ต่อ ^ ^ ^
คีรีจักร หยุดมันสิ! ก่อนที่มันจะฆ่าเรา
เจ้าหยุดมันได้!! โมรากาฬพยายามหลบหลีกกงจักรอย่างจวนเจียนจะเสียท่าถูกบั่นคอเสียหลายครั้ง
หยุดนะ!! แต่กงจักรก็ยังหมุนวนฉวัดเฉวียนไปมาเช่นเดิม
เจ้าต้องออกคำสั่งด้วยการเพ่งกระแสจิตไปที่มันด้วย ไม่ใช่แค่พูดลอยๆ ต้องรู้สึกว่าเจ้าเป็นหนึ่งเดียวกับมัน คีรีจักรจึงพยายามรวบรวมสมาธิตั้งมั่นและตะโกนก้อง
หยุด!!! จากกงจักรที่หมุนวนอย่างบ้าคลั่งหยุดชะงักลอยค้างกลางอากาศทันที
ดีมาก เรารู้ว่าเจ้าทำได้ แววตาของโมรากาฬที่มองมาฉายแววปรีดาอย่างไม่ปิดบัง ถ้าคีรีจักรจะไม่มัวตื่นเต้นกับศาสตราวุธที่เป็นไปอย่างใจต้องการ คงได้เห็นเลศนัยที่ซ่อนอยู่ในดวงตาสีฟ้านั้น!
แล้วต่อจากนี้เจ้าก็สามารถสั่งมันได้ทุกอย่างตามที่เจ้าต้องการ
คีรีจักรพยายามเพ่งสมาธิไปยังกงจักรที่ลอยนิ่งอยู่กลางอากาศ ออกคำสั่งด้วยจิตแทนที่จะเป็นการลั่นทางวาจาเช่นเมื่อครู่ กงจักรหมุนวนกลับมาอยู่บนฝ่ามือที่ยื่นรอรับอย่างง่ายดาย ก่อนจะกลับคืนเป็นปิลันธโมรานอนสงบนิ่ง
กงจักรนี้เป็นของเจ้า ไม่มีผู้ใดที่สามารถสั่งมันได้...นอกจากเจ้าคนเดียว!
คีรีจักรมองกำไลโมราสีดำละเลื่อมด้วยความตื่นเต้น...สิ่งที่เป็นของเขา...ปรารถนาเหลือเกินที่จะทำให้ทุกคนเห็นคุณค่าในตัวตนของเขา!
เจ้าเรียนรู้ได้เร็วสมแล้วที่เป็นเทพแห่งสงคราม
อะไรนะ เทพแห่งสงคราม...หมายความว่ายังไง
ผู้ที่มีบุญญาบารมี ย่อมมีมากมายหลายสิ่งที่ต้องกระทำ แล้วต่อไปเจ้าก็จะรู้เอง ยังมีเรื่องราวอีกมากที่เจ้าต้องเรียนรู้
เจ้ามักจะทำให้เราเกิดข้อสงสัยอยู่เรื่อยเลยนะ โมรากาฬ
ข้าว่าเจ้ารีบกลับตำหนักดีกว่านะ ก่อนที่จะมีใครมาเห็นว่าเจ้าออกมาทำอะไรกลางอุทยานในเวลาเช่นนี้
จริงสิ ในยามวิกาล การปรากฏตัวในอุทยานคงเป็นเรื่องไม่ดีนัก หนำซ้ำยังมีผู้ที่เหมือนพระเชษฐาอยู่ด้วย ถ้าใครเห็นคงเกิดการเข้าใจผิดได้
ชั่วเวลาเพียงเสี้ยววินาทีที่คีรีจักรได้คิด ทหารยามสองนายก็ตรงเข้ามาหาอย่างไม่ทันตั้งตัว คีรีจักรส่งสายตาให้โมรากาฬหลบไป แต่อีกฝ่ายยังยืนนิ่งไม่ทุกข์ร้อน
พระโอรสคีรีจักรเสด็จมาทำอะไรที่อุทยานค่ำๆมืดๆอย่างนี้พระเจ้าค่ะ ทหารนายหนึ่งทูลถามด้วยความแปลกใจ และยิ่งพระโอรสมีพระอาการราวกับกำลังปิดบังซ่อนเร้นบางสิ่ง
คือ...เรา คีรีจักรพูดไม่ออกเหลียวมองไปทางโมรากาฬที่ยืนนิ่ง อดแปลกใจไม่ได้ที่ทหารทั้งสองมองข้ามผ่านบุคคลหนึ่งไปราวกับไม่เห็น
อย่าลืมสิ ข้าคือเงาในมโนจิตของเจ้า มนุษย์ธรรมดาไม่มีใครเห็นหรือได้ยินเสียงข้าหรอก...มีแต่เจ้าเท่านั้น คีรีจักรฟังแล้วลอบถอนใจ
พระโอรสประชวรหรือเปล่าพระเจ้าค่ะ พระพักตร์ไม่สู้ดีเลย
เราสบายดี กำลังจะกลับตำหนักละ พวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงหรอก
แต่...พระโอรสพระเจ้าค่ะ... คีรีจักรรีบหันหลังวิ่งกลับตำหนักไปอย่างไม่สนใจ แต่ก็ต้องหยุดชะงักด้วยเสียงคำรามสะท้านยะเยือก
โอรสน้อยค่อยๆหันกลับไปมองแล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าแทนที่จะเป็นทหารสองนายนั้น กลับกลายเป็นร่างกายใหญ่โตมหึมาถึงสองร่าง กล้ามเนื้อแข็งแรงที่ซ่อนอยู่ภายใต้ปุยขนรุงรัง นัยน์ตาวาวโรจน์มุ่งร้าย เขี้ยวใน ริมฝีปากยาวโค้งคมแยกคำราม เท้าทั้งสี่ที่เกาะยึดพื้นตั้งท่าเตรียมจะพุ่งเข้ามาหา
หมาป่า!...ที่สูงใหญ่เกินกว่าปกติ จนเรียกได้ว่าเป็นอสุรกาย!...มาได้ยังไง!!
กรรรรรร!!!~
คีรีจักรถอยหนีด้วยความหวาดกลัวเมื่อสัตว์ร้ายสองตนเริ่มย่างสามขุมเข้ามาหา
คีรีจักรระวัง! สิ้นคำเตือนของโมรากาฬ เจ้าสัตว์ร้ายก็ควบตะกุยตรงเข้ามา เขากระโจนหลบพ้นจากการประสงค์ร้ายนั้น อสุรกายหมาป่าทั้งสองจึงตะปบได้แต่เพียงอากาศว่างเปล่า
พวกมันเดินงุ่นง่านที่พลาดเหยื่อ ก่อนที่ตนหนึ่งจะวกกลับมาหาเขาที่กระเสือกกระสนหนีอย่างมาดหมาย และอีกตนเบนทิศทางไปยังโมรากาฬที่ยืนละล้าละลัง
คีรีจักร! รีบฆ่ามันสิ มันจะทำร้ายพวกเรานะ เร็วเข้า ใช้กงจักรของเจ้า โมรากาฬตะโกนบอกพลางถอยหนี โอรสน้อยเหวี่ยงกำไลขึ้นไปบนฟ้า ปิลันธโมราหมุนวนกลายเป็นกงจักรผันดิ่งลงมาลอยอยู่เหนือฝ่ามือ ขณะที่อสุรกายหมาป่าย่างกรายเข้ามาทุกขณะ แล้วเขาก็เกิดความลังเล แม้จะเป็นสัตว์ร้ายแต่ก็เป็นหนึ่งชีวิต
เร็วเข้าสิ คีรีจักร!
กรรรรรรรร!!!~
มันส่งเสียงคำรามพร้อมกระโจนเข้าหา เขาจึงตัดสินใจเหวี่ยงกงจักรออกไปกรีดผ่านร่างอสุรกาย เสียงร้องครวญครางเจ็บปวดยิ่งทำให้มันเกรี้ยวกราดและกระโจนพุ่งเข้าใส่คีรีจักรอย่างไม่เกรงกลัว
โอรสน้อยจึงเขวี้ยงจักรออกไปอีกครั้งในระยะประชิดตัวก่อนที่จะถูกมันตะปบ จักรผันตัดผ่านเนื้อหนังตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวนก่อนที่มันจะล้มแน่นิ่งไป คาวเลือดสาดกระเซ็นเปรอะเปื้อนไปทั้งตัวที่ยืนหอบตื่นตกใจ
ช่วยด้วยเรา คีรีจักร!! เสียงของโมรากาฬเร่งเร้าขอความช่วยเหลืออย่างหมดเรี่ยวแรงเพราะกำลังของหมาป่าอีกตนที่คร่อมร่างไว้เตรียมขย้ำ
เขาเขวี้ยงจักรออกไป แต่อสุรกายตนนี้กลับปัดออกทันจนจักรหมุนกระเด็นไปกระทบเสานางเรียงค้ำตำหนักเกิดเสียงสนั่นเลื่อนลั่น
คีรีจักร...ใช้...ใช้พลัง...อัคคี... โมรากาฬพูดกระท่อนกระแท่นขณะกำลังพยายามปัดป้องกรงเล็บที่ตะปบลงมา
อะไรนะ อัคคีอะไร
เตโชธาตุ...ที่เจ้าเคยเรียน...พลังในตัวเจ้าเรียกมันออกมาใช้ผนวกกับกงจักร...นึกถึง...พลังแห่งโลกันตร์...
มา...เดี๋ยวพี่จะสอนวิธีภาวนาเตโชธาตุ เสกไฟออกมา
ไม่เอาพระเจ้าค่ะ หม่อมฉันกลัวไฟไหม้มือ!
ฮ่าๆๆ ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่จะคอยถือน้ำดับไฟให้เอง
ความทรงจำเมื่อยามที่พระเชษฐาแอบสอนพระเวทย์ให้ผุดขึ้นมา
เราจะลองดู คีรีจักรเพ่งจิตไปที่กงจักรที่กำลังหมุนวนราวกับรอคำสั่ง จิตตั้งมั่นภาวนา...เตโชธาตุ...กงจักร....พลังโลกันตร์
กงจักรสีดำหมุนคว้างจนเกิดเป็นไฟไหววูบราวเปลวกนกหมุนเข้าหาอสุรกายหมาป่าที่คำรามก้องกำลังฝังกรงเล็บและคมเขี้ยวเข้าที่ลำคอของโมรากาฬ พลังจากโลกันตร์ซัดปิศาจร้ายกระเด็นไปไกลเกิดเสียงกัมปนาท
โฮกกกกกกกกกกก!!!!~~
อสุรกายหมาป่าเซซังสิ้นฤทธิ์ในขณะที่โมรากาฬค่อยพยุงกายลุกขึ้น เขาเห็นโลหิตอาบร่างนั้นเปรอะเปื้อน กงจักรหมุนกลับมาหาผู้เป็นเจ้าของก่อนจะคืนเป็นกำไลโมราธรรมดา
คีรีจักร!!! สุรเสียงขององค์ศักรินทร์พิโรธโกรธเกรี้ยว ตามมาด้วยเหล่าเสนาอำมาตย์
เสด็จพ่อ! ร่างพระโอรสน้อยชโลมไปด้วยโลหิตโทรมกาย เรียกให้พระบิดาตรงเข้าไปหาโดยทันที
คราแรกนั้นพระองค์ทรงเป็นห่วงแทบขาดพระทัย หากแต่เมื่อพิจารณาดีๆ โลหิตเหล่านั้นไม่น่าจะเป็นของคีรีจักรเลย
นี่มันเกิดอะไรขึ้น คีรีจักร!
ปิศาจพระเจ้าค่ะ! ปิศาจหมาป่า มันจะทำร้ายลูก... คีรีจักรเล่าอย่างตื่นตระหนก หวังยึดพระบิดาเป็นที่พึ่งจากความหวาดกลัว
องค์เหนือหัวพระเจ้าค่ะ มีทหารถูกทำร้าย! อำมาตย์ศักดากราบทูลเมื่อเห็นสภาพทหารสองนายที่นอนแน่นิ่งไม่ไหวติง เลือดสาดกระจายไปทั่วทั้งบริเวณ
ปิศาจหมาป่าอะไรกัน! สิ่งที่พ่อเห็นคือเจ้าทำร้ายทหารสองคนจนเจ็บหนัก...ท่านรามเสน! นี่ท่านสอนอวิชาพวกนี้ให้ลูกเรางั้นหรือ!!
เสียงระเบิดกึกก้องสนั่นหวั่นไหวทำให้องค์ราชานึกสังหรณ์พระทัย และเมื่อได้ทอดพระเนตรเห็นอวิชาอันชั่วร้ายของโอรสก็ยิ่งทำให้ทรงหวาดหวั่น
พระโอรสของพระองค์...ประดุจมารโดยแท้!
หามิได้พระเจ้าค่ะ หม่อมฉันทำเช่นที่พระโอรสคีรีจักรทรงทำไม่ได้ ท่านอาจารย์รามเสนปฏิเสธด้วยความกลัว
ลูกไม่ได้ทำนะพระเจ้าค่ะ
คีรีจักรยิ่งงงหนักเมื่อหันไปเห็นว่ามิใช่อสุรกายหมาป่าที่ถูกอานุภาพของกงจักรทำร้าย หากแต่เป็นนายทหารสองนายที่เข้ามาหาเขาเมื่อครู่ เมื่อเหลียวมองไปรอบบริเวณก็ไร้วี่แววของปิศาจร้ายตนใด รวมทั้ง โมรากาฬก็หายไปด้วย
เมื่อครู่ลูกเห็นปิศาจหมาป่าจริงๆ! ความสับสนงงงวยทำให้คีรีจักรไม่อาจอธิบายสิ่งใดได้ องค์ราชาจับพระโอรสมาคาดคั้นอย่างพิโรธ
ตอบพ่อมาเดี๋ยวนี้ คีรีจักร
เจ้าไปฝึกอวิชาชั่วร้ายนี่มาจากไหน แล้วยังใช้มันทำร้ายทหารอีก พ่อสั่งห้ามเจ้าฝึกศาสตราวุธแต่เจ้าก็ยังฝึกฝนเวทมนตร์ดำ...เจ้า...เจ้านี่มันเกิดมาเพื่อทำลายล้าง! ไม่น่าจะเกิดมาเลยจริงๆ องค์ศักรินทร์รับสั่ง อย่างบันดาลโทสะ
หากคีรีจักรกลับเจ็บปวดเกินกว่าจะทนรับไหว ภาพพระบิดาที่เงื้อดาบหมายจะฟาดฟัน...เสียงกรีดร้องอ้อนวอนของพระมารดา
ไม่จริง...มันไม่เป็นความจริงใช่มั้ย!
...อย่านะ...อย่าฆ่าลูกเรา
....ทหาร
เอาดาบมาให้เรา
แล้วทำไมไม่ฆ่าหม่อมฉันเสียตั้งแต่วันที่เกิดมาเลยล่ะพระเจ้าค่ะ ในเมื่อเสด็จพ่อก็ทรงมีพระประสงค์จะทำเช่นนั้นอยู่แล้ว!! คีรีจักรตะโกนลั่นด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ ความโศกเศร้าทั้งหมดทั้งมวล ไม่อยากยอมรับว่าทุกสิ่งที่เห็นเป็นเรื่องจริง
คีรีจักร... องค์ราชาทรงนิ่งงัน
ฆ่าลูกเลย!! ฆ่าลูกตอนนี้เลยสิพระเจ้าค่ะ! ตะโกนคร่ำครวญพลางกรรแสงไห้ด้วยความปวดร้าว แต่จะรู้หรือไม่ว่าพระบิดาก็ทรงปวดร้าวไม่ต่างกัน ในวันนั้นที่พระองค์ตัดสินพระทัยเลือกชีวิตน้อยๆของโอรสองค์เล็ก มองข้ามคำพยากรณ์
และพยายามหาวิธีแก้ไข
เจ้า...รู้เรื่องนี้ได้ยังไง...ใครบอกเจ้าเรื่องนี้...ใคร! สุรเสียงที่รับสั่งถามโอรสสั่นสะท้าน
มันเป็นความจริงใช่มั้ยพระเจ้าค่ะ เสด็จพ่อพระทัยร้ายต้องการจะฆ่าลูกจริงๆ...เสด็จพ่อรักแต่เจ้าพี่ธีรวงศ์!
ชั่ววูบที่ทรงเงื้อหัตถ์ฟาดกระทบปรางโอรสน้อยอย่างรุนแรงโดยมิทันได้ยั้ง!
องค์ราชาทั้งสงสารและพิโรธกับการกระทำของโอรสน้อยในครั้งนี้ระคนกัน
คีรีจักรเจ็บชา...ปวดแสบในฤทัยยิ่งกว่าปรางที่แดงเรื่อ ดวงเนตรของพระบิดาและโอรสประสานกันด้วยความรวดร้าว
คีรีจักรปวดร้าวฤทัยนัก ดั่งมีดปักกลางใจให้เป็นแผล พระบิดาชิงชังไม่เหลียวแล ด้วยเหตุแค่หลงเชื่อตามคำทำนาย ไม่เข้าใจลูกทำสิ่งใดผิด จึงทรงคิดสังหารได้แม้เชื้อสาย ช่างโหดร้ายเมื่อพระองค์มิเสียดาย หากลูกตายคงได้สมพระทัยปอง
องค์ศักรินทร์ยืนตะลึงเพิ่งรู้สึกองค์กับการกระทำของตนเอง จากหัตถ์ที่ทำร้ายโอรสนั้นชาวาบไล่ไปทั่วทั้งวรกาย พระหทัยแทบจะแตกสลายเมื่อได้สดับสิ่งที่โอรสตะโกนออกมา
ลูกเกลียดเสด็จพ่อ!!
คีรีจักรสะบัดตัวออกจากการเกาะกุม วิ่งกลับขึ้นไปยังตำหนักโดยไม่เหลียวกลับมามอง ไม่ฟังแม้แต่พระสุรเสียงของพระบิดา
คีรีจักร!! กลับมาก่อน...พ่อ... เพราะโทสะเพียงชั่ววูบ แต่มันกลับเจ็บราวกับถูกกระชากดวงหทัยออกมา...และก็ไม่ใช่เพราะผู้ใด เป็นหัตถ์ของพระองค์เอง!
ปล่อยให้พระโอรสอยู่ตามลำพังก่อนเถอะพระเจ้าค่ะ พระโอรสกำลังเสียพระทัยตรัสอะไรไปตอนนี้ก็คงไม่มีประโยชน์ อำมาตย์ศักดากราบทูลแนะนำ องค์ศักรินทร์พยักพักตร์รับฟังพลางทอดพระเนตรทหารที่บาดเจ็บสาหัส
ให้หมอหลวงรักษาอาการของทหารสองคนนี้อย่างสุดความสามารถ แล้วก็ให้นางกำนัลและทหารคอยติดตามดูแลคีรีจักรอย่างใกล้ชิด
รับด้วยเกล้าพระเจ้าค่ะ
เกิดอะไรขึ้นกับคีรีจักร...จะทำอย่างไรดี...อย่าให้ลูกของเราต้องกลายเป็นมารเลย
อย่าทำลายล้างคีรีรัตน์นคร...อย่ากระทำปิตุฆาต....อย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย
:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*: ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: :*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:*:
คีรีจักรกรรแสงสะอึกสะอื้นอยู่เพียงลำพังด้วยความเศร้าโศกเหลือประมาณ
...สิ้นแล้วทุกสิ่ง...ความรักจากเสด็จพ่อ ซึ่งมันคงไม่มีมาตั้งแต่แรก...
...ความหวังที่รอจากพระเชษฐา...
อย่าร้องไห้อีกเลยคีรีจักร โมรากาฬปรากฏกายขึ้นในสภาพอ่อนเพลียไร้เรี่ยวแรง โลหิตยังเปรอะเปื้อน
โมรากาฬ...เจ้าเป็นยังไงบ้าง คีรีจักรยังมีจิตใจถามไถ่
ไม่ต้องห่วงข้าหรอก ร่างกายของข้ามิได้เหมือนมนุษย์ เจ้าต่างหากคงจะเจ็บปวดมาก โมรากาฬปรายมองคีรีจักรที่จมอยู่ในความเศร้า
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมถึงมีปิศาจหมาป่าโผล่มาได้
มนตร์มายา...มีผู้ต้องการใส่ร้ายเจ้าอยู่นะ คีรีจักร โมรากาฬวางหมากต่อไป
ใส่ร้ายเรางั้นหรือ...ใคร?
ข้าไม่รู้ว่าใคร...เจ้าต้องสืบหาเอาเอง แต่จุดประสงค์มันก็เพื่อให้บิดาของเจ้าเกลียดเจ้ามากยิ่งขึ้น
ยิ่งได้ยินคำว่าเกลียด...ก็ยิ่งเจ็บช้ำ...ช้ำจนคำว่ารักไม่อาจเยียวยาได้อีกแล้ว...
เรื่องที่เจ้าบอกเราเป็นความจริง เสด็จพ่อต้องการจะฆ่าเรา...พระองค์ไม่ได้รักเราเลย
ในเมื่อบิดาไม่รัก เจ้าก็ต้องยืดหยัดด้วยตนเอง...ในเมื่อความรักทำให้เจ้าเจ็บปวด มันก็คือความชั่วร้ายที่ทำให้จิตใจอ่อนแอ ยิ่งเจ้ามอบความรักให้ผู้อื่นมากเท่าไรเจ้าก็จะอ่อนแอมากเท่านั้น และเมื่อนั้นมันก็จะมีแต่ความเจ็บปวด
ความรักจะทำให้เจ็บปวดงั้นหรือ คีรีจักรถามอย่างเลื่อนลอย
เจ้าจะเชื่อใจใครได้อีกล่ะ นอกจากเงาในมโนจิตของเจ้า...ก็คือข้า...ข้าเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่เป็นมิตรแท้และไม่มีวันแปรเปลี่ยน...เพราะข้ามาจากหัวใจของเจ้า
คีรีจักรมองโมรากาฬนิ่ง เพื่อนเพียงหนึ่งเดียวที่เคียงข้างเขา ณ เวลานี้!
นับจากนี้ไม่มีอีกแล้ว...
ความรัก...ที่ปรารถนาจากพระบิดา
ความหวัง...ว่าพระเชษฐาจะเสด็จกลับมาตามคำมั่นสัญญา
นับจากนี้...ทุกสิ่งทุกอย่างเขาจะทำเพื่อตนเอง!
ภายใต้จิตลึกลึกนึกหวาดหวั่น ด้วยมุ่งมั่นฟาดฟันประหัตประหาร หลงเล่ห์เหลี่ยมกลลวงโมรากาฬ เปลี่ยนกุมารคีรีจักรองค์ศักรินทร์ ใช้อาคมมนตราคาถาขลัง เข้าแทรกซึมพลังบดบังศีล เด็กเยาว์วัยไม่ประสาให้ราคิน เปลี่ยนชีวินพลิกผันเป็นรัตติกาล
จากคุณ |
:
บทเพลงปีศาจ
|
เขียนเมื่อ |
:
14 พ.ค. 54 12:06:10
|
|
|
|