
เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 13:24:57




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com