Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ตำนานสงครามบัลลังก์เหนือ 3 - บทที่ 7 - สิ่งที่ตนทำได้ ติดต่อทีมงาน

อ่านเนื้อหาภาค 1 ได้ที่นี่ครับ

เจ้าชายไร้บัลลังก์กับเจ้าหญิงไร้อำนาจ

เด็กดี
http://writer.dek-d.com/Anithin/writer/view.php?id=471973

พันทิป
บทนำ - บทที่ 5
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9892447/W9892447.html
6-10
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9906021/W9906021.html
11-15
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9924896/W9924896.html
16-20
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9958591/W9958591.html
21-25
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10402840/W10402840.html
26-29 (จบภาค)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10440364/W10440364.html

เนื้อเรื่องต่อภาค 2

เจ้าชายแห่งความมืดกับเจ้าหญิงแห่งความฝัน

เด็กดี
http://writer.dek-d.com/Anithin/writer/view.php?id=623553

พันทิป
บทนำ - 1 (ครึ่งแรก)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/05/W9280262/W9280262.html
1 (ครึ่งหลัง)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/05/W9290547/W9290547.html
2
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/05/W9301954/W9301954.html
3 (ครึ่งแรก)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/05/W9315581/W9315581.html
3 (ครึ่งหลัง)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/06/W9326678/W9326678.html
4
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/06/W9355723/W9355723.html
5
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/06/W9380192/W9380192.html
6
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/06/W9404897/W9404897.html
7
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/07/W9435713/W9435713.html
8
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/07/W9500605/W9500605.html
9
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/08/W9571637/W9571637.html
10
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/08/W9623060/W9623060.html
11 (ครึ่งแรก)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/09/W9647241/W9647241.html
11 (ครึ่งหลัง)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/09/W9678374/W9678374.html
12
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/10/W9812163/W9812163.html
13
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/10/W9846618/W9846618.html
14
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9875051/W9875051.html
15
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9892519/W9892519.html
16
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9907488/W9907488.html
17
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9916888/W9916888.html
18
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9927562/W9927562.html
19
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9939927/W9939927.html
20
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/12/W9980469/W9980469.html
21
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/12/W10002038/W10002038.html
22
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/12/W10021934/W10021934.html
23
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/12/W10051706/W10051706.html
24
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/01/W10085054/W10085054.html
25
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/01/W10107249/W10107249.html
26
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/01/W10121033/W10121033.html
27
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/01/W10132938/W10132938.html
28
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/01/W10149703/W10149703.html
29
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/01/W10166956/W10166956.html
30 (จบภาค)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/01/W10188373/W10188373.html

เนื้อเรื่องต่อภาค 3

ศึกสองราชินี วิถีสองราชัน

เด็กดี
http://writer.dek-d.com/Anithin/writer/view.php?id=689975

พันทิป
บทนำ - 1
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10366513/W10366513.html
2
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10385694/W10385694.html
3
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10407703/W10407703.html
4
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10421486/W10421486.html
5 (ครึ่งแรก)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10440449/W10440449.html
5 (ครึ่งหลัง)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10450973/W10450973.html
6
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10494862/W10494862.html


* * * * *


ขอบคุณคุณ Mnemosyne มากๆ สำหรับกิฟครับ ^^


คุณ Mnemosyne - ชะตากรรมของตัวเรียกเรตติ้ง...เอ๊ย...รูอาร์ค ต้องรอดูต่อไปครับ ^^a

คุณ Liebestraum - ชอบที่วิเคราะห์เกี่ยวกับอาเมียร์มากเลยครับ ^^

จริงๆ ในภาคแรกผมยังรู้สึกเลยว่าอาเมียร์นี่เป็นเด็กอีโมเอามากๆ จนอ่อนใจ แต่หลังๆ ก็อยากให้แกเข้มแข็งขึ้นมาเหมือนกันครับ ส่วนตัวผมไม่ชอบตัวเอกที่ไม่ทำอะไรเพื่อก้าวไปข้างหน้าเลยน่ะครับ (คือดาวน์ได้ ฟูมฟายได้ แต่อย่าตลอดเวลาและอย่าเยอะ)

ส่วนดูลัส อันนี้ก็คงต้องรอดูพฤติกรรมของแกต่อไปครับ

คุณ scottie - กระรอกจะได้มีโอกาสป่วนต่อหรือไม่ ต้องรอดูต่อไปครับผม ^^a


* * * * *


บทที่ ๗
สิ่งที่ตนทำได้



ในเมื่อเจรจากับดูลัสเรียบร้อยแล้ว แอชลีนน์คิดว่าวันนี้คงจะผ่านไปได้ด้วยดี ...แต่เมื่อตกกลางคืนก็มีเรื่องวุ่นวายไม่คาดฝัน

เจ้าหญิงกำลังจะเข้านอนพอดี...เมื่อจู่ๆ มีเสียงตะโกนโหวกเหวกในจวน บอกว่าคุณชายรูอาร์คได้รับบาดเจ็บ ให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องหลีกทาง...ให้รีบพาเข้าไปในจวนโดยเร็ว...ให้เร่งเตรียมสถานที่และข้าวของให้หมอ

หญิงสาวผุดลุกจากเตียง วิ่งแหวกม่านตรงไปที่ระเบียง ชะโงกมองลงไปก็เห็นพวกผู้ชายหามแคร่เข้ามาจากประตูใหญ่ แล้ววิ่งมาตามทางเดินในสวนหน้าจวนอย่างเร่งรีบ มีชายผมแดงหน้าซีดเผือดนอนปวกเปียกอยู่บนนั้น คลุมด้วยผ้าคลุมซึ่งแม้จะมีสีเข้ม ก็ยังเห็นได้ชัดเปียกเลือดชุ่มโชก

อาเมียร์วิ่งตามมาข้างๆ แคร่ด้วยสีหน้าร้อนรน และหยุดยืนอธิบายกับท่านเบเรคซึ่งออกมาจากในอาคาร ก่อนจะตามเข้าไปด้วยกันในไม่ช้า

พวกเขายังไม่ทันลับสายตา เจ้าหญิงก็หมุนตัวกลับ คว้าผ้าคลุมสีเข้มที่แขวนบนราวไม้มาสวมทับชุดนอนสีขาวยาวกรอมข้อเท้าโดยเร็ว จากนั้นก็สวมรองเท้า แล้วก้าวตรงไปทางประตู ทว่าหญิงอีกคนในห้องขัดขึ้นเสียก่อน

“องค์หญิง! จะเสด็จไปไหนหรือเพคะ!”

“รูอาร์คบาดเจ็บ เราจะไปดู”

เคียรากลับยุดแขนของเธอไว้

“ทรงผลัดฉลองพระองค์ก่อนเถอะเพคะ องค์หญิงไม่ควรเสด็จออกไปทั้งอย่างนี้นะเพคะ”

“เราจะไปดูเพื่อนของเรา ต้องพิธีรีตองอะไรกันนักหนาเล่า!”

“แต่มันไม่งามนะเพคะ จะเสด็จออกไปทั้งฉลองพระองค์บรรทมได้อย่างไร”

“เพื่อนเราบาดเจ็บ จะให้มัวมานึกถึงเรื่องงามไม่งามได้ยังไง!” แอชลีนน์แย้งทันควัน “เคียราอยากเปลี่ยนชุดก็เปลี่ยนไป แต่เราจะออกไปเดี๋ยวนี้”

“องค์หญิง—”

เจ้าหญิงสะบัดแขนจากมือของนางกำนัล แล้วรีบเปิดประตูห้องนอนออกไปในทันที

เวลานั้นคนอื่นๆ ในจวน...ทั้งท่านหญิงกับคุณหนูฟิเดลมา และคนรับใช้อื่นๆ ดูเหมือนจะรู้ข่าวและออกมากันแทบหมด ทว่าพวกเขาเพียงแต่จับกลุ่มกันอยู่ในห้องโถงกลาง หลายคนมีสีหน้าหวาดหวั่น กระซิบกระซาบไต่ถามกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

คงมีคนนึกไปถึงเฟย์ลิม นึกถึงครั้งที่เขาจากไปกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครยอมพูดออกมา

แอชลีนน์ถามได้ความว่ารูอาร์คถูกพาเข้าไปในห้องอาหารบนชั้นล่าง เมื่อเธอวิ่งตามเข้าไปโดยไม่ฟังคำทัดทาน ก็พบร่างซีดเผือดชุ่มเหงื่อของชายหนุ่มผมแดงวางอยู่บนโต๊ะไม้ตัวยาว ซึ่งเชิงเทียนเงินทั้งหลายถูกย้ายหลบไปจนหมดสิ้น ไฟในเตาผิงถูกจุดขึ้นอย่างเร่งร้อน เช่นเดียวกับตะเกียงและเทียนที่ให้แสงสว่าง

มีคนมากมายอยู่ในห้องนั้น ทั้งกลุ่มชายฉกรรจ์ที่หามแคร่ อาเมียร์ที่สวมชุดเปื้อนเลือดเป็นรอยใหญ่ซึ่งเริ่มแห้งกรัง...หากไม่เห็นว่าตามร่างกายไม่มีบาดแผล และยังยืนตรงอยู่ได้ทั้งๆ ที่ดูอิดโรย ก็คงถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนเจ็บอีกคนหนึ่งได้ไม่ยาก ข้างๆ ชายหนุ่มคือท่านเบเรคซึ่งสวมผ้าคลุมทับเสื้อนอน ส่วนหมอผู้สวมหมวกปีกกว้างสีดำเป็นสัญลักษณ์ กับผู้ช่วยที่สวมเสื้อคลุมสีดำเช่นกันเพื่อไม่ให้เห็นคราบเลือดกำลังรีบตระเตรียมเครื่องมือ จนแทบไม่มีใครสนใจเธอ

มีเพียงท่านเบเรคที่สังเกตเป็นคนแรก ท่านเดินเข้ามาหยุดตรงหน้า และเอ่ยเสียงเบาเป็นกระซิบ

“แม่หนู...ข้าขอโทษ แต่พวกเรากำลังยุ่ง เชิญออกไปก่อนเถอะนะ”

หญิงสาวงุนงงอยู่แค่ครู่เดียวก็เข้าใจ...ท่านเบเรคไม่อาจใช้ราชาศัพท์ เพราะฐานะของเธอยังไม่อาจถูกเปิดเผยต่อคนนอกจวน

“ข้า...” หญิงสาวกลืนน้ำลายฝืดๆ “รูอาร์คเป็นเพื่อนของข้า ข้าขออยู่ไม่ได้หรือคะ”

นั่นอาจฟังดูไร้เหตุผล...ไร้สาระ แอชลีนน์รู้ดีว่าต่อให้ตนเองอยู่ ก็ไม่อาจช่วยอะไรได้ ถึงอย่างนั้น...

“คนที่ข้ารักหลายคนจากข้าไป โดยที่ข้าช่วยพวกเขาไม่ได้ ทำไม่ได้แม้แต่จะคอยอยู่เคียงข้างเขา ข้าเข้าใจว่าท่านกับอาเมียร์จะรอดูอยู่ในนี้เพราะเป็นห่วงรูอาร์ค...ทั้งๆ ที่พวกท่านทำได้แต่เฝ้าดู ข้า...ข้าเองก็รู้สึกเหมือนกับพวกท่าน ข้าขอแค่ดูอยู่เงียบๆ รับรองว่าจะไม่สร้างปัญหาแน่นอน ให้ข้าอยู่เถอะนะคะ”

เจ้ามณฑลเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า และหันไปพูดกับชายอีกคน

“อาเมียร์ เจ้าดูแลคุณหนูด้วย”

“ข...ขอรับ” ชายหนุ่มผมดำรับ แล้วก็รีบเดินมาอยู่ข้างเธอ

ทั้งสามคนเฝ้ามอง มองต่อไปขณะที่หมอพับแขนเสื้อคลุมยาวสีดำขึ้น แล้วลงมือเแกะผ้าพันแผลชั่วคราวบนร่างของคนเจ็บ ซึ่งถูกพันทับไว้บนเสื้อ จากนั้นเขาก็ใช้มีดกรีดเสื้ออาบเลือดของรูอาร์คออก เผยให้เห็นปากแผลเปิดสั้นๆ ซึ่งเรียบกริบและยาวแค่ราวสองข้อนิ้ว แต่ยังดูน่าหวาดเสียวนัก

“เขาถูกแทงหรือ” หมอถาม

“ขอรับ ไม่ดาบก็มีดสั้น ข้าไม่ทันเห็นอาวุธ แต่ไม่รู้ว่าเข้าไปลึกเท่าไร รู้แต่เขาเสียเลือดมาก กดปิดแผลอยู่นาน เลือดก็ยังไม่ยอมหยุด” อาเมียร์รีบตอบ ในน้ำเสียงมีแววร้อนรน “ท่านช่วยเขาได้ใช่ไหม”

“สุดแท้แต่องค์สุริยเทพ” หมอรับเช่นนั้น แล้วก็ตรวจดูรอยแผลนั้นอีกสักพักหนึ่ง ก่อนจะเรียกหาเหล้า และสั่งให้พวกคนหามแคร่ซึ่งคงเป็นคนรับใช้ของจวน ไม่ก็ลูกมือของหมอกดแขนขาของคนเจ็บไว้กับโต๊ะให้แน่น ทั้งยังหาผ้าสะอาดมาขยุ้มยัดใส่ปากของชายผมแดงไว้ด้วย

ไม่ช้า หญิงสาวก็ได้รู้เหตุผล

เมื่อเหล้าในขวดราดรดแผล รูอาร์คที่เคยนอนหอบหายใจตาปรือเหมือนแทบไม่เหลือสติก็สะดุ้งขึ้นสุดตัว จากนั้นก็ตะเกียกตะกายดิ้นรน สะบัดศีรษะไปมาอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับส่งเสียงร้อง ฟังน่าหวาดหวั่นแม้จะอู้อี้เมื่อมีผ้าปิดกั้นไว้

แอชลีนน์พลอยสะดุ้งตามไปด้วย และเผลอเบียดชิดอาเมียร์ซึ่งยืนนิ่งค้างอยู่โดยไม่รู้ตัว

กระทั่งตอนที่คนเจ็บค่อยๆ สงบลง หลังจากหอบหนักจนแผ่นอกเปลือยเปล่าสะท้อนขึ้นลงโดยแรง เธอจึงตระหนักได้ว่าตนเข้าใกล้ชายหนุ่มมากเกินไป และขยับถอยออกมา...ขณะที่ชายหนุ่มผมดำยังคงตะลึงงัน มีท่าทางราวกับไม่สังเกตสิ่งใดเลย นอกจากร่างของเพื่อนซึ่งกำลังบาดเจ็บและทุกข์ทรมาน

หมอใช้คีมแช่น้ำร้อนคีบผ้าสะอาดซึ่งผู้ช่วยเพิ่งต้มกับน้ำด้วยไฟในเตาผิงขึ้นมาซับทั้งเลือดและเหล้า ก่อนจะใช้คีมนั้นแตะดูที่ปากแผลอีกครู่หนึ่ง แล้วชุบผ้าที่แช่น้ำยาสีออกเขียวเหลืองเหมือนสมุนไพรบางอย่างลงเช็ดภายใน

เลือดยังคงซึมออกมาจากปากแผล ไม่ถึงกับพวยพุ่งเป็นน้ำพุ แต่ก็มากพอจะทำให้หวาดกลัวในใจ...โดยเฉพาะเมื่อมันตัดกับสีผิวซีดเผือดของชายหนุ่มเสียเหลือเกิน

“ดูเหมือนจะไม่มีเศษอาวุธค้างอยู่ ข้าจะใช้เหล็กร้อนจี้ปิดปากแผล แต่ถึงจะไม่ถูกอวัยวะสำคัญ แผลก็ยังลึกมาก ตอนนี้ยังรับประกันอะไรไม่ได้” หมอเอ่ยพลางสั่งการเตรียมรักษา

ลำคอของหญิงสาวแห้งผากขณะมองต่อไป ผู้ช่วยของหมอนำเครื่องมือซึ่งมีลักษณะเป็นเหล็กด้ามยาวปลายแบนมาเผาด้วยไฟในเตาผิงจนร้อนแดง ส่วนชายคนอื่นๆ ได้รับคำสั่งให้กดแขนขาของคนเจ็บไว้อีกครั้ง ให้แน่นหนาที่สุด

หมอรับด้ามของแท่งเหล็กซึ่งดูราวกับจะเปล่งแสงสีส้มแดงอยู่ภายในด้านหัว และค่อยๆ เลื่อนปลายเข้าไปใกล้ปากแผล

แอชลีนน์เผลอหลับตาลง

เสียงร้องโหยหวนยาวนานของรูอาร์คในครั้งนี้ทำให้เจ้าหญิงผวาเข้าหาชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ สองมือของหญิงสาวกำหมัดอยู่ข้างตัว ขณะที่ไหล่ทั้งสองสั่นเทิ้มกับเสียงร้องซึ่งผ้าในปากของคนเจ็บไม่อาจกลั้นได้หมด

ไม่ช้า อาเมียร์ก็กุมมือข้างหนึ่งของเธอเอาไว้ บีบแรงขึ้นเล็กน้อยราวกับจะบอกอะไรบางอย่าง หญิงสาวบีบตอบแน่นหนา...ขณะที่กลั้นน้ำตาของตนไว้ หน้าผากของเธอพิงบ่าของเขา เสื้อผ้าของเขายังชื้น ส่งกลิ่นเหงื่อและเลือด

เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ว่าเพื่อนของเธอถูกใครทำร้าย...แม้จะอดคาดเดาไม่ได้ว่าเรื่องนี้อาจเกี่ยวข้องกับตน

ก็เมื่อวันนี้เองเธอเพิ่งขอถอนหมั้นกับดูลัส และอาเมียร์ก็น่าจะอยู่กับรูอาร์คในขณะเกิดเหตุการณ์ เจ้าหญิงไม่รู้ว่าทั้งสองไปที่ไหน แต่ก็ยังวิตกหวาดกลัวอยู่ดีนั่นเอง ว่าดูลัสหรือพวกนักรบเรเวนอาจคิดจะลอบฆ่าทั้งสองด้วยความเจ็บแค้น...แม้นั่นจะขัดกับวิสัยของอดีตราชองครักษ์ของเธอเพียงไร

กระทั่งท่านแฟคท์นาที่เธอเคารพอย่างญาติผู้ใหญ่...ยังทำเรื่องโหดเหี้ยมขนาดฆ่าเสด็จพ่อ เสด็จแม่ กับเสด็จพี่ลงไปแล้วเลยไม่ใช่หรือ

อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่เวลาที่สามารถถามหรือพูดคุยสิ่งใด พวกเขาทำได้เพียงรอ และภาวนาให้รูอาร์คเข้มแข็งพอที่จะผ่านพ้นมาได้เท่านั้น

ทั้งสองต่างนิ่งอยู่เช่นนั้น จนกระทั่งเสียงร้องของชายผมแดงค่อยๆ แผ่วเบาลง กลายเป็นเสียงหายใจครืดคราด นัยน์ตาบนใบหน้าบิดเบี้ยวไม่ยอมลืมขึ้น ขณะที่ฟันทั้งสองแถวขบกันดังกรอด เหมือนกับพยายามจะข่มความเจ็บปวดซึ่งยังรุมเร้าอยู่

หมอบอกให้เคลื่อนย้ายคนเจ็บไปพักผ่อนในห้องนอน รูอาร์คจึงถูกย้ายขึ้นมาบนแคร่แล้วพาออกไปอีกครั้ง ท่านเบเรคเดินตามหลังไป เช่นเดียวกับอาเมียร์และแอชลีนน์ จนออกมาถึงโถงกลางแล้วก็ต้องประหลาดใจอีกครา

มีบุคคลไม่คาดฝันอยู่ที่นั่นอีกคน

พระมหาเถระลูเธียน กับเสื้อนักบวชสีขาวที่เปรอะเปื้อนเลือด ตรงชายเสื้อยาวและแขนเสื้อขาดวิ่น ปราศจากผ้าทอลวดลายซับซ้อนซึ่งคลุมทับบอกยศอีกชั้น

หมอดูเหมือนจะตกใจ แต่ก็รีบตั้งสติและเข้าไปถามว่านักบวชหนุ่มได้รับบาดเจ็บหรือไม่ แต่ครั้นอีกฝ่ายสั่นศีรษะ บอกว่าเป็นเลือดของคนเจ็บก็รีบพยักหน้ารับทราบ และตามไปกำกับกลุ่มที่เคลื่อนย้ายรูอาร์คไปยังห้องพักฟื้น

เมื่อนั้นเอง เจ้ามณฑลจึงได้เข้ามาถามลูเธียนอย่างแผ่วเบา

“เกิดอะไรขึ้นหรือ พระมหาเถระ ใครได้รับบาดเจ็บกัน ท่านถึงได้มาที่นี่”

“คนรู้จักของข้า แต่เวลานี้ไม่เป็นไรแล้ว ที่ข้ามาที่นี่เพราะมีเรื่องด่วนต้องกราบทูลเจ้าหญิง” นักบวชหนุ่มตอบอย่างเคร่งขรึม “เป็นการส่วนพระองค์ ไม่ทราบท่านจะอนุญาตหรือไม่”

“ข้าจะให้พวกเขาเปิดห้องหนังสือให้” ท่านเบเรคพยักหน้า “ข้าเองคงต้องถามอาเมียร์ว่าเกิดอะไรขึ้น เชิญท่านตามสบายเถอะ”

ลูเธียนรับคำ ก่อนจะปรายมองชายผมดำเพียงครู่เดียว พร้อมกับยกมือขึ้นแตะเสื้อคลุมของตน

ดูเหมือนอาเมียร์จะพยักหน้าน้อยๆ แต่แอชลีนน์ก็ไม่แน่ใจนักว่าเธออุปาทานไปเองหรือไม่ เพราะชายหนุ่มเดินตามเจ้ามณฑลไปโดยไม่พูดอะไรเลย ขณะที่คนรับใช้อีกคนนำทางเธอกับพระมหาเถระไปยังอีกห้องหนึ่ง



* * * * *



“มาลิอาบาดเจ็บ” ลูเธียนเอ่ยขึ้นอย่างไร้พิธีรีตอง ในทันทีที่ทั้งสองนั่งอยู่ด้วยกันตามลำพัง ในห้องกว้างซึ่งเต็มไปด้วยชั้นหนังสือ แต่จุดตะเกียงไว้บนโต๊ะเพียงดวงเดียว

หญิงสาวเบิกตากว้าง “...นาง...เป็นอะไรมากไหม”

“มาก...ข้าคนเดียวช่วยนางไม่ได้ จึงต้องขอร้องให้ท่านช่วย” พระมหาเถระรีบพูดต่อไป

“...ข้าน่ะหรือ” เจ้าหญิงเลิกคิ้วอย่างสงสัย “ข้าจะทำอะไรได้”

“ท่านเป็นผู้สืบสายเลือดของสุริยเทพ ท่านมีอำนาจแสงสว่างอยู่ในตัว”

แอชลีนน์กะพริบตาปริบๆ รู้สึกเหมือนกับกำลังฟังเรื่องที่ออกมาจากนิทานปรัมปรา หรือบทละครแนวอัศวินผู้กล้าปราบยุคเข็ญสักเรื่องหนึ่ง

“ข้าคิดว่าเรื่องที่ราชวงศ์ของเราสืบสายเลือดมาจากสุริยเทพลูคเป็นเพียงตำนานเสียอีก”

“จะเป็นตำนานหรือไม่ ข้าไม่รู้ รู้แต่ข้าสัมผัสได้ว่าในตัวท่านมีอำนาจแห่งแสงสว่าง หากได้รับการเปิดทางพลังและฝึกฝนอย่างนักบวช ท่านก็จะใช้อำนาจรักษาได้ และนั่นคือสิ่งที่ข้าต้องการ” นักบวชหนุ่มอธิบาย “เพื่อช่วยมาลิอา”

เจ้าหญิงจำใจพยักหน้ารับ แม้จะไม่แน่ใจเอาเสียเลย ว่าตนมีอำนาจตามที่เขากล่าวอ้าง

“แล้วข้าต้องทำอะไร”

“ที่จริง การฝึกฝนต้องใช้เวลานาน และต้องใช้แหล่งพลัง ควรทำในเวลากลางวัน แต่เรารอนานขนาดนั้นไม่ได้ เมื่อครู่ข้าบอกทางจิตให้อาเมียร์ตามมาพบพวกเราที่นี่แล้ว ข้าจะให้เขาใช้พลังหยุดเวลาของมาลิอาไว้ก่อน ส่วนข้าจะเปิดช่องทางพลังของท่าน แล้วช่วยท่านรักษานาง”

“แต่จะให้ข้าออกไปตอนนี้ได้หรือ ท่านเบเรคคงไม่อนุญาตแน่” แอชลีนน์ติงอย่างกังวล

“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาหรอก” เสียงของอาเมียร์ตอบมาจากข้างหลัง

หญิงสาวหันขวับไป เห็นเขายืนอยู่ตรงหน้าบานหน้าต่างซึ่งเปิดอยู่ ก่อนจะปิดมันลงเบาๆ ...จึงได้เพิ่งตระหนักว่าชายหนุ่มสามารถไปไหนมาไหนโดยไม่ให้สุ้มเสียงเลยโดยแท้

“ข้าใช้มนตร์พรางกายพาท่านออกไปได้” ชายหนุ่มก้าวยาวๆ เข้ามาหาเจ้าหญิงกับนักบวชซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะ และหลังจากพูดกับเธอแล้วก็หันมาทางพระมหาเถระลูเธียนบ้าง “คนที่ทำร้ายมาลิอา ใช่ภูตรับใช้ของมาดายหรือเปล่า”

อีกฝ่ายพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “ข้าก็คิดว่าอย่างนั้น”

“ทำไม เกิดอะไรขึ้นหรือ” แอชลีนน์ถามอย่างสงสัย ...ก่อนจะเริ่มคาดเดาได้รางๆ “อย่าบอกนะว่า...ที่ทำร้ายรูอาร์คก็เป็นพวกของมาดายเหมือนกัน”

อาเมียร์ผงกศีรษะแวบเดียว และเอ่ยแผ่วเบาเป็นกระซิบ “เฟย์ลิม”

หญิงสาวนั่งตัวชาอยู่กับที่ รู้สึกราวกับถูกทุบเข้าที่ศีรษะจนมึนงง

ที่แน่ๆ คือในความมึนงงนั้นยังมีความโกรธเคือง ...มันโหดร้ายเกินไป เกินกว่าตอนที่เจ้าหญิงพยายามเตรียมใจยอมรับ ว่าวิญญาณของญาติที่เธอรักทั้งสามอาจถูกทัมมุซในร่างของมาดายกักขังไว้ใช้ประโยชน์เสียอีก

“ยังมีเรื่องมากกว่านั้น แต่ไว้พูดกันทีหลังเถอะ ท่านลูเธียนคงอยากให้พวกเรารีบไป” เจ้าชายแห่งความมืดพูดต่อ “ท่านกลับไปที่ห้องก่อน ข้าจะพรางตัวเองขึ้นไปด้วย พอใช้มนตร์ทำให้เคียราหลับสนิทแล้ว เราค่อยออกมาด้วยกัน ท่านเบเรคสั่งให้ข้าค้างที่นี่ ดังนั้นข้าก็ต้องแอบออกไปเหมือนกัน”

“งั้นข้าจะออกไปรอข้างนอก” พระมหาเถระลุกจากเก้าอี้ “ข้าขี่ม้ามาคนเดียว เจ้าคงต้องยืมม้าที่จวนไปอีกตัว”

“ไม่เป็นไร ไม่จำเป็นเลย” ชายหนุ่มแย้งเสียงเรียบ ขณะที่เจ้าหญิงได้แต่เหลือบมองอย่างสงสัย


* * * * *

จากคุณ : Anithin
เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 21:25:19




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com