Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ตำนานสงครามบัลลังก์เหนือ 3 - บทที่ 9 - ยากจะยอมรับ (ครึ่งแรก) ติดต่อทีมงาน

อ่านเนื้อหาภาค 1 ได้ที่นี่ครับ

เจ้าชายไร้บัลลังก์กับเจ้าหญิงไร้อำนาจ

เด็กดี
http://writer.dek-d.com/Anithin/writer/view.php?id=471973

พันทิป
บทนำ - บทที่ 5
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9892447/W9892447.html
6-10
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9906021/W9906021.html
11-15
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9924896/W9924896.html
16-20
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9958591/W9958591.html
21-25
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10402840/W10402840.html
26-29 (จบภาค)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10440364/W10440364.html

เนื้อเรื่องต่อภาค 2

เจ้าชายแห่งความมืดกับเจ้าหญิงแห่งความฝัน

เด็กดี
http://writer.dek-d.com/Anithin/writer/view.php?id=623553

พันทิป
บทนำ - 1 (ครึ่งแรก)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/05/W9280262/W9280262.html
1 (ครึ่งหลัง)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/05/W9290547/W9290547.html
2
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/05/W9301954/W9301954.html
3 (ครึ่งแรก)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/05/W9315581/W9315581.html
3 (ครึ่งหลัง)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/06/W9326678/W9326678.html
4
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/06/W9355723/W9355723.html
5
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/06/W9380192/W9380192.html
6
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/06/W9404897/W9404897.html
7
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/07/W9435713/W9435713.html
8
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/07/W9500605/W9500605.html
9
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/08/W9571637/W9571637.html
10
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/08/W9623060/W9623060.html
11 (ครึ่งแรก)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/09/W9647241/W9647241.html
11 (ครึ่งหลัง)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/09/W9678374/W9678374.html
12
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/10/W9812163/W9812163.html
13
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/10/W9846618/W9846618.html
14
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9875051/W9875051.html
15
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9892519/W9892519.html
16
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9907488/W9907488.html
17
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9916888/W9916888.html
18
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9927562/W9927562.html
19
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9939927/W9939927.html
20
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/12/W9980469/W9980469.html
21
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/12/W10002038/W10002038.html
22
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/12/W10021934/W10021934.html
23
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/12/W10051706/W10051706.html
24
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/01/W10085054/W10085054.html
25
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/01/W10107249/W10107249.html
26
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/01/W10121033/W10121033.html
27
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/01/W10132938/W10132938.html
28
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/01/W10149703/W10149703.html
29
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/01/W10166956/W10166956.html
30 (จบภาค)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/01/W10188373/W10188373.html

เนื้อเรื่องต่อภาค 3

ศึกสองราชินี วิถีสองราชัน

เด็กดี
http://writer.dek-d.com/Anithin/writer/view.php?id=689975

พันทิป
บทนำ - 1
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10366513/W10366513.html
2
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10385694/W10385694.html
3
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10407703/W10407703.html
4
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10421486/W10421486.html
5 (ครึ่งแรก)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10440449/W10440449.html
5 (ครึ่งหลัง)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10450973/W10450973.html
6
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10494862/W10494862.html
7
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10540402/W10540402.html
8
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10568279/W10568279.html


* * * * *


ขอบคุณคุณ Mnemosyne สำหรับกิฟท์นะครับ ^^

คุณ scottie - ขอบคุณที่เป็นแม่ยกให้รูอาร์คมาตลอดนะครับ ^^ (ปลื้มแทนเจ้าลูกกระรอกจริงๆ ^^ )


* * * * *


บทที่ ๙
ยากจะยอมรับ (ครึ่งแรก)


“ท่านสิมา! ทุกคนสบายดีใช่ไหมคะ”

เคียราตกตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า

เจ้าหญิงแอชลีนน์ทรง...โผเข้ากอดหญิงสาวผมดำที่ดูอายุราวสามสิบต้นๆ ซึ่งเป็นแม่ของอาเมียร์อย่างสนิทสนม และหญิงผู้มากวัยกว่าก็ยิ้มก่อนจะกอดตอบน้อยๆ

“สบายดีเพคะ ขอบพระทัยที่ทรงห่วงใย”

“ไม่ต้องใช้ราชาศัพท์หรอกค่ะ แล้วเรียกข้าว่าแอชเฉยๆ เถอะ” เจ้าหญิงเอ่ยทันที ก่อนจะหันมาทางนางกำนัลสาวซึ่งยืนนิ่งอยู่ “เอ้อใช่ นี่เคียราค่ะ เป็นลูกพี่ลูกน้องของข้า อาเมียร์บอกท่านแล้วใช่ไหมคะ ว่าข้ายืมชื่อของนางมาใช้”

“จ้ะ” สิมารับ และหันมาส่งยิ้มให้หญิงสาวอีกคนบ้าง “ยินดีที่ได้รู้จักนะ เคียรา”

“ค...ค่ะ” คนถูกทักรับอย่างประหม่า และประหลาดใจกับแม่ของคนทรายที่ตนเห็น ซึ่งนอกจากจะดูอายุน้อยกว่าที่คิดแล้ว ยังงดงามสูงส่งเสียจนไม่น่าเชื่อว่าเป็นหญิงชาวบ้านธรรมดา...อย่าว่าแต่เป็นหญิงคนทราย แม้เคียราจะแทบไม่เคยเห็นผู้อพยพชาวทรายในเมืองหลวงแต่งตัวอย่างชาวธีร์ดีเร เปิดเผยหน้าตา และไม่สวมผ้าคลุมผมตลอดจนถึงข้อเท้าอย่างนี้นัก

เค้าหน้าคมสันหมดจดของอาเมียร์เห็นจะมาจากผู้เป็นแม่โดยแท้ เคียรายังอดนึกไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ว่าหากหญิงตรงหน้าแต่งกายด้วยเสื้อผ้าแพรพรรณชั้นดี ก็คงดูเหมือนคุณหญิงภรรยาของขุนนางชั้นสูงได้สบายๆ

เจ้าหญิงแอชลีนน์ผละไปทักทายเด็กหญิงผมดำอีกสองคน และเด็กทารกชายที่หญิงสาวผมทองร่างเล็กอีกคนอุ้มอยู่ เธอลูบหัวเด็กชายคนนั้นเบาๆ ก่อนจะเปรยให้ได้ยินแว่วๆ ว่า “โตขึ้นเยอะเลยนี่นา”

นางกำนัลสาวได้แต่ยืนประสานมือเก้กังอยู่กับสิมา ซึ่งเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาก่อน

“เดินทางลำบากหรือเปล่าจ๊ะ”

“ค...คะ?” เคียราทบทวนคำถามช้าๆ “ก็...ก็ไม่เป็นไรค่ะ ที่จริง...เอ่อ...อาเมียร์ดูแลเจ้าหญิงกับข้าดี”

“งั้นก็ดีแล้วล่ะ เป็นผู้หญิงเดินทางกลางป่ากลางเขา ข้าก็อดห่วงไม่ได้ว่าจะลำบากมากไหม” หญิงชาวทรายรับด้วยรอยยิ้มเช่นเดิม “ว่าไป เคียราทั้งสองคนนี้ก็ดูคล้ายกันมากจริงๆ นะ ได้ยินว่าเจ้าหญิงทรงมีพระญาติที่คอยดูแลใกล้ชิด และสนิทกันอย่างนี้ก็ดี”

“ข...ข้าไม่ได้เป็นพระญาติหรอกค่ะ” นางกำนัลสาวรีบแก้ความเข้าใจผิด “พ่อของข้าเป็นพี่ชายของพระราชินี ไม่ได้เป็นเชื้อพระวงศ์อะไร พระราชินีทรงโปรดเกล้าฯ ให้ข้าได้เป็นนางกำนัลประจำพระองค์ของเจ้าหญิง ข้าก็เพียงแต่เฝ้ารับใช้ในฐานะข้ารับใช้เท่านั้นเอง”

“แต่แอชแนะนำว่าเจ้าเป็น ‘ลูกพี่ลูกน้อง’ นี่นา” สิมาพูด “นั่นคือสิ่งที่เด็กคนนั้นเห็นว่าเจ้าเป็นสำหรับนางนะ”

“เอ่อ...ค่ะ” เคียราตอบ แม้จะอดคิดไม่ได้ว่าในฐานะลูกพี่ลูกน้อง นายเหนือของเธอก็ห่วงใยเธอดีอยู่หรอก...เสียแต่เรื่องแต่ละอย่างที่ขอให้เธอช่วยนั้นสร้างปัญหาเหลือเกิน

เช่นเรื่องที่แอบเอาชื่อเธอไปเที่ยวบ้านคนทรายครอบครัวนี้ จนเฟย์ลิมกับรูอาร์คตามมาทักในเมืองหลวงเรื่องหนึ่งละ

ที่จริง วันสองวันมานี้ นางกำนัลสาวพลอยโล่งอกไปด้วย ที่ชายผมแดงซึ่งเคยมองเธออย่างมีลับลมคมในสมัยเข้าใจผิดว่าเป็นเจ้าหญิงปลอมตัวมามีอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว และดีใจอีกอย่างที่เจ้ามณฑลยาร์ลาธจะจัดบ้านที่ประทับส่วนพระองค์ให้เรียบร้อยมิดชิด ...แต่ก็ไม่นึกเลยว่าเจ้าหญิงแอชลีนน์จะขอรออยู่จนวันที่ครอบครัวของอาเมียร์มาเยี่ยมอาการรูอาร์คก่อน แม้ว่าการจัดเตรียมบ้านพักจะเสร็จเรียบร้อยไปตั้งแต่วันก่อนแล้วก็ตาม

หญิงสาวจึงอดสงสัยไม่ได้ ว่าครอบครัวคนทรายนั้นมีสิ่งที่ผูกพันพระองค์มากขนาดนี้เชียวหรือ

เธอไม่แน่ใจว่าคำตอบคือการที่เจ้าหญิงแอชลีนน์มีพระปฏิสันถารกับแม่ของอาเมียร์อย่างสนุกสนาน และตอบคำถามเด็กหญิงทั้งสองที่เจรจาแจ้วๆ อย่างสดใสร่าเริงตามไปด้วยใช่หรือไม่หนอ

เคียราไม่มีคำตอบแน่ชัด เธอได้แต่ยืนมองต่อไป ขณะที่สิมาบอกให้ลูกๆ กับพี่เลี้ยงเด็กเข้าไปเยี่ยมรูอาร์คในห้องก่อน ส่วนตัวหญิงชาวทรายจะขอใช้ครัวของจวนทำอาหารกลางวันให้กับคนเจ็บ ตามที่ได้ยินอาเมียร์ฝากบอกมาว่าอยากกิน

นั่นทำให้เจ้าหญิงแอชลีนน์สนใจขึ้นมา “ซุปเนื้อแกะหรือคะ...ข้าเข้าไปช่วยได้ไหม”

“อ...องค์หญิง หม่อมฉันว่า...” นางกำนัลสาวพยายามแย้ง แต่กลับถูกสายตาแข็งของนายเหนือกวาดเข้าใส่ทันที

“มีกฎมณเฑียรบาลห้ามเจ้าหญิงเข้าครัวด้วยหรือ เคียรา”

“เอ่อ...” หญิงสาวอึกอัก “ม...ไม่มีเพคะ”

“นึกว่าเคียราจะดีใจเสียอีก ที่เราอยากทำงานบ้านงานเรือน ให้สมกับเป็นผู้หญิงขึ้นมาเสียบ้าง”

แต่ไม่มีเจ้าหญิงที่ไหนเขาเข้าครัวทำอาหารกันนี่เพคะ มีแต่เย็บปักถักร้อย ขับร้องทรงดนตรี เต้นรำกันทั้งนั้น นางกำนัลสาวได้แต่แย้งในใจ เพราะเจ้าหญิงของเธอหันไปขอเข้าครัวกับสิมา ด้วยถ้อยคำและท่าทางใกล้ชิดราวกับอ้อนญาติผู้ใหญ่...หรือกล่าวโดยเฉพาะเจาะจงคือพระมารดา

เป็นไปไม่ได้น่า เคียราแทบเผลอสั่นศีรษะห้ามความคิด แต่ก็ไม่อาจห้ามได้

หญิงชาวทรายคนนี้ให้ความรู้สึกคล้ายคลึงกับพระราชินี...ทั้งๆ ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้เลย

“เคียรา อยากมาช่วยด้วยไหมจ๊ะ” สิมาหันมาถามนางกำนัลสาวเช่นกัน

“ค...ค่ะ” และเธอก็ได้แต่ตอบรับ เพราะรู้สึกเหมือนไม่ควรออกห่างนายหญิงของตน

สิมาคงไม่ทำอันตรายเจ้าหญิงแอชลีนน์ โดยเฉพาะในจวนของท่านเจ้ามณฑลเช่นนี้ แต่หากคอยอยู่ใกล้ๆ เคียราก็คงพอจับได้ว่านางคิดอย่างไรกับการกระทำของอาเมียร์ และเรื่องทั้งหมดกระมัง

หากมีเค้าลางว่าครอบครัวคนทรายไม่ได้ปรารถนาดีต่อพระองค์ ก็ย่อมเป็นหน้าที่ของข้ารับใช้อย่างเธอที่จะคอยเตือนไม่ใช่หรือ


* * * * *


เมื่อแรกที่ลีชาได้ยินว่ารูอาร์คถูกแทงได้รับบาดเจ็บ ใจก็เผลอร่วงวูบ อาจเป็นเพราะในชีวิตเธอมีคนที่จากไปกะทันหันหลายคนเกินไปแล้วกระมัง...ไม่ว่าจะเป็นพ่อของเธอ เกล็น หรือแม้แต่เฟย์ลิม ซึ่งแม้หญิงสาวจะไม่ได้สนิทด้วย ก็ยังอดไม่ได้ที่จะเสียดายพระคู่หมั้นที่ดูเป็นคนดีเหลือเกิน

ถึงแม้ว่าพักหลังๆ รูอาร์คจะไม่ได้แวะมาที่บ้านของท่านซิอ์บุลเพื่อเล่นกับเด็กๆ เลย ซ้ำลีชาไม่อยากพบหรือพูดคุยกับเขาเท่าไร หลังจากรู้ว่าเขาไปค้างบ้านของนางโลมชั้นสูงคนหนึ่ง และมักพูดเล่นกับมาลิอาราวกับจะเกี้ยวพาราสี ...หากเขาเป็นอะไรไปจริงๆ หญิงสาวก็คงจะเสียใจอยู่ดี

แต่พอได้มาเห็นคนเจ็บที่นอนยิ้ม เงยมองเธอตาใสหลังจากทักทายว่า ‘นางฟ้ามาหาแล้ว’ หญิงสาวก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าตนควรจะเสียแรงที่เป็นห่วงดีไหม

“นางฟ้า...หมายถึงพี่ลีชาเหรอ” นาสิราถามทันที

“หมายถึงพวกเราทุกคนเลยต่างหาก” คนพูดขยี้ผมของเด็กหญิงเล่น “ไม่งั้นพี่จะรู้สึกเหมือนขึ้นสวรรค์แบบนี้ได้ไงล่ะ”

“อ้าว ขึ้นสวรรค์ไม่ใช่ตายแล้วเหรอ” นาสิราไม่วายซักต่อ

“เผอิญสวรรค์ของจริงยังไม่อยากได้พี่ไปน่ะสิ ถึงได้ส่งกลับลงมา บอกว่าให้อยู่กับสวรรค์บนดินที่มีนางฟ้าน่ารักๆ อย่างนาสิรากับฟาร์ฮานาห์ แล้วก็พี่ลีชาของพวกเจ้าดีกว่า”

ท่าทางของรูอาร์คที่ยันตัวขึ้นกอดเด็กหญิงทั้งสองจนร้องวี้ดนั้นห่างไกลคนเจ็บหนักใกล้ตาย จนพี่เลี้ยงของเด็กสองคนนั้นยิ่งอารมณ์ขุ่นไปกว่าเดิม

“ไม่เจ็บแผลเหรอคะ” หญิงสาวถามเสียงหนัก

ชายหนุ่มผมแดงเงยมองเธอแวบหนึ่งเหมือนเพิ่งตระหนักได้ แล้วก็ปล่อยมือจากสองเด็กหญิงก่อนจะงอตัว กุมชายโครงร้องโอดโอย

“พี่รูอาร์ค! พี่รูอาร์คเป็นอะไร!” ฟาร์ฮานาห์ร้องเสียงสั่น

“โอย...เจ็บ เจ็บจังเลย นี่ถ้าไม่ได้ใครปอกผลเอรีวิเศษที่วางอยู่ตรงนั้นมาให้กิน พี่คงไม่หายเจ็บแหงๆ ...”

ลีชาเข้าใจในทันที ว่าทำไมคุณชายคนรองของจวนถึงได้สั่งให้หญิงรับใช้ที่อยู่เฝ้าตนเองออกไปจากห้องตั้งแต่พวกเธอเข้ามา แล้วยังมีตะกร้าผลไม้เล็กๆ วางอยู่กับมีดปอกอย่างเรียบร้อยที่โต๊ะหัวเตียง

“ไม่เอาน่าพี่รูอาร์ค ข้ารู้หรอกว่าพี่แกล้ง” นาสิราเท้าสะเอวบอกเสียงแจ้วๆ จนหญิงสาวกลั้นยิ้ม “ผลเอรีวิเศษไม่มีจริงหรอก อยากให้พี่ลีชาปอกผลเอรีให้กินก็บอกมาเถอะ”

“...ชะอ้าว” ชายผมแดงห่อไหล่ทันควัน “ฉลาดเกินผู้ใหญ่นักนะเรา”

“ก็พ่อบอกว่าตอนที่พี่อาเมียร์ไม่อยู่ ข้าต้องเป็นพี่คนโตนี่”

รูอาร์คกลอกตา เกาหัวแกรก ก่อนจะเอนหลังลงพิงหมอน แล้วหันมามองลีชาที่ยืนอุ้มเด็กอยู่ด้วยสายตาอ้อนวอน

“ท่านสิมาให้ข้าดูแลอาซิซ แล้วมือท่านก็ไม่ได้เจ็บอะไรนี่คะ” หญิงสาวพยายามพูดเรียบๆ พร้อมกับเขย่าตัวเด็กชายเบาๆ

สุดท้าย หนุ่มผมแดงก็ถอนใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหยิบผลไม้สีแดงลูกย่อมกว่าฝ่ามือมากัดกร้วมทั้งเปลือก

“ถ้ากินแบบไม่ปอกจะหายเจ็บมั้ยคะ” ฟาร์ฮานาห์ถามอย่างสงสัย

“ดูซิ มีแต่ฟาร์ฮานาห์คนเดียวที่ห่วงพี่แท้ๆ” รูอาร์คพูดไปเคี้ยวไป พลางยื่นมือมาลูบหัวเด็กหญิงคนเล็กอย่างเอ็นดูเหมือนจะหาแนวร่วม

“ตกลงพี่รูอาร์คเจ็บหนักจริงๆ เหรอ” เด็กหญิงคนโตตั้งคำถาม...อย่างเดียวกับที่อยู่ในใจของลีชา

“โธ่! ก็จริงน่ะสิ อยากดูไหมล่ะ” คนเจ็บเลิกชายเสื้อนอนเนื้อบางขึ้น เผยให้เห็นผ้าพันแผลข้างใต้ “ระวังกินข้าวไม่ลงก็แล้วกัน”

“ข้าไม่กลัวหรอก” นาสิราเชิดหน้าทันที “พ่อบอกว่าคนจะเป็นนักรบต้องไม่กลัวเลือด ไม่กลัวแผล ข้าจะเป็นนักรบให้ได้อย่างพ่อกับพี่อาเมียร์ล่ะ”

“แล้วไม่กลัวโดนจิ้มเป็นแผลเป็นเหมือนพี่บ้างเหรอ” รูอาร์คยังคงถาม “สาวๆ เขากลัวเป็นแผลเป็นจะตายไป เดี๋ยวก็หมดสวยหรอก”

“คนจะงามงามที่ใจใช่ใบหน้า” เด็กหญิงยกคำพูดจากแบบฝึกหัดคัดอักษรมาตอบ เรียกเสียงหัวเราะจากชายหนุ่ม

“เข้าใจตอบจริงเชียว” รูอาร์คยักไหล่พลางหยักยิ้ม และวางเมล็ดผลไม้ทิ้งลงบนโต๊ะหลังจากกินเนื้อจนหมด “ว่าไป พูดถึงเรื่อง ‘งาม’ แล้วก็เลยนึกขึ้นได้ ไปเดินเล่นดูอะไรงามๆ กันสักหน่อยไหมล่ะ”

“อะไรงามๆ ล่ะ” นาสิราตั้งคำถาม

“อือม์...อย่างดอกไม้เป็นไง”

“ที่บ้านข้าก็มีดอกไม้ พี่ลีชาพาขึ้นไปเดินเล่นบนภูเขาก็มีดอกไม้ ที่เก็บมาให้พี่รูอาร์คนี่ไง” เด็กหญิงพยักพเยิดไปทางแจกันใส่ดอกไม้ป่าหลากหลายชนิดที่ตั้งประดับอยู่ ซึ่งไม่ได้จัดแต่งอย่างมีหลักการเหมือนดอกไม้ประดับตามบ้านขุนนาง

“งั้น...นกยูงล่ะ”

นั่นดูเหมือนจะทำให้เด็กหญิงทั้งสองสนใจขึ้นมาทันที ...และกระทั่งลีชาเองก็แปลกใจขึ้นมา

หญิงสาวไม่เคยเห็นนกยูงเป็นๆ แม้จะเคยเห็นขนหางสีสวยรูปร่างแปลกตาของมันมาไม่กี่ครั้ง ได้ยินว่านกยูงเป็นนกจากแดนไร้นามทางตะวันออก เลยดินแดนทะเลทรายไปอีก และมีแต่พวกพระราชวงศ์หรือขุนนางเท่านั้นที่ร่ำรวยพอจะหาซื้อมันมาทำอาหารในงานเลี้ยงฉลองต่างๆ ได้ โดยห่มประดับเนื้อนกยูงย่างทั้งตัวด้วยหนังและขนอันสวยงามของมันเอง ในท่วงท่าเหมือนกับกำลังรำแพนหาง เวลานำมาขึ้นโต๊ะอาหาร

“ทำไมบ้านพี่รูอาร์คมีนกยูงล่ะ” นาสิราซัก

“อืม...มีคนให้มาคู่หนึ่งเมื่อต้นปี ทำนองของขวัญปีใหม่ บวกฉลองที่พี่เฟย์ลิมผ่านรอบสอง แต่ไม่ทันได้เอาไปขึ้นโต๊ะ...น้องสาวพี่ก็เห็นมันสวยเกินกว่าจะกิน เลยสงสาร แถมหลังจากนั้นมีแต่เรื่องยุ่งๆ ไม่เหมาะให้ฉลอง เลยถือว่าเลี้ยงไว้ประดับสวนดีกว่า” รูอาร์คอธิบาย “ที่จริง กินไปก็ไม่อร่อยหรอก เนื้อนกยูงแห้งจะตาย ตัวเป็นๆ เดินได้ รำแพนหางได้สวยกว่ากันเยอะ แต่เสียงร้องแหลมเปี๊ยวแสบหูพิกล”

“หา! แล้วพี่รูอาร์คเคยกินได้ยังไงล่ะ” เด็กหญิงคนเดิมถามตาโต

“ก็กินในงานเลี้ยงของพวกขุนนางขี้โอ่แถวนี้ แต่น่าเบื่อเป็นบ้าเลย มีแต่เอาเนื้อตัวแปลกๆ หายากๆ มาอวดว่าตัวเองมีปัญญาหา ทั้งๆ ที่รสชาติห่วยแตกสิ้นดี ถ้าเทียบกับอาหารที่แม่ของพวกเจ้าหรือลีชาทำ ว่าแต่อยากไปดูนกยูงที่พี่ว่าไหมล่ะ”

“อื้อ” “ค่ะ” เด็กทั้งสองพยักหน้ารับอย่างกระตือรือร้น

ลีชากะพริบตาปริบๆ เมื่อชายหนุ่มผมแดงท่าทางจะเอาจริง และขอให้เด็กหญิงช่วยหยิบเสื้อคลุมที่แขวนอยู่บนฉากไม้มาให้

“ท่านลุกเดินได้แล้วเหรอคะ” หญิงสาวตั้งคำถาม

“ตอนนี้ก็เหมือนตาแก่ยักแย่ยักยัน แต่ให้นอนแบ็บบนเตียงทั้งวันนี่น่าเบื่อตาย—อ๊ะ ขอบใจ” รูอาร์คพูดพร้อมกับรับเสื้อคลุมมาสวมเข้าทางแขน “ข้าโดนแทงมากี่วันแล้ว ถึงหมอจะบอกว่าดวงแข็งกับแผลหายเร็วจนไม่น่าเชื่อก็เถอะ”

ก็จริง นับจากคืนที่รูอาร์คได้รับบาดเจ็บ นี่ก็ล่วงเข้าวันที่สี่ไปแล้ว แม้ลีชาไม่แน่ใจว่าคนถูกแทงที่ชายโครงจะใช้เวลาฟื้นตัวนานสักเท่าไร

“หรือที่จริง...” ชายหนุ่มค่อยๆ เอ่ยต่อไปอย่างหยอกเย้า “เจ้าอยากเห็นข้านอนหน้าซีดอ่อนแรง ขยับปากพะงาบๆ บอกรักเป็นครั้งสุด—”

“ความตายไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะคะ” ลีชาค้านเสียงแข็ง

เขาเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วจึงหยิบไม้เท้าช่วยเดินที่วางพิงผนังข้างหัวเตียงมา และใช้มันยันตัวลุกขึ้นจากเตียง ...ก่อนจะทำราวกับว่าไม่เคยมีคำพูดในเมื่อครู่ก่อนหน้า

“เอ้า! ทุกคน ออกไปกันดีกว่า วันนี้เปลี่ยนบรรยากาศไปกินอาหารกลางวันในศาลาริมสวนบ้างก็ดีเหมือนกัน”


* * * * *

จากคุณ : Anithin
เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 54 00:12:27




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com