สรรพสำเนียงไก่ชนภายในวัดแข่งขันกันร้องเพลงขับขานเสียงดังกังวานทั่วบริเวณ เป็นสัญญาณบอก เช้าวันใหม่ อัน สดใส มาเยือนแล้ว อากาศยามอรุณรุ่ง เย็นสบาย ทว่า ภายในห้องๆหนึ่ง บน กุฏิวัด ปรากฏ ชายร่างสูงผู้หนึ่ง กำลังนอน หลับ กระสับกระส่าย ราวกับว่า กำลังประสบกับสิ่งน่ากลัวอะไรบางอย่าง เหงื่อผุดทั่วใบหน้า สองมือบีบรัดคอตนเอง กระทั่ง ใบหน้า เขียวคล้ำ ดุจ กำลังขาดอากาศหายใจ บ่นพึมพำ เสียงแหบพร่า หลุดรอดออกจากริม ฝีปากซีด แผ่วเบา ราวกับกระซิบ
คุณท่านปล่อยผม
ถัดจากชายร่างสูง ปรากฏ ภิกษุ รูปหนึ่ง กำลังยืน พนมมือ สวดมนต์ อะไรบางอย่าง
สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุ อัพพะยาปัชฌา อะนีฆา โหนตุ สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
โยม ก้องเกียรติ โยมอิน สรรพสัตว์ล้วนเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น อย่าได้เบียดเบียน สร้างเวรกรรมต่อกัน เลย จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด นะโยม
ภายหลังจาก ภิกษุ รูปนี้ สวดบท แผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์ เสร็จสิ้น พลาง จ้องมองชายหนุ่มชั่วครู่ จึงกล่าวขึ้นว่า
โยมคมกริช ตื่นเถอะ เช้าแล้ว
ทันใดนั้นเอง ชายหนุ่ม ผวาตื่น ลุกพรวดจากที่นอน ขึ้นมานั่งอย่างฉับพลันใจหายวาบ
ฝัน ผม อุทานออกมาอย่างแผ่วเบาเสียงแหบพร่า ถอนหายใจเฮือกใหญ่ อย่างโล่งอก มือขวาเอื้อมมาสัมผัส จับ รอบลำคอเขียวคล้ำของตนเอง รู้สึกปวดร้าวทั่วบริเวณลำคอ จากนั้น กวาดสายตามองรอบๆ พบหลวงตายืนอยู่ข้างๆ ทำเอาต้องรีบกุลีกุจอ นั่งพับเพียบพนมมือไหว้ ดั่ง ถูกเข็มจี้
โยม สร้อยพระล่ะไม่ได้ใส่ หรือ หลวงตา กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ พลางจ้องมองมายังชายหนุ่มด้วยแววตา อ่อนโยน
เมื่อคืน ผมถอด สร้อยพระแขวนไว้ที่ข้างฝาห้อง ก่อนจะไปอาบน้ำ แล้วลืมเสียสนิทเลย เกือบไปแล้วโชคดีที่หลวงตา เข้ามาช่วยทันไม่งั้นแย่แน่
.ยังไม่ทันที่ ผม จะกล่าวตอบ ท่าน กล่าวแทรกขึ้นมาเสียก่อนว่า
อาบน้ำอาบท่า เสียให้เรียบร้อยแล้วไป พบอาตมาบนศาลาวัดนะ โยม หลวงตาเหลือบมองชายหนุ่มชั่วครู่จากนั้นเดิน อย่างเชื่องช้า ออกจากห้องไป
ผมชำเลืองมองท่านเดินพ้นจากห้องไปแล้ว จึงทรุดตัวล้มลงนอนถอนหายใจอย่างอ่อนระโหย พลางนึกทบทวนภาพ เหตุการณ์ความฝันนั้น คุณท่านก้องเกียรติทำร้ายเราทำไมกัน ใครกันนะมีพลังอำนาจ สามารถควบคุมวิญญาณคุณท่าน ให้มาทำร้ายเราได้ ทำแบบนี้เพื่อจุดประสงค์อะไร บางทีอาจจะเกี่ยวกับการเสียชีวิตของพิมผกาก็เป็นได้ เรื่องราวดู ลึกลับ ซับซ้อนมากกว่าที่คิด กระทั่งรับรู้โดยสัญชาตญาณบางอย่างถึงอันตรายใกล้ตัวเข้ามามากขึ้นๆ
จากนั้น โทรศัพท์ไปหา กนกกรส เพื่อขอให้ คุณพ่อของเธอ ซึ่งเป็นนายตำรวจระดับสูงคนหนึ่งของจังหวัด ช่วยตาม สืบเรื่องราวครอบครัวของพิมผกา ซึ่งผมคิดว่า น่าจะมีส่วนกับการเสียชีวิตของคุณท่านก้องเกียรติ ด้วยก็เป็นได้
ขณะกำลังไปอาบน้ำ นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ส่ง บทความเกี่ยวกับ การพัฒนาเมืองเชียงแสนที่เขียน เมื่อคืนจึงเปิด โน้ตบุ๊กต่อสายโทรศัพท์ ส่งไฟล์งานผ่านเมล์ไปสำนักพิมพ์ เรียบร้อยก็เข้าไปอาบน้ำ ด้วยความเหน็ดเหนื่อย ภายหลังจากอาบน้ำเสร็จ รู้สึกว่าร่างกายเรียกความสดชื่นขึ้นมาอีกครั้ง ทว่า อาการเจ็บระบมรอบลำคอยังตามรบกวน อยู่บ้างก็ตาม จากนั้น แต่งตัวด้วย กางเกงบลูยีนส์ เสื้อโปโลแขนยาว สวมแจ็คเก็ตทับอีกชั้นหนึ่งเป็นอันเสร็จสิ้น
ผมเยื้องกายขึ้นบนศาลาวัด หลวงตา ท่านกรุณาให้เด็กวัดจัดข้าวปลาอาหารให้รับประทานอย่างอเร็ดอร่อยเป็นข้าวก้น บาตรที่ญาติโยมตักบาตร ถวายพระนั่นละ หลังจาก รับประทานเสร็จสรรพ ก็ คลานเข้าไป กราบลาหลวงตาเพื่อไปทำ ภารกิจสำคัญ
หลวงตาจ้องมองมายังชายหนุ่มชั่วครู่ จึงเอ่ยขึ้นว่า สร้อยพระใส่ตลอดเวลานะโยม มีดแหกโบราณ นั่นด้วยเก็บรักษา ให้ดี
ผมเหลือบมองท่าน จิดใจเริ่มว้าวุ่นเล็กน้อย เมื่อนึกทบทวนภาพความฝันมันอันตรายและน่ากลัวเหลือเกิน ถ้าหลวงตา เข้ามาช่วยไม่ทันคงเสียชีวิตไปแล้วท่านต้องทราบแน่ๆเรื่องราว ความฝันเมื่อคืนจากนั้นจึงกล่าวขึ้นว่า
หนทางข้างหน้ามีอันตรายมากไหมขอรับหลวงตา
หลวงตาเพ่งมองมายัง ผม อย่างสำรวม ทว่าท่านนิ่งเงียบไม่กล่าวตอบอะไร จนผมเริ่มรู้สึกกังวล กับเหตุการณ์ข้างหน้า ที่ ต้องเผชิญกับ มันเพียงลำพัง จากนั้นจึงกล่าวถามขึ้นอีกว่า
หลวงตาไม่ไปช่วยสตรีผู้นั้นด้วยกันละขอรับ
ท่านเหลือบสายตามองมายังชายหนุ่มชั่วครู่ จากนั้นจึงกล่าวขึ้นว่า
ไม่ใช่กิจของสงฆ์ กฎแห่งกรรม เป็นเรื่องของแต่ละคนไม่มีใครหลีกหนีได้พ้น แต่ บางอย่างอาจแก้ไขให้ บรรเทาเบา บางลงได้บ้าง แต่เจ้าจงจำไว้ไม่ว่ามี เหตุการณ์ อะไรเกิดขึ้นต้องมี สมาธิและสติให้มาก
สายแล้วไปเถอะโยม
ท่านจ้องเขมง มองมายังผม ตาไม่กระพริบ ทว่า มิใช่ สายตาของความไม่เป็นมิตรแต่อย่างใด แต่เป็นสายตาของความ เมตตากรุณา สัมผัสได้ ถึงความอ่อนโยน จากนั้น ผมจึงก้มลงกราบลาท่านอย่างเคารพนอบน้อม ขณะกำลังเดินไปนั้น ผมเหลียวหลังมอง หลวงตาอีกครั้ง ปรากฎว่า ท่านกำลังนั่งสมาธิ อย่างสงบเงียบเสียแล้ว ผมเริ่ม ออกเดินทางขับรถไปเรื่อยๆ ตามเส้นที่สอบถามจากเด็กวัดตอนรับประทานอาหาร สองข้างทางยังพบ บ้านเรือนผู้คนอยู่บ้าง ทว่า ไม่มีรถยนต์วิ่งสัญจรไปมาสักคัน
ไม่นานนักประมาณ30 นาทีก็ถึงทางแยกเลี้ยวซ้ายเข้าถนนอีกเส้นหนึ่ง ทว่าเป็นถนนลูกรัง ฝุ่นสีแดงคลุ้งตลบอบอวล ยามรถเคลื่อนตัวผ่าน ขับมาเรื่อยๆ ก็ให้ความรู้สึกทันทีว่าถนนเส้นนี้ เป็นเ ส้นทางเดียว กับถนนที่ เคยขับรถผ่าน มาแล้วในความฝัน มันผุดขึ้นมาในห้วงสมองโดยอัตโนมัติ สองข้างทางเป็นป่าต้นไม้สูงฉลูด เหลือบมองนาฬิกาเกือบ สิบโมงเช้าแล้ว ขับมาเรื่อยๆเพียงชั่วครู่เดียวก็ ถึงปั๊มน้ำมัน ขณะที่รถเคลื่อนผ่านไปนั้น สายตาผมเหลือบมองไปยังปั๊มน้ำมันร้างแห่ง นั้น ภาพความฝันและเรื่องราวที่หลวงตา บอกเล่า ถูกกระตุ้นพรั่งพรู ผ่านจิตใต้สำนึก ออกมาเองโดยไม่รู้ตัว
ภาพเหตุการณ์ สามี ใช้ มีดปลายแหลมจ้วงแทงภรรยาตนเอง อันน่าสยดสยองยัง ตราตรึงอยู่ในมโนภาพ ยากสลัด ออกจากห้วงความคิด กระทั่ง รูขุมขนลุกชันทั่วสรรพางค์กาย อย่างปัจจุบันทันด่วน พลันปรากฏ เสียงหนึ่ง กระแทก ผ่านอากาศ เข้ามา ท่ามกลางความเงียบงันของบรรยากาศรอบข้างทำเอาใจหายวาบ
กริชลูกอยู่ไหน กังสดาล ผู้เป็นมารดาเอ่ยถามลูกชายผ่ายสายโทรศัพท์ ขณะ ที่ตัวเธอเองนั้นกำลังสาละวนอยู่กับการ ทำอาหารภายในห้องครัวไปด้วย
ขับรถอยู่ครับคุณแม่ กำลังไปหาคุณหนูพริ้ง คมกริชเอ่ยตอบมารดา พร้อมกับพยายามสลัด มโนภาพของ สามี ภรรยาผู้น่าสงสารคู่นั้นให้ออกจากห้วงสมองตนเองโดยเร็วที่สุด
มีอันตรายไหมลูก กังสดาลเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงลูกชาย
คมกริช ยังไม่อยากเล่ารายละเอียดบางอย่างที่ทั้ง อันตรายและน่าสะพรึงกลัว ที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้มารดารับรู้ ในเวลา นี้มากนัก กลัวว่าจะ ตกอกตกใจและวิตกกังวลมากจนเกินไป แม้ว่า สัญชาตญาณบางอย่างบอกกับเขาว่าวันนี้ ต้องเกิด เหตุการณ์ อะไรขึ้นอีกแน่ก็ตาม จึงกล่าวตอบมารดาไปว่า
ไม่มีอะไรหรอกครับแม่
เออ
งั้นแม่ไม่รบกวนละขับรถดีๆนะลูก กังสดาลผู้เป็นมารดากดวางสายโทรศัพท์ ก็ง่วนอยู่กับการทำอาหาร กลางวันของเธอ ต่อไป ---------------
ณ.บ้านหลังหนึ่ง
พ่อหมอทองมี สีหน้าแววตา ออกอาการโกรธเกรี้ยวอย่างหนัก ที่ คมกริชสามารถรอดชีวิต จากเงื้อมมือ ผีร้ายในคราบ ก้องเกียรติและอินได้ เพราะมีใครบางคนมาช่วยเหลือได้ทันท่วงที ทั้งที่ชายหนุ่มเกือบจะสิ้นชีวิตอยู่แล้วเชียว
ใครบางคนที่หมอทองมียังไม่สามารถ ล่วงรู้ได้จาก การนั่งทางใน แต่ สามารถ สัมผัสได้ถึงอำนาจบุญบารมีที่แผ่ ออกมาทำให้ ก้องเกียรติและอินได้รับส่วนบุญ นั้นด้วย กระทั่ง อาจทำให้หลุดพ้นจากความเป็นทาสของตนเองก็ เป็นได้
พ่อหมอยังจัดการพวกมันไม่สำเร็จอีกเหรอ
สายตาพ่อเลี้ยงคำอินทร์ เหลือบมองคู่สนทนาอย่างหงุดหงิด รำคาญใจที่ไม่สามารถทำอะไรให้สำเร็จดังใจประสงค์ ด้วย ความกลัวว่าเรื่องนี้จะเป็นอุปสรรคต่อ แผนการฮุบที่ดินมูลค่ามหาศาลของก้องเกียรติ เพื่อนำมาลงทุนสร้างนิคม อุตสาหกรรมของตนเอง
พ่อหมอจ้องมองสบตาพ่อเลี้ยงด้วยความขุ่นเคืองใจเล็กน้อย ที่หงุดหงิดใส่ ตน ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงอันดังลั่นว่า
ไม่ต้องห่วงไปหรอก ข้าจัดการมันได้ มันกำลังไปช่วยนังหนูคนนั้น
หวังว่าพ่อหมอ จะไม่พลาดอีกนะ เดี๋ยวผมทิ้งลูกน้องไว้ให้ใช้งาน ต้องการความช่วยเหลืออะไรก็เรียกใช้ได้เลย งั้น ผมขอตัวกลับก่อน
พ่อเลี้ยงเอ่ยกับพ่อหมอ ด้วยสีหน้าวิตกกังวล ก่อนจะลุกพรวดเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
พ่อหมอทองมี เหลือบมอง พ่อเลี้ยงก้าวพ้นจากห้องไปแล้ว จึงจุดเทียนสว่างจ้า จุดธูปควันลอยคละคลุ้งปก คลุมทั่วบริเวณ จากนั้นทำ สีหน้าแววตาเข้มขลัง พนมมือสวดบริกรรมคาถา ต่างๆนาๆ ชั่วครูเดียวเกิดกระแสลมพัดวูบ วาบภายในห้องทำพิธี กระทั่ง ลูกศิษย์ที่นั่งอยู่ด้วยความสงบเงียบ ฮือฮา ตกใจกลัวไปตามๆกัน
---------------
จากคุณ |
:
atk
|
เขียนเมื่อ |
:
16 พ.ค. 54 02:27:02
|
|
|
|