Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ม่านนางรำ ตอนที่ 2 ติดต่อทีมงาน

ชีวิตวันแรกในโรงเรียนผ่านพ้นพร้อมกับรอยจารึกใหม่ที่เกิดขึ้นในสำนึก เรื่องราววันนี้ทำให้หวานทั้งเกลียดและกลัวคุณชายฉัตรกับไอ้เล้งอย่างจับใจ มันทำให้รู้สึกว่าความแข็งกระด้างของเด็กผู้ชายส่วนใหญ่เป็นสิ่งไม่น่าพิสมัย

เมื่อกลับมาถึงบ้านในตอนเย็น หลังเก็บข้าวของเข้าที่เสร็จเรียบร้อย หวานรีบลงจากเรือนของตนวิ่งไปหาเลิศล้ำ เพื่อหยอกล้อเล่นหัวกันอีกตามเคย เลิศล้ำเข้าเรียนหนังสือแล้วพร้อมกับหวาน เพียงแต่อยู่กันคนละโรงเรียน พ่อและแม่พาเลิศล้ำไปสมัครเข้าเรียนที่โรงเรียนสตรีจุลนาค ซึ่งแม้จะอยู่ห่างจากบ้านพอควร แต่ทั้งพ่อและแม่ต่างพร้อมใจกันเห็นดีเห็นงาม ด้วยเห็นว่าเป็นโรงเรียนที่เปี่ยมคุณภาพ และพ่อเองก็รู้จักมักคุ้นครูบางคนที่โรงเรียนนี้เป็นการส่วนตัว

“เป็นไงบ้างหวาน ไปเรียนหนังสือวันแรกสนุกไหม” เลิศล้ำถาม เมื่อเห็นหวานวิ่งขึ้นมาบนเรือน

“ไม่เห็นสนุกเลยล้ำ”

“อ้าว ทำไมล่ะ อยู่โรงเรียนน่าจะมีเพื่อนเยอะแยะ”

“แต่พวกเขาไม่เห็นใจดีเหมือนเธอเลย ฉันไม่ชอบหรอกมีแต่พวกนักเลง”

หวานระบายความรู้สึกออกมา ตามความชิงชังในหัวใจ

“นักเลง” เลิศล้ำทำสีหน้างุนงงใส่

“ใช่ พวกมันรังแกฉัน พวกมันแกล้งฉัน” พอนึกถึงหน้าคุณชายฉัตรกับไอ้เล้ง หวานยิ่งรู้สึกเกลียดกลัวขึ้นเป็นทวี

“ถ้ายังงั้นหวานก็ต้องสู้พวกมันให้ได้ หวานต้องไม่กลัวพวกมัน หวานต้องเข้มแข็ง เพราะหวานเป็นผู้ชาย” เลิศล้ำให้ความเห็นตามความคิดของสมองน้อยๆ

“ไม่เอาหรอก ไม่สู้” น้ำเสียงของหวานแผ่วเบาลง

หวานคงเป็นเด็กผู้ชายที่อ่อนแอเกินไป อ่อนแอเกินกว่าที่จะต่อสู้ชกตีกับใครอย่างไม่หวั่นเกรง หวานไม่เคยรู้จักและเรียนรู้ชีวิตแบบนี้มาก่อน หวานไม่รู้ดอกว่าโลกของผู้ชายคือความเข้มแข็งกล้าหาญ คือการรู้จักปกป้องและเป็นผู้นำ ตลอดวันคืนที่ผ่านเด็กชายหวานเรียนรู้จักเพียงแค่ว่า ความอ่อนนุ่มเบาบางของผู้หญิงอย่างแม่และเลิศล้ำ เป็นสิ่งน่าสัมผัสชื่นชม เพราะคือบางเบาละมุนไม่มีพิษร้าย เป็นสิ่งสุขล้นทุกครายามชิดใกล้

ลึกเร้นไม่รู้ตัว หวานอยากได้มาเป็นแบบอย่างของชีวิต

“วันนี้เราจะเล่นอะไรกันดีล่ะ ล้ำ” หวานลบลืมเรื่องราวทั้งหมด วกเข้าเรื่องเล่นแบบเด็กๆตามเดิม

“ก็นี่ไง เล่นขายข้าวขายแกง”

เลิศล้ำจัดแจงเอาหม้อข้าวหม้อแกงและภาชนะครัวเรือนอื่นๆ ซึ่งทำด้วยดินเผาย่อส่วนใช้เป็นของเล่นเด็กออกจากที่เก็บ แล้วพาหวานลงมายังข้างล่างเรือน นั่งเล่นกันที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้บันไดขึ้นลง

“วันนี้เราอย่าเล่นบนเรือนเลย นั่งตรงใต้ต้นโพธิ์นี่แหละ ขืนเล่นบนเรือนแล้วทำสกปรกเหมือนวันก่อน จะโดนดุเอา” เลิศล้ำพูดขณะจัดแจงวางหม้อข้าวหม้อแกงของเล่นลงบนพื้นดิน

“วันนี้ต้องให้ฉันเล่นเป็นแม่ค้านะ ส่วนล้ำเป็นคนซื้อ เพราะวันก่อนล้ำเล่นเป็นแม่ค้าไปแล้ว” หวานให้ความเห็น วันนี้หวานอยากเล่นเป็นแม่ค้า

“เป็นพ่อค้าสิ ไม่ใช่แม่ค้า”

“ไม่เอา ฉันจะเป็นแม่ค้า”

“ไม่ได้ หวานเป็นผู้ชาย หวานต้องเล่นเป็นพ่อค้า”

“ก็สมมุติเอาสิว่าฉันเป็นแม่ค้า”

“สมมุติอีกแล้วนะหวาน” เลิศล้ำเริ่มรู้สึกไม่ค่อยพอใจ

“ถ้าไม่ให้เล่นเป็นแม่ค้า ฉันก็จะไม่เล่น ฉันจะกลับบ้านล่ะ” หวานทำทีงอน เพราะเห็นว่าที่ผ่านมาวิธีนี้ใช้ได้ผล

“เอาๆยังงั้นก็ได้ เป็นแม่ค้าก็แม่ค้า” เลิศล้ำยอมอ่อนข้อให้ เพราะกลัวหวานจะโกรธและกลับบ้านไปจริงๆ แล้วที่สุดเลิศล้ำจะไม่มีเพื่อนเล่น

เด็กชายและเด็กหญิงนั่งเล่นหม้อข้าวหม้อแกง ทำทีมีคนซื้อมีคนขาย ภาพบริสุทธิ์ใสๆดำเนินอยู่ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ข้างบันไดทางขึ้นเรือน ความสัมพันธ์แบบนี้มีมาเนิ่นนานแล้ว นับแต่ทั้งคู่เริ่มจำความได้ ทุกวันหลังกลับจากโรงเรียน หวานจะวิ่งมาหาเลิศล้ำที่เรือน และจากนั้นจะพากันออกมาวิ่งเล่นหัวตามประสาเด็กๆอยู่เป็นนิตย์ เหมือนคือความคุ้นชินที่หวานขาดเลิศล้ำไม่ได้เสียแล้ว เพราะยิ่งวันเวลาที่โรงเรียนผ่านเข้าสู่ชีวิตน้อยๆมากขึ้นเท่าไหร่ หวานก็รู้สึกว่าตัวเองต้องการได้เลิศล้ำเป็นเพื่อนเล่นมากขึ้นเท่านั้น หัวจิตหัวใจของหวานไม่ยอมรับไม่ยอมปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนๆที่โรงเรียนเอาเสียเลย

 
 

จากคุณ : the last woman
เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 54 16:52:59




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com