๐๐ ... กมโลภิกขุ..ชายหนุ่มผู้บวชเป็นพระ ... ๐๐ (บทที่ 15)
|
 |
.
๐ กมโลภิกขุ..ชายหนุ่มผู้บวชเป็นพระ ๐ (บทที่ 15)
บทที่ 15
ก๊อก..ก๊อก..กุก..กุก..
ผมตกใจตื่น เพราะเสียงเคาะประตู..ฝันไป..เสียงกุกๆ นี่กระมังต้นเหตุของเสียงที่ได้พบเห็นในฝัน
ครับ.. มองนอกหน้าต่างฟ้ายังมืดอยู่ ใครนะมาแต่เช้ามืด
แอ๊ด.. เปิดประตู..สังหรณ์ใจชอบกล
ไม่ออกบิณหรือ? เสียงสั่นเครือ..หลวงตาทินยืนแข็งทื่อ
โอ๊ย!.. ร้องเสียงดัง..รีบงับประตู
โอ๊ย!.. คราวนี้ผมตกใจตื่นจริงๆ...ฝันซ้อนฝัน
เป็นอะไร? พระนัทร้องถามอยู่หน้าห้อง
ครับ จะตอบอย่างไรดี เปิดประตูออกไป
จะออกบิณกันแล้วไม่เห็นคุณจึงมาตาม
ผมไม่ค่อยสบาย.. ไม่ได้โกหก ไม่ได้ขี้เกียจ รู้สึกตะครั่นตะครอจริงๆ หลวงพี่หลอล่ะ
ใครๆ เขาเรียบร้อยหมดแล้วนอกจากคุณ..ตกลงไม่ไปใช่ไหม?
แล้วฉันข้าวด้วยคนได้ไหม ถามเพื่อความแน่ใจ
เออ อ..ฮะ..ฮะ.. พระนัทหัวเราะ ลงจากศาลายาว
ว่าจะจำวัดรอเวลาฉันข้าวและยา แต่รู้สึกเกรงใจเพื่อนพระรูปอื่น และเพราะฝันที่เหมือนจริงมากเมื่อคืนผมจึงครองผ้าเรียบร้อยลงจากศาลาไปหน้าวัด
ผู้คน..ตลาดคึกคักกว่าเคย จะเดินแทรกผ่านตลาดไปโบสถ์คงไม่เหมาะ ผมจึงได้แต่ชะเง้อมองอยู่แถวหอระฆัง
โบสถ์หลวงพ่อนิลยังอยู่เรียบร้อยดี ไม่ได้ถล่มทลายอย่างในความฝัน ญาติโยมเข้าออกสักการบูชาเหมือนเดิม เห็นจีวรหลวงพี่เรย์แบรนด์แวบไปแวบมาหน้าโบสถ์..อะไรๆ ใครๆ ยังเหมือนเดิม นอกจากพระนิดและความคิดอกุศลของนายนิด
เฮ้อ!..แล้วจะมีหน้าเอาเปรียบนั่งร่วมวงฉันโดยไม่ออกแรงได้อย่างไร..โดยเฉพาะจะมองหน้าหลวงพี่หลอสนิทใจหรือ ฝันใส่ร้ายท่านออกอย่างนั้น รำพึงผิดในใจ
ตัดสินใจไปตายเอาดาบหน้า..เอ๊ย!..ไม่ใช่..ตัดสินใจไปหาหลวงพี่อาจและนึงที่โรงพยาบาล คงมีอาหารเช้าเหลือให้ฉันบ้าง
นิมนต์ค่ะท่านขาว.. ท่านขาวหยุดกึกหน้าบ้านโยมแย้ม กำลังจะไปถวายท่านที่กุฏิพอดี
เจริญพรโยม.. เพิ่งพูดประโยคนี้ครั้งแรก จำมาจากหลวงพี่อาจ อาตมากำลังจะไปโรงพยาบาล พูดออกไปเหมือนปฏิเสธ จะผิดวินัย จะอาบัติไหม
คงยังไม่ได้ฉันเช้า.. โชคดีที่โยมไม่เข้าใจเจตนาแอบแฝงที่เผลอหลุดลอดออกมา จึงไม่บาป ไม่อาบัติ..ผิดถูกอยู่ที่ใจ..ไม่รู้นายนิดคิดแก้ตัวให้พระนิดหรือเปล่า ถ้าอย่างนั้นนิมนต์ฉันเช้าในบ้านอิฉัน..
เอ่อ.. พระนิดยังไม่เคยฉายเดี่ยว จะรอดหรือ เอ่อ.. อย่างไรดี
หรือจะนำไปฉันกับหลวงพี่องอาจก็ได้กระมังคะท่าน โยมคงไม่เข้าใจวินัยสงฆ์พอๆ กับผู้ที่ควรเข้าใจตรงหน้า
เจริญพร ท่านขาวคงต้องหิ้วถุงอาหารขึ้นรถสองแถวเข้าเมืองแต่เช้า..เป็นภาพที่แปลกตาน่านินทาสิ้นดี
ท่านไม่มีย่ามหรือ?
เจริญพร พระนิดหน้าแตก เปิดปากย่ามให้โยมแย้มใส่อาหาร พลันกลิ่นที่คุ้นเคยอย่างหนึ่งโชยมา..ขนมกุยช่าย
ความจริงแห่งชีวิตอย่างหนึ่งปรากฏขึ้นในใจ..ความรัก..ความชอบใจ มีเกิดมีดับได้ตลอดเวลาโดยไม่ได้ตั้งใจหรือกำหนดให้เป็น..ผมเคยชอบขนมกุยช่ายมาก แต่วันนี้แค่ได้กลิ่นถึงกับผงะ คล้ายกลิ่นหนูตายวันแรกๆ ยิ่งต้องหอบหิ้วถึงโรงพยาบาล เข้าไปส่งกลิ่นในนั้นให้เป็นที่รังเกียจของบางคน..จะทำอย่างไรดี
พระนิดจึงปล่อยให้รถคันแรกวิ่งผ่านเลยไป..เดินดุ่มใช้ความคิดข้างทาง ทิ้ง?..ให้เป็นทานคนที่ผ่านมา?..ทำได้หรือ ไม่ผิดหรือ?
ในที่สุดผมตัดสินใจเร่งฝีเท้ากลับศาลายาว..ทำไม่รู้ไม่ชี้วางถุงอาหารบนแท่นสำหรับวางบาตรที่พระแต่ละรูปบิณฑบาตมา แล้ววกกลับไปที่ถนนหน้าวัดอีกครั้ง..ทำอะไรลับๆ ล่อๆ ไม่ตรงไปตรงมามักลำบากเช่นนี้
มาแต่เช้า หลวงพี่อาจกำลังฉันเช้าอยู่บนเตียง นึงนอนกินนมโดยมีเด็กสาวคนหนึ่งถือขวดนมให้
ครับ.. ไงเรา? ประโยคหลังทักนึงที่อ้าปากเรียก ป๊ะ ทั้งจุกนมยังอยู่ในปาก
ยังไม่ได้ฉันสิ? อาบน้ำร้อนมาก่อน คะเนได้จากเวลาและการเดินทางมาโรงพยาบาลของคนยังไม่ได้อาบน้ำ
พระจะร้องขออาหารได้อย่างไร เคยเห็นแต่พระกรุงเทพฯ บิณฑบาตได้อาหารมากมายแบ่งให้ญาติโยม..วงฉันที่ศาลายาว พระบางรูปไม่ได้บิณยังร่วมวงได้
ขออนุญาตครับ.. ไหว้หลวงพี่แล้วเลื่อนถาดใส่โอวัลตินและแซนวิชชิ้นเล็กมาฉัน..มองไปที่เตียงนึง
โยมแม่พระเขียดส่งเด็กมาช่วยดูแลนึง.. หลวงพี่อาจแก้ข้อสงสัยให้ ผมเลยพลอยได้รับไปด้วย
ไม่อยากรู้ว่าของใคร..ทำไม..หรือไม่ ผมหยิบขนมปังสอดใส้จากโต๊ะข้างเตียงวางบนถาด สภาพเดียวกับขนมปังในชามกะละมังบุบที่ครั้งหนึ่งเคยเห็นหลวงพี่หลอฉัน..วันนี้ผมคงไม่ต่างจากท่านนัก..คนเรา..ใครจะอยากเป็นคนไม่ดี อยากได้ดี เป็นคนดีด้วยกันทุกคน หากแต่สถานการณ์และความอยู่รอดของชีวิตทำให้คนต้องแผกแตกเป็นชนิดต่างๆ บนรากฐานทุนที่มีติดตัวมาพอๆ กัน...ฝันของนายนิดวายร้ายผุดขึ้นอีกอย่างชัดเจน
นั่งมองขนมปังอยู่นานแล้วนะคุณ.. ผมคงนั่งตัวแข็งอย่างทุกทีที่คิดอะไรแปลกๆ ว่าจะไม่ทัก ไม่รับรู้แล้วนะ..ฮะ..ฮะ.. หลวงพี่ขำอะไร? ผมคงอาบัติพอกับคุณแล้ว
แค่มองเฉยๆ ไม่ได้หรือไง นายนิดพาลคืนขนมปังไว้ตามเดิม หันไปอุ้มนึงที่กินนมเสร็จพอดี
อ้าว!..
ไม่รู้หลวงพี่อาจร้อง อ้าว เพราะผมงอน (นายนิดงอน!) หรือเพราะหญิงสูงวัยคนหนึ่งเดินเข้ามา
โยมแม่..มาได้อย่างไร?
ผมเสอุ้มนึงเดินเล่นนอกห้องสักพัก พอนึงซบไหล่จึงพากลับไปนอนที่เตียง..เด็กสาวคนนั้นกุลีกุจอรับแขก หลวงพี่กำลังดีใจพูดคุยกับโยมแม่ ไม่สนใจผมที่ค่อยๆ หยิบย่ามเดินออกจากห้อง
โชคดีที่เมื่อลงมาถึงข้างล่างเห็นโยมแม่หลวงพี่เขียดและคุณพิมพิลาไลกำลังเดินขึ้นอีกทางหนึ่ง
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม ถ้าไม่ได้เป็นพระผมคงเหมาว่าหงุดหงิดโมโหหิวแน่ๆ ..ใช่หรือ?
มัวแต่เอาใจใส่คนอื่น ผมลืมนึกถึงตัวเอง..อาการตะครั่นตะครอยังอยู่ น่าจะหาหมอหรือกินยาสักหน่อย..คนอื่น ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ หล่อหรืออัปลักษณ์ ต่างมีที่ยืนของตัวเอง แม้ไม่ถาวรก็อยู่ได้ ณ ปัจจุบัน..ปัจจุบันอันเป็นสิ่งแน่นอนของทุกชีวิต
โยมแม่หลวงพี่อาจอยู่จังหวัดอื่นแท้ๆ ยังได้ข่าวและดั้นด้นมาหาพระลูกชาย..แม่ผมจะรู้ข่าวของลูกชายบ้างไหมหนอ เรื่องที่จะให้แม่มาเยี่ยมนั้นไม่เคยหวัง ภาระหน้าที่รับผิดชอบของแม่มีมาก ผมเสียอีกกำลังลืมหน้าที่ทางโลกของตัวเอง
กลับบ้านไปหาแม่..ดีไหม?
ทั้งยังคิดไม่ออกว่าจะกลับอย่างไร สามารถหรือไม่ ผมเข้าห้องน้ำปลดทุกข์เรียบร้อย ย้ำเข็มกลัดสองตัวที่ลูกบวบบนหัวไหล่ สำรวจปัจจัยที่พอมีติดย่าม..ตกลงใจ!
ท่ารถคนแน่นมาก แค่ยืนรอปะปนกับผู้คนก็แปลกอยู่แล้ว ถ้าจะต้องเบียดขึ้นบันได..เฮ้อ..ล้มความตั้งใจเถอะ
ตัวเริ่มร้อนเพราะเดินมาจากโรงพยาบาล ผสมวิตกกังวลเข้าไปอีก..ว่าจะไม่..ว่าจะไม่..ผมอยู่บนขั้นบันไดเมื่อไหร่ไม่รู้ตัว..กระเป๋ารถใจดีหาที่นั่งให้ซ้ำไม่เก็บค่ารถ
ถึงกรุงเทพฯ กะว่าจะไปฉันเพลที่บ้าน..อะไรได้สี่โมงเย็นแล้วยังอยู่บนรถเมล์สายที่จะไปบ้าน หิวก็หิว ไข้เริ่มสูง ทำไงดี
ธรรมดาผมไม่ค่อยเจ็บไข้ได้ป่วยกับใครนักจึงไม่สันทัดเรื่องการไปหาหมอ เป็นทีไรแม่จัดหายาให้ทุกที..คราวนี้ค่อนข้างหนักเพราะตรากตรำสะสมมาหลายวัน ยิ่งฝันน่ากลัว หลวงตาทิน และอดข้าวอดน้ำ...ผมตัดสินใจกดกริ่งรถเมื่อเห็นคลินิกแห่งหนึ่งข้างทาง
ทุกสายตามองมาที่ผมเมื่อเปิดประตูเข้าไปในคลินิก..เก้าสิบเปอร์เซ็นต์คือคนไข้ผู้หญิง..เอ๊ะ!..อย่างไรกัน?
นิมนต์ค่ะ.. ยังไม่ทันที่ผมจะหันหลังกลับ พยาบาลคนหนึ่งรีบตรงเข้ามา มีธุระอะไรหรือคะท่าน?
ผม..อาตมา.. ผมเหลือบมองข้อความโฆษณาและโบชัวร์ผลิตภัณฑ์ยาข้างผนัง พอประเมินได้ว่ากำลังอยู่ในคลินิกลดความอ้วน..แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว..อาตมาไม่สบาย
คงกลัวผ้าเหลืองทำป่วน หรืออาจหวังดีต่อพระสงฆ์ที่กำลังอาพาธผมได้รับการตรวจรักษาทันที..และเพราะอานิสงส์ของผ้าเหลือง ไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
คุณหมอฝากปัจจัยทำบุญค่ะ.. พยาบาลคนเดิมยื่นซองให้ คุณหมออยากให้ท่านนั่งแท็กซี่กลับที่พัก..ไข้สูงมากแต่เราไม่สามารถให้ท่านนอนพักที่นี่ได้
ผมรับซองอย่างเบลอๆ ออกจากคลินิก เรียกรถแท็กซี่ตรงไปบ้าน
แม่..แม่.. พลบค่ำแล้วที่ผมยืนร้องเรียกอยู่หน้าบ้าน
แม่..แม่ครับ..
ใครน่ะ? เสียงแม่แว่วมา
แม่..ผมเองครับ..แม่..
เอ..ก็มากันครบแล้วนี่..
แม้จะเบลอ..จะเพลีย..ผมอดยิ้มกับคำพูดของแม่ไม่ได้...
.
แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 11:12:05
จากคุณ |
:
ดาเรน
|
เขียนเมื่อ |
:
28 พ.ค. 54 08:46:39
|
|
|
|