ประตูห้องทำงานถูกเปิดออกโดยเจ้าของห้องเองพร้อมกับความตกใจเมื่อไม่คาดคิดว่าจะมีใครรออยู่ในห้องนี้ และความไม่พอใจก็ตามเข้ามาทันควันเมื่อพบว่าใครคนนั้นก็คือพีรพา
ไปไหนมาคะวา น้ำเสียงเข้มและสีหน้าบึ้งตึงของคนที่รออยู่ทำให้ชายหนุ่มที่กำลังก้าวเดินมานั่งที่เก้าอี้ของตน รู้สึกเหมือนกำลังเป็นจำเลยของคนถามอย่างนั้น และแน่นอนว่ามันเพิ่มความไม่พอใจให้กับเขาอีกไม่น้อย
คุณมีอะไรด่วนรึเปล่าครับพาย อุตส่าห์มารอเจอผมถึงในห้องทำงานขนาดนี้ แทนที่จะตอบคำถาม ชวาลกลับเลือกที่จะย้อนส่งคำถามแกมเหน็บแนมกลับไป
ไม่มีอะไรด่วนหรอกค่ะ แค่อยากรู้เฉยๆ ทำไมคะ พายไม่สิทธิ์จะรู้ว่าว่าที่คู่หมั้นของตัวเองหายไปไหน กับใครงั้นหรือคะ คนถามท้าวสองมือลงบนโต๊ะเสมือนกำลังคาดคั้นให้เขายอมสารภาพออกมาเอง
ผมไปทานข้าวกลางวันมา ชวาลตอบปัดรำคาญไปเสียด้วยสีหน้าราบเรียบ
ไปกับใครมาคะ ยังไม่มีทีท่าว่าน้ำเสียงของพีรพาจะลดระดับลงเลย และคราวนี้มันทำให้ความอดทน ของชวาลเริ่มลดน้อยลงจนเกือบจะไม่เหลือหลอแล้ว
ผมไม่จำเป็นต้องตอบ มันเป็นเรื่องส่วนตัวของผม
!!! พีรพารู้สึกเหมือนถูกตบหน้าจนชาไปหมด ไม่สิ! มันชาไปทั้งตัวเลยต่างหาก
ก็ตอบมาซิคะว่าไปทานข้าวกับเลขาคนใหม่มาน่ะ น้ำเสียงของพีรพาสั่นเครือเพราะความกริ้วโกรธ จนเหลืออดเช่นกัน
ชวาลลุกยืนขึ้นจากเก้าอี้แล้วท้าวสองมือของตนลงที่โต๊ะเช่นกัน ก่อนจะยื่นหน้ามาใกล้ๆ กับพีรพา
ถ้ารู้แล้ว คุณจะถามทำไม น้ำเสียงเบาเอ่ยถาม ทว่ากลับทำให้พีรพารู้สึกเหมือนถูกตบหน้าเป็นครั้งที่สอง
วา! เสียงแผดแหลมของหญิงสาวดังขึ้นแล้วผงะตัวถอยออกมาพร้อมกับความร้อนผ่าวในดวงใจที่เสมือน กำลังจะระเบิดเสียให้ได้
ทำไมคะ เลขาใหม่นี่มันสำคัญถึงขนาดต้องเลี้ยงต้อนรับกันเลยเหรอ แล้วไปเลี้ยงกันที่โรงแรมมาหรือคะ พีรพาจะแสยะยิ้มสำทับ
คุณพาย! คราวนี้กลายเป็นชวาลเองที่ต้องระเบิดเสียงตะคอกออกมาเพราะรู้สึกถึงความหยาบคายใน ความหมายที่อีกฝ่ายส่งมาให้
จะโมโหทำไมล่ะคะวา พายหมายถึงไปทานข้าวค่ะ ไม่ใช่ทานอย่างอื่น คิดมากไปหรือเปล่าคะ น้ำเสียงของพีรพาเริ่มนิ่งมากขึ้น
ชวาลรู้แก่ใจดีว่าคนอย่างพีรพาไม่ได้คิดเพียงแค่นั้นแน่ๆ
วานี่ใจดำนะคะ จะรับเลขาใหม่ทั้งที ไม่บอกให้พายรู้สักคำ พีรพาเดินมาฝืนยิ้มให้ แต่มันคือรอยยิ้มที่ชวาล รู้สึกได้ว่ามันคือการประชดประชันมากกว่า
ผมแค่คิดว่ามันไม่จำเป็น เพราะนี่คือเลขาของผมไม่ใช่เลขาของคุณ
จำเป็นซิคะวา วาอย่าลืมซิคะว่าเลขาของวาก็ต้องติดต่อกับฝ่ายประชาสัมพันธ์ของพายด้วย พายก็ควรจะ รู้นะคะว่าเลขาใหม่ของวาน่ะเก่งและกล้าแค่ไหน ท้ายประโยคพีรพาทำเสียงเน้นถ้อยเน้นคำ
จะเก่งจะกล้าแค่ไหน ถ้าเจอกำลังภายในบางอย่างจากใครบางคนล่ะก็มันก็ไม่มีความหมายอะไรหรอกครับ จริงไหมครับพาย ชายหนุ่มยิ้มอย่างเยือกเย็นให้ และคนฟังรู้ดีว่าเขากำลังหมายถึงอะไร... และที่น่าเจ็บใจ มากไปกว่านั้นก็คือรอยยิ้มที่ส่งมาด้วยนั่นเสมือนว่าเขากำลังจะกำเริบกับเธอทั้งที่เขาไม่มีสิทธิ์
วา! ทำไมวา...
ก๊อกๆๆ ไม่ทันที่พีรพาจะได้ระเบิดอารมณ์ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นก่อนที่คนที่เป็นสาเหตุของการปะทะ คารมในครั้งนี้จะเปิดเข้ามา
กชกรรู้สึกตกใจไม่น้อยที่ได้พบกับหญิงสาวอีกคนในห้องนี้ เธอเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่...
พีรพาเพิ่งได้เห็นหน้าของเลขาคนใหม่ของชวาลเป็นครั้งแรก และยิ่งทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจมากขึ้นอีก เป็นทวีคูณ อาจเพราะความสวยงามของใบหน้าที่ได้เห็นอยู่นี้กระมังที่ทำให้พีรพาเริ่มหวั่นใจขึ้นมา มากกว่าเดิม
มิน่าล่ะ วาถึงพาแม่นี่ไปกินข้าว... พีรพานึกในใจแล้วจ้องเขม็งไปที่คนที่เพิ่งเข้ามา
เอ่อ... ขอโทษค่ะ คือดิฉันไม่ทราบว่าคุณวามีแขก กชกรรู้สึกผิดอยู่บ้าง แม้จะรู้สึกหงุดหงิดใจบ้าง กับสายตาที่กำลังมองสำรวจตนตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่ในตอนนี้
คุณวางั้นเหรอ นี่พวกเขาไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมแค่ทำงานวันแรกแม่นี่ก็เรียกชื่อเล่นของเขาแล้ว สนิทกันเร็วไปไหมเนี่ย สงสัยจะไม่ธรรมดาแล้วซิ... พีรพาลอบนึกในใจ
ไม่เป็นไรหรอกนะเธอ เพราะอันที่จริงแล้วฉันก็ไม่ใช่แขกหรือคนอื่นที่ไหนหรอก พีรพาเปลี่ยนท่าที มายิ้มกว้างให้อย่างใจเย็น
อ้อวาคะ วาแนะนำให้เลขาคนใหม่ของวารู้หรือยังคะว่าเราเป็นอะไรกันน่ะ
คำถามนั้นทำให้ชวาลทำหน้าทำตาไม่ถูก และไม่เพียงแต่ชายหนุ่มเท่านั้น ด้านของกชกรเองก็เช่นกัน ที่เกิดความสงสัยไม่น้อยในความหมายอันมีเลศนัยนั้น อีกอย่างเธอก็อยากรู้แล้วซิว่าหญิงสาวผู้มีสายตา และท่าทีหยิ่งจองหองคนนี้คือใครกัน
ไม่เป็นไรค่ะ วาอาจจะยังไม่ได้บอก เดี๋ยวพายจะเป็นคนบอกให้นะคะ พีรพาสังเกตได้ดีในสีหน้า ที่ซีดเจื่อนลงของชวาลและในขณะเดียวกันเธอก็พยายามจับพิรุธจากหญิงสาวที่กำลังยืนกอดแฟ้มงาน อยู่ใกล้กับประตูห้องด้วย
พีรพาเดินเข้าโอบที่เอวของชวาลในขณะที่เขายังตั้งตัวไม่ทัน
ฉันชื่อพีรพานะเป็นลูกสาวหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทนี้ และเป็นผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของที่นี่ พีรพาบอกด้วยความภาคภูมิใจ
และที่สำคัญฉันกับคุณวา เราก็กำลังจะหมั้นกันเร็วๆ นี้
...!!! กชกรยอมรับว่าตกใจบ้างนิดหน่อยกับสิ่งที่เพิ่งได้ยินไป
ค่ะ สวัสดีค่ะคุณพีรพา แต่กระนั้นเธอก็ไหว้ทักทายพีรพาไปพร้อมรอยยิ้มประหนึ่งไม่ได้รู้สึกรู้สา อันใดเลย ซึ่งมันก็คือเป็นอย่างนั้น!
ด้านของชวาล หัวใจของเขาอ่อนแรงลงทันทีเพราะรู้สึกได้ว่าพีรพากำลังสร้างกำแพงขึ้นมาขวางกั้น มิตรภาพระหว่างตนกับกชกรที่เขากำลังพยายามพัฒนามันให้ลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ ชวาลยอมรับว่าแต่โดยดี ว่าทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากก้มหน้ายอมรับความจริง ใช่ มันคือความจริงที่ทั้งคนเป็นแม่ พีรพาและครอบครัวของเธอต้องการให้เป็นอย่างนั้น นอกจากเขาคนเดียวที่กำลังรู้สึกอึดอัด ลำบากใจ และเป็นทุกข์ที่สุด
เมื่อหันไปมองกชกรก็พบว่าเธอไม่มีท่าทีอันใดเลยกับสิ่งที่ได้ยิน เขาอยากรู้นักว่าภายใต้รอยยิ้มที่เธอกำลัง เผยออกมานั้นมีความเสียใจอย่างที่เขากำลังเป็นอยู่บ้างไหม และที่สำคัญเขาจะทำอย่างไรดีเพื่อไม่ให้ สูญเสียหญิงสาวที่ตนประทับใจตั้งแต่แรกพบอย่างกชกรไปเพราะการคลุมถุงชนในครั้งนี้
********
จากคุณ |
:
ยาชมภู
|
เขียนเมื่อ |
:
27 พ.ค. 54 13:55:19
|
|
|
|