(ต่อ)
วันวิสาข์หัวใจกระตุกวูบแปลกๆ กับคำกล่าวของเพื่อนชาย ตะกอนบางอย่างฟุ้งกระจายขึ้นมาในใจ ความหวาดกลัวเล็กๆ วิ่งพล่าน ความเศร้าเสียใจคละเคล้าเต็มไปหมด ความรู้สึกนี้ มันคือ อะไรกันแน่!
รถอยู่ทางนี้ รีบไปกันเถอะ มัวแต่คุยกันอยู่ได้ เสียงประชดประชันของเป็นหนึ่งดังแทรกเข้ามาระงับความฟุ้งซ่านในจิต หญิงสาวกะพริบตาขับไล่ความวิตกที่อยู่ในใจ มองเป็นหนึ่งที่เดินนำไปยังลานจอดรถ เอมอรเข้ามาดึงมือเธอให้ตามไปติดๆ ทิ้งธนบัตรให้เดินรั้งท้ายอย่างไม่เต็มใจนัก
เมื่อมาถึงรถเอมอรรีบเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับผลักวันวิสาข์ให้เข้าไป ส่วนตัวเองรีบขึ้นไปนั่งด้านหลัง ธนบัตรที่เดินตามมาจึงจำใจนั่งคู่กับเอมอรอย่างลีกเลี่ยงไม่ได้
บ้านคุณแบงค์อยู่แถวไหนครับ ผมจะไปส่งคุณก่อน เป็นหนึ่งเอ่ยขึ้นทันทีหลังออกรถ เมื่อได้ฟังคำตอบก็ยิ่งยิ้มอย่างพอใจ เพราะบ้านของธนบัตรอยู่คนละทาง แต่คอนโดมิเนียมของวันวิสาข์เป็นทางผ่านกลับบ้านเขาพอดี อะไรมันจะโชคดีขนาดนี้
คุณเป็นหนึ่งไปส่งวันก่อนก็ได้ครับ แล้วค่อยไปส่งผม หรือให้ผมลงที่คอนโดของวันก็ได้ ธนบัตรเสนอเพราะไม่อยากปล่อยเพื่อนไปกับสองพี่น้อง เขาอยากตามไปปกป้องคุ้มครอง ดูแลวันวิสาข์
ไม่เป็นไรครับ พอดีบ้านของผมก็อยู่ไม่ไกลกับคอนโดวันนัก ต้องขับผ่านอยู่แล้ว สะดวกมาก ผมไปส่งคุณแบงค์ก่อนดีกว่า คนขับตอบกลับยิ้มๆ พึงพอใจที่ครั้งนี้เป็นโอกาสดีของเขาบ้าง ...
เมื่อสิ้นเสียงสนทนาของชายทั้งคู่ทั้งรถเงียบกริบ ภายในรถเต็มไปด้วยบรรยากาศอึดอัด วันวิสาข์หมกมุ่นกับความรู้สึกแปลกๆ ในใจ ที่เธอแยกไม่ออก บอกไม่ถูก ว่ามันเกิดจากอะไร และมันคืออะไร เธอแอบชำเลืองมองด้านข้างของเป็นหนึ่ง จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากได้รูป เงาหน้าในความมืดไม่ได้ดูน่ากลัวแต่ ดูน่าหลงใหล...
เป็นหนึ่งรู้สึกได้ว่าวันวิสาข์แอบหันมามอง เขาพอใจที่ได้เป็นจุดสนใจของเธอ เขาจะหาทางสกัดธนบัตรออกไปจากชีวิตของวันวิสาข์ให้ได้ เขาต้องได้หัวใจของเธอมาครอง หนุ่มหล่อนิสัยดีอย่างเขา คงไม่ยาก! ที่เธอจะใจอ่อน
เอมอรหลังจากช่วยพี่ชายเต็มความสามารถ เริ่มออกอาการเกียจคร้าน ร่างงามพิงเบาะหลัง สายตาเหม่อมองไปนอกรถอย่างไม่สนใจอะไร ไม่สนใจแม้แต่คนที่นั่งข้างๆ
ส่วนธนบัตรได้แต่กัดฟันกรอดๆ อย่างเจ็บใจ ที่ผลสุดท้ายก็แพ้เป็นหนึ่ง เขาต้องคิดหาวิธีที่จะทำให้ความทรงจำของวันวิสาข์ฟื้นคืนมา เมื่อถึงวันนั้นหญิงสาวจะเป็นคนวิ่งหนีเป็นหนึ่งเอง เหมือนเช่นที่เคยเป็นมาในอดีต แล้วเขาจะหัวเราะ สมน้ำหน้า คนข้างหน้าให้หนำใจเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
วันต่อมาเป็นหนึ่งอาสามารอรับวันวิสาข์ที่คอนโดมิเนียมเพื่อไปส่งที่ทำงาน เขาอ้างว่าเป็นทางผ่านต้องไปส่งเอมอรที่ร้านสปาจึงแวะมารับหญิงสาวไปด้วยกัน ใบหน้ายิ้มๆ ของเป็นหนึ่งทำให้วันวิสาข์ใจอ่อน ยอมนั่งรถออกมากับเขาโดยดี อีกทั้งเอมอรก็ช่างพูดช่างคุยทำให้รู้สึกสนิทสนมคุ้นเคยกันอย่างรวดเร็ว
ตลอดทั้งวัน หากวันวิสาข์ไม่มีลูกค้ามานวดฝ่าเท้า เอมอรให้เธอมาอยู่ที่ห้องผู้จัดการ นั่งคุยกับเป็นหนึ่ง หรือ อ่านหนังสืออยู่เงียบๆ ขณะที่เป็นหนึ่งเปิดโน้ตบุ๊กทำงานอย่างสงบ
อาจเป็นเพราะโซฟาที่หนานุ่มจนเกินเหตุ หรือ เพราะเมื่อคืนมัวแต่ครุ่นคิดถึงความรู้สึกแปลกๆ ในใจจนนอนไม่หลับ ทำให้วันวิสาข์ที่เอนตัวพิงโซฟาเผลอตัวหลับไป เป็นหนึ่งที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานเงยหน้ามาเห็นก็ยิ้มอย่างเอ็นดู ร่างสูงเดินมาหยุดอยู่ข้างหลัง มองใบหน้ายามหลับของเธออย่างเคลิบเคลิ้ม แล้วเขาก็ก้มลงช้าๆ จนริมฝีปากอุ่นแตะสัมผัสกันแผ่วๆ วันวิสาข์เอียงหน้าหนีเหมือนรำคาญ ชายหนุ่มรีบยืดตัวขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนรีบเดินกลับไปนั่งที่เดิม
วันวิสาข์ลืมตาขึ้นช้าๆ อย่างงงงัน หลงลืมไปว่าตัวเองอยู่ที่ไหน สักพักก็จำได้ นิ้วเรียวสวยยกขึ้นมาจับริมฝีปาก ส่ายหน้าให้ตัวเองยิ้มๆ ที่แอบฝันกลางวันว่ามีคนมาจูบ เธอหันหน้าไปมองเป็นหนึ่งที่กำลังจดจ่อกับคอมพิวเตอร์อย่างระแวง ชายหนุ่มเงยหน้าส่งยิ้มน้อยๆ ให้ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้อย่างแนบเนียน และแกล้งยกมือขึ้นมาบีบนวดต้นคอและบ่าพร้อมทั้งเอียงคอไปทางซ้ายไปทางขวา
คุณเมื่อยคอเหรอคะ นั่งหน้าคอมนานๆ อาจปวดร้าวแถวนั้นได้ค่ะ สัญชาติญาณหมอนวดเริ่มออกเมื่อเห็นคนมีอาการปวดก็เริ่มอธิบาย พี่สุขก็มักเป็นอย่างนี้ค่ะ ฉันนวดให้ประจำ จนพี่สุขติดใจ ขนาดไปอยู่เมืองนอกยังส่งข้อความมาเสมอว่าคิดถึงฝีมือการนวดของฉัน
เป็นหนึ่งกำลังเดินมานั่งที่โซฟาข้างๆ วันวิสาข์ถึงกับชะงัก ใครครับคุณสุข? ท่าทางจะสนิทกับคุณวันมาก น้ำเสียงแม้เรียบสนิทแต่ในใจกับร้อนรุ่มสุดๆ
พี่ชายฉันเองค่ะ อายุน่าจะราวๆ คุณหนึ่ง เขาชอบให้ฉันนวดให้ วันวิสาข์เล่าถึงพี่ชายด้วยความคิดถึงเป็นหนึ่งหงุดหงิดไม่พอใจ หวงได้แม้กระทั่งพี่ชายของเธอ
วันช่วยดูให้ผมหน่อยสิ มันเคล็ดขัดยอกอย่างไรไม่รู้ ใครว่ามารยาหญิงมีหลายร้อยเล่มเกวียน มารยาชายคงมีหลายล้านเล่มเกวียนมากมายกว่าหลายเท่านัก
ฮั่นแน่! คุณจะหลอกให้ฉันนวดให้คุณใช่ไหมล่ะ ฉันรู้ทันหรอกน่า เสียงตอบกลับทันควันอย่างรู้ทันเกือบทำให้หนุ่มลูกครึ่งสะดุ้ง ทว่าเขายังคงมาดสุขุมกลบเกลื่อนเอาไว้ได้ หญิงสาวจับตาดูชายหนุ่มอย่างไม่ไว้วางใจแต่ไม่เห็นอากัปกิริยาต้องสงสัย ถึงกระนั้นเธอไม่มีทางหลวมตัวกับมุกตื้นๆ ง่ายๆ แค่นี้หรอก
ถ้าอย่างนั้นไม่ต้องก็ได้ครับ ปวดนิดปวดหน่อยเดี๋ยวก็หาย ผมไปทำงานต่อดีกว่า อีกฝ่ายทำเสียงเรียบๆ สุภาพพร้อมทั้งเตรียมลุกขึ้นจากโซฟากลับไปที่โต๊ะทำงาน แต่ถ้าสังเกตดีๆ สักนิด เขาเคลื่อนตัวช้ากว่าปกติเหมือนจะรอ
คอคุณเคล็ดจริงๆ หรือคะ เดี๋ยวฉันดูให้ก็ได้ คุณหันหลังมาสิ วันวิสาข์รีบบอกก่อนที่ชายหนุ่มจะลุกกลับไป ก็ใครจะคิดล่ะว่าเขาคอเคล็ดจริงๆ เธอไม่ได้เป็นคนแล้งน้ำใจสักหน่อย สุดท้ายหญิงสาวก็ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของเจ้าชายน้ำแข็งคนนี้จริงๆ
มือเล็กกดนวดไปตรงบ่าขวาที่เห็นชายหนุ่มจับอยู่เมื่อสักครู่ นวดไล่ขึ้นไปตามเส้นที่เชื่อมสู่คอ
ปวดตรงนี้หรือเปล่าคะ นิ้วหัวแม่มือกดลงด้วยแรงกำลังพอดีและค้างเอาไว้สักครู่
ครับ ตรงนั้นเลย ชายหนุ่มรีบบอกแต่กลัวว่าไม่น่าเชื่อถือจึงรีบให้ข้อมูลเพิ่มเติม ผมมักเป็นบ่อยๆ ตอนนั่งเขียนแบบนานๆ บางทีมันลามลงไปแขนด้วยครับ เขาก็ปวดแถวนั้นจริงๆ แต่ไม่เคยคิดจะใช้บริการนวดมาก่อนเลยในชีวิต แต่ต่อไปคงต้องใช้บริการบ่อยๆ แล้วล่ะ จะให้ดีเหมาจ่ายให้เป็นหมอนวดประจำตัวไปเลย
เหมือนพี่สุขเลยค่ะ พี่สุขก็มีอาการแบบนี้ เกิดจากคุณเกร็งแขน ยกไหล่มากเกินไป ต้องนั่งให้ถูกท่าค่ะ วันวิสาข์นวดไล่ไปที่เส้น เธอเริ่มชินกับเป็นหนึ่งแล้วสิ คุ้นเคยกับเขาเหมือนรู้จักกันมานาน
เป็นหนึ่งไม่ค่อยพอใจนักที่วันวิสาข์เอ่ยถึงวันสุขไม่ขาดปาก อยู่กับเขาต้องห้ามพูดถึงผู้ชายคนไหนทั้งนั้น แต่เขาได้แต่เก็บคำพูดเอาไว้ในใจไม่กล้าจะทำอะไร เพราะกลัวไก่จะตื่นไปเสียก่อน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พลอยชมพูแอบหนีกลับคอนโดมิเนียมโดยนั่งรถประจำทางมาจากบ้าน เมื่อขึ้นรถมาได้สักระยะจึงโทรศัพท์แจ้งคุณย่าไม่ให้เป็นห่วงแต่ถึงอย่างนั้นก็โดนบ่นเสียกระบุงโกย จนมาถึงกรุงเทพฯ คุณย่าถึงวางสายไป เมื่อมาถึงเอกมัยหญิงสาวขึ้นรถเมล์ปรับอากาศเพื่อจะไปหาวันวิสาข์ที่ห้างดัง เธอไม่ขึ้นรถไฟฟ้าเพราะเหลือเวลาอีกตั้งนานกว่าวันวิสาข์จะเลิกงาน ขี้เกียจไปเดินฆ่าเวลาในห้าง
แต่ทว่าด้วยความที่นอนไม่หลับมาหลายคืน ทำให้ยากเหลือเกินที่พลอยชมพูจะฝืนสังขารตัวเองเอาไว้ได้ หญิงสาวนั่งสัปหงก ศีรษะน้อยโงนไปเงนมาก่อนจะซบแหมะลงบนบ่าของคนนั่งติดกัน
หนุ่มเพลย์บอยอย่างเป็นเอกคงถึงคราวซวย เพราะวันนี้รถไฟชนกันขบวนเบ้อเร่อ ทั้งๆ ที่ชายหนุ่มอุตส่าห์พาสาวคนใหม่มากินอาหารไกลถึงห้างแถวบางนา ขณะกำลังจะควงสาวกลับบ้าน เดินออกมาใกล้จะถึงรถอยู่แล้ว กลับเจอสาวอีกคนยืนรออยู่ข้างรถเขา แถมยังโทรศัพท์เข้ามาเช็คพอดี
เขายังไม่ทันได้กดรับสาย สายตาหญิงสาวก็หันมาเจอเขาเข้าเสียก่อน สาวที่เหมือนลูกแมวน้อยกลายร่างเป็นเสือดุตรงเข้าประทุษร้ายเขาทันที แถมหญิงสาวทั้งคู่ดันเป็นเพื่อนก๊วนเดียวกันมาก่อน งานนี้ถ้าเขาไม่หนีก็คงต้องไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มแน่ หนุ่มลูกครึ่งตัดสินใจทิ้งรถเอาไว้ที่ห้างดัง วิ่งหนีออกมากระโดดขึ้นรถเมล์คันแรกที่จอดตรงนั้นทันที
เขานั่งเอ้อระเหยบนรถเมล์ไปจนสุดสาย จนรถเริ่มย้อนกลับเข้าสู่เมืองอีกครั้ง โทรศัพท์มือถือมีทั้งข้อความและสายเรียกเข้าจนสายแทบไหม้ เป็นเอกตัดสินใจปิดเครื่องหนีเสียดื้อๆ เห็นทีต้องเลิกกับทั้งคู่แล้วล่ะ ถ้ายังควงใครคนใดคนหนึ่งคงได้มีตบตีกันเป็นแน่ จากเพื่อนรักจะกลายเป็นเพื่อนแค้น เขาไม่ได้ตั้งใจนะ!
คนบนรถเริ่มขึ้นมาจนที่นั่งเต็ม มีคนยืนบ้างสองถึงสามคน แต่แล้วชายหนุ่มเริ่มรู้สึกว่ามีอะไรมาซบที่ไหล่ของเขา
อะฮ้า! คนมันหล่อ ขนาดขึ้นมาบนรถเมล์ยังมีผู้หญิงมาตามให้ท่า ถ้าไม่สนองเสียเชิงชายแน่ๆ
เป็นเอกคิดเข้าข้างตัวเองทันทีแล้วก้มลงมองผู้หญิงข้างๆ พลอยชมพูหลับตาพริ้ม เห็นขนตายาวหนาเป็นแพ แก้มใสๆ มีเลือดฝาดอย่างคนมีสุขภาพดี ปากสีแดงระเรื่อทาด้วยลิปสติกวาวๆ ยิ่งทำให้ดูอวบอิ่มจนน่า...
ชายหนุ่มยังไม่ทันได้จินตนาการไปไกลมากกว่านั้น รถเมล์ดันเบรกกะทันหัน ทำให้ศีรษะเล็กๆ ที่ซบอยู่กับซอกไหล่ของเขาเอนไปข้างหน้า เป็นเอกเอื้อมมือไปจับศีรษะของหญิงสาวเอาไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นมันคงโขลกกับพนักพิงของเบาะหน้าเป็นแน่ คนที่หลับขยับศีรษะเล็กน้อยเหมือนต้องการพิงให้ถนัดขึ้นก่อนจะนอนต่อไปโดยไม่สนใจว่าตอนนี้โลกจะถล่มแผ่นดินจะทลาย
ชายหนุ่มหรี่ตามองอย่างไม่อยากเชื่อ ว่ายัยหน้าหวานจะหลับลึกขนาดนี้ หลับเหมือนไม่ได้นอนมาหลายวัน หรือ หล่อนจะแกล้งแต๊ะอั๋งเขา เขายิ่งหล่อๆ อยู่ด้วย
เฮ้ย... น้ำลายไหลซึมใส่ไหล่เขาแน่ๆ เลย เพราะรู้สึกได้ถึงความเปียกชื้นที่ผิวหนัง
ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษสุดหัวใจ (จริงเหรอ) ทำให้เป็นเอกยอมให้น้ำลายเปรอะเปื้อนเสื้อตัวเก่ง โดยไม่ปลุกให้พลอยชมพูตื่นขึ้นมา เอาก็เอาวะ วันนี้ยอมลงทุนเป็นหมอนเกรดเอให้สาวนอนหนุนดูสักที
เพิ่งตกลงใจเลิกกับสาวสวยสองคน นี่เขาคิดจะจีบคนใหม่อีกแล้วหรือเนี่ย!
เสียงเรียกเข้าพร้อมสั่นของโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กในกระเป๋าสะพายใบย่อมบนตักทำให้พลอยชมพูสะดุ้งตื่นจากหลับลึก หญิงสาวขยับตัวนั่งหลังตรงยกหลังมือป้ายน้ำลายที่ไหลย้อยลงข้างแก้มพร้อมทั้งเหลือบตามองคนข้างๆ เมื่อเห็นว่าเป็นผู้ชาย พลอยชมพูก็ไม่ใส่ใจ ไม่แม้แต่จะเอ่ยขอบคุณที่เขาให้ไหล่อุ่นๆ หนุนต่างหมอน แถมยังหงุดหงิดตัวเองที่เผลอหลับและพิงคนข้างๆ มือน้อยควานเข้าไปในกระเป๋า หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสาย
คุณพ่อ พิงค์อยู่บนรถเมล์ค่ะ/ ก็พิงค์มีนัดกับวันเลยกลับก่อน/ พิงค์เห็นว่ารถยังไม่ว่างเลยกลับเอง/ ถ้าพ่อจะโทรมาแค่นี้ พิงค์วางสายนะคะ
เสียงพูดค่อนข้างแข็งช่างขัดกับใบหน้าที่หวานละมุน เป็นเอกเดาได้ไม่ยากว่าอีกฝ่ายต้องยังไม่มีแฟนเพราะหน้าตาถึงจะดูน่ารักแต่ท่าทางไม่รับแขกอย่างนี้คงยากที่จะมีคนมาจีบ พลอยชมพูกดวางโทรศัพท์พร้อมทั้งถอนหายใจ แล้วหันออกไปทางหน้าต่างเพื่อดูว่ารถวิ่งมาถึงที่ใดแล้ว สายตาสบกับเป็นเอกที่มองมาด้วยใบหน้ายิ้มแฉ่งแฝงแววกรุ้มกริ่มนิดๆ โดยเจ้าตัวพยายามทำสีหน้าท่าทางที่คิดว่าดูน่ารัก หรือ เท่ห์ที่สุด ซึ่งสาวน้อยสาวใหญ่ต่างตกหลุมเสน่ห์ทั้งนั้นเมื่อได้เห็น ฉะนั้นหญิงสาวคนนี้คงไม่ยกเว้น!
สวัสดีครับ คุณพิงค์ ผมชื่อเอก จะไปลงที่ไหนครับ เป็นเอกทำเสียงหล่อรีบชวนคุยตามประสาหนุ่มเจ้าชู้ ถนัดอยู่แล้วเรื่องตีซี้สาวๆ ขอให้บอกเถอะ ไม่พลาดแน่ๆ ...
พลอยชมพูมองเมินใบหน้าหล่อน่ารักไปอย่างรวดเร็วจนชายหนุ่มอดรู้สึกเสียศูนย์อย่างแรง ใบหน้าคมเจื่อนลงเล็กน้อย แต่เขาก็ยังไม่หมดความมั่นใจ แอบสงสัยว่าอีกฝ่ายอาจจะสายตาสั้นจึงไม่เห็นเสน่ห์อันเย้ายวนใจของเขา หากเจอปฏิบัติการตื๊อนิดสะกิดหน่อยเข้าไป ขี้คร้านจะตัวอ่อน ใจอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟ
คนมั่นใจในเสน่ห์ของตัวเองยังไม่ยอมรับความจริงว่าอีกฝ่ายเห็นเขาเหมือนเสาโทรเลขต้นหนึ่งเท่านั้น!
เมื่อเห็นว่าใกล้ถึงจุดหมายปลายทาง พลอยชมพูลุกขึ้นยืนกระชับกระเป๋าสะพายใบย่อมไว้ที่บ่า เดินไปที่ประตูเตรียมตัวลงจากรถ เป็นเอกลุกจากที่นั่งก้าวตามหลังไปติดๆ หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย ใจเต้นตึกตัก มือเท้าเริ่มเย็น หวาดระแวงคนข้างหลัง รถเบรกเพื่อจอดที่ป้าย พลอยชมพูไม่ทันระวังจึงเซไปปะทะกับอกกว้างของเป็นเอกที่รีบเข้ามาโอบประคองอย่างว่องไว มือหนาใหญ่โอบกอดเธอไว้หลวมๆ ก่อนจับไปที่ต้นแขนทั้งสองข้างเหมือนช่วยพยุงให้เธอยืน
เป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณพิงค์ เป็นเอกก้มกระซิบจากข้างหลังเฉียดแก้มใสไปนิดเดียวจนพลอยชมพูรู้สึกสะอิดสะเอียนอย่างบอกไม่ถูก เป็นเอกเห็นหน้าตาเบ้ๆ ของเธอก็ชักไม่มั่นใจในกลิ่นปากของตัวเองแต่เขาก็ฉวยโอกาสเลื่อนมือไปจับมือนุ่มนิ่มไว้ไม่ยอมปล่อยแม้หญิงสาวจะยืนได้อย่างมั่นคงแล้วก็ตาม พลอยชมพูกระชากมือออกจากการเกาะกุมอย่างไม่พอใจ หันไปจ้องหน้าเป็นเอกตาเขียวปัดก่อนจะสะบัดหน้าเชิดใส่ ใจเต้นระรัวด้วยความหวาดหวั่น เมื่อรถจอดสนิทหญิงสาวรีบก้าวลงแล้วเดินหนีเข้าห้างอย่างรวดเร็วโดยไม่เหลียวหลังเร่งฝีเท้าราวกับจะหนีกระทิงเปลี่ยว
ร่างสูงโปร่งหายใจหอบถี่แล้วพ่นลมออกมาอย่างโล่งอกเมื่อคิดว่าหนีเป็นเอกได้สำเร็จ แต่เมื่อหันไปมองข้างหลังอีกทีก็ถึงกับสะดุ้ง นายคนนั้นตามหลังเธอมาติดๆ ชนิดว่าหันหน้ากลับไปเกือบชนกับหน้าอกของเขาเต็มแรง
ว้าย! เฮ้ย!
++++++++++++++++++++++++++++++++
จบบท 2 ค่ะ
จากคุณ |
:
กัตตาเปอร์ชา (amlee)
|
เขียนเมื่อ |
:
23 พ.ค. 54 21:58:34
|
|
|
|