เอาสิ หากเจ้าอยากให้ผู้อื่นรู้ให้ทั่วกับเรื่องในวันที่เจ้าอาบว่านให้มัน ชานตตีเอ๋ย ทุกสิ่งเกี่ยวกับเจ้าหาได้รอดพ้นสายตาข้าไม่
ทิ้งเสียงเยาะหยันนั้นไว้อย่างไม่อาทรร้อนใจ ก่อนที่เจ้าตัวจะร่อนจากไป
ชานตตีขุ่นเคืองใจกับพฤติกรรมเจ้าเล่ห์ของพยัพยนต์ตลอดที่ผ่านมา ทว่าครั้งนี้กลับมากล้นทวีคูณจนไม่อาจให้อภัย
หากแต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะติดตามเอาผิดวายร้ายผู้นี้ เพราะรัชชตะที่กำลังรอการช่วยเหลือจากเธอกลับเป็นสิ่งที่สำคัญกว่ามากนัก
ชานตตี นี่มันโคลนดูดใช่มั้ย ผมพยายามจะทะยานตัวขึ้นมันกลับยิ่งดูด
รัชชตะตะโกนก้องมาจากด้านล่างสุดของช่องเขา
รัชชตะ ท่านอย่าขยับเขยื้อนกายอีก มีทางเดียวที่จะขึ้นมาได้นั่นคือเนรมิตกาย
ให้หายไป ซึ่งนั่นท่านยังไม่สามารถทำได้ตอนนี้
ผมรู้แล้ว แล้วทำไงดีล่ะ
ชานตตีคิดว่าวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือพันส่วนหางของตนไว้ที่ปากช่องเขาแล้วหย่อนร่างลงไป ดึงร่างเขาขึ้นมา
นายหญิงข้าจะเป็นผู้พันกายไว้กับหินเอง ส่วนนายหญิงพันกายไว้กับข้าแล้วหย่อนกายไปช่วยนายท่าน
ชัยยันต์รีบอาสาพันกายไว้กับหินแทนเอง เนื่องจากการพันกายไว้กับหินแล้วรับน้ำหนักมาก ๆ เช่นนี้จะทำให้เกล็ดนั้นถลอกและเจ็บไปนาน
ขอบใจนะ ชัยยันต์
คุณปรึกษาอะไรกันอยู่น่ะ จะให้ทำไงก็บอกสิ โคลนมันดูดจนถึงคอแล้ว
ไม่ได้เกินความจริงที่รัชชตะพูดเพราะตอนนี้โคลนสีดำ คอยกระเพื่อมดูดร่างใหญ่ของรัชชตะให้จำลงเรื่อย ๆ
ดั่งปีศาจสีดำที่อ้าปากเขมือบร่างของเขาด้วยพลังมหาศาล
สักครู่นั้นเองร่างยาวของชานตตีก็โรยลงมาใกล้ เธอม้วนกายพันรอบต้นคอของเขาที่โผล่พ้นโคลนนั้นขึ้นมาเพียงเล็กน้อย
แล้วออกแรงกระชากร่างใหญ่ของรัชชตะเต็มแรงเพื่อให้พ้นจากโคลนมรณะนั่น ทว่าโคลนนั้นกลับเอาชนะพลังของชานตตี
และกลับกระชากร่างของเธอให้ตกลงมาในบ่อโคลนอีกร่างหนึ่ง
ปลั่ก
..
นายหญิง!
ชัยยันต์ร้องตะโกนสุดเสียงเมื่อเห็นชานตตีพลาดจากการเกาะกุมร่างของเขาตกลงไปในบ่อโคลนนั้น
รัชชตะ ท่านจงพันร่างของท่านเป็นเกลียวไว้กับกายข้า แล้วค่อยๆเขยิบขึ้นไปที่ริมบ่อโคลนเถิดชานตตีมองหน้าเขา
แต่นั่น มันจะทำให้คุณยิ่งจมนะชายหนุ่มไม่คิดจะเอาเปรียบ
ไม่เป็นไรเมื่อท่านขึ้นได้แล้ว ข้าจะเนรมิตกายหายไปเอง
คุณขึ้นได้แน่นะ ชานตตี
ชายหนุ่มถามเพื่อความแน่ใจ เพราะดูจากสภาพโคลนที่หนืดเหนียวแล้วมันช่างยากนักที่จะทำอะไรได้
เร็วเถิด ถ้ากายข้าจมมากกว่านี้ ท่านจะไปไม่ถึงริมบ่อ
ชานตตีเสียงจริงจังรัชชตะไม่มีทางเลือกนอกจากทำตามสิ่งที่เธอบอก
เขาพันกายเข้ากับร่างของเธอทั้งร่าง แล้วใช้ร่างนั้นเป็นแกนเพื่อเลื้อยขึ้นฝั่งอย่างทุลักทุเล
ชานตตี ชานตตี
รัชชตะร้องเรียกสุดเสียงพลางมองหา เพราะไม่เห็นร่างของชานตตีในบ่อโคลนนั้นแล้ว
นายท่าน รีบทะยานขึ้นมาเถิด
ชัยยันต์ร้องเรียกเมื่อเห็นนายของตนสามารถขึ้นจากบ่อนั้นได้แล้ว
แต่ ชานตตีล่ะรัชชตะยังคงมองหาเธอ
นายหญิงขึ้นมาอยู่บนปากช่องเขานานแล้วบริวารตะโกนตอบก้อง
ชานตตีได้แต่ยืนซ่อนรอยยิ้มอยู่ด้านหลังชัยยันต์ที่ปากช่องเขา
เธอรับรู้ได้ถึงกระแสจิตของรัชชตะที่เป็นห่วงเธอเหลือล้น
ในตอนที่มองไม่เห็นเธอในบ่อโคลน จะว่าไปแล้วด้วยสภาวะจิตที่ซ่อนเร้นสิ่งใดไม่ได้
ของรัชชตะเช่นนี้อาจจะเป็นการดีสำหรับเธอที่จะสามารถรับรู้สิ่งต่าง ๆที่เขาเป็นอยู่
แต่ถ้าหากวันใดเขามีบารมีแห่งจอมนาคาเต็มขั้นโอกาสเช่นนี้จะไม่มีอีกแล้ว!
ชานตตี ถึงผมจะเอาบอลไปวางที่กลางสนามไม่ได้ แต่นี่ก็เพราะว่าคนของคุณกลั่นแกล้งนะ คุณต้องชดเชยค่าเสียหายให้ผมโดยการอนุญาตให้กลับบ้าน
รัชชตะกลายร่างเป็นคนและเริ่มต่อรองทันทีที่ขึ้นมาจากบ่อโคลนได้สำเร็จ
อืมหญิงสาวตอบสีหน้าเรียบ
คุณหมายความว่าให้ผมกลับบ้านได้เหรอ สุดยอดไปเลย
รัชชตะยิ้มร่าอย่างดีใจ กระโดดเข้าไปอุ้มชานตตีที่บัดนี้ได้กลายเป็นหญิงสาวร่างเพรียวบาง เขายกเธอขึ้นลอยจากพื้นแล้วหมุนไปรอบ ๆ อย่างดีใจสุดบรรยาย
นั่นมันทำให้ผู้ที่เงียบขรึมและเก็บความรู้สึกอย่างดียิ่งเช่นชานตตี ยังไม่อาจห้ามเสียงหัวเราะเบา ๆ
แม้กระทั่งชัยยันต์บริวารหน้าดุก็ยังแอบซ่อนรอยยิ้มจางไว้ไม่ได้
ชั่วขณะหนึ่งรัชชตะลืมความเผด็จการของเธอเสียสิ้น เท่าที่รู้ตอนนี้เธอเป็นผู้ช่วยชีวิตเขาไว้และยังใจดีอนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว
แต่ท่านต้องให้สัจจะวาจาว่าจะกลับมาโดยมิต้องให้บังคับเช่นคราก่อน
เธอยังไม่ลืมกำชับเรื่องสำคัญแม้ว่ายังถูกยกลอยอยู่เหนือพื้นเช่นนั้น
ครับ ผมสัญญา จะกลับมาเข้าโรงเรียนให้ทัน
ชายหนุ่มหัวเราะเมื่อคิดถึงว่าตนเองตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับอยู่โรงเรียนประจำ พลางคลายมือปล่อยหญิงสาวลงสู่พื้น
ในครั้งนี้ท่านได้ฝึกนาคะลีลาขั้นต้น แต่เมื่อกลับมาท่านจะต้องไปฝึกนาคะลีลาอันถือเป็นศาสตร์ชั้นสูงแห่งเทวะนาคากับท่านอินทนาคราช
รัชชตะเริ่มคิดถึงเสียงผู้ชายแก่ ๆที่ลอยมาเข้าหูเพื่อสอนให้เขาทรงตัวอยู่ในอากาศให้ได้
เอ๊ะ ชานตตี ทำไมตามแขนขาคุณมีเลือดออก
ชายหนุ่มตกใจกับบาดแผลที่เห็นตรงหน้า
นายหญิงให้ท่านพันกายเลื้อยไปบนร่างในบ่อโคลนเมื่อครู่ เกล็ดกายของนายท่านจึงมีคมทำอันตรายแก่นายหญิง
เพราะเกล็ดของเทวะนาคาที่มีบารมีสูงกว่าจะเฉือนเกล็ดของผู้มีบารมีต่ำกว่า ซึ่งหากนายท่านเลื้อยเร็วๆด้วยพลัง
นายหญิงก็อาจสิ้นปราณได้ นี่คืออาวุธอย่างหนึ่งของเทวะนาคา
ชานตตี ทำไม
.
รัชชตะมองหน้าหญิงสาวเหมือนหาคำตอบที่เธอช่วยเหลือเขา โดยการเอาตัวเข้าเสี่ยงถึงเพียงนี้
ไม่มีคำตอบใด ๆจากหญิงสาวนอกจากอาการมองหน้าเขานิ่งคล้ายสื่อความหมายบางอย่างที่เขาไม่สามารถอ่านออกและเข้าใจ ในที่สุดเธอก็ปล่อยให้เลยผ่านไป
ทั้งสองยังคงจ้องมองกันเช่นนั้นเหมือนมีบางอย่างสะกดให้เวลาหยุดนิ่ง
ภาพแห่งความทรงจำภายใต้วารีมรกตได้ทำให้รัชชตระลึกถึงแววตาของบริวารนางหนึ่งผู้จงรักภักดี ที่เขาเคยให้สัจจะวาจาไว้แก่เธอเมื่อนานมาแล้ว
ชานตตี ผมจำคุณได้
บางสิ่งที่วิ่งเข้ามาจู่โจมสมองทำให้รัชชตะเผลอนึกประโยคนี้ออกมาอย่างเลื่อนลอย
กลับเถิด ยังมีหญิงคนหนึ่งรอท่านอยู่ที่เมืองมนุษย์
เวลาผ่านไปเช่นนั้นครู่หนึ่งท่ามกลางความเงียบงันกับการระลึกรู้ของผู้เป็นนาย ก่อนที่ทั้งสามร่างจะทะยานคืนสู่วิมานมรกต.
จบตอนที่5
แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 54 19:52:22
แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 54 19:48:20
แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 54 19:45:34
แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 54 19:43:42
แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 54 19:40:32
แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 54 19:37:40