Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เกรียนเทพ ตอน โซดา กับ เสียงเพลงแห่งเกรียนเทพ ..... ติดต่อทีมงาน

""
                                                                                            ""



          กลิ่นหอมจางๆ จากร่างชายหนุ่มที่ตอนนี้นอนอยู่แนบข้างกายเธอ มือของเขาโอบกอดร่างเธอไว้ เธอจดจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นคลับคล้ายคลับคลา

เลือนๆเหมือนตกอยู่ในห้วงความฝัน เขาเป็นใคร ใบหน้าที่ไม่คุ้นเคย สัมผัสที่จดจำไม่ได้ ผ่านเรื่องราวในค่ำคืนอันยาวนานจวบจนตอนนี้ เธอเคลื่อนกาย

ช้าๆอย่างแผ่วเบาหนีออกจากมือที่โอบกอด ขึ้นมานั่งกอดเข่ามองใบหน้าชายหนุ่ม ที่กำลังหลับใหลอยู่บนเตียงตอนนี้ พยายามคิดทบทวนเรื่องราวที่

เกิดขึ้นอย่างช้าๆ


          เมื่อคืน หลังจากดื่ม เบียร์ heineken ขวดเล็กๆ ไปหลายขวด นั่งฟังเพลงอยู่เพียงลำพังในร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่ง ที่เพื่อนๆเธอเล่นดนตรี

ประจำอยู่ เสียงเพลงและแสงไฟช่วยทำให้บรรยากาศสนุกสนาน เธอเต้นรำโยกย้ายไปตามจังหวะดนตรีและแสงสี มีชายหนุ่มมากมายส่งยิ้มให้ และเต้น

รำอยู่รอบๆตัวเธอ แต่ไม่มีใครกล้าพอที่จะเข้ามาทักทายเธอ จนกระทั่งในที่สุดก็มีชายหนุ่มใจกล้า คนหนึ่ง เอ่ยคำทักทายขึ้นมาแข่งกับเสียงดนตรี


          “ สวัสดีครับ เต้นเก่งนะครับนี่ มาเที่ยวคนเดียวเหรอครับ ให้ผมเลี้ยงเบียร์นะครับ ”


          “ ผมชื่อต้น มาเที่ยวที่นี่บ่อย ไม่เคยเห็นหน้าเลย มาครั้งแรกเหรอครับ ชื่ออะไรครับ ” ชายหนุ่มท่าทางสุภาพเรียบร้อย ยื่นเบียร์ ในมือข้างหนึ่ง

ส่งให้เธอพร้อมรอยยิ้มและกล่าวคำทักทาย ชวนพูดคุย


          “ วงนี้เล่นเพลงสนุกดีนะครับ เห็นว่ากำลังจะได้ออกอัลบั้ม กับค่ายเพลงอินดี้ด้วย ”


         “ ค่ะ เล่นเก่งและตั้งใจกันทุกคนเลย ชื่อดาค่ะ มาครั้งแรก เพื่อนๆชวนมาดูพวกเขาแสดงสดกัน ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ”  เธอยิ้มและกล่าวทักทาย

ตอบพร้อมรับขวดเบียร์จากมือชายหนุ่ม มาถือไว้


          เสียงเพลงจบลง เตรียมจะเปลื่ยนขึ้นเพลงใหม่อย่างต่อเนื่อง ชายหนุ่มนักร้องนำถอดเสื้อที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อโยนทิ้ง ก่อนเริ่มบรรเลงบท

เพลงใหม่ด้วยเพลง “ closer ” ของ วง post- britpop ชื่อดัง “ travis ” เรียกเสียงกรี๊ด จากสาวๆในร้านได้เป็นอย่างดี


          “ เป็นเพื่อนกับวงที่เล่นอยู่ด้วยเหรอครับ ยอดไปเลย ว่าแต่ดื่มคนเดียวไม่เหงาแย่เหรอครับ ให้ผมนั่งคุยเป็นเพื่อนน่ะ ครับ ” ชายหนุ่มพูดขึ้น

โดยไม่รอคำตอบรับพร้อมเดินไปลากเก้าอี้ของเขามานั่งร่วมโต๊ะกับเธอ


          “ ค่ะ คบกันมาตั้งแต่เรียนมัธยม คนที่กำลังถอดเสื้อร้องเพลงอยู่ชื่อ แบงค์ บ้านอยู่ใกล้ๆกัน ชวนมาเที่ยวตั้งหลายครั้งแล้ว เพิ่งจะมีโอกาสได้มา

สักทีคะ ”  


          “ ร้านนี้บรรยากาศดีนะค่ะ ว่าแต่มานั่งตรงนี้เพื่อนๆไม่ว่าอะไรเหรอค่ะ เห็นมาด้วยกันตั้งหลายคนเลย ”  เธอนั่งลงจิบเบียร์ในมือ ก่อนหมุนขวด

เล่นวนไปมาบนโต๊ะ


          “ อ๋อ พวกเพื่อนๆที่ทำงานนะครับ บางคนผมยังจำชื่อไม่ได้เลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า นั่งที่นี่ยังจะดีกว่า คุยเรื่องงานกันซีเรียสครับ ”


         ผ่านไปหลายนาที หลายบทเพลง หลายรสชาติแอลกอฮอล์ ที่เข้าไปแทรกซึมอยู่ในร่างกาย การพูดคุยถึงเรื่องราวต่างๆ ท่ามกลางเสียงเพลงและ

แสงไฟ ความชิดใกล้ ช่วยสร้างความสนิทสนมให้เกิดขึ้นระหว่างชายหนุ่มและหญิงสาวได้อย่างรวดเร็ว ตอนนี้การพูดคุยของเขาและเธอดูผ่อนคลาย

และเป็นกันเองมากกว่าตอนเริ่มแรก จนบางครั้งเกือบดูเหมือนเป็นคู่รักกัน เสียงนักร้องบนเวที เอ่ยแนะนำบทเพลงที่พวกเขากำลังจะเล่นเป็นเพลงสุด

ท้าย พร้อมกล่าวคำล่ำลาในคราวเดียวกัน เกือบตีหนึ่งแล้ว ลูกค้าดูบางตาลง แต่ก็ยังมากพอดูอยู่ ลูกค้าบางโต๊ะร้องตะโกน “ เอาอีก เอาอีก ” เพราะยัง

ไม่อยากให้ค่ำคืนนี้จบสิ้นลง


         “ ออกไปสูดอากาศ ข้างนอกร้านกันไหมครับ ”  ชายหนุ่มเอ่ยปากชวนหญิงสาวที่ตอนนี้เริ่มมีอาการเมาเล็กๆ

         “ ดีเหมือนกันค่ะ คุยไปดื่มไปเพลินเลย เริ่มมึนๆนิดหน่อยแล้วด้วยสิ ” หญิงสาวพูดขึ้นพร้อมลุกขึ้นเดินนำหน้าชายหนุ่มออกไปนอกร้าน

         
         ท้องฟ้าค่ำคืนนี้เปิดให้ ดวงจันทร์ และดวงดาว ออกมาส่องแสงพร่างพราว เกลื่อนท้องฟ้า ดั่งภาพจิตรกรรมที่ถูกเสกสรรค์จากจิตรกรเทวดา สาย

ลมเย็นๆพัดผ่านร่างกาย ช่วยคลายพิษแอลกอฮอล์ ในร่างไปได้บ้างแต่สมองยังคงทำงานช้ากว่าปรกติ เธอแหงนหน้ามองท้องฟ้าสูดลมหายใจเข้า

ลึกๆ ก่อนปล่อยมันกลับออกมาเบาๆ เนิ่นนาน เมี่อลดสายตาลงมา มองเห็นกระจกหน้าต่างบานหนึ่งของห้องเช่าชั้นสามที่อยู่ตรงข้ามร้าน มีป้ายกระดาษ

แผ่นเล็กๆ แปะไว้พร้อมข้อความสั้นๆบนนั้นเขียนว่า “ ห้องว่างให้เช่า ”  พร้อมเบอร์โทรติดต่อ มีอะไรบางอย่างสะกิดใจเธอ ให้คิดไปว่าใครกันน่ะที่

จะมาเช่าอยู่ห้องนี้ เขาจะเป็นใครกัน เขาจะเป็นคนอย่างไร ก่อนที่ความคิดจะล่องลอยไปไกลกว่านั้น ชายหนุ่มเอื้อมมือมากุมมือเธอ พร้อมกล่าวคำชัก

ชวนเบาๆ


          “  ไปเดินเล่นกันไหมครับ ข้างๆร้านเขาทำเป็นสวนเล็กๆไว้ด้วย ”


          “ ค่ะ ” หญิงสาวยอมก้าวตามมือที่กุมไว้ไปอย่างเขินๆ


          “ มีเพื่อนเป็นนักดนตรีอย่างนี้ ดาเคยร้องเพลง หรือเล่นดนตรี อะไรหรือเปล่าครับ ”  ชายหนุ่มชวนคุยขณะก้าวเข้าไปในสวน


          “ ก็มีบ้างค่ะตอนเรียนมัธยม เคยร้องเพลงอยู่ในวง ก็วงของเพื่อนๆกลุ่มนี้แหละค่ะ ”


          “ อ้าวแล้วตอนนี้ยังร้องอยู่หรือเปล่าครับ ”


          “ เลิกร้องมานานแล้ว ค่ะ ตั้งแต่เข้ามหา’ลัย ก็ออกจากวงนี่ก็เกือบสองปีแล้วค่ะ”


          “ ทำไมเลิกละครับ ผมอยากฟังเสียงร้องของดาจัง ต้องเพราะแน่ๆเลย ” ชายหนุ่มพูดพร้อมหันไปมองหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้กำลังยิ้มเขินๆ คำ

พูดและท่าทางของเขา


          “ คงจะไม่ได้แล้วล่ะค่ะ ที่บ้านสั่งห้ามเด็ดขาด ถ้าดาร้องเพลงหรือรวมวงอีกครั้ง พวกเขาก็จะส่งดาไปอยู่กับคุณป้าที่อเมริกา ดาไม่อยากไปอยู่

เมืองนอกค่ะ แต่ดา ก็เคยมีความฝันน่ะค่ะว่าสักวันหนึ่ง ดา จะได้ร้องเพลงอยู่บนเวทีใหญ่ๆ มีคนตะโกนเรียกชื่อ ดา มีคนอยากฟังเพลงของดา ”  เธอพูด

พร้อมใบหน้าที่หม่นจางลงจากความผิดหวังจากสิ่งที่เธอเคยไฝ่ฝัน


           ชายหนุ่มบีบมือที่กุมไว้นั้นเบาๆ เหมือนจะกล่าวคำปลอบโยน แต่แล้วตัดสินใจเปลื่ยนเป็นก้มหน้าลงไปประทับรอยจูบหนึ่งเบาๆที่ริมฝีปากเธอ

แทน การเอ่ยถ้อยคำใดๆ นานเนิ่นนานที่เขาและเธอตกอยู่ในห้วงของความรักซึ่งกันและกัน

           

            .........................................................



            ชายหนุ่มที่นอนหลับอยู๋ตอนนี้เขาลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว พอเห็นใบหน้าที่กำลังใช้ความคิดของเธอ ก็ส่งยิ้มละไม พร้อมยื่นใบหน้าไปหอมที่หัว

ไหล่เปลือยเปล่าของเธอ จูบเธอที่แก้มเบาๆ พร้อมกล่าวคำทักทาย


             “ กำลังคิดอะไรอยู่เอ่ย ”


             “ ตื่นเร็วจังครับ  ยังเช้าอยู่เลย หิวไหมครับ เดี๋ยวผมทำอะไรร้อนๆให้ทาน ”


             “ คงจะไม่ได้แล้วค่ะ ดาต้องรีบกลับบ้านแล้ว ป่านนี้ที่บ้านคงเป็นห่วงวุ่นวายกันใหญ่โตแล้วแน่ๆ ”  เธอพูดพร้อมรีบร้อนหยิบเสื้อผ้าที่กระจัด

กระจายอยู่ข้างเตียงมาสวมใส่ จัดสภาพตัวเองให้ดูเรียบร้อย


             “ ห้องน้ำอยู่ไหนค่ะ ”


             “ เดี๋ยวให้ผมไปส่งบ้านน่ะครับ ห้องน้ำอยู่ซ้ายมือออกประตูไปก็มองเห็น ครับ ” ชายหนุ่มพูดขึ้นพร้อมลุกจากเตียงรีบหาเสื้อผ้ามาใส่เช่นกัน


             สักครู่หนึ่งชายหนุ่มเปิดประตูห้องนอนออกมาก็เห็นหญิงสาว ออกจากห้องไปแล้ว เขารีบวิ่งตามออกไปแต่ไม่ทัน หญิงสาวก้าวเข้าลิฟท์ที่กำลัง

เคลื่อนลงไปซะแล้ว เขากลับเข้ามาในห้องมองจากระเบียงลงไป เห็นเธอกำลังก้าวขึ้นรถแท็กซี่คันหนึ่ง มองขึ้นมาก่อนโบกมือล่ำลาให้ ชายหนุ่มมอง

ตามรถแท็กซี่ที่เคลื่อนออกไปอย่างโหยหา เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไรถึงจะได้มีโอกาสพบเธออีกครั้ง



                     ...................................................



             คฤหาสน์หลังใหญ่ ชานเมือง ความกว้างใหญ่ของมันเกือบเท่าๆ กับสนามฟุตบอลสองสนามรวมกัน ทำให้รู้สึกถึงความภูมิฐาน ฐานะความ

มั่งคั่ง ของเจ้าของ แต่ก็เพราะความใหญ่โตโอฬารของมัน อีกเช่นกันที่ทำให้รู้สึกถึงความห่างเหินของผู้อยู่อาศัย และความเปล่าเปลื่ยว เดียวดายของ

หญิงสาวที่กำลังกำลังก้าวเข้าไปในนั้นตอนนี้ ภายในห้องโถงรับแขกใหญ่ บนโซฟาหรูหรา ผู้หญิงวัยกลางคนที่แต่งแต้มใบหน้าจนเข้มจัด แทบมอง

อายุที่แท้จริงไม่ออก กำลังนั่งอ่านนิตยสารกอสซิฟไฮโซเล่มหนึ่งอยู่ พอเห็นหน้าเธอก็วางหนังสือลง แล้วกล่าวคำอย่างผู้วางอำนาจ


             “ หายหัวไปทั้งคืน กลับมาก็โทรมมาเชียวน่ะ ไปฟัดกับใครมาอีกล่ะย่ะเมื่อคืน ”


             “ คุณพี่รออยู่ จะคุยอะไรด้วย อยู่ในห้องทำงานแหน่ะ ทีนี้คงได้ถูกเฉดหัวไปอยู่อเมริกาจริงๆซ่ะที บ้านช่องมันจะได้สงบขึ้นมาบ้าง ”  พูดจบ

ก็สะบัดหน้า อ่านหนังสือต่อไป โดยไม่สนใจ สายตาเกลียดชังที่กำลังมองมาเหมือนอยากจะเข้าไปกระชากผมแล้ว ตบ ตบ ตบ แม่เลี้ยงวัยสามสิบ

ปลายๆ ของเธอ



              หญิงสาวเดินขึ้นบันไดกว้างยาวด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ขึ้นไปอาบน้ำเปลื่ยนเสื้อผ้าในห้องของเธอ ก่อนจะไปพบผู้เป็นบิดาอาการเหมือนนักโทษ

เดินเข้าสู่ลานประหาร ภายในห้องทำงานบรรยากาศเคร่งขรึม ตกแต่งด้วยวัตถุโบราณอันประเมินค่ามิได้และภาพจิตรกรรมฝาผนังโดยจิตรกรเลื่องชื่อ

ผู้ชายวัยใกล้เกษียนคนหนึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ธุรกิจ อยู่บนเก้าอี้บุเนื้อในอย่างดีส่วนภายนอกห่อหุ้มด้วยหนังสีดำมันวาวพนักพิงทรงสูง เมื่อได้ยิน

เสียงเคาะประตูก็วางหนังสือพิมพ์ลง แล้วบอกกล่าวให้คนที่อยู่หลังประตูเข้ามาได้



              “ คุณนา บอกป๊าว่าแกไม่ได้กลับบ้านอีกแล้วเมื่อคืน เธอบอกว่ามีคนเห็นแกอยู่กับพวกเพื่อนๆกุ๊ยของแกอีกแล้ว ”


              “ คราวนี้ป๊ารับไม่ไหวจริงๆ กับเรื่องของแกแล้ว เตรียมเก็บเสื้อผ้าไปอยู่อเมริกากับป้าของแกได้เลย ป๊าโทรไปฝากฝังที่ลงที่เรียนที่กินที่อยู่กับ

ป้าของแกที่นั่นแล้ว ลองไปใช้ชีวิตลำบากๆดูบ้างเผื่อแกจะได้โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากับเขาเสียที ” เขาหมุนร่างกลับมาแล้วพูดขึ้นก่อนที่หญิงสาวจะทันได้

กล่าวคำทักทาย


              “ ทำไมป๊า ไม่ฟังหนูบ้างล่ะ ป๊าฟังแต่คำพูดคนอื่น แล้วป๊าก็เชื่อที่เขาบอก ป๊าไม่เคยเชื่อใจลูกสาวตัวเองบ้างเลย ”


              “ หนูไม่มีทางไปอยู่อเมริกาหรอก ถ้าป๊าบังคับหนู หนูก็จะไปอยู่ที่อื่น หนูไม่ใช่เด็กๆเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ที่ป๊าจะสั่งให้ทำอะไรก็ได้ ”   หญิง

สาวระบายความในใจที่อัดอั้นอยู่ภายในใส่บิดาของเธอ ผู้ที่ไม่เคยรับฟังความต้องการของเธอและไม่เคยเชื่อใจในตัวเธอ


             “ เออ ถ้าแกคิดว่าปีกกล้าขาแข็ง คิดว่าโตแล้ว ไม่ต้องพึ่งป๊าแล้ว แกอยากจะไปอยู่ที่ไหนก็ไป จะไปเต้นแร้งเต้นกา กับพวกเพื่อนกุ๊ยของแกที่

ไหนก็ไป แต่ไปแล้วอย่าซมซานกลับมาก็แล้วกัน ” เสียงผู้เป็นบิดาระบายความโกรธาขึ้นมาบ้างแบบไม่ยอมแพ้กัน


            “ เพล้ง ” เสียงแก้วกาแฟกระทบกับฝาผนังห้องด้านตรงข้ามกับที่หญิงสาวยืนน้ำตาอาบเต็มสองแก้มอยู่


            “ ไสหัวออกไปได้แล้ว ป๊าไม่อยากเห็นหน้าแกแล้ว ”
               


             หญิงสาววิ่งออกจากห้องไปทั้งน้ำตาที่เอ่อล้นท่วมใบหน้า ทิ้งให้ผู้เป็นบิดายืนตัวสั่นอยู่ในอารมณ์ โกรธเกรี้ยวอย่างรุนแรง ผ่านไปเนิ่นนานจึง

ค่อยๆสงบลงที่ละน้อย ก่อนทรุดตัวลงนั่งเอามือกุมศีรษะแบบคนผิดหวังและเสียใจอย่างรุนแรง



              ....................................................


               เกือบเที่ยงคืนแล้ว พี่แท็ก ออกมายืนพักสูบบุหรี่อยู่หน้าร้าน ในชุดพนักงานผูกผ้ากันเปื้อนสีเข้ม คืนนี้ลูกค้าแน่นร้านเหมือนทุกครั้งที่เป็นค่ำ

คืนของวันศุกร์ วันปลายสัปดาห์ ที่คนวัยทำงานมักจะออกมาเที่ยวสังสรรค์กัน วันนี้วงดนตรีประจำของร้านขึ้นเล่นเร็วกว่าปรกติ ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึง

เปลื่ยนให้วงขาจร ได้ขึ้นไปเล่นแทนบ้าง ส่วนพวกเขาก็ลงมานั่งผักผ่อนกันอยู่ที่โต๊ะมุมร้านด้านในสุด พร้อมกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ตอนนี้ กำลังซด เตกี

ล่า แกล้มด้วยเกลือกับมะนาว  อย่างเอาเป็นเอาตาย

   

                 “ เฮ้ยๆๆ เบาๆก็ได้เว้ย ไอ้ดา เตกีล่าน่ะเว้ย ไม่ใช่เบียร์ ซดเข้าไปอย่างนั้นเดี๋ยวก็เมาตายห่าหรอก ” แบงค์ นักร้องนำและมือกีตาร์ของวง ที่

เพิ่งเปลื่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เดินเข้ามาที่โต๊ะหยุดมือที่กำลังยกแก้วเตกีล่าเข้าปากของหญิงสาว ก่อนพูดขึ้นดังๆ ด้วยความห่วงใย


                 “ เรื่องของกรู กรูอยากเมาให้มันตายๆไปเลย พวกมรึงไม่มาเป็นกรูไม่รู้หรอกว่าตอนนี้กรูเป็นยังไง ”


                  “ เป็นพวกมรึงมันก็สบายสิ ได้เล่นดนตรี ได้ทำตามฝัน แล้วก็กำลังจะได้ออกเทป ได้เป็นศิลปินดัง พวกมรึงไม่มีทางรู้รสชาติ ความเจ็บ

ปวดของกรู หรอก ” เธอพูดระบายใส่เพื่อนๆ ในวงที่ตอนนี้กำลังมองเธออย่างเจ็บปวดไม่น้อยไปกว่าเธอ


                  “ เออ พวกกรูอาจไม่รู้ความเจ็บปวดของมรึง แต่ถ้ามรึงเป็นเพื่อนพวกกรู มรึงก็น่าจะรู้ว่าที่เห็นมรึงทำอย่างนี้ พวกกรูก็เจ็บปวดกันไม่น้อย

ไปกว่ามรึงหรอก ”  ชาดำ ชายหนุ่มมือเบสของวง พูดขึ้นดังๆ อย่างอดรนทนไม่ไหว ในอาการของเพื่อนสนิทของเขาที่กำลังใช้ แอลกอฮอล์ ล้างภาพ

ความปวดร้าวในใจอยู่ตอนนี้


                   “ ถ้ามรึงตัดสินใจแล้ว ทำไมไม่ลองทำให้มันสุดๆ ดูสักตั้งล่ะว่ะ มรึงจะมานั่งแดรกเหล้า ให้มันได้อะไรดีขึ้นมา ”  กันย์ ชายหนุ่มร่างอวบ

มือกลองของวง กล่าวขึ้นบ้างเพื่อเตือนสติเพื่อน


                    “ นั่นดิว่ะ ถ้ามรึงตั้งใจจะเป็นนักร้องจริงๆ ถ้ามรึงอยากทำตามฝัน ถ้ามรึงอยากลบคำสบประมาทของพ่อมรึงทำไม

มรึงไม่ทำให้พ่อมรึงเห็น ล่ะว่ามรึงทำได้ ”


                    “ คืนนี้ถ้ามรึงไม่อยากกลับบ้านจริงๆ มรึงไปอยู่ห้องกรูก่อน เดี๋ยวกรูไปนอนห้องไอ้กันย์ แล้วพรุ่งนี้ตอนเย็นๆมรึง มาซ้อมกับพวกกู ตอน

นี้พวกกรูแต่งเพลงไว้หลายเพลง บางเพลงก็ต้องการเสียงร้องของผู้หญิง ”  แบงค์ พูดรับหญิงสาวกลับคืนสู่วงเพื่อร่วมกันทำความฝันที่ครั้งหนึ่งพวกเขา

เคยมีร่วมกันอีกครั้ง



                   หญิงสาวที่กำลังก้มหน้าหลั่งน้ำตาอยู่บนโต๊ะตอนนี้ เงยหน้าขึ้นมามองไปที่เหล่าเพื่อนสนิทของเธอ ตื้นตันในคำพูดให้กำลังใจเหล่านั้น

ของพวกเขา  ก่อนลุกขึ้นไปสวมกอดพวกเขาทั้งสามคน แทนคำขอบคุณในมิตรภาพและไมตรีจิตที่พวกเขาต่างหยิบยื่นให้แก่เธอในค่ำคืนนี้  


                     “ ร้องไห้กอดกันกลมเลยเว้ย มีเรื่องอะไรดีๆ จะไม่เล่าให้พี่ฟังบ้างเหรอ ” พี่แท็กที่เดินผ่านเข้ามาแวะทักทาย


                     “ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ตอนนี้วงเรามีสมาชิกเพิ่มขึ้น อีกคนแล้วครับพี่ เป็นนักร้องสาวสวยอย่างที่พี่เคยบอกว่าอยากได้อยู่ ซ่ะด้วย ”


                     “ อย่างนี้พี่แท็ก ต้องเพิ่มค่าแรงให้พวกเราอีกน่ะครับพี่ ”


                     “ ถ้าเพิ่มเป็นสองเท่า รับรองพวกเราเล่นขาดใจเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า ”  เหล่าชายหนุ่มนักดนตรีเอ่ยตอบคำอย่างเฮฮา



                     “ สวัสดีค่ะ พี่แท็ก หนูชื่อโซดา ตอนนี้จะมาเป็นนักร้องในวง ฝากเนื้อฝากตัวด้วยน่ะค่ะ ”  หญิงสาวเอ่ยแนะนำตัวเอง กับพี่แท็กชาย

หนุ่มใหญ่เจ้าของร้าน ที่ตอนนี้กำลังยืนหัวเราะเบาๆอยู่


                     “ อ้อ คนนี้นี่เองที่ชื่อดา ได้ยินชื่อมานาน เหมือนเมื่อวานก็เห็นมาเที่ยวที่ร้านไม่ใช่เหรอ ”


                     “ ใช่ๆ ครับพี่พวกผมชวนมันมา พอเล่นเสร็จก็ไม่เห็นหัวมันเลย ”  ชาดำตอบคำถามแทนหญิงสาว ที่ตอนนี้กำลังยืนเขินๆอยู่

                      “ แล้วนี่จะเริ่มร้องเมื่อไหร่ล่ะ เร็วๆก็ดี ตอนนี้ลูกค้าหนุ่มๆหายจ้อยไปไหนหมดก็ไม่รู้ ไอ้พวกนี้มันก็เรียกได้แต่ลูกค้าสาวๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ”  

       
             “ คงต้องอีกหลายวันค่ะ ไม่ได้ร้องกับพวกนี้มานานคงต้องขอเวลาจูนกันหน่อยค่ะ ”


                      “ ไม่แน่คืนพรุ่งนี้พี่แท็ก ก็อาจจะได้ฟังพวกเราเล่นกันแล้วก็ได้ ไอ้ดา มันคบกับพวกเรามานานจูนกันแป็บเดียวก็ติดแล้วครับพี่ ฮ่า ฮ่า

ฮ่า ”  แบงค์พูดให้กำลังใจเพื่อนหญิง



                       “ ถ้าอย่างนั้นวันนี้ ก็แยกย้ายกันกลับไปผักผ่อนได้แล้วแหละ เดี๋ยวพี่ขอตัวไปดูลูกค้าก่อนน่ะ ”


                       “ สวัสดี ครับ / ค่ะ ” พวกเราเอ่ยคำล่ำลาด้วยความเคารพ พร้อมกับยกมือไหว้พี่แท็กเกือบพร้อมๆกัน


                        “ โชดดี ๆ เดินทางปลอดภัยทุกคน พรุ่งนี้เจอกัน ”  พี่แท็กยกมือรับไหว้ ก่อนกล่าวให้พร ล่ำลากันแล้วเดินไปที่บาร์ เพื่อชงเหล้า

ให้ลูกค้า ที่แน่นร้านพอสมควร



                      .......................................................................

                     

                     เกือบเที่ยงคืนแล้ว ลูกค้าในร้านบางตาลง แต่ก็พอมีอยู่หลายโต๊ะ เสียงแบงค์ เอ่ยแนะนำบทเพลงที่พวกเรากำลังจะบรรเลงเป็นเพลง

ต่อไป และแนะนักร้องสาวสวยคนใหม่ของวง


                     “ เพลงนี้เป็นเพลงที่พวกเรา ร่วมกันแต่งให้เพื่อนสนิทของพวกเราคนหนึ่ง เพื่อเป็นกำลังใจให้เธอก้าวไปตามความฝัน บนเส้นทางแห่ง

อิสระ และ เสรี ”


                     “ ร้องโดยนักร้องสาวสวยสมาชิกคนใหม่ของเราครับ ขอเสียงปรบมือเป็นกำลังใจให้เธอด้วย ครับ ”


                     “ สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกคน ชื่อโซดา ค่ะ ขอฝากบทเพลงนี้ด้วยน่ะค่ะ ชื่อเพลง เสียงแห่งเรา ค่ะ ”



                     เสียงปรบมือของลูกค้าที่ดังก้องขึ้นทั่วร้าน พร้อมเสียงดนตรี และเสียงเพลงของเธอที่ร่ำร้อง ดังก้องกังวานไปทั่วทั้งร้าน เธอเต้นรำ

โยกย้ายไปตามท่วงทำนองและแสงไฟ ปล่อยอารมณ์อย่างอิสรเสรี เหมือนนกน้อยที่กำลังกระพือปีกโบยบินอยู่บนท้องฟ้าอย่างอิสรเสรี ท่ามกลางเสียง

ดนตรีและเสียงร่ำร้องของเธอ เสียงกระซิบหนึ่ง ล่องลอยแทรกอยู่ในเสียงบทเพลงนั้น อย่างแผ่วเบา พร้อมเสียงหัวเราะสดใส  


                     


                       “ ยินดีต้อนรับสู่ เกรียนเทพค่ะๆๆๆๆๆๆๆๆ ”



                       ................................................................



                        พี่แท็ก ในชุดพนักงานผูกผ้ากันเปื้อนสีเข้ม ยืนชงเหล้าให้ลูกค้าอยู่หน้าบาร์ พอได้ยินเสียงกล่าวแนะนำบทเพลงที่จะบรรเลงเป็น

เพลงต่อไป โดยนักร้องสาวคนใหม่ ก็หยุดมือจากสิ่งที่กำลังทำอยู่ นิ่งฟังบทเพลงของพวกเขา พร้อมรอยยิ้มที่มุมปากอันคุ้นเคย ถัดไปไม่ห่างกันนั้น

ชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่ยืนพิงเสากลางร้านต้นหนึ่งอยู่ก็กำลังปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับท่วงทำนองและเสียงร่ำร้องของหญิงสาว ที่เขารักหมดหัวใจ อยู่

เช่นกัน

                     

                            บทเพลงที่พวกเขากำลังร่ำบรรเลงอยู่ตอนนี้



                            “ คือบทเพลงแห่ง อิสระ และ เสรี  ”
                     





                     .......................................................



๐ จบตอนแค่นี้ก่อนครับ ... แล้วพบกันใหม่เมื่อหัวใจว่างๆๆๆๆๆๆ

๐ ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านน่ะ ครับ ...

๐ แวะมาทักทาย ... ให้คำแนะนำกันบ้างน่ะครับ

๐ สุขสวัสดิ์ .... ในวันสบายๆๆๆๆๆๆๆ


          ...................................


เกรียนเทพ ตอน    หูกวาง กับ เกรียนเทพแห่งความสูญเสีย ... ครับ

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10555982/W10555982.html

เกรียนเทพ ตอน มะพร้าว กับ เกรียนเทพแห่งความรัก ..... ครับ

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10567467/W10567467.html  

เกรียนเทพ ตอน มะขาม กับ เกรียนเทพแห่งการกำเนิด ..... ครับ

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10574974/W10574974.html

 ...........................................



.

จากคุณ : moonpeace
เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 06:14:56




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com