14/2
กว่าชั่วโมงที่รถยนต์แล่นด้วยความเร็วสม่ำเสมอเรื่อยไปอย่างไร้จุดหมาย ไร้บทสนทนาใดๆ ที่เขาบอกว่าต้องการพูดกับเธอ มีเพียงเสียงลมอื้ออึงซึ่งปะทะใบหน้าเมื่อกระจกทุกบานถูกไขลง รุ่งทิพย์ค่อยผ่อนคลายความเกร็ง ลมเย็นยามค่ำคืนพัดสบายเสียจนเธอเอนศีรษะเท้าแขนกับกรอบประตู
พิรุณปรายตามองดวงหน้าผุดผาดท่ามกลางแสงไฟสลัวบนท้องถนน ช่างหวานละมุนราวกับ จันทร์ อีกดวง หาก จันทร์ ดวงนี้ต่างหากที่เขาเป็นเจ้าของ มีสิทธิ์ครอบครองเต็มที่ แล้วมันสมควรหรือหากเขาจะปล่อยจันทร์กลับคืนสู่ฟากฟ้าไกล
เสียดาย... คำคำนี้แจ่มชัดในมโนสำนึกอีกครั้งหนึ่ง แต่มันก็แทนที่ด้วยคำปลอบใจตัวเองว่าเขาจำเป็นต้องปล่อยมือจาก จันทร์ เพื่อไขว่คว้า ดวงตะวัน แทน ความหวานชื่นอิ่มอกอิ่มใจไม่สามารถรับประกันอนาคตของเขาได้ แสงสว่างต่างหากสามารถสาดส่องชีวิตเขาให้รุ่งเรือง
ชายหนุ่มนึกโทษชะตาชีวิตที่บีบบังคับให้เขาต้องเลือกเช่นนี้ เขาจำต้องทำเพื่อปากท้องของทุกคนในครอบครัวมาแต่ไหนแต่ไรในฐานะบุตรชายคนโต กระทั่งตอนนี้แม่ยังหาเรื่องร้อนใจมาให้เขาอีกจนได้
ช่างไม่ยุติธรรมเสียเลย เหตุใดเขาจึงต้องสละความสุขอันน้อยนิดที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เพื่อคนที่ไม่เคยเห็นคุณค่าของเขาด้วย
แต่ถ้าจะให้ละทิ้งอนาคตทางการงานอันมั่นคง แล้วต้องไปกัดก้อนเกลือกินกับสาวเจ้าล่ะก็ พิรุณว่ามันช่างโง่เง่าสิ้นดี
รุ่งทิพย์เป็นคนหัวอ่อน เขาจะต้องพูดกับเธอให้เข้าใจ เออนะ บางทีเขาอาจไม่ต้องเสียเธอไปอย่างที่วิตกกังวลก็เป็นได้ ในเมื่อเธอไม่เคยขัดเขาได้เลย
คนขับชะลอความเร็วลงจอดชิดขอบถนนซึ่งเว้าเข้าไป สองข้างทางเรียงรายด้วยต้นไม้ประดับประดาด้วยหลอดไฟ เขาหันไปพิศดวงหน้าสวยหวานเต็มตา แล้วก็ได้รับรอยยิ้มเปิดเผยจริงใจอย่างเด็กที่ได้รับของขวัญถูกใจตอบกลับมา
สวยจังเลยนะคะ ใกล้วันเฉลิมฯ แล้ว ทิพย์ไม่เคยนั่งรถดูไฟมาก่อนเลย
ถ้าชอบฉันจะพาเธอมาทุกปี ดีไหม
ดวงหน้าผุดผาดซึ่งประดับด้วยรอยยิ้มทั้งปากและตาช่างสวยงามลานตาลานใจ
ทิพย์ ทำไมเธอถึงยอมออกมากับฉันฮึ
ก็คุณโต้งบอกว่ามีเรื่องด่วน ท่าทางไม่สบายใจ
เธอห่วงฉันมากกว่าตัวเองงั้นหรือ
ทิพย์คิดว่าคุณโต้งคงมีเรื่องสำคัญจริงๆ
ถ้าจะบอกว่าฉันคิดถึงเธอ มันสำคัญพอไหม
พิรุณไม่เคยพูดจาเช่นนี้กับใคร เว้นแต่เด็กสาวที่เขานึกอยากเกี้ยว เกี่ยวเจ้าหล่อนไว้ไม่ให้หลงคารมไปกับหนุ่มเหน้ารุ่นราวคราวเดียวกัน
ทิพย์ เธอรักฉันมากพอจะเสียสละไหมฮึ
เสียสละอะไรหรือคะ
ฉันจำเป็นต้องแต่งงาน ทิพย์ มันเป็นแค่เรื่องงานเท่านั้น ฉันไม่ได้รักเขาเลย
ใบหน้าสวยหวานเผือดสีลง รุ่งทิพย์นิ่งงันอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก เธอพยายามค้นหาความหมายระหว่างคำ
และราวกับเขาได้จับร่างที่ถูกรวบรัดมัดไว้โยนลงสู่ก้นสมุทรอันเย็นเยียบ เมื่อเอ่ยประโยคต่อมาอย่างไร้ความปรานี
ฉันอยากให้เธอเข้าใจฉัน ฉันจำเป็นต้องมีเส้นสายเพื่ออนาคตอันมั่นคง ฉันต้องรับผิดชอบแม่และน้องไม่ได้เรื่องพรรค์นั้น ทิพย์ ถึงเธอเองก็เถอะ เธอคงไม่อยากกัดก้อนเกลือกินกับฉันไปตลอดชีวิตหรอกนะ
หญิงสาวโคลงศีรษะเหม่อลอย นี่เขาไม่รู้จักเด็กหญิงที่เติบโตมาพร้อมกับความนับถือศรัทธาเขาหรืออย่างไร ต่อให้พันตรีพิรุณจะเป็นเพียงนายทหารชั้นประทวน เธอก็จะยังคงเคารพรักบุรุษที่คอยช่วยเหลือและปกป้องเธอไม่เสื่อมคลาย เธอโต้เถียงเขาในใจ
พาทิพย์กลับบ้านเถอะค่ะ รุ่งทิพย์หาเสียงตนเจอในที่สุด กระนั้นมันก็ยังแหบโหยเต็มที
ทิพย์ เธอไม่ได้รักฉันมากพอจะเสียสละหรอกหรือ เขาถามเสียงขื่น ฉันสัญญาว่าจะไม่ทอดทิ้งเธอ แค่เก็บเรื่องของเราเป็นความลับต่อไปเท่านั้น ทิพย์ เธอรู้ใช่ไหมว่าฉันรักเธอกว่าใคร
ไม่มีน้ำตาจากดวงตาใสซื่อคู่นั้น นอกจากแววแห้งผากอย่างผู้ซึ่งหมดสิ้น ผิดหวังกับทุกสิ่งอย่างในชีวิต
หากเธอร้องไห้คงดีกว่านี้หรอก พิรุณเชื่อว่าตนจะสามารถปลอบประโลมและกล่อมเจ้าหล่อนให้คล้อยตามได้ หาใช่ท่าทีอย่างคนมีบาดแผลภายในฉกรรจ์ ราวกับถ้าเขาเอื้อมมือออกไปสัมผัสเมื่อไร ร่างแบบบางนั้นจะแตกสลายทันที
เอาล่ะ ฉันจะไปส่งเธอ แต่เรื่องของเรามันยังไม่จบหรอกนะ ทิพย์
รุ่งทิพย์เมินมองออกไปยังข้างทาง ทิวทัศน์ที่เธอประทับใจเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนผ่านสายตาไปอย่างไร้อารมณ์ความรู้สึกสุนทรีอีกต่อไป
เธออยากคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพียงความฝัน แล้วเธอก็จะตื่นมาบนเตียงนุ่มแสนสบายภายในห้องนอนของบ้านน้าดาว เออหนอ หรือถ้าเป็นไปได้เธอก็หวังว่าตนจะตื่นขึ้นมาด้วยเสียงปลุกจากเสียงไอโขลกของผู้เป็นตา
ทว่าลมเย็นซึ่งปะทะใบหน้านั้นช่างบาดผิวเหลือเกิน ช่วยตอกย้ำว่าปัจจุบันต่างหากคือความจริง!
จากคุณ |
:
ภาพิมล (thezircon)
|
เขียนเมื่อ |
:
25 พ.ค. 54 11:31:53
|
|
|
|