หนึ่งเดือนก่อนการเดินทาง...
นำทัพพ์หาคนช่วยงานลุงสิบแทนเขาได้แล้ว พี่:-)กำลังเบื่องานประจำที่ทำอยู่ เขาเลยแนะนำให้ลองไปทำกับลุงสิบดู เพราะเห็นว่าพี่แกเป็นลูกหลานชาวนาแท้ๆ ที่มีอุดมการณ์ใช้ได้ แล้วเขาก็คิดไม่ผิดจริงๆ ลุงสิบกับพี่:-)คุยกันถูกคอ ตั้งแต่เจอหน้ากันเสียงหัวเราะยังดังไม่หยุดเลย จนกระทั่ง
หา? ลุงสิบเป็นพ่อข้าวขวัญ? พี่:-)หันมาทำตาเหลือกใส่นำทัพพ์ ...ข้าวขวัญไหนวะ อย่าบอกนะว่าข้าวขวัญของมืง? แต่พอหันกลับไปเห็นหน้าลุงสิบแล้วเขาก็รีบยกมือไหว้ท่วมหัว ...อย่าฆ่าผมเลยคร๊าบ ฆ่าไอ้นี่แทนละกัน พี่:-)เอานิ้วจิ้มแก้มเขา
ไม่ใช่ข้าวขวัญของผม นำทัพพ์รีบแก้ แต่...เออ...ก็นั่นแหละ ข้าวขวัญคนนั้นแหละ ลูกสาวลุงสิบล่ะ
มิน่าล่ะ คุณพ่อหล่อขนาดนี้ ถึงได้ลูกสาวสวยขนาดนั้น แหะๆ พี่:-)รีบประจบเอาตัวรอด แล้วพอได้อยู่ตามลำพังกับเขาก็รีบซัก
นี่แปลว่ามืงรู้มาตลอดเหรอ ว่าพ่อยัยข้าวน่ะ คือลุงสิบ?
อื้ม
โห... ลุงยังหนุ่มอยู่เลย ไม่น่าเชื่อว่าจะมีลูกสาวโตขนาดนั้น แถมเป็นดาวมหาลัยไฮโซ นิสัยแปลกประหลาด
นำทัพพ์เลยเล่าเรื่องราวของลุงสิบ ว่าเป็นพ่อม่ายเลี้ยงลูกมาคนเดียวยังไง ถึงได้มีลูกสาวอย่างข้าวขวัญ
ฮั่นแน่... งั้นที่มืงมาทำงานให้ลุงแกก็เพราะหวังแอ้มลูกสาวเค้าน่ะซี่
ไม่เกี่ยวเลยพี่ ผมทำไปด้วยศรัทธา... ต่อให้ลุงสิบไม่มีลูก หรือมีแต่ลูกชายล่ำๆ ทั้งบ้าน ผมก็คงมาช่วยงานแกอยู่ดีนั่นแหละ ลุงสิบแกเป็นแรงบันดาลใจ ทำให้ผมเลือกเรียนเกษตรเลยนะพี่
เออ ลุงแกเจ๋งดีว่ะ จริงด้วย ไหนๆ มืงก็ชอบลุงสิบมาก... นี่เลย แนะนำป้ามืงให้ลุงสิบดิ
ป้าไหน?
อ้าว ก็ป้าที่เลี้ยงมืงมาไง อ้อ... ป้าที่เขาเลี้ยงมา ต่างหาก นำทัพพ์แก้คำพูดของพี่:-)ไปหลายทีแล้ว แต่พี่:-)ก็ยังพูดผิดอยู่นั่นเอง ...เห็นว่าป้ามืงยังโสดไม่ใช่เหรอ?
เฮ่ย! ลุงสิบไม่เอาหรอก เหอๆ ป้าเขายังผูกเปียเรียนอยู่แค่ม.1 เพิ่งกำลังจะแตกเนื้อสาว ...อายุต่างกันมากไปมั๊งพี่
อ้อ... ลืมไปๆ เราเรียกลุงสิบๆ แล้วก็คิดว่าเป็นพ่อของยัยข้าว แต่จริงๆ แกยังไม่แก่ซักหน่อย ถึงจะเป็นพ่อม่าย แต่ก็คงไม่ยอมแต่งกับสาวแก่อย่างป้ามืงแน่ เครื่องหน้าคมเข้มมาดโคตรพระเอกอย่างงั้นน่ะ ถ้าไม่มัวแต่มาทำนางกๆ แบบนี้นะ จีบสาวฮอตระดับอั้มก็ยังไหว
ป้าจี้ตัวน้อยของเขากลายเป็นสาวแก่ไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?
นึกถึงสาวน้อยของเขาแล้วกลุ้ม รู้สึกผิดต่อเธอจริงๆ ตั้งแต่ย้ายออกมาอยู่คอนโด เขาก็ไม่ค่อยมีเวลาให้เธอเลย อยากพามาอยู่ด้วยกัน แต่ก็ทำไม่ได้ คุณหญิงไพลินคงไม่ยอมแน่ อีกอย่าง เขาไม่แน่ใจว่าเธอกับข้าวขวัญจะเข้ากันได้แค่ไหน ร้ายกันคนละแบบ คนที่ต้องโชคร้ายคงต้องเป็นเขาอย่างไม่ต้องสงสัย เข้าใจลุงสิบเลยว่าทำไมถึงไม่กล้าแต่งงานใหม่
นานๆ เขากลับไปเยี่ยมเธอทีก็โดนงอนที ยังดีที่คุณหญิงย้ายเธอเข้าเรียนในโรงเรียนประจำ เขาทำได้ก็แค่ไปรับเธอมากินข้าวด้วยกันเย็นวันศุกร์ หรือไม่ก็พาไปเที่ยววันเสาร์ แล้วนี่เขาจะต้องเดินทางไปเรียนต่อไกลคนละฟากโลก เป็นห่วงเหมือนกัน ไม่รู้เธอจะเป็นยังไงบ้าง ยิ่งอยู่ในวัยที่กำลังเปลี่ยนแปลงด้วย เมื่อสองเดือนก่อนเพิ่งจะมีประจำเดือนมาครั้งแรก นอนร้องไห้ปวดท้อง เขาไม่รู้เลยว่าต้องปลอบยังไง โทรเรียกพี่พลอย ก็ไม่สนใจน้องนอกคอกคนนี้ โชคดีที่อย่างน้อย เขาก็อยู่กับข้าวขวัญมาจนซื้อผ้าอนามัยเป็น เฮ่อ...นึกทึ่งลุงสิบที่เลี้ยงลูกสาวมาตามลำพังจริงๆ
แต่ไม่รู้ทำไม มองหน้าป้าจี้ตอนหลับปุ๋ยทีไร เขาก็สบายใจหายกังวลทุกที ความรู้สึกลึกๆ ทำให้เขาเชื่อว่า เธอเป็นเด็กมีบุญมาเกิด ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม สุดท้ายแล้ว ป้าจี้ของเขาจะต้องเติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่น่ารักมากแน่ๆ
สองสัปดาห์ก่อนการเดินทาง...
เอ๊ะ เค้าว่าตากระตุกข้างไหนโชคร้าย ข้างไหนโชคดีนะ? นำทัพพ์สะกิดถามข้าวขวัญ
ขวาร้ายซ้ายดี เธอกระตุกข้างไหนล่ะ?
ค่อยยังชั่วหน่อย ที่ข้างซ้ายหมายถึงโชคดี ตาซ้ายเรากระตุกถี่ๆ มาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
ก็แปลว่าเธอกำลังจะโชคดีมากๆ น่ะสิ แม่หมอข้าวขวัญฟันธง
นำทัพพ์ยิ้ม ใช่แล้วล่ะ เขาต้องโชคดีอยู่แล้ว ตอนนี้เขามีความสุขจะแย่ แต่แล้ว...บ่ายวันเดียวกันนั่นเอง เขาก็ร้องโวยวาย
เย้ย...! ตาขวาเราก็กระตุกด้วย กระตุกถี่กว่าตาซ้ายอีก!!
อย่างงี้แปลว่าเธอจะโชคดีมากๆ จากนั้นก็...โชคร้ายมากมากกก แม่หมอข้าวขวัญเห็นเขาเอามือปิดตาร้องโอดโอยก็ยิ่งขู่สนุกปาก ...ถ้าลามไปกระตุกแถวๆ จมูกปากด้วยนะ ตำราทางโหรศาสตร์เค้าว่า ให้จองแพคเกจไว้เลย หน้าอย่างเธอพระเจ้าคงสงสาร เอาแบบสวดสามวันก็น่าจะได้ขึ้นสวรรค์แล้วมั๊ง
นำทัพพ์ไม่ใช่คนเชื่ออะไรงมงายไร้เหตุผล เขาล้อเล่นกับเธอไปอย่างงั้นเอง คิดไม่ถึงเลยว่า คำทำนายของเธอจะเป็นจริง โชคดีที่แสนวิเศษมาเยือนเขาในคืนนั้นเอง ถึงจมูกปากเขาไม่กระตุก แต่ก็ได้ ขึ้นสวรรค์ โดยไม่ต้องสวดสามวัน... ที่แม่นกว่านั้น โชคร้ายสุดๆ ตามมาจริงๆ!
คืนนั้น ผองเพื่อนของเขาช่วยกันจัดงานเลี้ยงส่ง...
พี่:-)เจ้าภาพเรียกงานนี้ว่า งานเลี้ยงส่ง (ตัว) นำทัพพ์กับข้าวขวัญ
ส่งเฉยๆ ไม่ต้องส่งตัวก็ได้นะพี่:-) นำทัพพ์กระซิบบอก ...ฟังแล้วรู้สึกหยิวกิ้ว
เจ้าบ่าวเงียบๆ ไป รอทำหน้าที่หลังจบงานเลี้ยงส่งตัวก็พอ เสร็จแล้วก็รีบๆ ไปขอขมาลุงสิบซะ
นำทัพพ์ได้ยินแล้วรู้สึกหายใจไม่ค่อยทั่วท้องเพราะหัวใจหล่นวูบลงไปอุดตันอยู่ข้างใน หันไปมองข้าวขวัญก็เห็นเธอกำลังถูกเพื่อนๆ เขารุมล้อม หวังว่าคงไม่ได้ยินที่พี่:-)พูดนะ
ได้ยินก็ไม่รู้เรื่องหรอก นั่นน่ะ แก้วที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้
เฮ่ย...! นำทัพพ์นับแก้วที่วางอยู่ข้างตัวเธอแล้วแทบจะกระโดดเข้าไปถล่มให้วงแตก ...กินเข้าไปขนาดนี้ได้ไง เดี๋ยวก็เมาตายหรอก
ปกติเวลาข้าวขวัญไปเที่ยวกับเพื่อนเธอ เขาจะคอยไปเฝ้าระวังไม่ให้มีตัวอะไรไต่ตอม ตามดูแลรับส่งไม่ยอมห่าง ดีที่เขาไม่เคยต้องเตือนความประพฤติ เธอไม่เคยเล่นยา ดื่มเหล้าก็ไม่มาก อย่างเก่งก็แค่คอกเทลสองสามแก้ว ไม่เคยเมาให้เขาเห็นเลย นอกจากนั่งหลับคอพับคออ่อนอยู่ในรถตอนขากลับ พอให้เขาได้บริหารกล้ามเนื้อหัวใจเต้นในจังหวะผิดปกติบ้าง แต่พอถึงบ้าน ปลุกไม่นานเธอก็ตื่นมาเดินเองได้ ไม่เคยต้องอุ้ม (แอบเสียดาย)
โวยวายอาราย? เมาได้ไงกัน... นี่มันน้ำข้าวที่พวกเราหมักกันเองไม่ใช่เหรอ? ข้าวขวัญหันมาเถียง เรียกเสียงหัวเราะจากพวกเพื่อนของเขา
หมักแป้งก็ได้น้ำตาลกับแอลกอฮอล์ไง พี่:-)ช่วยอธิบาย
ดีกว่าเหล้าที่เค้าขายๆ กัน ตรงที่ไม่ต้องเสียภาษีให้สรรพสามิต ติดสแตมป์
สำหรับพวกเขา หมักเหล้าดื่มกันเองง่ายนิดเดียว เพียงแต่ถูกจำกัดด้านสถานที่ ต้องซื้อกับแกล้มไปนั่งดื่มกันบ้านเพื่อนเหมือนอย่างคืนนี้เท่านั้น
เหล้าเถื่อน?
เหล้าพื้นบ้านต่างหาก พี่:-)แก้ ...ภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทยแต่สมัยโบราณที่ถูกรัฐบาลริดรอนสิทธิ เพื่อให้บริษัทค้าเหล้าขนาดใหญ่ผูกขาดการค้า ประชาชนได้แค่ผ้าห่มเขียวๆ คนละผืนปลอบใจ
เอาน่า ได้ดูบอลโลกไม่มีโฆษณา
อย่าลืมสิ่งสำคัญสุด มีปฏิทินด้วยโว้ย ปฏิทินที่ดูไม่ออกว่าบริษัทที่แจกขายเหล้าหรือขายนมกันแน่
ข้าวขวัญไม่ได้สนใจที่พวกเพื่อนๆ ของนำทัพพ์พูดกัน เธอกำลังง่วนอยู่กับการผสมเครื่องดื่มลงในแก้วโลหะมีฝาปิดสำหรับเขย่าคอกเทล
อืม... หอมหวานอร่อยดีนะ ฉันจะหาสูตรผสมคอกเทลน้ำข้าว เผื่อในอนาคต เมนูคอกเทลทั่วโลกจะมีชื่อ ข้าวขวัญ คู่กับไหมไทย
ด้วยแรงเชียร์ของเพื่อนเขากับความดื้อรั้นของเธอ อีกทั้งบรรยากาศสนุกสนานเป็นกันเองแบบที่เธอไม่เคยเจอเวลาไปเที่ยวกับเพื่อนตามบาร์หรูๆ ช่วยผลักดันให้เธอสนุก เต็มที่ ...มีนำทัพพ์มาด้วย ช่วยทำให้เธอใจกล้า เพราะมั่นใจว่า ไม่ว่ายังไง เขาจะต้องดูแลพาเธอกลับบ้านอย่างปลอดภัยแน่นอน กว่าจะได้สูตรผสมคอกเทลข้าวขวัญ เจ้าของสูตรก็จำอะไรไม่ได้แล้วว่าใส่อะไรลงไปบ้าง เพราะเธอเมา!
นำทัพพ์รีบขอตัวพาเธอกลับก่อนทันทีที่เห็นรอยยิ้มแปลกๆ กับท่าเดินโซเซของเธอ พี่:-)กับพรรคพวกเพื่อนเขาก็ส่งเสียงวี๊ดวิ้วกันใหญ่
และคืนนั้นเอง ก็เป็นครั้งแรกที่เขาต้องอุ้มเธอขึ้นห้อง...
ร่างระหงในอ้อมแขนทั้งนุ่มนิ่ม หอมละมุน และอบอุ่น แต่ชายหนุ่มกลับรู้สึกเหมือนกำลังอุ้มเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้กองหนึ่ง มันทำให้เขาร้อนจนแทบคลั่ง และเกิดความลังเล ยืนอยู่หน้าประตูอยู่เป็นนานสองนาน ไม่กล้าเปิด กลัวว่า... ถ้าเข้าห้องไป ไฟกองนี้จะเผาห้องชุดของเขาจนวอดวายและเขาอาจจะตายทั้งเป็นอยู่ข้างในก็ได้! หรือเขาควรพาเธอไปส่งที่บ้านลุงสิบ?
ไม่เอาน่า คิดมากไปได้ เขาอดใจมาได้ตั้งหลายปี มีโอกาสไม่รู้กี่ร้อยกี่พันครั้ง ก็ยังไม่เคยฉวย แล้วจะกลัวอะไรกับแค่คืนนี้? ดูเธอสิ ไว้ใจเขาขนาดไหน ปล่อยตัวปล่อยใจให้เขาเป็นคนดูแล หลับแบบไม่รู้เรื่องอะไรเลย แล้วเขาจะทำลายความไว้วางใจ ทำแบบนั้นกับเธอลงคอได้ยังไง
ปลุกปลอบใจตัวเองแล้ว นำทัพพ์ก็เปิดประตูอุ้มกองไฟเข้าห้องไป ...คิดไม่ถึงว่า เหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในห้องหลังจากนั้น ไม่เหมือนกับวันคืนก่อนๆ ที่ผ่านมาเลย
เที่ยงวันต่อมา ณ สถานีตำรวจใกล้จุดเกิดเหตุ
ร้อยเวรดวงตกนายหนึ่งกำลังนั่งกุมขมับเมื่อต้องเจอกับคดีเพลิงไหม้ เอ้ย... ไม่ใช่ ...คดีข่มขืนที่ไม่เคยพบเคยเจอมาก่อน
ฝ่ายหญิงนั่งร้องห่มร้องไห้คร่ำครวญจะเป็นจะตาย ในขณะที่ฝ่ายชายทำท่ากลุ้มเหมือนอยากยกเท้าขึ้นมาก่ายหน้าผากเต็มที
เป็นตำรวจมาหลายปี เพิ่งเคยเจออะไรแบบนี้ เขาไม่แน่ใจว่าเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า สาวสวยหุ่นเซ็กซี่เหมือนหลุดออกมาจากปกนิตยสารคนนี้กำลังแจ้งข้อหาข่มขืนให้กับชายหนุ่มหน้าตาดีที่พาเธอมาส่งโรงพัก มีด้วยเหรอวะ ข่มขืนเสร็จแล้วพาผู้เสียหายมาขึ้นโรงพักพร้อมยอมให้จับ รับเป็นผู้ต้องหาแต่โดยดี?! นายคนนี้คงต้องมีปัญหาทางสมองแน่ แต่ว่า... จากท่าทางของเขาดูเป็นคนฉลาด แต่งตัวสะอาดสอ้าน เหมือนจะเป็นพลเมืองดี เดินกระเพลกๆ เข้ามา ไม่รู้ว่าเป็นผลจากการถูกฝ่ายหญิงทำร้ายระหว่างประกอบกิจหรือเป็นมาก่อนหน้านี้นานแล้ว
อ้าวๆ หยุดร้องก่อนนะครับ เอาเป็นว่า ผมรับแจ้งความ แล้วจะให้เขียนลงบันทึกประจำวันว่าอะไรดีครับ คุณผู้หญิงเล่นไม่ยอมให้รายละเอียดอะไรเลยแบบนี้
ก็เขียนสรุปสั้นๆ ว่าฉันถูกเขาข่มขืนสิคะ อีตาตำรวจบ้า พยายามจะหลอกให้เธอเล่าเรื่องที่เขาทำกับเธอออกมาอยู่ได้ ทุเรศที่สุด!
ในทางการสอบสวนมันเขียนแบบนั้นไม่ได้นี่ครับ ผู้เสียหายต้องอธิบายรายละเอียดด้วยว่า ถูกผู้ต้องหาใช้อวัยวะส่วนไหนทำอะไร อย่างไร ตรงไหน ด้วยอะไร เมื่อไหร่ ที่ไหน กี่ครั้ง แล้วหลังจากนั้น คุณผู้หญิงเป็นอย่างไร เสียหายตรงไหน บาดเจ็บหรือไม่ ผู้เสียหายต้องแจกแจงให้หมด ถึงจะเอาผิดกับเขาได้
บ้า! น่าเกลียดที่สุด ใครจะไปบอกคุณล่ะ หญิงสาวโวยโรงพักแทบแตก
ไม่บอกตำรวจ แล้วจะฟ้องเขายังไงล่ะครับ เวลาเรื่องถึงชั้นศาล ปรากฎว่าคำให้การใช้ไม่ได้ ผมก็แย่สิครับ อ้อ...เผลอๆ ต้องยกฟ้องด้วย เพราะสำนวนไม่ชัดเจน คุณผู้หญิงก็โดนเขาทำฟรีๆ
งั้น...ให้เขาเล่าแทนได้มั๊ยคะ?
นำทัพพ์สะดุ้งเมื่อโดนนิ้วแหลมๆ ของเธอจิ้มแก้ม คุณตำรวจถอนใจอย่างแรง มีด้วยเหรอวะ ผู้ต้องหาให้การฟ้องตัวเองแทนผู้เสียหาย อยากจะบ้าตาย
ต้องผู้เสียหายฟ้องก่อน ผมค่อยสอบปากคำผู้ต้องหา สรุปว่า ต้องเล่าทั้งคู่ครับ
แต่ฉันอายนี่
เราอายกว่าเธออีก ...ผู้ต้องหาซึ่งนั่งเงียบอยู่นานเปรยขึ้นมาเสียงเรียบ
ห้ามอายครับ ต้องเล่าทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องที่สำคัญที่สุด คือตอนสอดใส่ ศาลท่านจะตัดสินว่าจำเลยมีความผิดในคดีข่มขืนกระทำชำเราก็ต่อเมื่อพิสูจน์ได้ว่า น้องชายของจำเลยได้เข้าไปอยู่ข้างในน้องสาวของผู้เสียหายลึกอย่างน้อย 1 องคุลี ไม่งั้นก็จะตกไป กลายเป็นแค่ข้อหาอนาจารเท่านั้น
มันไม่เหมือนกันเหรอคะ ระหว่างข่มขืน กระทำชำเรา กับ อนาจาร? ข้าวขวัญยังไม่วายสงสัยตามประสาบัณฑิตเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทองที่ไม่ยอมปล่อยให้อะไรไม่เข้าใจผ่านไปง่ายๆ แม้ในยามคับขัน
ไม่เหมือนครับ อนาจาร หมายถึงกระทำการต่อเนื้อตัวอย่างจับจูบลูบคลำ แต่ไม่ได้สอดใส่หรือสอดใส่ไม่สำเร็จ ใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 278 จำคุกไม่เกินสิบปี ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท แต่ถ้าข่มขืนกระทำชำเรา ต้องใช้มาตรา 276 โทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี ปรับตั้งแต่แปดพันบาทถึงสี่หมื่นบาท และโทษจะหนักขึ้นทั้งสองกรณีถ้าผู้เสียหายอายุต่ำกว่า 15 ปีหรือมีการใช้อาวุธปืนวัตถุระเบิด นายตำรวจให้ข้อมูลผู้เสียหาย จะได้ฟ้องถูก ...ของคุณผู้หญิงเข้าข่ายไหน... อนาจารหรือข่มขืนครับ?
เอ... ถ้าอนาจาร หมายถึงจับจูบลูบคลำ งั้นฉันคงจะต้องฟ้องทั้งสองอย่างมั๊งคะ หญิงสาวชักไม่ค่อยแน่ใจ เพราะเธอก็โดนเขาจับจูบลูบคลำแล้วหลังจากนั้นก็... อ่า... เดี๋ยวก่อนนะคะ อะไรคือ 1 องคุลี? บัณฑิตเกียรตินิยมเหรียญทองอันดับหนึ่งงงเพราะไม่เคยได้ยินมาตรวัดชื่อนี้มาก่อน ปกติเคยใช้แต่ระบบเมตริกซ์
1 องคุลีก็คือความยาวประมาณ 1 ข้อนิ้วครับ ขอเพียงมีการสอดใส่ลึกแค่ 1 องคุลีก็ถือว่าข่มขืนแล้ว ข้อหาอนาจารก็จะตกไป ต่อให้มีการจับจูบลูบคลำด้วย ก็ถือว่ารวมอยู่โทษคดีข่มขืนครับ
อ้อ... งั้นก็เข้าข่ายข่มขืนแน่ๆ แล้วค่ะ เขาใส่เข้าไปจนสุดเลย ยาวกว่านิ้วตั้งเยอะ อุ๊บ...! ข้าวขวัญเอามือปิดปากตัวเองแทบไม่ทัน ในขณะที่นำทัพพ์ถึงกับดึงคอเสื้อยืดขึ้นมาคลุมหัวด้วยความอับอาย
ส่วนคุณตำรวจแอบยิ้ม นึกในใจ ...นานๆ เจอคดีแบบนี้ทีก็ดีเหมือนกัน มันพิลึก!
จากคุณ |
:
Acciacatura
|
เขียนเมื่อ |
:
16 พ.ค. 54 19:43:51
|
|
|
|