Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เวรันนที #ตอนที่5 นาคะลีลา# ติดต่อทีมงาน

ขอบตาคมเข้มกอปรด้วยหางตายาวรีค่อยๆเปิดออก ความเลือนลางที่ปรากฏแก่สายตาค่อยๆชัดเจนด้วยภาพของเพดานหินหยกที่ไม่ได้เรียบเนียน
ทว่ามีส่วนย้อยลงมามากบ้างน้อยบ้างเสมือนเพดานถ้ำ

รัชชตะนาคราชกวาดตาสำรวจไปรอบก็พบว่าตนเองนอนอยู่บนแท่นที่ล้อมด้วยระบายม่านผืนบางทั้งสามด้าน เมื่อไล่เรียงเหตุการณ์ต่าง ๆก็จำได้ว่า
ล่าสุดที่รู้สึกตัวนั้นตนกำลังอาบว่านนาคาอยู่ และรู้สึกร้อนมากจนหน้ามืดไป

‘ใช่แล้ว ชานตตี ที่อาบว่านให้เราอย่างไม่ยั้งมือ จนเราเป็นลมเพราะทนความร้อนไม่ไหว ผู้หญิงที่ไร้ซึ่งความปราณี!’

เมื่อยันกายลุกขึ้นนั่งกลับชะงัก เพราะเครื่องแต่งกายตอนนี้ไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากเสื้อผ้าเทวดาที่เคยเห็นในภวังค์ภายใต้สระมรกต
มันประกอบไปด้วยผ้าคาดไหล่เพียงผืนเดียวสีขาวที่มีเส้นสีเงินระยิบเป็นลายในเนื้อผ้า
ที่อกมีโลหะเงินเส้นหนารั้งสั้นจนเกือบชิดลำคอที่จุดกึ่งกลางสุดของเงินหนานั้นประดับด้วยสัญลักษณ์แห่งนาคา
อีกทั้งข้อมือยังประดับด้วยกำไลลักษณะเดียวกัน และยิ่งไม่ต้องสงสัยแน่นอนว่ากางเกงของเขาได้เปลี่ยนเป็นโจงกระเบนสีเงินระยิบเข้าชุด

‘ทั้งหมดนี้ใครกันช่างคิดเนรมิตมาให้ฟะเนี่ย เหมือนจะไปแสดงละครเวที ยังไงยังงั้นเลย’

ทว่าเมื่อคิดดูดี ๆ เขาจำได้ว่าเสื้อผ้าของตนเองนั้นเปลี่ยนไปตั้งแต่แปลงกายได้สำเร็จบนสนามหญ้าแล้ว
เพียงแต่ไม่ได้สังเกต เพราะมัวจดจ่อกับเรื่องขออณุญาตกลับบ้านอยู่

‘จริงสิ เรื่องกลับบ้าน’

รัชชตะเริ่มคิดถึงความปรารถนาเดิมที่ต้องการกลับบ้าน ทว่ายังไม่ทันระดมความคิดได้อย่างต่อเนื่อง
ทันใดที่นอกหน้าต่างบานใหญ่ก็ปรากฏร่างพญานาคเกล็ดสีดำมันวาว ร่อนวนไปมาอยู่ด้านนอก
คล้ายจะเรียกให้เขาลุกไปหา รัชชตะยังงงต่อเหตุการณ์และไม่รู้ว่าร่างนั้นคือใครกันแน่ จึงค่อยๆเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง
และยังไม่ทันได้ตั้งหลักมากมาย หน้าใหญ่ๆ มีหงอนสีแดงนัยน์ตาสีฟ้านั่นก็ยื่นลงมาเสมอกรอบหน้าต่างสีหยก

“นายท่าน ข้าเอง ชัยยันต์ ท่านชานตตีให้มาเรียนนายท่านว่า หากอยากกลับบ้าน ก็จงแปลงกายเป็นนาคราช
ทะยานออกมาแข่งขันแย่งลูกบอลจากเราทั้งสอง เพื่อนำมาวางตรงกลางสนามให้จงได้”
ร่างใหญ่นั่นพูดไปพลางสะบัดลำตัวเพื่อทรงกายรอคำตอบ

“ว่าไงนะ คุณหมายความว่าให้ผมไปเล่นแย่งลูกบอลเป็นนาคชิงบอลงั้นเหรอ โอ้ มันจะอ่อนไปรึเปล่า”

“นายท่าน หมายอย่างไรหรือ คำว่า อ่อน นั่น”

“ผมหมายถึง มันไม่เล่นกันเป็นเด็ก ๆไปหน่อยเหรอ”

“ไม่อ่อนหรอกนายท่าน คู่ปรับเช่นนายหญิง การเอาชนะไม่ใช่เรื่องง่าย”

“ก็ดี ให้รู้กันไปว่าผู้หญิงใจร้ายคนนั้น จะเก่งกาจซักแค่ไหน ว่าแต่แปลงกายน่ะยากหน่อยนะ คุณร่อนรอผมยังงั้นเมื่อยแย่”

“ไม่ยากแล้ว หากท่านเคยทำได้ แปลงเป็นมนุษย์ด้วยวิธีใด ก็แปลงเป็นนาคาด้วยวิธีนั้น และที่บนแท่นนั้นจะช่วยให้ง่ายขึ้น”

รัชชตะเดินไปนั่งที่แท่นหยกว่างเปล่าภายในห้องและเข้าสู่สมาธิอีกครั้ง จุดประสงค์เพื่อทำการแปลงร่างออกไปชิงลูกบอลจากหญิงใจร้ายคนนั้น
ยิ่งคิดยิ่งทำให้เขามีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะออกไปซะเดี๋ยวนี้

เวลาผ่านไปเพียงครู่เท่านั้น บนแท่นศิลากลับว่างเปล่า
ร่างที่นั่งอยู่เมื่อครู่ บัดนี้หายไปกลับกลายเป็นร่างของงูใหญ่เกล็ดเงินพุ่งทะยานออกทางช่องหน้าต่างไปเสียแล้ว

ที่ด้านนอกปรากฏลำตัวยาวสองร่างที่มีเกล็ดกายสีตัดกัน ทว่าเกล็ดสีเงินดูจะมีช่วงตัวยาวกว่าอย่างเห็นได้ชัด

ทั้งสองร่างแหวกอากาศวนไปมาคู่เคียงกันเหนือวิมานมรกตโดยมีฉากหลังเป็นขุนเขาเรียงราย เพื่อรอเจ้าภาพของงานเป็นผู้เปิดเกมส์



ร่างกำยำพร้อมพวกอีกสองตนยืนสังเกตเหตุการณ์อยู่ด้านหน้าบันไดทางขึ้นวิมานมรกต ห่างจากบริวารกลุ่มใหญ่ที่รายล้อมอยู่บริเวณสนามหญ้า

ผู้ที่ดูอาวุโสมากที่สุดยืนกอดอกหรี่ตามองเกล็ดสีเงินที่กำลังร่อนไปมาฉวัดเฉวียน

“พยัพยนต์ ครานี้พี่จะให้มันอวดฝีมือต่อหน้าบริวารแห่งภุชนาคินหรือ เช่นนั้นเห็นทีบริวารทั้งหมดคงยกย่องมัน”

“พยนต์ตรา แล้วเจ้าคอยดูเถิดว่าจะมีอันใดเกิดขึ้น ข้าดูการร่อนของมันก็รู้ว่าอ่อนวิชานัก”
สายตาคนพูดเป็นประกายเย้ยหยัน


เวลานี้ที่บนฟ้าเหนือมหาสมุทรกว้างห่างจากชายฝั่งของวิมานมรกตเล็กน้อย ปรากฏร่างเพรียวขนาดยาวเกล็ดสีเขียวเหลือบน้ำเงิน
ทะยานมาจากที่ใดไม่มีใครรู้
ปรากฎชูลำตัวตั้งตรงและที่ส่วนบนสุดของศรีษะประคองลูกบอลชนิดหนึ่งที่รัชชตะคุ้นเคย

ด้วยมันคือลูกหนังที่ใช้แข่งขันฟุตบอลไม่ผิดเพี้ยน แม้อยู่ในที่ไกลและไม่คุ้นเคยทว่ารัชชตะรู้ว่านั่นคือชานตตีเป็นแน่
เพราะยังพอจำสีเกล็ดของเธอได้จากครั้งที่ช่วยเขาไว้จากพยัพยนต์

“เอาล่ะ รัชชตะนาคราช จงเข้ามาแย่งลูกบอลนี้ไปวางไว้กึ่งกลางสนามให้ได้เถิด”
เสียงใสก้องกังวาลไปทั่วบริเวณตั้งแต่กลางมหาสมุทรยันขุนเขา

“คุณอย่าลืมเรื่องข้อแลกเปลี่ยนสำหรับชัยชนะแล้วกัน”
รัชชตะยังคงย้ำจุดประสงค์สำคัญ

“มิผิดเพี้ยน เราให้สัจจะวาจา”
ชานตตีตะโกนก้องกลับมาด้วยรู้ว่าอีกฝ่ายชอบฟังคำสัญญาเป็นนักหนา

การแข่งขันเริ่มขึ้นโดยชานตตีตวัดศรีษะส่งลูกบอลไปอยู่เหนือผิวน้ำกลางมหาสมุทรที่นิ่งสงบไร้คลื่น
เท่ากับว่าขณะนี้ทั้งสามอยู่ไกลจากลูกบอลในระยะที่ห่างพอกัน รัชชตะเห็นชานตตีวางบอลเปิดงานแล้ว
จึงพุ่งกายเข้าหาบอลที่อยู่เหนือผิวน้ำหวังจะใช้กายตวัดเกี่ยวบอลนั้นขึ้นมา เขาพุ่งออกไปพร้อมชัยยันต์ ทว่ากลับเข้าใกล้บอลนั้นได้เร็วกว่า

รัชชตะกระหยิ่มในใจเพราะเพียงแค่อีกเสี้ยววินาทีเขาจะเข้าถึงบอลนั้นก่อนใคร ชานตตีน่ะหรือเห็นจะยังห่างไกลกว่าชัยยันต์เสียด้วยซ้ำ

<ต่อ>

จากคุณ : Kiwi_brown
เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 54 21:15:29




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com