บทที่ 19 : แผนวินาศกรรม !
แสงตะวันสีทองลอดผ่านทางหน้าต่างบอกเวลาอรุณรุ่ง ฉันผู้เป็นนักเรียนหญิงชั้นมัธยมปลายบิดกายด้วยขี้เกียจเสียทีหนึ่ง ก่อนที่จะจำเป็นต้องยอมจำนนต่อชั่วโมงเร่งด่วน ฉันลุกขึ้นเตรียมตัวล้างหน้าแปรงฟัน โสตประสาทสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวที่ชั้นล่างของตัวบ้าน ... เวลานี้แม่คงกำลังทำอาหารเช้า ส่วนพ่อก็คงอยู่ในบริเวณนั้นเช่นกัน
นี่ก็ผ่านมาได้ราวหนึ่งสัปดาห์หลังจากอุบัติเหตุ โชคดีที่คุณหมออนุญาตให้แม่กลับบ้านได้ในวันถัดมา ฉันรู้สึกโล่งใจที่ได้เฝ้าคุณแม่แค่คืนเดียว เพราะหากต้องทนนอนในห้องพิเศษสุดสยองนั่นอีก ... บรื๋อออออ ! ไม่รู้ว่าจะต้องเจอผีพยาบาลที่มากระโดดตึกอีกสักกี่ครั้ง
วันนี้ฉันมีนัดกับเพื่อนที่โรงเรียน มิ้นท์ ยายส้มเช้ง พยนต์ รวมถึงวิวัฒน์หัวหน้าห้อง ... น่ายินดียิ่งที่เดี๋ยวนี้ฉันมีเพื่อนสนิทเพิ่มขึ้น บางทีอาจเป็นเพราะเหตุการณ์ที่เราได้เผชิญหน้าร่วมกัน ... เรื่องผี วิญญาณที่ฉันไม่เคยอยากพบ ทว่ามันก็มีข้อดีที่ทำให้ฉันได้เพื่อน
พูดถึงเพื่อนแล้วฉันเกิดคิดถึงจิราพรขึ้นมาเสียอย่างนั้น คนเก่งอย่างเธอ ซ้ำจริงๆแล้วน่าจะนิสัยดีอีกด้วย ยายจิไม่น่ามาด่วนจากไปตั้งแต่อายุน้อยเลย .. อ้อ ! ที่วันนี้ฉันคิดถึงจิราพรขึ้นมา นั่นก็เพราะธุระที่ครูศรีสุดามอบหมายให้ฉันและกลุ่มเพื่อน นั่นคือการไปเข้าร่วมรับการแนะแนวในโครงการที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จัดขึ้น คล้ายๆโครงการพี่สอนน้องโดยจะนำนักศึกษาชั้นปีต่างๆมาพบปะ พูดคุยเรื่องราวในรั้วมหาวิทยาลัยให้ฟัง ซึ่งหน้าที่ของพวกฉันก็คือการไปสังเกตการณ์ โดยหากการแนะแนวนั้นฟังแล้วมีคุณประโยชน์คุ้มค่า ทางโรงเรียนก็มีแผนจัดอบรมแนะแนวขึ้นในภายโรงเรียนของพวกเรา
ฉันเองตั้งใจจะเข้าคณะแพทย์ เหมือนกับยายมิ้นท์และส้มเช้งที่สุดท้ายตัดสินใจสอบเข้าคณะแพทย์เหมือนกัน ส่วนพยนต์ตั้งเป้าที่คณะวิศวะ ส่วนวิวัฒน์ตั้งใจจะสอบเข้านิติฯ ... ก็ไม่รู้ว่าสุดท้ายอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ฉันกับเพื่อนๆตั้งใจแล้วว่าจะลองสู้ให้ถึงที่สุด
สู้ ?
คำๆนี้ทำให้ฉันคิดถึงใครบางคน ... ชายชุดขาวลึกลับผู้สามารถควบคุมวิญญาณสัมภเวสี บางทีเขาอาจเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลอบวางระเบิดเครื่องบินจนเกือบทำให้เกิดโศกนาฏกรรมหมู่ โดยเฉพาะเที่ยวบินที่มีผู้โดยสารสำคัญซึ่งก็คือท่านการุณย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แต่ตัวฉันได้ขัดขวางแผนการร้าย ด้วยเหตุนี้ฉันจึงต้องเผชิญกับการล้างแค้น ! โดยเฉพาะการที่กุมารผีซึ่งเป็นสาวกจอมขมังเวทย์ได้คอยติดตามหลอกหลอนฉันถึงที่โรงเรียน รวมถึงความพยายามทำให้รถยนต์ของพ่อแม่ต้องเกิดอุบัติเหตุ
อาจเพราะในรถมีแม่ย่านางคอยคุ้มภัย อุบัติเหตุจึงผ่อนหนักเป็นเบา
ด้วยเหตุผลดังกล่าวเหตุการณ์ทั้งหลายจึงยิ่งเด่นชัด ฉันกลัวเหลือเกิน ... กลัวทั้งภูตผีวิญญาณ กลัวทั้งการประทุษร้ายบุคคลในครอบครัว เช่นนั้นฉันควรทำเช่นไร ? หากต้องพบเห็นการมุ่งมาดอาฆาต เห็นการก่อการวินาศกรรมอีก ฉันจะนิ่งดูดายได้หรือ ?
หากไม่เห็นคงไม่เป็นไร ... ทว่าหากเห็นตำตาเล่า ?
ยิ่งคิดวนเวียนยิ่งไร้ทางออก ยิ่งเฟ้นหาหนทาง ก็ราวกับยิ่งอับจน เวลานี้ฉันไม่เคยคิดหวังต้องการสิ่งใดนอกเหนือจากความสงบสุขและปลอดภัย ... ใช่ฉันฝันเช่นนั้น ฝัน ? ... เมื่อคิดคำนึงถึงคำนี้ ฉันพลันระลึกความฝันเมื่อคืนได้อย่างกะทันหัน มันเป็นฝันอันแปลกประหลาด
ในนิมิตยามราตรีนั้น ราวกับฉันเป็นคนดู ... เป็นคนที่อยู่นอกเหนือเหตุการณ์ เป็นคนที่สามารถเห็นภาพเรื่องราวทั้งหมดจนสามารถเข้าใจได้ถ่องแท้ยิ่งกว่าตัวละครที่อยู่ในนิมิตฝัน ภาพที่เห็นคือกลุ่มชายฉกรรจ์กำลังปรึกษาแผนการชั่วร้ายบางอย่าง พวกเขาจัดเตรียมอาวุธมากมาย ทั้งปืนสั้น ปืนยาว ตลอดจนเครื่องกระสุน ... กลุ่มคนน่าสงสัยกำลังเตรียมการบางอย่างที่อาจจะเป็นการปล้น ... หรือไม่ก็เตรียมประทุษร้ายใครบางคน
มิติในความฝันหมุนซูมขยายเข้ายังจุดหนึ่งราวกับบังคับให้ฉันต้องพินิจอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง มันเป็นภาพที่หนึ่งในกลุ่มชายฉกรรจ์ได้หยิบมีดเล่มยาวขึ้นมา เขาถอดฝักออกเผยให้เห็นคมวาววับ จากนั้นจึงวางมีดลงบนโต๊ะก่อนที่จะหยิบห่อผ้าบางอย่างขึ้นมา เขาสวมถุงมือยางก่อนจะคลี่ห่อผ้านั่นออก
ฉันเบิกตาโพลงด้วยความงุนงง ในห่อผ้านั้นมีผ้าอนามัยใช้แล้ว !? โลหิตแดงอันสร้างจากร่างกายสตรีเพศชุ่มโชกอยู่ภายใน ชายคนนั้นค่อยๆใช้ผ้าอนามัยลูบไล้ที่ใบมีดยาว บัดนี้ความคมวาววับเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มของโลหิต !
ชายฉกรรจ์ยิ้มเย็นเยือก เขาเก็บมีดเปื้อนระดูไว้ในฝักตามเดิม ฉันทั้งงง ทั้งขยะแขยงกับการกระทำอันเป็นปริศนา เขาทำเช่นนั้นเพื่ออะไร ? จะมีประโยชน์อันใดในการเอาเลือดประจำเดือนไปทาทับที่ใบมีดด้ามยาวคมกริบ
ก่อนที่ฉันจะสงสัยไปมากกว่านั้น ภาพความฝันพลันแปรเปลี่ยนไปต่อหน้า ...
จากคุณ |
:
Luckard
|
เขียนเมื่อ |
:
26 พ.ค. 54 09:38:08
|
|
|
|