เล่ห์รักลวง บ่วงราชันย์ บทที่2
|
 |
มาอัพช้ามาก ขออภัยค่ะ สถานะล่าสุด เพิ่งรอดพ้นจากการแก้ปัญหาไวรัส หลังจากหายประสาทหลอน เลยรีบมาอัพอย่างว่องค่ะ^^
ตอนที่2
รู้สึกอย่างไรบ้าง กับการมาเมืองไทยครั้งแรก?
คำถามในน้ำเสียงรื่นรมย์อย่างคนอารมณ์ดีเป็นนิจ เรียกให้ร่างสูงใหญ่ที่ยืนกอดอกมองแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านกระจกใสบานกว้างบนห้องชุดชั้นบนสุดของคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยาสุดหรู ผินหน้ากลับมาหาแวบหนึ่ง
สับสนวุ่นวาย...แตกต่างจากที่ที่เราอยู่มาก ดวงตาสีนิลคล้ายจะทอดยาว แลลึกไปถึงสถานที่ซึ่งอยู่ไกลแสนไกล คนที่นั่งทอดขาไปตามสบายฟังแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ
ก็น่าอยู่หรอก กรุงเทพฯ คับคั่ง เต็มไปด้วยยวดยานและผู้คน ในขณะที่วังกลางทะเลทรายที่อีกฝ่ายครอบครอง งดงามน่าอยู่แถมผู้คนก็ไม่พลุกพล่าน สงบเงียบ มีแต่สาวงามคอยให้การรับใช้แทบไม่ต่างจากสวนสวรรค์ แต่น้ำเสียงกังวานลึก คล้ายซ่อนบางอย่างไว้ภายใน นี่คืออะไรกันนะ
ทว่าด้วยความเป็นคนง่ายๆ สบายๆ ฟาเบียง หลุยส์ มาฮาล นักธุรกิจหนุ่มลูกครึ่งฝรั่งเศสอียิปต์ก็ตัดความสงสัย หันมาพูดเรื่องที่คิดว่าสำคัญกว่า
มีเวลาอีกมากกับการแวะมาพักผ่อนและพบปะกับครอบครัวคู่หมั้นของผม อันที่จริงเรา...หมายถึงผมกับคู่หมั้น เรามีแผนจะเดินทางไปอเล็กซานเดรียทันทีที่งานวันเกิดคุณย่าของเธอจบลง แต่แน่นอนว่าทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ ท่านชีคสามารถพำนักที่นี่ต่อไปหากว่าต้องการ เมืองไทยมีสถานที่พักผ่อนมากมายที่ผมอยากแนะนำ
ไม่จำเป็นเสียงปฏิเสธห้วนสั้น เรา อยู่ เพื่อบางอย่างที่ค้นหา เมื่อพบ...ก็ถึงเวลา กลับ
นับจากได้รู้จักสนิทสนมกับชีคอัลเซ็ป เอล ฟาราล ผู้นี้มา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คำถามอึงอลเต็มสมอง หากไม่อาจเปล่งออกมา
ชีคหนุ่มผู้ลึกลับ ที่จู่ๆ ก็ก้าวขึ้นมาครอบครองวงการธุรกิจหลักในไคโรด้วยทรัพย์สินมหาศาลผู้นี้ ปิดความสงสัยเขาด้วยดวงตาคมกริบและพลังอำนาจที่แผ่ออกมาจากร่างสูงใหญ่
ไม่ใช่เพียงเขาคนเดียว
แต่เป็นทุกคนที่อยากรู้เรื่องราวที่มาของชายหนุ่ม
มีเสียงเล่าลือว่าเขาอาจเป็นเจ้าชายจากแคว้นไหนสักแห่งที่เบื่อหน่ายกฏระเบียบคร่ำครึ จนเบนเข็มมาทำธุรกิจสร้างฐานอำนาจรองรับให้ตัวเอง ทว่าเขาคิดว่าบุรุษผู้นี้เป็นมากกว่านั้น
ยิ่งใหญ่...กว่านั้น
แวบหนึ่งที่สั่นสะท้านยามดวงตาคมกริบผินมา รอยหยักลึกมุมปากไม่อาจเลือนลบกลบรอยเย็นชาในดวงตาสีลึกล้ำแฝงประกายทรงอำนาจ และราวกับว่าอีกฝ่ายล่วงรู้ความพรั่นพรึงในใจเขา น้ำเสียงจึงผ่อนคลายขึ้นเมื่อเอ่ยประโยคต่อมา
แล้วเราจะได้รับเกียรติพบกับคู่หมั้นคนงามของคุณเมื่อไหร่ ฟาเบียง
หนุ่มฝรั่งเศสผ่อนลมหายใจ ค่อยยิ้มออก อัลเซ็ปที่ดูผ่อนคลายนี่ล่ะ จึงจะชวนให้พูดคุยด้วยอย่างสนิทใจ
คืนพรุ่งนี้มุทิตาผู้แสนหวานของผมจะทำให้คุณตกตะลึงแน่ๆ แต่อย่าหลงรักเธอเข้าเชียวนา ฟาเบียงเย้าไม่จริงจังนัก
เท่าที่คบกันมา แม้จะไม่เนิ่นนานพอให้เรียกได้ว่าสนิท แต่ชายหนุ่มตรงหน้าห่างไกลจากคำว่าเจ้าชู้อย่างสิ้นเชิง ทั้งที่สาวน้อยสาวใหญ่แอบทิ้งสายตาให้ทุกที่ที่ก้าวผ่านโดยไม่กล้าทำอะไรมากไปกว่านั้น
ก็เห็นจะเป็นเพราะท่าทีเย็นชาติดจะดุดันนี้กระมัง เพียงแค่สายตาคมกริบตวัดมองอย่างไม่ชอบใจ ก็แทบจะทำให้คนมองตอบหัวใจหยุดเต้นสิ้นชีพลง ณ ตรงนั้น
อย่างไรก็ตาม ความเป็นมิตรในเชิงธุรกิจและพัฒนาสู่ความเป็นเพื่อนนั้นมีค่านัก เขาจึงไม่คิดจะสอบถามเรื่องราวของอีกฝ่ายให้ระคายใจกัน ไม่มีสิ่งใดสำคัญเท่ามิตรภาพ และเรื่องบางเรื่องก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ ในเมื่อการร่วมมือกันทางธุรกิจก็ยังคงอยู่ และเขาจะต้องทำให้มันดำเนินต่อไปในอนาคต
ชุดนี้เป็นไง เม?
หลังจากที่ต้องนั่งเอกขเนกบนโซฟาหนานุ่มในห้องเสื้อสุดหรูที่ให้บริการเฉพาะเซเล็บสังคมไฮโซ มองร่างระหงของผู้เป็นพี่สาวที่เดินไปทั่วร้านเป็นเวลากว่าครึ่งค่อนชั่วโมง ในที่สุด อีกฝ่ายก็ดึงวันพีซสายสปาเก็ตตี้สั้นแค่เข่าลายดอกไม้สีส้มอมชมพูออกมาจากราวแขวน ซึ่งอัดแน่นไปด้วยอาภรณ์สวยงามทว่าเปรี้ยวเข็ดฟันทีเดียวในความคิดของเมดา
ดีค่ะ สวย เหมาะกับพี่มูน เธอตอบเสียงใส
ไม่ใช่ของพี่ ให้เธอใส่ต่างหาก มุทิตาดึงน้องสาวขึ้น จะให้ไปลองแต่คนฟังส่ายหน้าพรืด ปฏิเสธทันที
ไม่เอาหรอกค่ะ เปลือยไหล่เปิดแขนขาโล่งโจ้ง ใส่แล้วหวัดกินแย่เลย
ยัยบื้อเอ๊ย ใครๆ เขาก็ใส่แบบนี้กันทั้งนั้น มุทิตาหัวเราะคิก ไม่สนใจสายตาออดอ้อนอุทธรณ์ หันไปเลือกชุดสำหรับตัวเองอีกสองชุดแล้วส่งทั้งหมดพร้อมบัตรเครดิตให้เจ้าของร้านสาวใหญ่ที่รีบรับมาอย่างกระตือรือร้น
ไปหาสร้อยสวยๆ ใส่กันต่อ คนพูดดึงแขนเรียวพาเดินออกจากร้านทันทีที่ได้ของ จนผู้เป็นน้องสาวได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ ให้กับราชินีช็อปปิ้ง ท่าทางคืนนี้เธอต้องเตรียมยาไว้นวดแขนให้พี่สาวคนสวยและตัวเองเสียแล้ว
สองสาวหยอกล้อพูดคุยอย่างร่าเริง ไม่ทันสังเกตเห็นว่าที่ร้านกาแฟใกล้กันนั้น ชายหนุ่มผิวขาวลุกขึ้นยืน มองตามเขม็ง
ใครโทรมาน่ะเม? คุณแม่หรือ?
โทรผิดน่ะค่ะ เมดาเก็บโทรศัพท์แล้วลุกขึ้นบอกยิ้มๆ เมขอตัวไปห้องน้ำแป๊บนะคะ
เมื่อลอบชำเลืองแล้วพบว่ามุทิตากลับไปให้ความสนใจตุ้มหูมุกที่พนักงานสาวส่งให้อย่างตั้งอกตั้งใจ เมดาก็เดินลิ่วๆ ราวกับจะปลิวตรงไปยังลิฟต์ที่นำขึ้นไปสู่ชั้นบนส่วนที่เป็นโรงภาพยนตร์
เม คนที่ยืนกระสับกระส่ายอยู่หน้าโปสเตอร์หนังยิ้มกว้างเมื่อหันมาเห็นเธอ เมดาถอนใจเฮือกแล้วยกมือกอดอก
ภาสมีอะไรก็ว่ามาเร็วเข้า เมรีบ
ใบหน้าเกลื่อนยิ้มปรากฏร่องรอยน้อยใจขึ้นมาทันที
ใช่ซิ ต้องรีบไปช่วยพี่สาวเลือกซื้อสร้อยสวยๆ ไว้ใส่อวดว่าที่ผัว
หยาบคาย ถ้าจะมาหาเรื่องกันแบบนี้เมไม่คุยด้วยหรอก ร่างบางหันกลับส่งผลให้ชายหนุ่มหน้าสวยราวสตรีรีบดึงแขนเรียวไว้แล้วละล่ำละลักขอโทษ ตามด้วยการอ้อนวอน
เม ไอ้หมอนั่นมันคนต่างชาติต่างภาษา มันไม่รักพี่มูนจริงๆ หรอกเชื่อสิ
ภาสพูดแบบนี้เหมือนดูถูกว่าพี่มูนดูคนไม่เป็นและทำอะไรเอาแต่อารมณ์
เอ่อ เราไม่... ชายหนุ่มอ้ำอึ้ง ดวงตาพลันหมองลง เมดาได้แต่มองอย่างเห็นใจ
เมหายมานานแล้ว ต้องรีบกลับไปที่ร้านเสียที ภาสจะไปหาพี่มูนด้วยกันไหม? แม้อยากอยู่ปลอบเพื่อนแต่ก็ไม่อยากทำให้คนที่รอต้องหงุดหงิด ทำให้จำต้องพูดไปตามตรงเช่นนี้
ภาสวรส่ายหน้าช้าๆ หลังจากนิ่งไปชั่วอึดใจ
ไว้คืนพรุ่งนี้เถอะ วันนี้เรามีธุระ เขายิ้มเซียวๆ ให้ บีบหัวไหล่บอบบางเบาๆ ก่อนเดินแยกไปอีกทาง ทิ้งให้คนข้างหลังทอดถอนใจยาวเหยียด
เธอรู้ว่าเพื่อนคนนี้แอบหลงรักมุทิตามาตั้งแต่ครั้งแรกที่พบ ทว่ามันจะมีประโยชน์อะไรเล่า ในเมื่อหัวใจคนเราไม่อาจบังคับให้จูนกันติดได้เสมอไป
ความจริง ภาสวรเป็นชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่ง หน้าสวยขาวใสสูงโปร่งอย่างนักร้องบอยแบนด์เกาหลีที่สาวๆ รุมกรี๊ด ทว่าความหล่อแบบนี้ห่างไกลจากสเป็คพี่สาวคนสวยที่ชมชอบหนุ่มหล่อล่ำหุ่นนักกีฬามากกว่าหนุ่มหล่อพ่อรวยซึ่งมองเผินๆ แทบไม่ต่างจากอิสตรี แม้จะเป็นต่อคนอื่นๆ ในด้านความสนิทสนมที่มีต่อกันมานานจนสามารถเข้านอกออกในบ้านได้ราวญาติสนิท หากสุดท้ายก็ต้องผิดหวัง อกหักไปตามระเบียบ และเธอที่เป็นเพื่อนสนิท ก็คงทำได้เพียงแค่ช่วยภาวนา ให้อีกฝ่ายได้พบรักใหม่โดยเร็ว หรือไม่เช่นนั้น เธอเองนี่ล่ะที่ต้องหาสาวๆ น่ารักๆ ในกลุ่มญาติสักคนมาให้ เพื่อที่ว่างานเลี้ยงที่กำลังจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ภาสวรจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดใจจนเกินไป
จากคุณ |
:
หวัสสา
|
เขียนเมื่อ |
:
13 พ.ค. 54 10:52:09
|
|
|
|