Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
...Dragon Delivery...#17 (3/5) ติดต่อทีมงาน

http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/07/W9480037/W9480037.html
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/09/W9697712/W9697712.html
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9915681/W9915681.html
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/12/W9989714/W9989714.html
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/12/W10043028/W10043028.html
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/12/W10055712/W10055712.html
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/02/W10261447/W10261447.html
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/03/W10312099/W10312099.html

###

ว่ากันตรง ๆ คือคนเขียนเจอไรเตอร์บล็อคค่ะ  ใหญ่มาก  สองเดือนนี้เขียนแทบทุกวัน  และฉีกทิ้งหมดด้วย  ปีนผ่านมาด้วยความยากลำบาก  ถึงได้หายไปนาน  

ตอนนี้เรื่องอาจจะไม่สมบูรณ์เท่าไหร่  แต่คิดว่าต้องพยายามเขียนให้มาก่อน  แล้วจะค่อยแก้อีกครั้ง  ต้องขอโทษทุกคนที่ให้รอนานมากด้วยนะคะ _(_ _)_

###

๓.

ทาร์น เฮเบลตื่นขึ้นกลางดึก   เขาไม่ได้อยู่ที่ร้าน   หากแต่นอนบนเก้าอี้ยาวข้างเตียงของเรนา  เทย์เพิ่งบอกเมื่อหัวค่ำว่าจะมาผลัดตอนเช้า  ที่จริงพ่อมดเป็นห่วงตามากพอ ๆ กับน้องสาวนั่นเอง  ถึงกับสำทับว่าหากไม่พักผ่อนจะใช้เวทมนตร์ให้นอนหลับไม่ฟื้นและลากกลับร้านเสียเลย

"เจ้ากล้าหรือไง" ท่านทาร์นแยกเขี้ยวใส่

"ผู้ใดว่าข้าไม่กล้า" พ่อมดแยกเขี้ยวตอบ   อย่างไรก็ตาม หลังจากแยกเขี้ยวใส่กันไปมา  ชายชรากลับเป็นฝ่ายยอมก่อน  เขาว่าก็ได้  ควรกลับไปดูร้านสักวัน   เทย์เจออย่างนั้นยังสะดุ้งนิดหนึ่ง

ความจริงคือเขาไม่อยากทะเลาะกับมันอีกแล้ว  

...ข้าคงแก่เกินไปจริง ๆ ...ชายชราส่งเสียงเฮอะในคอ   ยันร่างขึ้นนั่ง   เขามองไปทางเตียงของหลานสาว  ตั้งใจจะดูให้เธอนอนดี   แต่แล้วเจ้าของร้านเฮเบลกลับนิ่ง...รู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งประหลาดในบรรยากาศ   เขาไม่เข้าใจเรื่องเวทมนตร์   ทว่าเป็นคนมีสัญชาตญาณดียอดเยี่ยมเสมอมา

...มีไอสีฟ้าห่อหุ้มตัวเอนาเรจาง ๆ

เมื่อแรกแทบมองไม่เห็น   แต่ในระยะลมหายใจต่อลมหายใจ  ไอดังกล่าวก็ยิ่งเข้มยิ่งแรง   ทาร์นค้างเพียงชั่ววินาทีก่อนจะถลันไปที่เตียง  จับแขนหลานไว้  เขาสัมผัสร่างกายเธอได้  แต่ไอสีฟ้าไม่หายไป

"นานา  นานา"

นานาไม่ฟื้น   ที่ริมฝีปากของเธอมีรอยยิ้มน้อย ๆ   ราวกับกำลังสุขใจ   ไม่ช้าไอสีฟ้าก็ยิ่งฟ้าเข้มขึ้น   กลายเป็นรูปรอยสัญลักษณ์เรืองแสงจำนวนมาก   ทาร์นกำแขนหลานสาวไว้แน่น   กอดเธอไว้แม้ยามที่รูปรอยสัญลักษณ์นั้นจะแผ่รังสีรุนแรงไปทั่ว  ชั่วพริบตาแสงก็ดับหาย  ตอนที่ทุกคนตกใจเข้ามาดู   เรนากลับเป็นเพียงตัวเธอตามธรรมดา

เช้าวันรุ่งขึ้นก็ปรากฏว่าอาคารหลังหนึ่งในเมืองพังทลายลงมา

...

ครั้นตกยามสาย   อาคารอีกหลังหนึ่งก็พังเช่นกัน   อาคารทั้งคู่ต่างเป็นตึกเก่า   สร้างมาตั้งแต่สมัยไอดายังอยู่   หลังหนึ่งเป็นตึกร้างจึงไม่เป็นไร   แต่อีกหลังเป็นโรงหมอ   โชคดีว่าคนข้างในหนีออกมาทัน   แต่ก็มีคนบาดเจ็บพอสมควร

เทย์ไม่สบายใจ  เขาไปดูตา  มาดูสถานที่เกิดเหตุ   แล้วจึงแวะไปหาวิดามอรี   วิดามอรีอยู่ที่ห้องพักตลอดเวลา  เธอพยายามตายมาตลอดหลายวันนี้   พยายามถึงขั้นกินยาที่ทำให้เหมือนตายไปด้วย   แต่ทำอย่างนั้นก็เพียงช่วยให้ลมหายใจช้าและเบาลงมากเท่านั้น   ว่าอีกอย่างคือเธอไม่ตาย   และแม้บัดนี้ก็ยังหาทางไปโลกแห่งความตายเพื่อช่วยโชลโทไม่ได้เลย

"ตึกหลังแรกที่พังเป็นตึกที่ตอนเด็ก ๆ เราชอบไปเล่นทดสอบความกล้ากัน" เทย์บอก "ไม่สิ  ข้าต่างหากจะทดสอบความกล้า   แต่ลากเจ้าไปรังแก   อยากเห็นเจ้าร้องไห้แง ๆ เต็มที"

เขาแกล้งทำเสียงกวนประสาท  แต่ที่จริงแล้ววิดามอรีรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายกลัวมาก   เขาไม่กลัวได้อย่างไร   ในเมื่อสถานการณ์ค่อนข้างบ่งชี้ว่าทั้งหมดอาจเริ่มมาจากเรนาเช่นนี้   เห็นได้ชัดว่าเธอถูกควบคุมในความฝัน...ไม่ว่าฝ่ายนั้นจะทะลวงปราการที่พวกอาจารย์วิทยาลัยวางไว้เข้ามาได้อย่างไร   เมื่อถูกควบคุมแล้ว  เรนาก็คงใช้พลังที่ซ่อนอยู่ในเลือดเนื้อตน   ถึงอย่างไรเธอก็เป็นลูกหลานของไอดา

"ข้าก็เป็นเหมือนกันวะ" เทย์กระชากเสียงยามที่คนรักพูดออกมา  แต่พอทำอย่างนั้นแล้วตัวเองก็เสียใจ  เร่งเบือนหน้าหนีไป "จะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับยายนานาก็ไม่รู้  ยังไม่มีใครฟันธงลงไปตรง ๆ  แต่ตาแก่โหดเริ่มประสาทแล้ว  เมื่อเช้าข้าไปหา  เขาบอกให้เอาดาบมา   เขาเห็นเวทมนตร์ปกป้องนานาไม่ได้ก็เลยคิดจะปกป้องเอง   ดุร้ายไฟลุกท่วมตัวทีเดียว"

ไม่เพียงเท่านั้นหรอก  ชายชรายังกลัวใคร ๆ จะเชื่อมโยงการพังทลายของเมืองกับนานา   เขากลัวว่าคนจะมาทำร้ายหลานตนเพื่อไม่ให้เมืองเป็นอะไร

"ข้าก็บอกเขาว่าใครจะทำร้ายยายนานาหรือ  เธอไม่ได้ทำผิดอะไร  อย่าว่าแต่เธอเป็นหลานท่าน  ไม่มีใครเขาอยากถูกปีศาจพระเพลิงจองเวรไปตลอดชาติหรอก   แต่ตาไม่เชื่อ  ปลอบอยู่นานสองนานจึงยอม" เทย์เสยผมขึ้นจนกระเซิง "ข้าสงสารเขา  เขาเห็นคนที่รักเป็นอะไรไปคาตามามากพอแล้ว"

"เจ้าก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ"

"ข้าไม่เป็นไร   แต่ตาแก่โหดนั่นแก่แล้ว   ไม่อยากให้เสียใจ" เทย์เห็นคนรักเข้ามานั่งใกล้ก็สงบลงบ้าง   เขาเพิ่งสังเกตว่าเธอหน้าตาไม่ดีเลย "ว่าแต่เจ้าเล่า  เป็นอย่างไรบ้าง"

"ข้ายังไม่ตาย"

พ่อมดเริ่มตระหนักว่ามีความเหนื่อยอ่อนหวาดกลัวในเสียงนั้น  จึงจับแขนเธอดึงมาดูในแสงสว่าง  ครั้นเห็นสภาพก็ตกใจ

"เจ้าพักผ่อนบ้างเถอะ  เดี๋ยวจะเป็นอะไรไปอีกคน"

"แต่เวลาของที่นี่กับที่นั่นเดินไม่เหมือนกัน..."

"หากเจ้าเป็นอะไร  แม้ไอ้ขอรับฟื้นขึ้นมาก็ไม่ดีใจ" พ่อมดบอกทันที "มันเป็นไอ้ขอรับที่ไม่ตาย   ไม่เป็นไรหรอกคุณหนูวิดา"

แต่มันเป็นไอ้ขอรับที่ไม่ตายจริงหรือ   แม้บัดนี้เทย์ก็ไม่แน่ใจ   ยามจากวิดามอรีมาแล้วก็ยังไม่แน่ใจอยู่ดี   เขาตัดสินใจไปที่วิทยาลัยอีกครั้ง   รู้สึกว่าควรอยู่ใกล้ตา   และรู้สึกว่าตนทำอะไรไม่ได้   อย่างไรก็ตาม ยามไปถึงวิทยาลัยจริง ๆ  เทย์ที่กำลังจะเคาะประตูก็ได้ยินเสียงคนคุยกัน   เสียงเจวาน  เจ้าหญิงโมรา  กับพวกอาจารย์   เขาได้ยินเช่นนั้นไม่ทราบทำไมก็ไม่ได้เข้าไป   แต่หลบวูบเข้าห้องข้าง ๆ ใช้เวทมนตร์สร้างรูปจำลองแอบดู

แน่นอน  หัวข้อสนทนาย่อมเป็นเรื่องอาคารพังทลาย

"อาคารเก่าเหล่านั้นสร้างตั้งแต่สมัยไอดา   เพื่อรักษากระแสพลังและทำให้สัญลักษณ์ของเมืองคงอยู่   นั่นเป็นเหตุผลที่คนทั่วไปทราบดี" อาจารย์บอก "การที่อาคารพังลงมา   แสดงว่าอีกฝ่ายตั้งใจจะเปลี่ยนสัญลักษณ์ของเมืองแล้ว  ข้าไม่แน่ใจว่าเขาจะเปลี่ยนไปอย่างไร   แต่ถ้าหากดูแผนที่เก่าเทียบกับแผนที่ใหม่   ก็พอจะเห็นได้ชัดว่าพลังมาตามทางน้ำใต้ดิน"

"หือ" เจ้าหญิงแปลกพระทัย

"เขาเป็นลูกครึ่งรูเซลคา  พลังส่วนใหญ่เป็นธาตุน้ำ   อาคารทั้งสองหลังตั้งอยู่บนทางน้ำเก่าแก่ที่ตัดกันหลายสาย  ที่จริงแล้วทางน้ำก็เป็นส่วนหนึ่งของสัญลักษณ์เมืองเช่นกัน   เป็นตัวแทนการไหลของกระแสพลัง   เมืองทั้งหลายล้วนมีการไหลของกระแสพลังต่างกัน   บางเมืองอาจจะใช้ทางลม  หรือเส้นทางต่างระดับ   แต่ซีเลเป็นเมืองบนพื้นราบ  ส่วนใหญ่เมืองบนพื้นราบจะใช้ทางน้ำเป็นตัวแทนกระแสพลัง"

"เช่นนั้นควรทำอย่างไร"

"ถ้าหากหยุดการควบคุมฝันของเอนาเรไม่ได้   เมืองจะค่อย ๆ พังทลายลงมากกว่านี้    เขาโจมตีไม่ทันตั้งตัว  เราเสียหลักยึดไปสองที่แล้ว   ข้าเกรงว่าถ้าหากเป็นอย่างนี้ต่อไปก็มีทางเลือกไม่มากนัก  ทางแรกคือปราบเขาให้ได้  ทางที่สองคือทำอะไรบางอย่างกับเอนาเร   ทางที่สามคืออพยพคนออกไป   การทำลายสัญลักษณ์ไม่เพียงทำให้อาคารพังทลาย   แต่จะทำให้เกิดความปั่นป่วนอื่น ๆ ด้วย   หากพิจารณาว่าเป็นเมืองบนที่ราบอย่างซีเล   น่าจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในไม่ช้า"

อาจารย์นิ่งไปครู่หนึ่ง

"แต่ข้าเกรงว่าเขาอาจจะคิดหาทางไม่ให้คนจากไปแล้วเช่นกัน   คนที่ต้องการสูบพลังจากเมืองจะไม่ต้องการเพียงตัวเมืองเท่านั้น   แต่จะต้องการผู้คนในเมืองด้วย"

"หมายความว่าอย่างไร"

"หากมีคนออกจากเมืองจำนวนมาก  ก็อาจมีอันตรายบางอย่างเกิดขึ้น"

"ที่จริงนำคนออกไปในฤดูหนาวทันทีก็จะเกิดความแตกตื่นวุ่นวายเช่นกัน" เจวานบอก "ควรหาตัวเขาให้ได้แล้วเร่งจัดการ"

"แต่ท่านพ่อยังไม่กลับมา" เจ้าหญิงท้วงทันที

หลายวันนี้ไม่มีใครหาตัวไซธีนพบ   คาดว่าเขาคงหลบซ่อนด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งจนกว่าจะมีพลังแข็งแกร่งพอ  ด้วยเหตุนี้ในขณะที่พยายามค้นหา   พระราชาโทปาซจึงกลับไปวังหลวงด้วยมังกรเร็ว   ที่นั่นมีสิ่งของที่พระองค์เคยใช้ต่อกรกับไซธีนตอนที่เจวานเกิดใหม่ ๆ    ของเหล่านั้นเคยขับไล่ไซธีนเมื่อตอนที่พลังสมบูรณ์อยู่ไปได้   ก็จะน่าจะจัดการเขาในเวลานี้ได้เช่นกัน

"แบบนั้นคงเหลือทางเดียว" อาจารย์เอ่ยขึ้น "ต้องหยุดที่เอนาเร"

จากคุณ : ลวิตร์
เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:49:50




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com