 |
น่าเสียดาย น้องหมีพูห์ไม่ได้มาโรงพัก หรือต่อให้มา มันก็ให้การกับตำรวจไม่ได้ หรือต่อให้มันให้การได้ ก็ไม่มีใครเชื่อตัวการ์ตูนบนกกน. หรอก นำทัพพ์จึงไม่มีพยานเลยสักคน เจ้าหน้าที่ทำคดีนี้ก็เลยต้องกรอกยาแก้ปวดหัวกันถ้วนหน้า
สรุปว่า เขากระทำการข่มขืนคนเดียว ...แล้วมีการใช้อาวุธมั๊ยครับ? ถ้าใช้อาวุธหรือข่มขืนหลายคน ก็จะเข้าข่ายมาตรา 276 วรรคสอง มีหรือใช้อาวุธปืนหรือวัตถุระเบิดโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สามหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต
อาวุธ? อ่า... มีสิคะ คุณตำรวจเห็นหญิงสาวบิดไปบิดมาด้วยความอับอายก็ส่ายหน้า
ปืนที่พกติดตัวมาแต่กำเนิดนั่นไม่นับนะครับ
จากตำรวจสี่นายจึงกลายเป็นแปด รุมล้อมช่วยกันทำสำนวนคดีนี้อย่างเอาเป็นเอาตายถวายชีวิต จนนำทัพพ์อยากรู้นักว่า ลุงสิบจ่ายภาษีมากกว่าคนอื่นหรือไง ทำไมลูกสาวลุงสิบถึงได้ใช้เจ้าหน้าที่เปลืองนัก
หลายครั้ง นี่มันกี่ครั้งกันแน่ละครับ?
เอ๊ะ คุณตำรวจนี่ พูดจาไม่รู้เรื่อง ฉันก็บอกแล้วไงคะว่า ไม่ได้นับ คุณเขียนลงไปว่านับครั้งไม่ถ้วนละกัน
ถ้าเขียนแบบนั้น มันเว่อร์ไปมั๊ย ใครจะเชื่อ ผู้ชายที่ไหนทำแบบนั้นนับครั้งไม่ถ้วนภายในคืนเดียว ตำรวจอีกนายช่วยให้ความเห็น
ทำไมต้องบอกด้วยว่ากี่ครั้ง มันสำคัญมากเลยเหรอคะ ข้าวขวัญงง เธอเคยสงสัยเหมือนกันตอนอ่านหนังสือพิมพ์ที่ชอบเขียนว่าไอ้บ้ากามข่มขืนเหยื่อสาวจนสำเร็จความใคร่กี่ครั้ง ...โทษมันหนักเบาไม่เหมือนกันเหรอคะ?
ถ้าข่มขืนคนเดียวหลายครั้งในวันเดียวกัน ถือว่าไม่ต่างกรรมต่างวาระ ส่วนโทษจะหนักจะเบาอยู่ที่ศาลท่านพิจารณา
ฟังดูงงๆ เหมือนจะไม่ต่างกัน อย่างงั้นมารุมถามเธอทำไมกัน ข้าวขวัญเห็นแววตาอยากรู้อยากเห็นที่รุมล้อมเธอแล้วชักโมโห
คุณผู้หญิงโดนเข้าไปกี่ครั้งล่ะครับ ตอบเป็นตัวเลขแค่ประมาณคร่าวๆ ก็ได้นะครับ สอง สาม สี่...? ตำรวจอีกนายช่วยให้คำแนะนำ
ไม่อ่ะค่ะ มากกว่านั้น... มันเร็วจนฉันไม่ทันได้นับ อืม...เป็นร้อยๆ พันๆ ครั้งเลยมั๊ง
เฮ่ย... หุ่นยนต์รึไง? นายตำรวจพากันตกกะใจหันไปมองหน้าขาวๆ ของผู้ต้องหาเป็นตาเดียว แล้วซุบซิบกันว่า ไอ้ตี๋นี่มันกินโสมอะไรหว่า เดี๋ยวต้องหลอกถามตอนสอบปากคำซะแล้ว
ถ้าอยากได้เป็นตัวเลขประมาณคร่าวๆ ...งั้นขอยืมเครื่องคิดเลขหน่อยค่ะ ข้าวขวัญแบมือเรียกหาอุปกรณ์คำนวน ทำเอาตำรวจงงแต่ก็ส่งให้โดยดี ...หลังจากก้มหน้าก้มตาจิ้มเครื่องคิดเลขเพียงอึดใจ บัณฑิตสาวเกียรตินิยมเหรียญทองอันดับหนึ่ง อดีตแชมป์คณิตศาสตร์ระดับมัธยมก็เงยหน้าขึ้นมาตอบ
ประมาณคร่าวๆ นะคะ... สองหมื่นหนึ่งพันหกร้อยครั้งค่ะ! ชัดมั๊ยยะ
เฮ่ยยยยยยยยย!!! เจ้าหน้าที่แปดนายร้องขึ้นอย่างตกใจพร้อมๆ กัน ทำให้ตำรวจทั้งโรงพัก ตั้งแต่ผู้กำกับ สารวัตร ยันจ่าตำรวจน้องใหม่ ต่างก็แห่มาชุมนุมกันโดยมิได้นัดหมายภายในชั่วพริบตา
เป็นไปได้ยังไงกัน โดนเข้าไปตั้งสองหมื่นกว่าครั้ง ...ไปเรียกกินเนสบุ๊คมาเร็ว
คิดง่ายๆ ที่อัตราเร่งคงที่นะคะ ...ฉันโดนข่มขืนไม่หยุดร่วมชั่วโมง แรกๆ ก็ประมาณวินาทีละครั้ง แต่พอหลังๆ ก็วินาทีละสองสามครั้งได้
1 ชั่วโมงมี 3600 วินาที... 1200 วินาทีแรกคูณหนึ่งครั้ง... 1200 วินาทีต่อมาคูณสองครั้ง... 1200 วินาทีสุดท้ายคูณสามครั้ง... จับมาบวกกัน เสร็จแล้ว ก็อ่า... หญิงสาวหน้าร้อนผ่าวตอนอ้อมแอ้มเอาผลลัพธ์มา... คูณสาม... โดยไม่ยอมบอกเหตุผลว่าทำไมต้องคูณ ...ก็จะได้ 21,600 ...ชัดเจนอย่างงี้ พอใช้ได้มั๊ยคะ?
พอข้าวขวัญอธิบายที่มาที่ไปของหลักการคำนวน คุณตำรวจก็เข้าใจแล้วว่าเธอนับครั้งยังไงของเธอ ต่างพากันฮาจนหยุดไม่ได้ ...ปริญญาเกียรตินิยมเหรียญทองไม่ช่วยอะไรเลยจริงๆ!!!
อ้าว ทำไมทำหน้าอย่างงั้นกันหมด ก็ไหนว่าเข้าไปลึกแค่หนึ่งองคุลีก็นับเป็นข่มขืนแล้วไงคะ เถรตรงได้อีก ลุงสิบเลี้ยงลูกสาวมาดีจริงๆ ...ฮู่ว์!
พอเถอะ! นำทัพพ์หมดความอดทนแล้ว เขาอยากจะลากคอลูกสาวลุงสิบกลับบ้านไปทำโทษอีกสักหลายหมื่นครั้งซะให้เข็ด
อ้าว ได้ไง ผมยังไม่ได้สอบปากคำผู้ต้องหาเลยนะ ร้อยเวรเจ้าของเรื่องโวยเมื่อเห็นผู้ต้องหาดึงผู้เสียหายให้ลุกขึ้นทำท่าเหมือนจะเดินจากไป
ไม่ต้องสอบอะไรอีกแล้ว! เอาอย่างนี้ละกัน คุณตำรวจช่วยแต่งสำนวนให้หน่อย... ชายหนุ่มที่นั่งนิ่งมาตลอด หน้าตาอ่อนใสเหมือนนายแบบวัยรุ่นเกาหลี ดูเผินๆ เหมือนจะ อ่อน แต่พออ้าปากกลับไม่มีใครกล้าเถียง ด้วยน้ำเสียงและอะไรบางอย่างบอกว่า เขาคุ้นกับการเป็นนาย เคยชินกับการออกคำสั่งมาตลอดชีวิต จนร้อยเวรแทบจะยืนขึ้นมาทำวันทยาหัตถ์แล้วร้องดังๆ ว่า ครับโพ๊ม!
คุณตำรวจอยากเขียนอะไรก็เขียนไปเลยนะ เขียนให้หมดทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่งทำกับผู้หญิงที่ตัวเองรักได้ในที่ลับตาคน ผมทำกับเธอจนครบหมดแล้ว! ...ถ้ามันถือว่าผิด ผมก็ยอมรับผิด เดี๋ยวปั๊มนิ้วให้... แล้วจะลงโทษยังไงก็ว่ามา ผมต้องเข้าคุกวันนี้เลยรึเปล่าล่ะ จะได้ให้เด็กที่บ้านเอาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน ...พอใจรึยัง? ประโยคหลังเขาหันไปถามหญิงสาวข้างตัว ...เธออยากเห็นเราติดคุกมากใช่มั๊ย? ต้องใส่เสื้อผ้าลายทางขาวดำด้วยหรือเปล่า เราจะได้บอกให้เค้าหามาให้
ตำรวจอ้าปากค้างกันไปตามๆ ผู้ชายคนนี้ แต่เวลาเอาจริงขึ้นมา... อืม... ร้ายว่ะ!
ระหว่างที่รอตำรวจร่างสำนวน นำทัพพ์ก็ขับรถพาข้าวขวัญไปตรวจร่างกายเก็บหลักฐานที่โรงพยาบาลตามความต้องการของเธอ
ขายขี้หน้าตำรวจไม่พอ ยังจะไปขายขี้หน้าหมอด้วยใช่มั๊ย? ไม่รู้จะไปตรวจทำไม เราก็ยอมรับผิดหมดแล้ว นำทัพพ์บ่นไม่หยุดไปตลอดทางจนถึงจุดหมาย
ข้าวขวัญไม่เคยเห็นเขาโมโหขนาดนี้มาก่อนเลย ชักจ๋อย หันไปยิ้มให้เขา ...เอาน่า ชาตินี้ฉันยังไม่เคยตรวจภายในเลย นี่ก็ถือว่าได้ตรวจฟรี ดีออก สรุปว่า แม่คุณกะจะใช้บริการของรัฐให้คุ้มค่าภาษีนี่เอง
เมื่อถึงเวลาเข้าห้องตรวจ นำทัพพ์รู้สึกเป็นห่วงเลยขอเข้าไปด้วย ปรากฎว่า...
อ้าว ผมแจ้งไว้แล้วว่าขอให้แพทย์หญิงตรวจภายในไง? นำทัพพ์หันไปถามเชิงต่อว่านางพยาบาล เมื่อเปิดประตูเข้าไปเห็นนายแพทย์หนุ่มใหญ่นั่งเช็ดแว่นรอคนไข้อยู่ข้างเตียงขาหยั่ง
พอดีแพทย์หญิงไปดูคนไข้บนวอร์ดน่ะค่ะ พยาบาลสาวตอบยิ้มๆ รู้สึกเอ็นดูชายหนุ่มหวงแฟนสาว
หมอผู้ชายหรือผู้หญิงก็เหมือนกันแหละ ข้าวขวัญหันไปกระซิบ
เธอไม่อายหรือไง? นำทัพพ์กระซิบตอบ
บ้า จะอายทำไมเล่า... วันๆ หมอเค้าเห็นเป็นร้อย จำไม่ได้หรอกว่าใครเป็นใคร
นายแพทย์ได้ยินที่คนไข้สาวกับชายหนุ่มที่มาด้วยกระซิบกระซาบกันแล้วนึกในใจ หมอคงจำคนอื่นไม่ได้ แต่ถ้ามาประหลาดๆ ขำๆ แบบนี้ล่ะก็ หมอจำแม่นเลยล่ะ
เอ่อ... คุณหมอ ไม่ต้องตรวจได้มั๊ยครับ ผมยอมรับว่าเป็นคนข่มขืนเธอเองคนเดียว
ทั้งหมอและพยาบาลต่างก็อ้าปากค้าง อ้าว...เขาไม่ใช่เป็นแฟนของผู้เสียหายหรอกเหรอ ผู้ต้องหาอะไรพาเหยื่อสาวมาตรวจร่างกาย แถมยังเสนอหน้าเข้ามาหวงคนไข้ในห้องตรวจอีกต่างหาก
ถึงยังไง ก็ต้องเก็บหลักฐานครับ นายแพทย์ถอนใจตอบ ...ตรวจเทียบดีเอ็นเอ และหาร่องรอยฉีกขาดของเนื้อเยื่อ
งั้นคุณหมอเขียนไปเลยครับ ข้างในตัวเธอเต็มไปด้วยสเปริม์ผม ส่วนเยื่ออะไรๆ ขาด หรือส่วนไหนบุบสลายเสียหาย เป็นฝีมือผมทำทั้งหมด นำทัพพ์ตบอกปุ๊บๆ แล้วอ้าปากกว้าง ...เอาเซลล์กระพุ้งแก้มผมไปแทนละกัน
สุดท้าย ก่อนจะมีคดีใหม่ ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายนายแพทย์ระหว่างปฏิบิตหน้าที่ นายแพทย์หนุ่มใหญ่ก็ไล่ทั้งคู่ไปนั่งเจาะเลือดตรวจหาเชื้อ HIV แล้วค่อยมารอตรวจภายในกับแพทย์หญิงห้องข้างๆ ... ไม่รู้มันจะหวงอะไรขนาดนั้น ไม่ดูก็ได้วะ
3 ชั่วโมงต่อมา...
นำทัพพ์พาข้าวขวัญกลับมาที่สถานีตำรวจใกล้จุดเกิดเหตุอีกครั้ง สำนวนจากปลายปากกาตำรวจชิ้นโบว์แดงก็เสร็จออกมาพอดี
นี่เป็นน้ำพักน้ำแรงสมองของพวกเราเกือบทั้งโรงพักเชียวนะครับ รวมพลังจินตนาการระดมประสบการณ์กว่าร้อยชีวิตวัยหนุ่มเขียนมันขึ้นมา กว่าจะได้ครบทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้ชายทำกับผู้หญิงในที่ลับตาคนอย่างที่คุณต้องการ
มันโจ๋งครึ่มซะจนนำทัพพ์ต้องหรี่ตาแทบปิดเวลาอ่าน เขารีบอ่านคร่าวๆ ให้มันจบๆ ไป แล้วรีบพิมพ์ลายนิ้วมือ เสร็จก็รีบยื่นคืนให้เจ้าหน้าที่เหมือนส่งจานข้าวที่ร้อนลวกมือ
ข้าวขวัญอ่านแล้วถึงกับกรี๊ดโรงพักแตก
บ้าๆๆๆๆๆ... เขียนให้ฉันย่อยยับแบบนี้ได้ไง ไม่เอานะ เขียนใหม่ๆ
พอเหอะขวัญ เราเหนื่อยนะ อยากกลับไปพักแล้ว เมื่อคืนแทบไม่ได้นอนเลย นำทัพพ์บ่นโดยไม่ทันคิด แต่คุณตำรวจทั้งหลายได้ยินแล้วอมยิ้ม ...ถ้าเธอดื้อจะให้คุณตำรวจแก้สำนวน ฉันจะปล่อยให้เธอรออยู่ที่นี่คนเดียว นำทัพพ์ขู่จนหญิงสาวยอมลงชื่อเป็นผู้แจ้งความแต่โดยดี
และแล้วแฟ้มคดี สะเทือนขวัญ ก็กลายเป็นคดีเด็ดฮอตฮิตติดชาร์จด้วยสำนวนยอดเยี่ยมหาใดเทียมไม่ ตำรวจยืมกันอ่านทั้งโรงพัก โด่งดังไปไกลถึงท้องที่อื่นๆ จนมีตำรวจจากสน.ต่างๆ ขอยืมถ่ายสำเนาไปศึกษา นับว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติจริงๆ (ช่วยให้ความบันเทิงแก่เจ้าหน้าที่)
พอพี่:-)ได้ข่าวก็วิ่งไปซื้อข้าวมันไก่กับโอเลี้ยงเตรียมมาเยี่ยมเขา (ไม่คิดจะช่วยประกันตัวเลยนะ) แต่นำทัพพ์ยังไม่ต้องนอนในตารางวันนี้ เลยต้องเก็บไว้กินเอง ...ไม่มีตำรวจคนไหนกล้าซี้ซั๊วจับหนุ่มหน้าใสที่ยังไม่แน่ว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใครถึงได้ขับรถสปอร์ตหรูแบบนั้นเข้าคุก ...
คดีข่มขืนที่มีผู้ต้องหาคนเดียวไม่ได้เป็นการโทรมหญิงแบบนี้เป็น คดีที่ยอมความได้ ถ้าผู้เสียหายตกลงกับผู้ต้องหาได้ เรื่องอาจจะไปไม่ถึงศาลก็ได้ครับ
คุณผู้หญิงจะเรียกเงินค่าเสียหายเท่าไหร่ก็เรียกเลยครับ หรือจะกลับไปคิดคำนวนให้ดีก่อน แล้วค่อยนัดกันมาตกลงต่อหน้าเจ้าหน้าที่วันหลังก็ได้
หรือจะกลับไปตกลงกันเองที่บ้านก็ได้นะครับ นายตำรวจแนะนำยิ้มๆ
ค่อยๆ ปรึกษากันไป บางที เจอครั้งที่แปดหมื่นเข้าไป อาจจะไม่เจ็บแล้วติดใจก็ได้นะครับ
ข้าวขวัญฟังแล้วปรี๊ด อยากเผาโรงพักซะให้วอด บ้าที่สุด!
ถ้าเป็นกรณีอื่น เจ้าหน้าที่ที่พูดแบบนี้ถือว่าผิดมหันต์ แต่กรณีของข้าวขวัญ มันช่วยไม่ได้ที่คุณตำรวจจะคิดแบบนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงทั้งสองไม่เหมือนคดีข่มขืนเลย ต่อให้โง่แค่ไหน ก็ดูออกว่าชายหนุ่มไม่ใช่เป็นแค่คนรู้จักขาพิการมาฝึกงานในนาของพ่อเธอแน่ๆ แล้วที่หญิงสาวให้การว่า สงสารเลยให้ที่อยู่อาศัยนั้น ทุกคนเห็นตรงกันว่า น่าจะเป็นคู่รักที่อยู่กินด้วยกันมากกว่า ไม่รู้ทำอีท่าไหน ทะเลาะกันหรือยังไงเลยมาแจ้งความซะงั้น
สงสัยอยากดัง
ได้เลย เดี๋ยวจัดให้... วันก่อน นักข่าวเพิ่งโทรมาขอคดีข่มขืนไปพาดหัวข่าวเรียกลูกค้าพอดีเลย
เจ้าไหนวะ?
บางกอกเดลี่ ที่ให้ ขวดนั้น มาตอนปีใหม่ไง
เออดีๆ บอกด้วยว่าปีหน้าขอสักสามขวดนะโว้ย จะส่งข่าวให้เรื่อยๆ
เช้าวันต่อมา... ลุงสิบนั่งกินข้าวเช้าอยู่บนระเบียงบ้านอ่านหนังสือเจอพาดหัวข่าวหน้าหนึ่ง...
ไอ้เป๋หื่นมอมเหล้าดาวมหาลัยดัง
ขยี้กามยับดับคาห้องเช่า!
ลุงสิบอ่านแล้วคิดในใจ... ทำไมต้องใช้คำเฮงซวยอย่างงี้ด้วยวะ ทำไมต้อง ขยี้ มันเกี่ยวอะไรกับซักผ้ารึไง? ทำไมต้อง ยับ มันเกี่ยวอะไรกับรีดผ้าหรือไง? แย่จริงๆ ไม่ได้มีความเห็นใจผู้หญิงที่ถูกข่มขืนเลย เขียนอย่างงี้เหมือนซ้ำเติมกันชัดๆ แต่เดี๋ยวก่อน... ดาวมหาลัย กับ ไอ้เป๋เหรอ? เอ...คุ้นๆ นะ
ปกติลุงสิบเกลียดข่าวชนิดนี้ที่สุด อ่านแล้วโมโหแทนผู้หญิง แต่สะดุดใจยังไงไม่รู้เลยพลิกอ่านรายละเอียด...
เมื่อเวลาเที่ยงวานนี้ นส.ไข่ (นามสมมติ) นศ.มหาลัยดัง เข้าพบตร. ในสภาพโทรม แจ้งว่าถูกชายขาพิการล่อลวงให้ดื่มเครื่องดื่มผสมยาจนรู้สึกมึนงง แล้วหลอกพาเข้าไปกักขังไว้ในห้องเช่า จากนั้นก็ลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่นับครั้งไม่ถ้วน นส.ไข่ให้การกับตร.ทั้งน้ำตาว่า รู้จักกับชายพิการนายนี้เพราะความสงสารจึงไว้ใจหลงเชื่อ ให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด แต่กลับต้องตกเป็นเยื่อกาม ถูกขยี้พรหมจารีย์จนยับเยิน............
อ่านมาถึงตรงนี้ลุงสิบก็ได้แต่ปลงกับภัยสังคมยุคนี้ ที่เซ็งยิ่งกว่า คือการใช้ภาษาข่าวที่ใส่สีตีไข่ให้คนอ่านเอามัน โดยไม่สนใจความรู้สึกของหญิงสาวที่เคราะห์ร้ายเลย ...ในเมื่อไม่เกี่ยวอะไรกับคนใกล้ตัว ก็ไม่อยากอ่านต่อให้อารมณ์เสียแต่เช้า (ไม่น่าจะเกี่ยวนะ เพราะหน้าอย่างไอ้ทัพพ์ มันคงไม่หื่นขนาดนับครั้งไม่ถ้วนหรอก อีกอย่าง แค่มองตาลูกสาวเขาตอนอยู่กับไอ้หมอนั่นก็รู้แล้วว่า ไม่เห็นต้องข่มขืนเลย) หนุ่มใหญ่พับหนังสือพิมพ์ลงวางบนโต๊ะโดยไม่รู้ว่านส.ไข่ในหนังสือพิมพ์นั้นคือลูกสาวของเขาเองจริงๆ
หลังจากได้รับสำเนาเอกสารต่างๆ สำหรับดำเนินคดีแล้ว ผู้ต้องหาก็จูงมือผู้เสียหายพาขึ้นรถกลับจุดเกิดเหตุ เอ้ย... คอนโด
พอใจรึยัง ฮึ... เธออยากมาโรงพัก เราก็พามาแล้ว ความผิดทุกอย่างตกอยู่ที่เราหมดแล้ว
ข้าวขวัญนั่งเงียบไปตลอดทาง เธอรู้สึกแย่มากๆ กับการสอบสวนคดีที่เพิ่งผ่านไป เป็นผู้หญิงนี่เสียเปรียบเหลือเกิน จะเอาเรื่องเค้าก็ต้องโดนระบบการพิจารณาคดีทำให้อับอาย อย่างที่มีคนเคยบอกไว้เลย เหมือนถูกข่มขืนซ้ำที่โรงพักอีกรอบ นี่ถ้าคนที่ ข่มขืน เธอไม่ใช่นำทัพพ์ล่ะก็... อา... ฆ่าเธอตายซะดีกว่า แล้วยังมีการประนีประนอมยอมความอีก อะไรกัน ผู้หญิงโดนรังแกแบบนี้ยังยอมให้คนชั่วลอยนวลได้อีกเหรอ?
เราไม่เข้าใจเลย ข้าวขวัญ... ทำเรื่องวุ่นวายแบบนี้ เธอต้องการอะไรกันแน่?
ไม่ได้ต้องการอะไร แค่... ใบแจ้งความ หลักฐานอะไรก็ได้ที่บอกว่าเธอไม่ได้ยินดีมีความสุขไปกับการกระทำของเขา ...ข้าวขวัญกอดซองเอกสารสำคัญนั้นไว้แน่นราวกับคนตกน้ำกอดขอนไม้เพื่อรอดชีวิต
เรื่องเมื่อคืนนี้ เราสองคนรู้ดีว่ามันไม่ใช่การข่มขืน แล้วทำไม... ทำไมเธออยากให้มันเป็นแค่ฉากข่มขืน?
ทำไมน่ะเหรอ?
จากคุณ |
:
Acciacatura
|
เขียนเมื่อ |
:
18 พ.ค. 54 11:44:14
|
|
|
|
 |