กชกรก้าวเดินช้าๆ เข้ามาในศาลาอันเป็นสถานที่ตั้งศพของพี่สาว และรูปถ่ายที่ตั้งอยู่ด้านหน้าโลงศพซึ่งถูกประดับประดาไปด้วย ดอกไม้สดรายรอบก็ช่วยตอกย้ำให้เธอรับรู้ว่าตอนนี้บุษกรผู้เป็นพี่สาวได้จากไปแล้วจริงๆ
หยาดหยดน้ำตาแห่งความเสียใจที่สุดไหลนองออกมาอาบสองแก้มขาวก่อนจะยกมือขึ้นลูบไล้บนรูปถ่ายของคนที่เพิ่งจากไป อย่างกะทันหันและเกินที่คนซึ่งยังอยู่จะตั้งรับได้ ในรูปถ่ายใบนี้บุษกรกำลังฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความสุขที่สุด และกชกรเองก็จำ ได้ดีว่ารูปถ่ายใบนี้ได้ถูกถ่ายไว้ตอนที่พี่สาวได้เดินทางไปเชียงใหม่ครั้งล่าสุดซึ่งนานมาแล้วเกือบปี
ไม่อยากเชื่อ ไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ... กชกรเน้นถ้อยคำนี้อยู่ในใจที่กำลังร้าวรานที่สุดซ้ำไปซ้ำมา
ทำไมคะ ทำไมพี่บุษทำแบบนี้ ทำไมคะ ฮือๆๆ... ประโยคเบาๆ ถูกเอ่ยทั้งน้ำตาเพราะความอาลัยรักในตัวพี่สาว
นายบริบูรณ์ที่ยืนอยู่ด้านหลังต้องรีบก้าวเดินเข้ามาหาและตบเบาๆ ลงที่ไหล่ของบุตรสาวคนเล็ก และแม้จะเจ็บปวดใจ ไม่ต่างกันแต่เขาก็ต้องทนเก็บกักความรู้สึกอ่อนแอนั้นเอาไว้แต่ภายใน เพราะตอนนี้ในฐานะของคนเป็นพ่อ เขาควรมีสติที่สุดและควรเป็นที่พักใจให้กับบุตรสาวอีกคนให้ได้
หักห้ามใจบ้างเถอะลูก พี่เค้าไปสบายแล้ว กระนั้นน้ำเสียงก็ยังแหบเบาและยังเจือปนไปด้วยความโศกเศร้าอยู่ไม่น้อย
พ่อขา...ฮือๆๆ... เอ่ยได้เท่านั้น กชกรก็ซบใบหน้าลงบนแผ่นอกหนาของคนเป็นพ่อทันที เสียงร่ำไห้ของหญิงสาวดังพอ ที่ผู้มาร่วมงานจะได้ยินและพากันเวทนาสงสารในความผูกพันที่ต้องถูกขวางกั้นด้วยความตายนี้
กราบศพพี่บุษก่อนเถอะลูก บอกให้พี่เค้าไปสบายและอย่าห่วงกังวลอะไรอีก นายบริบูรณ์บอกเมื่อผละร่างของบุตรสาว ออกจากอกแล้วใช้มือข้างหนึ่งขึ้นปาดเช็ดหยาดน้ำตาบนสองแก้มขาวนั้นออกให้แห้งที่สุด กระนั้นมันก็เป็นไปไม่ได้ เมื่อสองตากลมดำนิลยังคงมีน้ำใสๆ พรั่งพรูออกมาอยู่เนืองๆ
เข้มแข็งไว้นะลูก ทุกชีวิตย่อมมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา คนบอกจับที่ไหล่ทั้งสองของบุตรสาวจนแน่นที่สุด เพื่อหวังจะกระตุ้นให้ความอ่อนแอของเธอนั้นจางหายไปโดยไว
กชกรพยักหน้ารับแล้วเดินมาทรุดตัวลงนั่งยังเบื้องหน้าโลงศพของพี่สาว แม้จะพยายามแข็งใจทำตามที่บิดาบอก ทว่าน้ำตาแห่งความอาลัยก็ยังไม่หยุดไหลไปเสียที
พี่บุษขา ไม่ต้องห่วงพวกเรานะคะ บัวจะดูแลพ่อเอง หลับให้สบายเถอะนะคะ... สองมือของกชกรประนมจับธูปที่จุด พร้อมกับภาวนาอธิฐานบอกกับดวงวิญญาณของพี่สาว มาถึงตรงนี้แล้ว เมื่อไม่อาจรั้งบุษกรให้อยู่บนโลกนี้ได้ ก็คงทำได้ เพียงขอให้เธอไปดี ไปในที่ซึ่งจะหมดไปจากความทุกข์
ถ้าพี่บุษมีอะไรที่ห่วง ก็ดลใจบอกบัวให้รู้นะคะ บัวจะช่วยจัดการให้ พี่บุษหลับให้สบายนะคะ
ธูปถูกปักลงที่กระถางด้านหน้าแล้ว เสียงปล่อยโฮเบาๆ ก็ดังขึ้นเล็ดรอดออกมาอีก ก่อนจะก้มลงกราบศพของพี่สาว ทั้งอาการสะอึกสะอื้นอย่างนั้นและเธอก็ฟุบหน้าลงตรงนั้นอยู่นานจนนายบริบูรณ์ต้องเข้ามาประคองร่างของบุตรสาว คนเล็กให้ลุกขึ้นและเดินไปนั่งที่เก้าอี้
ระหว่างพระสวดอภิธรรม กชกรพยายามรวบรวมสติของตนเองอีกครั้ง แต่มันก็ล้มเหลวทุกทีที่มองไปเห็นใบหน้า ของบุษกรบนรูปถ่ายหน้าศพ หลายครั้งเธอต้องเลี่ยงและเลือกที่จะเบือนหน้าไปทางอื่นบ้าง เงยหน้าขึ้นมองเพดานบ้าง หากแต่ใจก็ยังร้อนรนพิกลอยู่ดี
กระทั่งพระสวดจบ แขกก็พากันทยอยกลับไปจนหมด สองพ่อลูกพากันมายืนที่หน้าศพของบุษกรอีกครั้ง
พ่อขา ตำรวจว่ายังไงบ้างคะ เค้าว่าพี่บุษฆ่าตัวตายจริงๆ หรือคะ เมื่อนึกในข้อนี้ได้ กชกรจึงรีบถามออกมา และนั่นบ่งบอกได้ดีว่าเธอยังไม่อยากเชื่อว่าพี่สาวจะฆ่าตัวตายจริงๆ
คนเป็นพ่อหันมาพยักหน้ารับ
ยายบุษผูกคอตายในห้องนอน ตำรวจบอกว่าไม่มีร่องรอยการต่อสู้ใดๆ และคิดว่ายายบุษน่าจะฆ่าตัวตายจริงๆ
แล้วเรื่องอะไรกันล่ะคะที่พี่บุษจะต้องฆ่าตัวตาย บัว... บัวไม่เข้าใจเลยจริงๆ ค่ะพ่อ น้ำเสียงสั่นเครือนั้นทำให้ คนถูกถามจนปัญญาที่จะตอบได้จริงๆ เพราะสำหรับหัวอกคนเป็นพ่อเองก็อยากรู้ในข้อนั้นเช่นกัน
พ่อคิดว่าแม่สว่างคงจะให้ข้อมูลอะไรๆ กับเราได้บ้าง นายบริบูรณ์บอกได้แต่เพียงเท่านั้น เพราะคนที่อยู่ใกล้ชิดกับ บุษกรที่สุดในกรุงเทพฯ หลังจากที่มารดาของบุษกรเสียชีวิตไปก็คือแม่บ้านนามว่าสว่างคนนี้นั่นเอง
หักอกหักใจเสียเถอะลูก คิดเสียว่าพี่เขาทำบุญมาเท่านี้
บัวรู้ค่ะพ่อ แต่บัวว่ามันเร็วเกินไป เร็วไปจนบัวตั้งรับไม่ทันเลยจริงๆ พวกเราสามคนควรได้อยู่ร่วมกันก่อน พี่บุษควรได้มีความสุขมากกว่านี้ บัวเสียใจค่ะที่ทำให้พี่บุษไปอยู่กับเราที่เชียงใหม่ไม่ได้ บัวน่าจะพยายามมากกว่านี้ กชกรยกมือสองข้างขึ้นปาดเช็ดหยาดน้ำตาบนสองแก้มอีกครั้ง
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง คนที่เสียใจที่สุดควรเป็นพ่อ เพราะพ่อเป็นพ่อแต่พ่อก็ยังทำให้ยายบุษไปอยู่กับเราไม่ได้ พ่อแย่ที่สุด
บัวรู้ค่ะพ่อว่าพ่อพยายามที่สุดแล้ว กลายเป็นกชกรเองที่ต้องหันมาปลอบโยนคนที่กำลังอ่อนแอลงอีกครั้ง เธอรู้ทันทีว่า ถ้าตนยังอ่อนแอแบบนี้อีก คงไม่ใช่ตนคนเดียวที่เสียใจ แต่จะมีคนเป็นพ่อด้วยอีกคน
เข้มแข็งไว้ซิกชกร... หญิงสาวบอกตัวเองพร้อมกับยกมือขึ้นปาดเช็ดน้ำตาบนสองแก้ม แล้วโผเข้าสวมกอดกับบิดาอีกครั้ง เพื่อเป็นการให้กำลังใจซึ่งกันละกัน ********
จากคุณ |
:
ยาชมภู
|
เขียนเมื่อ |
:
7 พ.ค. 54 11:17:36
|
|
|
|