ขุนศึกกู้แผ่นดิน(ขลุ่ยเพียงออ) บรรพที่ ๑ ประดาบ
|
 |
ย้อนกลับไปศักราช ๘๗๖ ปีจอ ฉศก สมเด็จพระรัษฏาธิราชกุมาร ถูกสำเร็จโทษลง ด้วยพระไชยราชาผู้เป็นปิตุลายกกองทัพลงมาจากพิษณุโลกสองแควเพื่อช่วงชิงราชบัลลังก์ เหตุเพราะพระเจ้าอยู่หัวพระองค์นี้ทรงเล็กนัก อำนาจการปกครองตกอยู่ในมือของสองอัครมหาเสนาบดีคือสมุหนายกแลสมุหพระกลาโหม ทำให้หัวเมืองประเทศราชแลหัวเมืองทางฝ่ายเหนือหลายหัวเมืองต่างพากันแข็งข้อไม่ขึ้นต่ออโยธยาเช่นเคย บ้านเมืองระส่ำระสาย ด้วยเหตุประการนี้ พระไชยราชาจึงจำจะต้องช่วงชิงราชบัลลังก์เพื่อให้บ้านเมืองกลับมาเป็นปึกแผ่น หลังจากนั้นพระองค์ปราบดาภิเษกองค์เองขึ้นผ่านแผ่นดินกรุงเทพบวรทวารวดีศรีอโยธยานพบุรีนคร มีนามปรากฏในพระสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระไชยราชาธิราชเจ้า แลสถาปนาพระเฑียรราชาผู้อนุชาขึ้นเป็นสมเด็จพระมหาอุปราชา ในกาลนั้นแม้มีเหตุนองเลือดจากการช่วงชิงอำนาจจากพระเจ้าอยู่หัวในพระโกศไปมาก แต่ทว่าใช้เวลาไปไม่กี่มากน้อยเท่าไรพระนครอันมีสัณฐานคล้ายสำเภานาวานั้นก็กลับคืนสู่ความสุขสงบ
ครั้นสุริยาสโคจรขึ้นสู่ทิฆัมพร เหล่าปักษาพากันบินออกหากิน เสียงร้องเจื้อยแจ้วของพวกมันดังคล้ายกับเสียงดนตรีบรรเลงอันไพเราะที่ปลุกให้เหล่าสรรพชีวิตทั้งหลายตื่นขึ้นจากการหลับใหล ภาพผู้คนเดินกันให้ขวักไขว่ภายในวัดเนื่องด้วยวันนี้เป็นวันพระใหญ่ พวกเขาทั้งหลายจึงพากันมาทำบุญ
พ่อเทพ พ่อเทพ รอแม่ รอน้องด้วยเถิด จ้ำเอา จ้ำเอา เยี่ยงนี้ ออเจ้าจักเร่งไปข้างไหนกันเสียงแหบเครือแหบตามวัยชราของหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งเอ่ยเรียกบุตรชายที่เดินนำหน้าโดยไม่รอนางผู้ซึ่งเป็นมารดาและหญิงสาวร่างแบบบางอันมีศักดิ์เป็นน้องสาวร่วมอุทร
ขออภัยขอรับ กระผมจักเร่งเดินไปหาพ่ออินขอรับ เห็นอยู่ทางด้านโน้นลิบๆชายหนุ่มตอบผู้เป็นมารดา
พี่เทพ พี่อินมาวัดประดู่เยี่ยงเดียวกันรึเจ้าค่ะผู้เป็นน้องสาวถามเสียงตื่นเต้น ดวงตาส่อแววยินดีปรากฏขึ้นบนใบหน้าเรียวรูปไข่สวย ในใจนั้นลิงโลด ด้วยนางเองนั้นพึงใจในเกลอของพี่ชายผู้นี้ เมื่อครั้งแรกที่เห็นเขาบนเรือนด้วยมาคุยราชการกับผู้เป็นพี่ชาย หญิงสาวรู้สึกเหมือนกับว่ามีใครเอาเพลีศึกมาตีในหัวใจกระไรกระนั้น
คงใช่ หากพี่มองมิผิด ออเจ้าจักสนใจไปไยกัน ไอ้คง ไอ้คง เหวยคนเป็นพี่หันมาตอบพลางหันไปเรียกบ่าวคนสนิทที่เดินอยู่ด้านหลังของเขา ดวงหน้าคมคายที่คว้าดวงใจของแม่หญิงหลายคนในอโยธยาชะเง้อมองดูเกลอของตนนั้นอยู่ข้างไหนตลอด
ขอรับ พระคุณชายหนุ่มรูปร่างกำยำที่สวมเพียงโจงกระเบนสีซีดวิ่งเข้ามาผู้เป็นนายทันที
ไอ้คง เอ็งอยู่ด้วยแม่กูแลน้องกูหนา กูจักไปหาหมื่นอินเสียหน่อย
ขอรับเมื่อเห็นบ่าวรับคำแล้ว เขาจึงเร่งเดินไปหาผู้เป็นเกลอ ใช้เวลาเพียงไม่นานก็เดินทันผู้เป็นสหาย ด้วยว่าตัวของชายหนุ่มเป็นขุนทหารได้ออกกำลังกายฝึกหัดดาบทุกวันจึงมีความว่องไวอยู่ในตัว
มิยักรู้ว่าหมื่นอินทรรักษ์ผู้นี้จักมาทำบุญวัดประดู่ มาดักรอดูแม่หญิงข้างไหนกันหนอเสียงสัพยอกหยอกเย้าดังมาจากริมฝีปากเรียวงาม ทำเอาคนถูกหยอกถึงกับยิ้มด้วยความยินดี มิต้องหันมามองเขาก็รู้ว่าเป็นผู้ใด ด้วยจำน้ำเสียงนั้นได้
ออเจ้าก็มาเช่นกันมิใช่รึ ขุนพิทักษ์เทวาชายหนุ่มรูปกายสูงโปร่งย้อนตอบสหายผู้มียศสูงกว่า ดวงหน้าคมเข้มอย่างชายชาตรีหันมาพูดคุยกับสหายคนสนิท เขานั้นรู้อยู่แล้วว่าเกลอเขาผู้นี้มักจะมาทำบุญที่วัดประดู่กับผู้เป็นมารดาและน้องสาวทุกวันพระใหญ่ เขาจึงมาดักรอพบด้วยวันนี้เป็นวันหยุดราชการ
ข้ามาเป็นเพื่อนแม่กับน้องสาว อยู่ด้านโน้น ออเจ้าไปด้วยข้าเถิด เสร็จแล้วจักได้ไปกินข้าวที่เรือนข้าขุนพิทักษ์เทวาว่าพลางออกเดินนำสหายให้ไปกับตน
ข้ามาดักรอพบออเจ้า ด้วยว่าจักชวนประดาบที่เรือนออเจ้าอยู่เทียวพ่อเทพหมื่นอินทรรักษ์บอกสาเหตุที่ตนมาดักรอพบสหายที่วัดแห่งนี้
กระนั้นดอกรึ ออเจ้าจักชวนข้าประดาบ ทั้งที่ข้าเป็นลูกครูดาบกระนั้นรึขุนพิทักษ์เทวาเย้าผู้เป็นสหาย
กระนั้นสิหมื่นอินทรรักษ์พยักหน้าตอบรับ
เอาเถิด ข้าเองมิได้ประดาบกับผู้ใดมาหลายเพลาแล้ว มิรู้ว่าฝีมือจักตกรึไม่ขุนพิทักษ์เทวากล่าวเสียงขรึมตามนิสัย แล้วจึงเดินนำเพื่อนฝ่าฝูงชนเข้าไปหามารดาที่ยังแถวหน้าธรรมาสน์เพื่อรอฟังพระเทศน์ พ่ออิน มากับเขาเหมือนกันรึมารดาของขุนพิทักษ์เทวาเอ่ยถามสหายสนิทของลูกชายอย่างเมตตา หมื่นอินทรรักษ์พนมมือไหว้อีกฝ่ายด้วยความเคารพ แล้วหันไปรับไหว้น้องสาวของสหาย
ไหว้พระเถิด พ่ออิน มาเถิดออเจ้า มารับบุญฟังธรรมกันสตรีสูงวัยกล่าวพลางกระเถิบกายให้บุตรชายและสหายสนิทของลูกนั่งลง ชั่วหม้อข้าวเดือด พระภิกษุผู้งามด้วยจริยาวัตรสมเป็นผู้สืบทอดพระพุทธศาสนาก็ขึ้นนั่งธรรมาสน์ เสียงสวดอาราธนาธรรมของเหล่าพุทธศาสนิกชนดังกำจายไปทั่วทั้งพระอุโบสถ สักครู่พระภิกษุรูปนั้นจะเริ่มเทศนาคำสั่งสอนของพระตถาคตเจ้าให้กับอุบาสกอุบาสิกาทั้งหลายที่มาร่วมไหว้พระทำบุญที่วัดแห่งนี้
กระเดี๋ยวไปเรือนข้ากินข้าวกันก่อนหนา เสร็จแล้วออเจ้าแลข้าค่อยประดาบกันหลังจากที่ฟังเทศน์ฟังธรรมจบแล้ว ขุนพิทักษ์เทวากระซิบกับผู้สหาย เมื่อเห็นอีกฝ่ายตอบรับ ชายหนุ่มจึงออกเดินนำขบวนไปยังที่เรือที่จอดไว้ริมคลองวัดประดู่ เมื่อขึ้นเรือกันครบทุกผู้แล้ว เขาจึงสั่งให้ฝีพายออกเรือกลับเรือนไปทันที โดยที่เรือของหมื่นอินทรรักษ์ผู้เป็นสหายนั้นพายตามไปไม่ห่าง
จากคุณ |
:
อโยธยานารี
|
เขียนเมื่อ |
:
วันวิสาขบูชา 54 12:58:16
|
|
|
|