14/1
แม่! พี่โต้งมาแล้ว แม่...
รู้แล้วโว้ย เอ็งอย่าทำตัวมีพิรุธซีวะ พี่แกโง่เสียที่ไหน เดี๋ยวก็อดได้เงินกันพอดี มารดาเอ็ดก่อนล้มตัวนอนบนฟูก
การล้มหมอนนอนเสื่อครั้งนี้เป็นแผนการของนางที่ต้องการเรียกร้องความสนใจจากบุตรชายคนโต ไอ้ลูกบังเกิดเกล้ามันไม่ยอมส่งเสียแม่และน้องของมันจริงๆ ตามที่เคยลั่นวาจาไว้เมื่อครั้งมีปากเสียงกันล่าสุด และเธอก็โกรธเคืองมันเสียจนประชดด้วยการนำบ้านไปจำนองมาเป็นค่าใช้จ่ายในบ้าน แล้วนำไปต่อทุนจากวงไพ่ด้วยเช่นกัน
หากหนี้กลับยิ่งบานเบอะ กระทั่งธนาคารเตรียมยึดบ้านหลังนี้แล้ว นางจึงได้ข่มความโกรธเกรี้ยวที่แปรเปลี่ยนไปเป็นเกลียดชังลูกชายคนโต โทรศัพท์ไปอ้อนวอนขอความเห็นใจว่าตนไม่สบาย
พิรุณมองเลยน้องชายวัยหัวเลี้ยวหัวต่อซึ่งออกมาต้อนรับผ่านเข้าไปในบ้าน ภายในบ้านเดี่ยวชั้นเดียวคลุ้งด้วยฝุ่นผง ข้าวของวางระเกะระกะเต็มบ้าน บ่งบอกถึงการดูแลเอาใจใส่อันขาดตกบกพร่อง เขาลอบถอนใจเหนื่อยหน่าย แม่ไม่เคยให้ความรู้สึกถึงความเป็น แม่ เลยตั้งแต่เขาจำความได้
หายไปไหนกันหมด เขาถามเข้มงวดเอากับน้องชายคนเล็ก
แม่ไม่สบาย นอนอยู่ในห้องฮะ พี่ตามกับพี่ต่อไปทำงาน นานๆ จะกลับมาสักที
พี่แกมันทำงานอะไร
พี่คนไหนฮะ
บ๊ะ! ก็ทั้งสองคนซีวะ พี่ชายชักรำคาญเต็มแก่
เออนะ หมอนี่คงได้เชื้อกวนประสาทจากนายต่อมามากทีเดียว
พี่ตามทำงานกับบริษัทของเพื่อนฮะ แต่ไม่ค่อยกลับบ้านหรอก เห็นว่าเช่าหอพักใกล้ๆ ที่ทำงาน ส่วนพี่ต่อไปทำงานอยู่กับอู่รถที่ต่างจังหวัด
พี่ชายคนโตสะท้อนใจ รู้สึกเหมือนน้องทั้งสองจงใจหลบหน้า หลีกทางให้เขา ทว่าพันตรีพิรุณรีบปัดความคิดทำร้ายจิตใจตัวเองออกเสีย บอกตัวเองว่าสมควรแล้วที่เขาควรได้รับความสะดวกสบายทั้งทางกายและใจจากคนในบ้าน ในเมื่อเขาเป็นผู้หาเลี้ยงทุกคนมาแต่ไหนแต่ไร
เสียงไอโขลกดังออกมาจากห้องหนึ่งขัดจังหวะบทสนทนาระหว่างบุตรชาย นางระแวงว่าลูกชายคนเล็กจะเผยความลับออกไปประสาคนช่างเจรจา สักพักร่างสูงสง่าในเครื่องแบบทหารก็ก้าวเข้ามา
พิรุณทรุดนั่งข้างเตียงมารดา พิศมองใบหน้าซีดเซียวอย่างจับผิด
ไอ้เต๋ามันบอกว่าแม่ไม่สบาย เป็นอะไรล่ะ
ปวดท้อง สตรีสูงวัยแสร้งบีบเสียงแหบโหย
แล้วไปหาหมอหรือยัง
ไปแล้ว หมอบอกว่าเป็นโรคกระเพาะ
แม่ไม่ค่อยได้กินข้าวน่ะฮะ แม่ต้องเก็บเงินส่งเต๋าเรียน ไหนจะต้องผ่อนบ้านอีก เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นตามคิว
ผ่อนบ้าน... บ้านอะไร พิรุณหันขวับมองน้องชาย
โอย... หญิงชราแสร้งครวญครางเรียกความเห็นใจ
เออหนอ ทำไมเธอจะต้องเกรงกลัวไอ้ลูกคนนี้ด้วยก็สุดรู้ และนับวันก็แปรเปลี่ยนไปเป็นความเกลียดชังจับใจ
แต่เดิมมันเคยยื่นคำขาดห้ามนางมีสามีใหม่หลังพ่อไอ้ต่อไอ้เต๋าสิ้นลม แลกกับการส่งเงินให้ใช้ทุกเดือนยังพอรับได้ ทว่าเมื่อเธอหันไปหาความสุขใส่ตัวด้วยการไปพบปะเพื่อนฝูงตามบ่อนบ้างบางครั้งบางคราวกลับถูกสั่งห้ามอีก ผู้เป็นมารดาคิดว่ามันก้าวก่ายสิทธิ์กันเกินไป
เธอเป็นแม่นะ ไม่ใช่นางรับใช้ที่ต้องอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน รอปรนนิบัติเมื่อมันกลับมา ดังนั้น นางจึงเลือกเวลาหาความสุขในช่วงที่บุตรชายออกไปทำงาน
แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 54 12:09:22
จากคุณ |
:
ภาพิมล (thezircon)
|
เขียนเมื่อ |
:
20 พ.ค. 54 12:08:23
|
|
|
|