บทที่ 2
เหลือเวลาอีกประมาณสี่ห้าวันกว่าที่เราจะได้ไปค่าย ทุกคนกำลังเตรียมข้าวของกัน
วุ่นวายทั้งอุปกรณ์ทำครัว และอื่นๆที่จำเป็น ซึ่งฉันมีหน้าที่ต้องเก็บเงินแล้วตรวจเช็ค
สมาชิกที่จะไปเข้าร่วมค่ายของเรา โดยที่วันนี้เป็นวันที่คัดเอาท์ของชมรมตั้งเด่นสง่า
อยู่หน้าโรงอาหารมาเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์แล้วพร้อมเบอร์โทรศัพท์ติดต่อสอบถาม แต่
ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเป็นอย่างไรกันแน่ เวลาฉันเดินผ่านก็ได้แต่มองอยู่อย่างนั้นบ้างว่า
ใครจะเกิดความคิดอยากไปอย่างเราบ้าง
“ให้ตายเถอะ” ฉันมองแล้วถอนหายใจก่อนจะเดินข้ามถนนไปยังหอพักภายใน
เขตมหาวิทยาลัย เพราะฉันตั้งใจว่าวันนี้หนังสือในมือของฉันต้องถึงมือของคนที่อยู่หอ
พักแห่งนี้แน่นอน
“ขอโทษนะคะ” ฉันยิ้มแล้วถามคนที่อยู่ภายในห้องกระจก
“เอาของมาฝากให้เนพี่ชั้นน่ะค่ะ”
“เขียนชื่อแล้ววางไว้เลยครับ” ฉันทำตามที่เขาบอกพร้อมกับแนบการ์ดเล็กๆไว้ที่หน้า
ปกเพราะหวังว่ายังไงเนก็คงจะได้อ่านหนังสือเหมือนกับฉันบ้าง
ถึงเน… เราไม่ได้ซื้อหนังสือมาฝาก แต่เราเอาหนังสือมาฝากให้อ่าน หวังว่าน่าจะโอเคนะ ปล.ไม่ต้องรีบคืน
^-^… นิล ฉันเขียนข้อความถึงเนอย่างนั้นทั้งที่จริงๆแล้วอยากจะเขียนให้ยาวกว่านี้ เผื่อว่า
คนที่อ่านจะได้มีความรู้สึกดีๆมากกว่านี้บ้างแม้สักนิดนึง แม้รู้ว่าเป็นเรื่องยากกว่าเราจะ
ได้พบกันอีก แม้รู้ว่าเวลาของแต่ละคนในแต่ละวันมันไม่เคยเท่ากันเลยก็ตาม
ชายหนุ่มรีบเร่งเลี้ยวรถมอเตอร์ไซต์ไปบนทางเดินที่คดเคี้ยวเพื่อที่จะเช้าสู่หอพัก เขา
จอดรถแล้วรีบสาวเท้าเข้าประตู ในใจก็มัวคิดแต่เพียงว่าเหลือเวลาอีกเท่าไหร่ก่อนที่
เค้าจะเดินทางออกจากที่นี่ในคืนนี้ แล้วจะต้องทำอะไรบ้าง เมื่อกลับมาจะต้องทำ
อะไรต่ออีก เขาคงไม่มีเวลามากมายเท่าไรแม้แต่จะนอนงีบสักพักก็คงจะทำไม่ได้
เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงก็ใกล้จะเดินทางแล้ว เขาต้องรีบจัดกระเป๋า เค้ายังต้องเตรียม
เอกสาร เสื้อผ้า แล้วยังต้องไปสะสางธุระก่อนออกหอพักอีกทำไมชีวิตช่างวุ่นวาย
เหลือเกิน ถึงแม้ในตอนแรกที่เค้าเข้ามาทำงานเขาอาจมีจุดประสงค์บางอย่าง แต่
ตอนนี้เขาตัวคนเดียวไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับใคร ก็มีความสุขดีกับงานที่ทำถึงแม้ว่าจะถอน
ตัวไม่ขึ้นแล้วก็ตาม
เขามองนาฬิกาอีกครั้ง อย่าพึ่งเร่งรีบเลย ขอเวลาให้พักผ่อนบ้าง แล้วทิ้งตัวลงนอนบน
เตียง เอามือก่ายหน้าผาก ไม่ไอยากไปไหน ไม่อยากทำอะไร เหนื่อยเหลือเกิน แต่
ทำอย่างไรเล่าก็เรามันคนทำงานหยุดพักไม่ได้ ต้องยอมรับว่ามันเป็นความสุขอย่าง
หนึ่งที่กำลังผ่านเข้ามาซึ่งต้องแลกด้วยเวลาส่วนตัวที่ค่อยๆหมดไปโดยสิ้นเชิง เดิน
ทางเวลา 4 ทุ่ม
ตอนนี้พึ่งจะสองทุ่ม เขาน่าจะเปิดคอมพิวเตอร์สักหน่อยทิ้งข้อความไว้สักเล็กน้อย
ก่อนที่จะออกเดินทางและยังไม่กลับมาอีกหลายวัน อยู่ดีๆเพื่อนๆใหม่จากการไปค่าย
ทักเข้ามาพวกเขาว่าพึ่งขี่รถมอเตอร์ไซร์เป็นแก๊งไปเที่ยวกว๊านพะเยา เสียดายทำไม
เราไม่ได้ไป แล้วตอนนี้กำลังกินข้าวกันอยู่ หลายคน คงจะสนุกสนานกันน่าดูเพราะอยู่
กันเยอะแยะมากมาย เขาตอบกลับไปว่าโอกาสหน้ามีแน่นอน แต่ตอนไหนล่ะเขาคิด
ในใจ ยังไงก็ต้องมีบ้าง เพื่อนๆพวกนี้ลั้ลลากันดีจริงๆไว้ถ้าเราว่างเมื่อไหร่เราจะไปแน่
นอน
เขาละสายตาจากคอมพิวเตอร์เพราะเสียงโทรศัพท์โทรเข้ามา จริงหรือนี่ เขาคิด
ปลายสายบอกว่า เลื่อนเวลาเดินทางเป็น 7 โมงเช้าวันรุ่งขึ้น แต่เขาก็คงไม่ออกไป
ไหนแล้ว อย่างมากก็คงแค่เดินลงไปซื้อข้าวที่หน้าโรงอาหารไม่ต้องถึงกับออกไปข้าง
นอกหรอกมั้ง เขานั่งอยู่สักพัก นี่ดึกมากแล้วเราน่าจะนอนพักผ่อนพรุ่งนี้ต้องรีบเดิน
ทางแต่เช้า
เขาตื่นมาในตอนเช้าด้วยเสียงนาฬิกาปลุกเดี๋ยวคงมีคนโทรมาตามถ้าไปสาย
เขาเตรียมของเสร็จเรียบร้อยพร้อมออกเดินทางวิ่งช้าๆลงจากบันไดไม่เร่งรีบเท่าไหร่
เพราะยังไงก็ต้องไปรออยู่ดี ห้องอำนวยการเปิดแล้วเพราะต้องเปิดประตูแต่เช้า
“เน เน ไปไหนแต่จ๊าว” เสียงคนในห้องกระจกงัวเงียตื่นมาทักทายก่อนออกจากประตู
หอพัก
“อ่า ….เอ็มลงไปกรุงเทพน่ะ งานที่สโมนั่นแหละ”
“เออ ๆ ตะวานเปิ้นเอาของมาฝากฮื้ออ่ะ”
เน ทำหน้าสงสัย ใครนะมาฝากของให้ไม่น่าจะมี
“ แม่หญิงเปิ้นเอาหนังสือมาฮื้อ ประเดวนี้มีสงมีสาวนะบ่าเน”
“ก็นั่นน่ะก่ะเอ็ม ไหนขอดูหน่อยเลาะ”
ชายหนุ่มหยิบหนังสือมา เปิดดูข้างในไม่มีการ์ดไม่มีอะไรเลยนี่ อ้าวกระดาษแผ่น
เล็กๆร่วงลงพื้น เขาเก็บขึ้นมาสงสัยว่าคนเอามาฝากจะติดกาวไม่ดี เขาอ่านข้อความ
แล้วยิ้มน้อยๆด้วยความประหลาดใจ แปลกจริงๆหนังสือนี่ไม่ค่อยมีใครเคยเอามาฝาก
เท่าไหร่ ว่าแต่เขาจะมีเวลาอ่านไหมนี่ งานก็เยอะฝากไว้ก่อนก็ได้กลับมาค่อยมาอ่าน
แต่ชื่อเรื่องก็น่าสนใจดีเอาไปอ่านรอตอนนี้เลยก็ได้ แต่ถ้าอ่านจบเร็วก็ต้องรีบคืน
ปล.ไม่ต้องรีบคืน งั้นเอาไว้ก่อนแล้วกันเอาไปก็อาจจะหนักเปล่าๆแล้วจะเสียดายรู้สึก
ผิดด้วยสิ ทำไงดี เดี๋ยวจะหายลืมเสียสนิท
“ขอบใจนะเอ็ม”
“เออ เดินทางดีๆนะโชคดี”
“แล้วจะปิ๊กแหมเมื่อใด เน”
“ไปจั๊ด 2-3 วันก็ปิ๊กแล้ว เออไปก่อนเน้อฝากดูทางนี้โตย”
เค้ารีบเก็บหนังสือใส่กระเป๋ายังไม่ได้กินข้าวเลยรีบไปดีกว่า เค้าวิ่งไปที่รถแล้วขี่
ออกไป อย่างน้อยมีอะไรรองท้องสักหน่อยก็ยังดี เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อยง่วงมากยัง
ไงขึ้นรถแล้วขอหลับยาวเลยก็แล้วกัน
ง่วงมากนนอนดึก
ไม่ว่างไม่มีเวลา
ไปถึงก็เหนื่อย
ไปถึงก็ต้องทำงาน
งานรอยู่ๆ
ไปถึงก็ต้องอ่าน………เฮ้อออออ
แล้วเค้าก็หลับไปพร้อมๆกับความคิดเหล่านี้ทันทีที่ขึ้นรถ
แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 54 16:06:20
จากคุณ |
:
ยัยกบเขียว
|
เขียนเมื่อ |
:
20 พ.ค. 54 18:55:25
|
|
|
|