ชีวิตวันแรกในโรงเรียนผ่านพ้นพร้อมกับรอยจารึกใหม่ที่เกิดขึ้นในสำนึก เรื่องราววันนี้ทำให้หวานทั้งเกลียดและกลัวคุณชายฉัตรกับไอ้เล้งอย่างจับใจ มันทำให้รู้สึกว่าความแข็งกระด้างของเด็กผู้ชายส่วนใหญ่เป็นสิ่งไม่น่าพิสมัย เมื่อกลับมาถึงบ้านในตอนเย็น หลังเก็บข้าวของเข้าที่เสร็จเรียบร้อย หวานรีบลงจากเรือนของตนวิ่งไปหาเลิศล้ำ เพื่อหยอกล้อเล่นหัวกันอีกตามเคย เลิศล้ำเข้าเรียนหนังสือแล้วพร้อมกับหวาน เพียงแต่อยู่กันคนละโรงเรียน พ่อและแม่พาเลิศล้ำไปสมัครเข้าเรียนที่โรงเรียนสตรีจุลนาค ซึ่งแม้จะอยู่ห่างจากบ้านพอควร แต่ทั้งพ่อและแม่ต่างพร้อมใจกันเห็นดีเห็นงาม ด้วยเห็นว่าเป็นโรงเรียนที่เปี่ยมคุณภาพ และพ่อเองก็รู้จักมักคุ้นครูบางคนที่โรงเรียนนี้เป็นการส่วนตัว เป็นไงบ้างหวาน ไปเรียนหนังสือวันแรกสนุกไหม เลิศล้ำถาม เมื่อเห็นหวานวิ่งขึ้นมาบนเรือน ไม่เห็นสนุกเลยล้ำ อ้าว ทำไมล่ะ อยู่โรงเรียนน่าจะมีเพื่อนเยอะแยะ แต่พวกเขาไม่เห็นใจดีเหมือนเธอเลย ฉันไม่ชอบหรอกมีแต่พวกนักเลง หวานระบายความรู้สึกออกมา ตามความชิงชังในหัวใจ นักเลง เลิศล้ำทำสีหน้างุนงงใส่ ใช่ พวกมันรังแกฉัน พวกมันแกล้งฉัน พอนึกถึงหน้าคุณชายฉัตรกับไอ้เล้ง หวานยิ่งรู้สึกเกลียดกลัวขึ้นเป็นทวี ถ้ายังงั้นหวานก็ต้องสู้พวกมันให้ได้ หวานต้องไม่กลัวพวกมัน หวานต้องเข้มแข็ง เพราะหวานเป็นผู้ชาย เลิศล้ำให้ความเห็นตามความคิดของสมองน้อยๆ ไม่เอาหรอก ไม่สู้ น้ำเสียงของหวานแผ่วเบาลง หวานคงเป็นเด็กผู้ชายที่อ่อนแอเกินไป อ่อนแอเกินกว่าที่จะต่อสู้ชกตีกับใครอย่างไม่หวั่นเกรง หวานไม่เคยรู้จักและเรียนรู้ชีวิตแบบนี้มาก่อน หวานไม่รู้ดอกว่าโลกของผู้ชายคือความเข้มแข็งกล้าหาญ คือการรู้จักปกป้องและเป็นผู้นำ ตลอดวันคืนที่ผ่านเด็กชายหวานเรียนรู้จักเพียงแค่ว่า ความอ่อนนุ่มเบาบางของผู้หญิงอย่างแม่และเลิศล้ำ เป็นสิ่งน่าสัมผัสชื่นชม เพราะคือบางเบาละมุนไม่มีพิษร้าย เป็นสิ่งสุขล้นทุกครายามชิดใกล้ ลึกเร้นไม่รู้ตัว หวานอยากได้มาเป็นแบบอย่างของชีวิต วันนี้เราจะเล่นอะไรกันดีล่ะ ล้ำ หวานลบลืมเรื่องราวทั้งหมด วกเข้าเรื่องเล่นแบบเด็กๆตามเดิม ก็นี่ไง เล่นขายข้าวขายแกง เลิศล้ำจัดแจงเอาหม้อข้าวหม้อแกงและภาชนะครัวเรือนอื่นๆ ซึ่งทำด้วยดินเผาย่อส่วนใช้เป็นของเล่นเด็กออกจากที่เก็บ แล้วพาหวานลงมายังข้างล่างเรือน นั่งเล่นกันที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้บันไดขึ้นลง วันนี้เราอย่าเล่นบนเรือนเลย นั่งตรงใต้ต้นโพธิ์นี่แหละ ขืนเล่นบนเรือนแล้วทำสกปรกเหมือนวันก่อน จะโดนดุเอา เลิศล้ำพูดขณะจัดแจงวางหม้อข้าวหม้อแกงของเล่นลงบนพื้นดิน วันนี้ต้องให้ฉันเล่นเป็นแม่ค้านะ ส่วนล้ำเป็นคนซื้อ เพราะวันก่อนล้ำเล่นเป็นแม่ค้าไปแล้ว หวานให้ความเห็น วันนี้หวานอยากเล่นเป็นแม่ค้า เป็นพ่อค้าสิ ไม่ใช่แม่ค้า ไม่เอา ฉันจะเป็นแม่ค้า ไม่ได้ หวานเป็นผู้ชาย หวานต้องเล่นเป็นพ่อค้า ก็สมมุติเอาสิว่าฉันเป็นแม่ค้า สมมุติอีกแล้วนะหวาน เลิศล้ำเริ่มรู้สึกไม่ค่อยพอใจ ถ้าไม่ให้เล่นเป็นแม่ค้า ฉันก็จะไม่เล่น ฉันจะกลับบ้านล่ะ หวานทำทีงอน เพราะเห็นว่าที่ผ่านมาวิธีนี้ใช้ได้ผล เอาๆยังงั้นก็ได้ เป็นแม่ค้าก็แม่ค้า เลิศล้ำยอมอ่อนข้อให้ เพราะกลัวหวานจะโกรธและกลับบ้านไปจริงๆ แล้วที่สุดเลิศล้ำจะไม่มีเพื่อนเล่น เด็กชายและเด็กหญิงนั่งเล่นหม้อข้าวหม้อแกง ทำทีมีคนซื้อมีคนขาย ภาพบริสุทธิ์ใสๆดำเนินอยู่ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ข้างบันไดทางขึ้นเรือน ความสัมพันธ์แบบนี้มีมาเนิ่นนานแล้ว นับแต่ทั้งคู่เริ่มจำความได้ ทุกวันหลังกลับจากโรงเรียน หวานจะวิ่งมาหาเลิศล้ำที่เรือน และจากนั้นจะพากันออกมาวิ่งเล่นหัวตามประสาเด็กๆอยู่เป็นนิตย์ เหมือนคือความคุ้นชินที่หวานขาดเลิศล้ำไม่ได้เสียแล้ว เพราะยิ่งวันเวลาที่โรงเรียนผ่านเข้าสู่ชีวิตน้อยๆมากขึ้นเท่าไหร่ หวานก็รู้สึกว่าตัวเองต้องการได้เลิศล้ำเป็นเพื่อนเล่นมากขึ้นเท่านั้น หัวจิตหัวใจของหวานไม่ยอมรับไม่ยอมปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนๆที่โรงเรียนเอาเสียเลย
จากคุณ |
:
the last woman
|
เขียนเมื่อ |
:
19 พ.ค. 54 16:52:59
|
|
|
|