Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
รักนี้ชั่วนิรันดร์ บทนำ+บท1 ติดต่อทีมงาน

บทนำ

รถสปอร์ตเปิดประทุนสีแดงเพลิง แพงระยับขับมาด้วยความเร็วสูง แล่นเข้ามาจอดเทียบหน้าโรงแรมหรู ระดับ5 ดาว
ชื่อดังแห่งหนึ่งของประเทศ ชายหนุ่มรูปงาม หน้าตาคมเข้ม ในชุดสูทสีเทา ทำให้ดูสง่าและภูมิฐาน    

ทันที ที่ขาก้าวลงจากรถ กองทัพนักข่าวต่างวิ่งกรูกันเข้ามาห้อมล้อม เสียงกดชัตเตอร์รัวถี่ แสงแฟลชวูบวาบ มาพร้อม
กับการยิงคำถามใส่ เป็นชุดๆ พนักงานโรงแรมวิ่งเข้ามารักษาความปลอดภัยเข้มข้นพร้อมกับกางแขนกันกองทัพ
ผู้สื่อข่าวออกห่าง เพื่อให้เขาเดินเข้าไปภายในโรงแรมได้สะดวก

“เดี๋ยวผมจะแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ที่เดียวตอนจบงานนะครับ ขอบคุณครับ”

ทันทีที่ชายหนุ่มพูดกับนักข่าวจบ เดินฝ่าฝูงชนเข้าไปภายในโรงแรมอย่างรวดเร็ว กองทัพนักข่าวยังคงเดินตามกันมา
เป็นพรวนอย่างไม่ลดละ แสงแฟลชจากกล้องถ่ายภาพยังวูบวาบไม่หยุดหย่อน    

ภายในบริเวณลอบบี้อันหรูหรา ดวงตาคมกริบ กวาดมองรอบๆ สายตาปะทะ กับคนจำนวนมากที่จับจ้องมองมายังเขา
เป็นจุดเดียวกัน ต่างส่งยิ้มหวานเข้าใส่ พร้อมเสียงซุบซิบ เซ็งแซ่ ทว่าเขาไม่ได้สนใจ สดับฟังมากมายนัก พนักงาน
ต้อนรับสาวสวย เดินนวยนาดเข้ามาสวัสดีทักทายชั่วครู่ และ พาเขาเดินไปขึ้นลิฟต์ที่ล็อคไว้สำหรับแขกระดับวีไอพี  

ทันทีที่ร่างสูง ย่างก้าวเข้าไปภายในโถงกว้างของห้องบอลรูม อันโอ่อ่า ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานกาลาดินเนอร์เปิดตัวซีอี
โอคนใหม่แห่งบริษัทแม็กเกอร์ซี่ กรุ๊ป กลุ่มธุรกิจ ผลิตและจำหน่ายสินค้านานาชนิด ส่งออกไปทั่วโลก

เมื่อพิธีกรบนเวทีมองเห็นร่างสูงปรากฎกาย เคลื่อนตัวเข้ามาภายในงานจึงกล่าวประกาศต้อนรับ เอกบดินทร์ เจน
วิทยาการ เสียงดังกังวานไปทั่วบริเวณ ตามด้วยเสียงปรบมือดังกึกก้องของพนักงานบริษัท และแขกรับเชิญต่างๆเป็น
จำนวนมากพนักงานสาวสวย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัท เดินพาเขาไปนั่งโต๊ะที่เตรียมไว้สำหรับผู้บริหารระดับสูง
เขา ยกมือไหว้และกล่าวทักทายกลุ่มผู้บริหารของบริษัทที่นั่งอยู่ร่วมโต๊ะเดียวกัน          

จากนั้นพิธีการจึงเริ่มต้นขึ้น

พิธีกรกล่าวพูดบนเวที เชิญแขกผู้มีเกียรติให้มารับชมภาพวีดีทัศน์ ชีวประวัติ การศึกษาตั้งแต่เยาว์วัย จนเข้ามาทำงาน
จากพนักงานธรรมดาๆ กระทั่ง กลายเป็นผู้บริหารสูงสุดของบริษัทมหาชนแห่งนี้

สิ้นเสียงพิธีกร กล่าวจบ แสงจากโคมไฟหรูเลิศอลังการ ค่อยๆหรี่และดับวูบลงเหลือเพียงโคมไฟไม่กี่ดวงภายในห้อง
ยังให้ความสว่างอยู่บ้าง ทว่า ความเงียบสงบเข้ามาเยือนภายในห้องบอลรูมแห่งนี้

ภาพและเสียงจากจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ ปรากฎขึ้นมาโดยพลัน

เอกบดินทร์ กำเนิดที่จังหวัดระยอง เป็นลูกชายคนเดียวของนางนิตยาและนายบดินทร์ เจนวิทยาการ เกษตรกรสวน
ผลไม้ เรียนจบชั้นประถมและมัธยมต้น สอบได้เป็นที่หนึ่งของโรงเรียนประจำจังหวัด

เข้ามาเรียนมัธยมปลายที่โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ขณะที่เรียนอยู่นั้นทำงานหารายได้พิเศษไปด้วยโดย
เป็นพนักงานบาร์เทนเดอร์ในโรงแรมแห่งหนึ่ง เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว

ชายหนุ่มสอบเข้าศึกษา คณะพานิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งได้  เขาเป็นนักกิจกรรมของ
มหาวิทยาลัยตัวยง ชอบบำเพ็ญประโยชน์ให้กับสาธารณะ ออกค่ายอาสาพัฒนาชนบทบ่อยครั้ง กระทั่งทำกิจกรรม
ร่วมกับองค์กรพัฒนาเอกชนต่างๆ(เอ็นจีโอ) ทว่า ไม่ได้ทำให้การเรียนเสียหายแต่อย่างใดเพราะเขาสามารถเรียนจบมา
ด้วยเกียรตินิยมเหรียญทองเลยทีเดียว

หลังจากจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ชีวิตการทำงานจึงเริ่มต้นขึ้นอย่างแท้จริง

ชายหนุ่มก้าวเข้ามาเป็นพนักงานฝ่ายการตลาดสามารถสร้างยอดขายให้กับบริษัทเป็นจำนวนมากเป็นที่กล่าวขวัญ
ถึงความรู้ความสามารถด้านการตลาดชนิดหาตัวจับยากภายในบริษัทเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริหารและเป็นที่รักของ
เพื่อนร่วมงานจากอัธยาศัยไมตรีที่เป็นกันเองรวมทั้งเป็นที่ชื่นชมของพนักสาวๆเป็นจำนวนมากด้วยบุคลิกภายนอกที่
หล่อเนี้ยบ ไม่ต่างจากดาราหนัง

เขาได้รับการโปรโมทจากผู้บริหารให้เป็นผู้จัดการฝ่ายตลาดหลังจากเข้ามาทำงานเพียงแค่สองปีเท่านั้นและ
ด้วยกลยุทธ์การตลาดอันแยบยลเขาสามารถสร้างยอดขายและทำผลกำไรให้แก่บริษัทได้อย่างก้าวกระโดดเป็นที่พอใจ
ของบอร์ดบริหารและบรรดาผู้ถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ยิ่งนัก

หลังจากนั้นไม่นานนักเขาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดควบคุมดูแลสินค้าทุกชนิดของกลุ่มธุรกิจ
ในเครือทั้งหมด ซึ่งไม่เป็นที่แปลกใจเลยเขาสามารถนำสินค้าของบริษัทขยายตัวส่งออกไปทั่วโลกทำรายได้ให้กับ
บริษัทจำนวนมหาศาล

และสุดท้ายเอกบดินทร์  เจนวิทยาการ ได้รับมติเป็นเอกฉันจากบอร์ดบริหารให้ขึ้นดำรงตำแหน่ง ซีอีโอคนใหม่ใน
ฐานะผู้บริหารมืออาชีพ เพื่อสร้าง ความรุ่งเรืองมั่นคงสถาพรให้กับบริษัท เติบโตไปสู่ธุรกิจระดับโลกต่อไป

หลังจากภาพวีดีทัศน์ผ่านจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ดับวูบลง เสียงปรบมืออันยาวนานดังสนั่นหวั่นไหวทั่ว
บริเวณ พร้อมๆกับแสงจากโคมไฟระย้าหรูเลิศอลังการสว่างเจิดจ้าขึ้นมาฉับพลัน

พิธีกร กล่าวเชิญ เอกบดินทร์ ให้ขึ้นมาแสดงวิสัยทัศน์บนเวที

ชายหนุ่ม ยิ้มน้อยๆ ลุกขึ้นยืน ค่อยๆ เยื้องกรายอย่างสง่าผ่าเผยขึ้นบนเวที ตรงไปยังโพเดี้ยม ที่เจ้าหน้าเพิ่งยกมาวางไว้
หน้าเวทีเมื่อ ครู่นี่เอง เขาทอดสายตามองรอบๆ แสงแฟลชวูบวาบของบรรดานักข่าวช่างภาพ รายล้อมอยู่รอบเวที ทำ
ให้สายตาของเขาพร่าเลือน ลงเล็กน้อย ทัศนวิสัยทางสายตาที่มองจึงไม่ค่อยแจ่มชัดเท่าไรนัก

ทว่าเขาสัมผัสได้ว่า แขกผู้มีเกียรติที่นั่งอยู่ตามโต๊ะ  ต่างนิ่งเงียบรอฟังการกล่าวสุนทรพจน์ของเขาด้วยใจจดจ่อ
เขาเอื้อมมือขยับไมโครโฟนเลื่อนลงต่ำให้อยู่ระดับพอดีกับเรียวปากสูดลมหายใจลึกๆเพื่อทำสมาธิ และจึงเริ่มต้นกล่าว
     
“ ท่านสุภาพและสุภาพสตรีที่เคารพรักยิ่ง เป็นที่รู้กันดียิ่งแล้วว่าประเทศของเรากำลังประสบกับภาวะวิกฤติการณ์ทาง
เศรษฐกิจจากภาวะความฝันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และการล้มละลายของบรรษัทการเงินต่างๆที่ขาดธรรมาภิบาล
ในการบริหาร “

“ประเทศของเราโดยรวมอาศัยความได้เปรียบจากค่าแรงงานต่ำนานเกินไป และพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศมาก
เกินไป กระทั่งละเลยการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน ทำให้เกิดผลิตภาพต่ำ นับวันต้นทุนสูงขึ้นไม่สามารถแข่งขันกับ
ต่างประเทศได้”

“แต่ ท่านผู้มีเกียรติครับ บริษัทของเรายังนับว่าก้าวหน้าในระดับหนึ่ง เราฝึกอบรมพัฒนาพนักงานเพื่อเพิ่มทักษะ
ความสามารถอยู่ตลอดเวลา มีการลงทุนพัฒนาและวิจัย(R$D) ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆอยู่เสมอ ด้วยนวตกรรมเทคโนโลยีของ
เราเอง เพื่อให้ตรงตามอุปสงค์ของลูกค้า “

“ขอให้พวกท่านมั่นใจเถอะว่า ผมจะนำพาองค์กรของเราก้าวไปสู่ความมั่งคั่งและมั่นคง ผลิตสินค้าเพื่อตอบสนองต่อ
ผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งจะขยายการลงทุนทั้งในต่างประเทศให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งใน
ตลาดระดับโลกให้มากขึ้น “

“ทว่าความสำเร็จและการเจริญเติบโตของบริษัทจะเกิดขึ้นมิได้เลย ถ้าพวกเราไม่ร่วมมือกันทำงานด้วยความสามัคคี
และขยันขันแข็ง “

“สุดท้ายนี้ผมขอรับประกันว่า ถ้าบริษัทของเรา บรรลุเป้าหมายทั้งรายได้และผลกำไร พวกท่านทั้งหลายต้องได้รับผล
ตอบแทนที่คุ้มค่าจากความเหนื่อยยากที่ร่วมมือร่วมใจกันทำงานมาตลอด ทั้งโบนัสและเงินเดือนจะเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า
ปีก่อนๆอย่างแน่นอน”

“ขอขอบคุณครับ ”

สิ้นเสียง สุนทรพจน์ของชายหนุ่ม  เสียงปรบมือ ดังเกรียวกราวกินเวลายาวนานหลายนาทีเลยทีเดียว

ชายหนุ่ม ก้าวลงจากเวทีเดินออกจากห้องบอลรูม ตรงไปยังห้องน้ำอย่างรวดเร็ว แว่วสำเนียงของพิธีกรเรียนเชิญแขกผู้
มีเกียรติให้รับประทานอาหารกันตามอัธยาศัย ยังผ่านเข้ามากระแทกโสตประสาท ขณะที่เขาเดินออกมาจากห้องไป
ไกลพอสมควรแล้วก็ตาม    

---------------------------------

จากคุณ : atk
เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 54 17:59:28




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com