บทที่ 18 : คืนหลอน
ประตูห้องฉุกเฉินเลื่อนเปิดด้วยระบบเซนเซอร์อัตโนมัติ ทว่ามันก็ยังดูจะไม่รวดเร็วพอสำหรับหัวใจที่ร้อนรนของสองนักเรียนสาว ประกายแก้วและศศิรัตน์ ทั้งคู่รีบรุดมายังโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ภายในห้องฉุกเฉินปรากฏมีผู้ป่วยรอรับบริการอยู่เป็นจำนวนมาก สองเด็กสาวพยายามกวาดสายตาไปทั่วแต่กระนั้นก็ยังยากที่จะหาบุพการีพบ ด้วยบางส่วนถูกม่านบังตาปิดไว้เพราะผู้ป่วยกำลังได้รับการตรวจรักษา
“ ขอโทษค่ะ ” ศศิรัตน์ที่สติดีกว่ารีบดึงมือเพื่อนไปยังเคาน์เตอร์พยาบาล “ ว่ายังไงคะ ? ” พยาบาลหมวกขาวตอบทั้งๆที่ไม่มองคนถาม ท่าทางคุณพยาบาลกำลังยุ่งอยู่กับการบันทึกประวัติคนไข้
“ พวกหนูมาตามหาญาติค่ะ หน่วยกู้ภัยแจ้งว่าถูกส่งมาที่โรงพยาบาลนี้ ” มิ้นท์อธิบาย ประกายแก้วคิดว่าตนเองโชคดีที่มีเพื่อนมาด้วยเพราะเธอยังอยู่ในภาวะตกใจ “ แล้วเป็นอะไรมาล่ะคะ ? คนไข้ชื่ออะไร ? ” คราวนี้พยาบาลสาวถามกลับเป็นชุด มือคลิกที่เมาส์เพื่อเปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่แสดงรายชื่อผู้ป่วย
“ อุบัติเหตุจราจรค่ะ คุณพ่อชื่อบัญญัติ คุณแม่ชื่อวาสนา สกุลสุวรรณค่ะ ” แก้วบอกชื่อบุพการี นางพยาบาลเหลือบตามองเธอนิดหนึ่งก่อนไล่ละสายตาที่หน้าจอแสดงผล “ อ๋อ ตรวจเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ คุณบัญญัติ ... แพทย์ให้กลับบ้าน ส่วนคุณวาสนา ... ดูเหมือนคุณหมอจะให้นอนสังเกตอาการที่ตึกศัลยกรรมอุบัติเหตุค่ะ ” พยาบาลรายงานเสียงเรียบอย่างไม่ตื่นเต้น ต่างกับเด็กสาวที่ใจหายวาบหล่นไปที่ตาตุ่มเมื่อได้รับแจ้งว่าคุณแม่ต้องนอนพักที่โรงพยาบาล
หมายถึงอาการหนัก ?
“ ตึกศัลยกรรมอุบัติเหตุไปทางไหนคะ ? ตึกที่คุณแม่วาสนาต้องนอนพักฟื้นน่ะค่ะ ” ศศิรัตน์ที่คุมสติได้ดีกว่าถาม ตัวเธอยังคิดว่าอาการของแม่เพื่อนรักไม่น่าจะหนักหนาสาหัส “ วอร์ดศัลยกรรมอุบัติเหตุเหรอคะ น้องเดินตรงไปแล้วก็ ... ” พยาบาลประจำเคาน์เตอร์ลุกขึ้นชี้มือชี้ไม้เพื่ออธิบายทางไปวอร์ดอย่างละเอียด เมื่อทราบทิศทางแล้ว สองเด็กสาวจึงไหว้ขอบคุณก่อนที่จะรีบรุดไปตามทางที่คุณพยาบาลบอก
ที่แผนกศัลยกรรมอุบัติเหตุ สองนักเรียนก้าวตามทางเดินตรงกลาง สองฟากเป็นเตียงผู้ป่วยที่ไม่ว่างแม้สักเตียง ระหว่างทางทั้งคู่พยายามสอดส่ายสายตาเพื่อมองหาร่างของคุณแม่วาสนา แก้วตั้งใจว่าหากหาไม่พบก็จะตรงเข้าไปถามที่เคาน์เตอร์พยาบาลที่อยู่ไม่ห่างนัก “ แก้ว ! ” เสียงคุ้นเคยเรียก เมื่อเด็กสาวหันไปจึงพบบิดายืนอยู่ข้างๆ ที่ใบหน้ามีแผลถูกปะด้วยผ้ากอซสามสี่จุด “ พ่อคะ ? ” ประกายแก้วทักกลับ ทว่าพริบตานั้น ! ในใจเกิดความรู้สึกสังหรณ์วาบ ... บัดนี้เด็กสาวเริ่มสับสนและกังวลลึกๆ ร่างคุณพ่อที่ปรากฏต่อหน้าในเวลานี้ ... เป็นร่างเนื้อหรือวิญญาณกันแน่ ?
“ สวัสดีค่ะ ” พอดีกับที่ศศิรัตน์ไหว้สวัสดี แก้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ นั่นเพราะการที่ยายมิ้นท์สามารถมองเห็นพ่อเธอได้ นั่นก็แปลได้ว่าคุณพ่อที่เห็นตรงหน้าเป็นร่างเนื้อ ... เป็นร่างมนุษย์จริงๆ “ พ่อเป็นยังไงบ้างคะ ? แล้วแม่ล่ะ ? ” ประกายแก้วยิงคำถามทันทีที่เห็นหน้าบิดา เธอกังวลและเป็นห่วงมาก
“ พ่อไม่เป็นไร เย็บแผลที่หน้านิดหน่อย ส่วนแม่ก็ไม่มีอะไรมาก หัวโนสักลูกมะนาว แต่คุณหมอท่านอยากให้สังเกตอาการในโรงพยาบาลสักคืนหนึ่ง ” บัญญัติ สกุลสุวรรณผู้พ่อพูดพลางชี้มือไปทางเตียงนอนที่อยู่ชิดริมหน้าต่าง “ แม่ต้องนอนห้องรวมหรือคะ ? ”
“ จองห้องพิเศษไว้แล้ว เห็นว่าช่วงค่ำๆน่าจะย้ายห้องได้ ” “ งั้นเดี๋ยวหนูเฝ้าแม่เองค่ะ พ่อจะได้พัก ” เด็กสาวเสนอตัว จากนั้นทั้งหมดจึงเข้าไปเยี่ยมอาการของวาสนา สกุลสุวรรณ ซึ่งจริงๆแล้วอาการก็ไม่หนักหนาอะไรมากนัก มีเพียงศีรษะโนและรู้สึกวิงเวียนเท่านั้น เมื่อถามไถ่อาการมารดาเสร็จ ประกายแก้วจึงขอตัวกลับบ้านเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นตอนค่ำเธอจะได้มาเปลี่ยนให้บิดาได้กลับไปพักบ้าง ส่วนยายมิ้นท์ ศศิรัตน์ เองก็บอกว่าจะมานอนเฝ้าไข้เป็นเพื่อน แต่แก้วเกรงใจจึงบอกกับเพื่อนรักว่าไม่เป็นไร
...
จากคุณ |
:
Luckard
|
เขียนเมื่อ |
:
19 พ.ค. 54 11:23:14
|
|
|
|