ภายในห้องทำงานของชวาล เจ้าของห้องถึงกับสะดุ้งในใจและรีบพาตัวเองออกออกจากภวังค์ความคิดอย่างฉับพลัน เมื่อเห็นว่ามีใครบางคนกำลังถือวิสาสะเข้ามาก่อนได้รับอนุญาต ทว่าเมื่อเห็นว่าใครคนนั้นคือพีรพา เขาก็ไม่แปลกใจ เลยสักนิดกับพฤติกรรมที่ได้เห็นอยู่บ่อยๆ เยี่ยงนี้
อุ้ย! ตายจริงวาขา นี่วาไม่สบายรึเปล่าคะ พีรพาอุทานขึ้นเมื่อเห็นว่าก่อนหน้านี้ชวาลกำลังเอนหลังอยู่กับ พนักพิงเก้าอี้
เปล่าครับ ผมสบายดี น้ำเสียงราบเรียบบอกออกมาพร้อมกับสีหน้าไม่พอใจกับการกระทำของอีกฝ่าย แล้วไหนยังจะเรื่องที่เธอปกปิดการตายของบุษกรไม่ให้เขารับรู้อีกเล่า นับวันชวาลก็ยิ่งรับไม่ได้กับพฤติกรรมต่างๆ ของหญิงสาวคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็จนใจเหลือเกินที่จะพาตัวเองออกห่างไปมากกว่านี้ เพราะมารดาของตนนั้น ก็หลงใหลได้ปลื้มพีรพาเอาเสียมากๆ มากเสียจนอยากได้เธอมาเป็นลูกสะใภ้ในเร็ววัน
สบายดีอะไรกันล่ะคะ ดูหน้าวาซิ ซี๊ดซีด ถ้าวาไม่สบายเดี๋ยวพายพาไปหาหมอดีกว่านะคะ ไม่เอ่ยเพียงเท่านั้น หากแต่พีรพายังเดินเข้ามาใกล้แล้วใช้หลังมือแตะเบาๆ ที่หน้าผากของเขาอีกด้วย
ผมบอกว่าผมไม่ได้เป็นอะไรไงล่ะครับ ชวาลยืนขึ้นและรีบเดินหนีการประชิดใกล้จากอีกฝ่ายและนั่นทำให้ หญิงสาวเริ่มไม่พอใจในอาการปั้นปึงดังกล่าวขึ้นมาบ้าง
ถ้าวาไม่ได้ป่วย แล้ววาเป็นอะไรล่ะคะ ทำไมต้องทำหมางเมินใส่พายแบบนี้ด้วยล่ะ พายก็มีหัวใจนะคะวา คนกล่าวแสร้งทำหน้าน้อยใจออกมา และก็พอเดารู้แล้วว่าอะไรคือที่มาของความเย็นชาเหล่านี้ คงเป็นเรื่องที่เธอ บอกให้ทุกคนในบริษัทปิดปากเงียบเรื่องการเสียชีวิตของบุษกรในระหว่างที่เขาอยู่ต่างประเทศซินะ
ขนาดแกตายไปแล้ว ยังไม่วายทำให้ฉันวุ่นวายใจอีกนะนังบุษกร... คนที่กำลังเริ่มจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ด่าทอในใจ
ชวาลไม่ได้ตอบอะไร แต่เขากลับหันมาจ้องหน้าอีกฝ่ายเสมือนกำลังต้องการให้จำเลยยอมสารภาพผิดออกมาเอง
นี่วาอย่าบอกนะคะว่าที่วากำลังทำท่าจะเป็นจะตายเนี่ยก็เพราะเรื่องนัง...
ทำไมคุณต้องห้ามคนอื่นๆ ไม่ให้โทรบอกผมเรื่องบุษกร ก่อนที่คำหยาบคายใดๆ จะหลุดออกมาจากปาก ของพีรพามากกว่านี้ ชวาลต้องรีบขัดจังหวะเธอขึ้นก่อนด้วยคำถามที่ตรงประเด็นที่สุด
พายก็แค่กลัวว่างานของวาจะเสียเพียงเพราะการตายของพนักงานเก่าของบริษัทคนหนึ่งเท่านั้นหละค่ะ อีกอย่างถึงวาไม่อยู่ทางบริษัทก็ส่งตัวแทนไปแสดงความเสียใจกับทางญาติของนัง... เอ่อ ยายบุษกรอยู่แล้ว
คุณเอง รวมถึงทุกๆ คนก็รู้ว่าผมเป็นสาเหตุให้บุษกรต้องลาออกจากงาน แล้วคุณคิดว่าผมควรที่จะไปงานศพ เธอไหม เอ่ยเสร็จก็หันหน้าหนีไปทางอื่นหัวเสีย ทั้งที่ก็พยายามควบคุมอารมณ์โกรธที่มีอย่างเต็มที่แล้วเช่นกัน
พายถามจริงๆ เถอะนะคะ ที่วาอยากไปงานศพของบุษกรเพราะรู้สึกผิดหรือยังอาลัยอาวรณ์มันอยู่กันแน่
คุณหมายความยังไง ชวาลหันมาอีกครั้งและคราวนี้แววตาของเขาดุดันขึงขังกว่าเดิมหลายเท่า
วายังรักนังบุษกรอยู่ใช่ไหมคะวา ไม่งั้นคุณคงไม่มาเอะอะอารมณ์เสียใส่พายอย่างนี้หรอก ความโกรธที่เพิ่มทวีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้น้ำเสียงของคนกล่าวถึงกับสั่นเครือ
บ้า! บ้าที่สุด! ชวาลตวาดเสียงดัง แต่เมื่อระลึกได้ก็ทำให้เขาต้องรีบลดอารมณ์ร้อนของตนลง แต่มันก็แลดูอึดอัด ลำบากใจเหลือเกินกับเรื่องเดิมๆ ที่พยายามอธิบายมาหลายครั้งแล้ว
ผมบอกแล้วไงว่าระหว่างผมกับบุษกร เราเป็นแค่พี่น้องกันเท่านั้น และถ้าคุณจะขุดคุ้ยเรื่องเดิมๆ ขึ้นมาอีกล่ะก็ ผมจะไม่คุยกับคุณอีก ผมเบื่อที่จะอธิบายในเรื่องซ้ำซากน่าเบื่อนี้เต็มทนแล้ว เสียงเข้มกล่าวอย่างเน้นถ้อยเน้นคำ
เอาล่ะค่ะ ถึงพายจะเชื่อว่าวาอาจคิดกับมันแค่พี่กับน้อง แต่พายไม่มีทางเชื่อว่าแม่นั่นจะคิดกับคุณแค่นี้แน่ๆ พายเป็นผู้หญิง ทำไมพายจะไม่รู้ว่ามันคิดอะไรกับคุณ พายมองตามัน พายก็รู้แล้วว่ามันคิดจะทำอะไร มันคิดจะแย่งวาไปจากพาย
พาย! ชายหนุ่มถึงกับเอ่ยอะไรไม่ออกกับประโยคของพีรพา เขาทำได้แต่ตวาดเสียงดังออกมาอีกครั้ง เพราะเขาเองก็รู้แก่ใจดีว่าบุษกรคิดกับตนอย่างที่พีรพาบอกจริงๆ
พอทีเถอะนะพาย ไหนๆ บุษกรเค้าก็เสียไปแล้ว หยุดคิดเรื่องพวกนี้ได้แล้ว มันจบแล้ว คราวนี้ชายหนุ่มลดน้ำเสียงลงเสมือนกำลังต้องการจบเรื่องนี้ลงเสียให้เร็วที่สุด ก่อนที่เขาจะควบคุมความร้อนรุ่ม ทางใจไม่ได้
พายหยุดคิดอยู่แล้วล่ะค่ะ เพราะคนตายไปแล้วจะมาแย่งว่าที่คู่หมั้นของพายได้ยังไง ว่าแต่วาเถอะค่ะ หยุดคิดได้แล้วนะคะ เอาเวลาไปคิดเรื่องงานดีกว่าค่ะ มีประโยชน์กว่าเยอะ คนบอกเผยยิ้มออกมา แต่รอยยิ้มนี้กลับทำให้คนที่เห็นมันรู้สึกไม่ชอบเอาเสียเลย เพราะมันคือรอยยิ้มที่เผยความเยือกเย็น ราวกับว่ากำลังสาแก่ใจเหลือเกินกับเรื่องเศร้าที่เกิดขึ้น
คุณใจร้ายมากพาย... ชวาลนึกในใจ
ทำไมกันนะ ทำไมคุณแม่ถึงต้องการให้ผมแต่งงานกับผู้หญิงที่ชอบเอาแต่ใจคนนี้นัก เธอมีดีอะไรนักหนา นอกจากความสวยที่ฉาบฉวยอยู่แต่ภายนอกเท่านั้น หรือเพราะเธอคือพีรพา อารยะพิศาลวงษ์ บุตรสาวหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทเพียงเท่านั้น... ชวาลนึกคิดอยู่ในใจที่กำลังรู้สึกกริ้วโกรธมาก ทว่าก็ทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้
********
นายบริบูรณ์เดินออกมาจากเคาน์เตอร์เช็คอินที่สนามบินด้วยสีหน้ามีรอยกังวลปะปนอยู่เกี่ยวกับความต้องการ ของบุตรสาวคนเล็กที่จู่ๆ เธอก็บอกว่าจะยังไม่กลับเชียงใหม่พร้อมกัน เพราะยังทำใจไม่ได้เกี่ยวกับการจากไป ของพี่สาวและเธอต้องการอยู่ดูแลความเรียบร้อยทางบ้านของบุษกรให้วางใจก่อนจึงจะตามกลับไป
แน่ใจเหรอบัวว่าจะอยู่กรุงเทพฯ ต่อน่ะลูก คนเป็นพ่อถามย้ำความต้องการนั้นอีกครั้ง
บัวขออยู่ที่นี่อีกสักระยะนะคะพ่อ กชกรยังยืนยันความต้องการเดิม ทว่าเธอก็ไม่ได้บอกเหตุผลที่แท้จริงออกมา ให้คนเป็นพ่อได้รับรู้ด้วยเกรงว่าจะทำให้เขาเป็นกังวลใจมากขึ้น และที่สำคัญหากเขารู้ว่าเธอจะอยู่ที่กรุงเทพฯ ต่อไปเพราะเหตุผลใด เขาก็คงไม่ยอมแน่
พ่อก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะบัว ถ้าลูกจะอยู่ที่นี่ต่อเพราะว่ายังหักห้ามใจและลืมพี่บุษเค้าไม่ได้ แต่อย่าลืมนะว่า คนที่อยู่ก็ต้องดำเนินชีวิตและต้องเดินไปตามทางของแต่ละคนด้วย ไม่ใช่ว่าพ่อไม่เสียใจ แต่พ่อคิดว่าถ้าเรายัง เป็นทุกข์ต่อไป ดวงวิญญาณของพี่เค้าก็คงจะทุกข์และมีห่วงตามไปด้วย
ค่ะพ่อ บัวเข้าใจ คนบอกเดินเข้ามาสวมกอดคนเป็นพ่อเพราะไม่อยากอยู่ห่างไกลจากเขาเลยแม้แต่น้อย แต่เธอก็ยอมไม่ได้ที่จะปล่อยให้พี่สาวผู้น่าสงสารจากไปโดยที่ต้นเหตุและคนผิดยังลอยนวลอยู่ ซึ่งมันจำเป็นพอ ที่จะให้เธอยอมทนอยู่ห่างจากสิ่งที่รักอย่างบิดาและไร่องุ่น
หญิงสาวพาตัวเองออกจากอ้อมกอดของคนเป็นพ่ออีกครั้ง
บัวฝากพ่อดูแลไร่องุ่นสักพักนะคะ แล้วบัวจะรีบกลับไปทำหน้าที่ของบัวต่อค่ะ ตอนนี้หยาดน้ำตาเริ่มไหลรื้น ออกมาคลอที่สองตาของกชกรแล้ว เพราะเธอยังรู้สึกสองจิตสองใจกับการการตัดสินใจในครั้งนี้อยู่บ้าง แต่สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะแข็งใจสกัดกลั้นหยาดใสๆ ในตาเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมาได้ เพราะต่อไปหัวใจของ สาวชาวไร่คนนี้จะมีแต่ความเข้มแข็งราวศิลาผาเท่านั้น และคนที่ต้องอ่อนแอและต้องพบเจอกับความทุกข์ ต่อไปจากนี้ก็คือนายชวาล ชวารัตน์ต่างหาก
เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงหรอกบัว พ่อจะดูแลไร่องุ่นให้ดีที่สุด ว่าแต่บัวเถอะต้องดูแลตัวเองให้ดีด้วยรู้ไหม นายบริบูรณ์ดึงร่างบางของบุตรสาวเข้ามากอดอีกครั้งพร้อมกับตบเบาๆ ที่ไหล่
ค่ะพ่อ บัวสัญญาว่าจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุดค่ะ พ่อไม่ต้องห่วงบัวนะคะ พ่อเองก็ต้องดูแลตัวเองดีๆ นะคะ แล้วบัวจะโทรไปคุยด้วยบ่อยๆ
แล้วรีบกลับเชียงใหม่นะ พ่อคิดถึง
จากคุณ |
:
ยาชมภู
|
เขียนเมื่อ |
:
10 พ.ค. 54 11:06:42
|
|
|
|