ใต้เงาพระจันทร์ บทนำ-บทที่ 1
|
 |
อารัมภบท
พระจันทร์กำลังจะเต็มดวงอีกคราแล้ว
หากครั้งนี้พระจันทร์จะไม่เต็มดวงตามปกติอย่างที่มันเคยเป็น วาเลน วอห์น รู้จากสัญชาติญาณ โลหิตทุกหยาดหยดและดวงวิญญาณของเขา เช่นเดียวกับที่เผ่าพันธุ์มนุษย์กลายร่าง ปิศาจ บรรดาผู้วิเศษ หรือเหล่าแม่มดทั่วโลกรู้
คืนพรุ่งนี้พระจันทร์เลือดจะเต็มดวง
ว่ากันว่าปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวทุกๆ หนึ่งร้อยปี มันเป็นคืนที่ความชั่วร้ายทั้งหลายมีอำนาจเหนือคุณงามความดีทั้งปวง แม้ตลอดช่วงชีวิตของวาเลนจะยังไม่เคยเห็นมันเลยสักครั้ง แต่สัตว์ร้ายในร่างเขาตอบสนองกับพลังมหาศาลที่แผ่กระจายอยู่ในอากาศรอบตัว มันส่งเสียงคำรามก้อง ตะกุยขูดข่วนอย่างดุเดือดเพื่อร่ำร้องหาอิสรภาพ หากพันธนาการที่รัดรึงร่างกายของเขายังไม่ยอมคลายความร้ายกาจของมันลงเลยสักนิด วาเลนสบถหยาบคายอย่างหงุดหงิดขณะขยับแขนข้างหนึ่งที่มีโซ่พันระโยงรยางค์ ปลายทั้งสองด้านของมันเชื่อมติดกับผนังถ้ำเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันด้วยมนต์ตราของผู้วิเศษ
โซ่เส้นนี้พันธนาการเขามากว่าสิบปีแล้ว มันยังคงแน่นหนาเหมือนวันแรกที่แม่มดคนหนึ่งล่ามเขาไว้ นางทำให้มันหย่อนลงเล็กน้อยเพื่อว่าเขาจะได้สะดวกเวลาขยับตัวหรือหยิบจับอาหารที่คนของนางส่งมาให้สัปดาห์ละหนึ่งครั้ง แต่นั่นเป็นความกรุณาที่วาเลนไม่ต้องการ ไม่เลยเมื่อการถูกจองจำครั้งนี้นำพาจุดจบมาสู่เผ่าพันธุ์ของเขา
วาเลน วอห์น คือจ่าฝูงของมนุษย์กลายร่างพันธุ์เสือดาวเผ่าไพน์วูด ชนเผ่ากลายร่างสายพันธุ์นักล่ากลุ่มเล็กๆ ที่รักสงบซึ่งอาศัยอยู่ในป่าดงดิบทางตะวันตกของทวีปยุโรป แต่การรุกรานจากมนุษย์เสือเผ่าอื่นที่ดุดันอันตรายกว่าทำให้เขาตัดสินใจนำฝูงของตนอพยพมุ่งลงทางใต้แทนที่จะปักหลักสู้ เนื่องจากนางเสือดาวในฝูงของเขาห้าคนมีลูกเล็ก และสองรายในนั้นเพิ่งคลอด แม้สิ่งที่เขาทำคือความอัปยศอดสูสำหรับสายเลือดนักล่า หากทุกคนในเผ่าของเขาก็เข้าใจดีว่าความปลอดภัยของผู้หญิงกับเด็กต้องมาก่อน โชคร้ายที่กลุ่มเสือเผ่าเบอร์เซิร์กไม่ลดละการติดตาม พวกมันต้องการขยายอาณาเขตและศีรษะของวาเลนจึงได้ตามล้างตามล่าไม่เลิก ในที่สุด สองเดือนหลังจากพาฝูงหนีอย่างหัวซุกหัวซุน เสือหนุ่มก็ถูกแม่มดคนหนึ่งจับตัวไว้ในระหว่างการหาอาหารกลับไปให้พวกที่อ่อนแอ วาเลนพยายามอ้อนวอนให้นางแม่มดปล่อยตัว แต่นางยืนกรานปฏิเสธเพียงเพราะพวกชาวบ้านเห็นสิ่งมีชีวิตอย่างเขาเป็นอันตราย
แล้วในบ่ายของวันถัดมาฝูงของเขาก็ถูกโจมตี แม้เสือหนุ่มจะถูกคุมขังอยู่ในถ้ำที่ห่างไกลจากฝูงของตนนับร้อยไมล์ แต่เขาก็ได้กลิ่นเลือดของทุกคนในเผ่าอย่างชัดเจน วินาทีที่ตกอยู่ในความทุกข์ทรมาน วาเลนได้แต่คำรามกรีดร้องประสานกับเสียงร้องไห้ของเด็กๆ ในฝูง เสียงคร่ำครวญของผู้หญิง และเสียงสาปแช่งจ่าฝูงของพวกตนจากปากของเสือหนุ่มร่วมเผ่า ไม่กี่อึดใจต่อมา ฝูงเสือดาวเผ่าไพน์วูดเกือบทั้งหมดก็ตาย
เกือบทั้งหมด ยกเว้นเขาซึ่งเป็นจ่าฝูง
หัวใจของวาเลนแหลกสลาย ความผิดพลาดในครั้งนั้นเป็นตราบาปที่เขาไม่อาจทนมีชีวิตต่อไปได้ เขาร่ำร้องหาความตาย และผู้คนเกือบทั้งหมู่บ้านยิ่งกว่าเต็มใจที่จะทำตามคำขอร้องของเขา หากนางแม่มดคนนั้น นางแม่มดที่อวดอ้างตนเองว่าเป็นแม่มดขาวแห่งคุณธรรม กลับเทศนาสั่งสอนชาวบ้านถึงคำสอนเรื่องความรักความเมตตาของพวกศาสนจักร พวกชาวบ้านจึงตัดสินใจให้เขาอยู่อย่างไร้อิสรภาพ ถูกคุมขังภายใต้การดูแลของนางมารชั่ว จนกว่ามโนธรรมอันแสนประเสริฐของพวกมันจะทำให้เขากลายเป็นเสือดาวที่อ่อนโยน
ขอสาปแช่งพวกมันให้ลงนรกกันหมดทุกคนเถอะ
แต่ยกเว้นนางแม่มดสารเลวคนนั้น เขาต้องจัดการให้แน่ใจว่านางจะลงนรกด้วยคมเขี้ยวของเขา
วาเลนแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจกับจินตนาการที่ได้ฉีกเนื้อนางแม่มดทีละชิ้น ทีละชิ้น ตามปกติแล้ว ส่วนที่เป็นสัตว์ป่าของเขาจะไม่โหดร้ายกับเหยื่อ แต่คราวนี้ เขาจะปล่อยให้ส่วนที่เป็นมนุษย์สนุกสนาน... ไม่สิ เขาจะเทิดทูนบูชากับทุกวินาทีที่ได้ทรมานนางต่อหน้าต่อตาพวกชาวบ้านทุกคน
รับรองได้ว่าวิธีที่พวกศาสนจักรทรมานแม่มดจะกลายเป็นพรจากพระเจ้าไปเลย เมื่อเทียบกับการลงทัณฑ์ของเขา
เสือหนุ่มหยุดความฟุ้งฝันอันหอมหวานจากมโนภาพการแก้แค้นของตนเอง เมื่อกลิ่นของมนุษย์รายหนึ่งลอยเข้าสู่นาสิกประสาท วาเลนคู้หมอบเพื่อสดับฟังเสียงฝีเท้าซึ่งก้าวย่างอย่างไม่มั่นใจนักพลางสูดจมูกโดยแรง มันเป็นกลิ่นของสตรีเพศ ยังอ่อนเยาว์ ไร้เขี้ยวเล็บ หากกลิ่นที่ไม่มีอันตรายนั้นยังมีอีกกลิ่นหนึ่งปะปนมาบนร่างกายของเด็กสาว เจือจางบางเบา แต่เขาก็จำกลิ่นนี้ได้อย่างแม่นยำ
กลิ่นของนางแม่มดขาวคนนั้น
อาจไม่ใช่เรื่องประหลาดที่จะมีใครสักคนมีกลิ่นของนาง เขารู้ดีว่าแม่มดคนนั้นลงหลักปักฐานที่หมู่บ้านใกล้ๆ นี้เอง แต่วาเลนไม่เคยพบใครนอกจากชายชราหูหนวกและเป็นใบ้ซึ่งคอยส่งอาหารให้เขาทุกสัปดาห์ เขาจึงแปลกใจเล็กน้อยที่มีคนอื่นเข้าใกล้คุกคุมขังของเขา หากไม่ช้า เสือหนุ่มก็รู้เหตุผลที่เด็กสาวคนนั้นมาเยือนถึงหน้าถ้ำจากปากของหล่อนเอง
โอ้โฮ เบอร์รี่เยอะจริงๆ
วาเลนสูดลมหายใจอีกครั้งแล้วเพิ่งตระหนักว่ามีกลิ่นผลไม้รสเปรี้ยวอมหวานลอยอวลตลบไปทั่วถ้ำ ให้ตาย เขาจมอยู่กับความแค้นจนลืมไปว่าสิ่งแวดล้อมรอบตัวเป็นอย่างไร
เสียงฝีเท้าของหล่อนไร้ความขลาดกลัวดั่งครั้งแรก มันเหยียบย่ำไปทั่วบริเวณอย่างร่าเริงแบบที่วาเลนนึกรู้ทันทีว่าเด็กสาวคนนั้นต้องกำลังเก็บผลเบอร์รี่อย่างสนุกสนาน ไม่นานนัก หล่อนก็พูดขึ้นอีก
ไม่ไหว มีเยอะเกินไป พรุ่งนี้ตามคริสต์มาช่วยเก็บดีกว่า
วาเลนกลอกตาอย่างเบื่อหน่าย สิ่งสุดท้ายที่เขาอยากเห็นเมื่อหลุดจากโซ่บ้าๆ พวกนี้คือฉากรักร้อนแรงของวัยรุ่น แต่พอตระหนักว่าคนวัยขนาดหล่อนไม่มีทางเสี่ยงเข้าป่าเข้าพงยามดึกดื่นสองต่อสองกับผู้ชายก็ค่อยเบาใจ พวกมนุษย์รู้ดีว่ามีอะไรมากกว่ามนุษย์กลายร่างในความมืดมิดของยามราตรี
แถมพรุ่งนี้ก็เป็นคืนพระจันทร์เลือดเสียด้วย
กลิ่นและเสียงฝีเท้าของเด็กสาวคนนั้นค่อยๆ เลือนหายไป เป็นสัญญาณว่าหล่อนกลับบ้านไปแล้ว เสือหนุ่มขยับร่างกายเพื่อคลายความปวดเมื่อยเหนื่อยล้า เหนือสิ่งอื่นใดคือเตรียมพร้อมที่จะทำลายพันธนาการที่คุมขังเขามายาวนานกว่าสิบปี ในคืนพรุ่งนี้ พระจันทร์เลือดจะทำให้เขามีพลังอำนาจเพิ่มขึ้นจนอาจเทียบเท่าราชาแห่งปิศาจ
คืนพรุ่งนี้ เขาจะได้รับอิสรภาพอีกครั้ง
และเป็นอิสรภาพครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาจะดับลมหายใจของตนหลังจากสังหารนางแม่มดโฉดชั่วคนนั้นแล้ว
จากคุณ |
:
g_maru
|
เขียนเมื่อ |
:
29 พ.ค. 54 08:57:16
|
|
|
|