บทที่ 20 : ไทม์ลิมิต
เปลวไฟสีดำทะลักพุ่งออกจากพื้นใต้โซฟาที่ท่านการุณย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กำลังนั่งรอเพื่อกล่าวเปิดโครงการแนะแนวนักเรียนมัธยมปลายสู่รั้วมหาวิทยาลัย มันเป็นอัคคีมายาที่ไม่อาจมีใครมองเห็น ทว่าการปรากฏของเพลิงกาฬที่ไม่มีจริงได้เตือนให้ประกายแก้วรับรู้ว่านาทีแห่งวินาศกรรมกำลังเข้าใกล้ ... มันอาจจะรุนแรง อันตรายมากมายกว่าเมื่อครั้งแผนวินาศกรรมเครื่องบิน อัคคีมายาที่โหมกระหน่ำไปทั่วทั้งห้าง หรือนั่นอาจหมายถึงเปลวไฟจากการระเบิดที่น่าจะลุกลามใหญ่โต
“ ท่านผู้ว่าฯคะ ” ประกายแก้วตัดสินใจตะโกนเรียก ได้ผล ! ท่านผู้ว่าการุณย์รวมถึงทุกคนในที่นั้นหันมามองเธอเป็นตาเดียว ไม่ว่าจะเป็นทีมงาน นักเรียนนักศึกษาตลอดจนประชาชน ทั้งหมดล้วนแปลกใจที่อยู่ดีๆมีเด็กนักเรียนมายืนตะโกนเรียกท่านผู้ว่าฯอย่างผิดวิสัย
“ หนูเอง ? ” ท่านการุณย์ลุกขึ้นยืนทันทีที่เห็นเด็กสาว ดูเหมือนท่านจะจำใบหน้าของแก้วได้ ก็เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนที่เขารอดชีวิตจากเหตุลอบวางระเบิดเครื่องบินก็เพราะนักเรียนมัธยมปลายคนนี้ที่ได้ห้ามเตือนในนาทีสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่อง
“ ท่านผู้ว่าคะ ” เด็กสาวกระโจนพรวดออกไปหน้าเวทีท่ามกลางเสียงวี้ดว้ายไม่เข้าใจของคนอื่นๆ แก้วมองตรงไป ข้างกายของท่านการุณย์มีร่างหญิงชราในชุดผ้าไหมประกายม่วง
ท่านยายคือวิญญาณบรรพบุรุษของผู้ว่าฯ เด็กสาวเคยเจอมาก่อนแล้วที่สนามบิน และบัดนี้ดวงวิญญาณคุณยายกำลังชี้ไม้ชี้มือไปที่ใต้โซฟา ... ชี้ตรงที่ซึ่งเปลวไฟสีดำกำลังทะลักพวยพุ่งออกมา !
ถึงเวลานี้ประกายแก้วค่อนข้างมั่นใจว่าต้นกำเนิด หรือต้นเพลิงของอัคคีมายาลุกท่วมห้างสรรพสินค้าน่าจะอยู่ใต้เก้าอี้ที่ใช้รับรองท่านผู้ว่า และเมื่อรู้แน่ชัดแล้ว สิ่งที่ต้องกระทำต่อก็คือการป้องกันเหตุร้ายอันอาจคร่าชีวิตผู้คนนับร้อย
“ แก้ว ! ทำอะไรน่ะ ? ” เสียงเพื่อนดังจากข้างหลัง เมื่อเด็กสาวหันไปก็พบทั้งพยนต์ วิวัฒน์ สุจิตรา รวมถึงศศิรัตน์ที่กำลังยืนทำหน้างงๆ ทุกคนไม่เข้าใจพฤติกรรมของเธอ และตอนนี้เด็กสาวก็ไม่มีเวลาที่จะมาอธิบายเสียด้วยสิ
ประกายแก้ว สกุลสุวรรณตัดสินใจเด็ดขาด เด็กสาวตรงเข้าไปหาท่านการุณย์ท่ามกลางการพุ่งเข้าขัดขวางของบอดี้การ์ดสองสามคน
“ ขอหนูคุยกับท่านผู้ว่าฯหน่อยค่ะ ” แก้วขอร้อง เธอถูกสกัดกั้นโดยการ์ดร่างใหญ่ เหลือบดูนาฬิกาก็เห็นว่าเวลาเหลืออีกเพียงแค่สองนาทีเศษๆเท่านั้น ! “ ถอยไปหนู ” การ์ดประจำตัวพยายามทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ขณะที่การ์ดร่างใหญ่อีกคนกำลังหยิบวิทยุประจำตัวเพื่อเรียกกำลังเสริม ทางด้านหลัง พยนต์กับวิวัฒน์กำลังรีบรุดเข้ามาห้ามเธอ
“ เดี๋ยว ! ให้คุณหนูเข้ามาหาผม ” เสียงเรียบแต่เฉียบขาดของผู้ว่าราชการจังหวัดทำให้ทุกคนที่กำลังร่วมมือกันสกัดกั้นหยุดนิ่งด้วยความงุนงง
ประกายแก้วปลดมือการ์ดที่จับแขนเธอไว้ เด็กสาวรีบเดินตรงเข้าหาท่านผู้ว่าฯ สายตามองเห็นวิญญาณผู้พิทักษ์ของท่านการุณย์ ท่านยายผู้เป็นบรรพบุรุษกำลังชี้มือไปที่ใต้โซฟาอย่างร้อนรน “ ท่านคะ ที่ใต้โซฟา ” นักเรียนสาวพูดเสียงดังพร้อมชี้มือประกอบคำพูด ทุกคนในที่นั้นเงียบกริบด้วยอยากรู้สถานการณ์ที่เด็กสาวแปลกหน้าเข้าจู่โจมถึงตัวผู้ว่าราชการจังหวัด
“ ใต้โซฟา ? ทำไมรึ ? ” “ ใต้โซฟามีระเบิดค่ะ ! ” แก้วตะโกนเสียงดังลั่น เพียงเท่านั้นไทยมุงบางส่วนถึงกับแตกฮือ ขณะที่หลายคนยืนนิ่งก่อนที่จะหัวร่องอหาย แต่โดยส่วนใหญ่ยืนทำหน้างงๆและรอดูสถานการณ์
“ ระเบิด ? ” ผู้ว่าฯทวนคำ “ ค่ะ ขออนุญาตนะคะ ท่าน ” ไม่พูดพล่ามทำเพลง ประกายแก้วคุกเข่าข้างโซฟา ท่านการุณย์ลุกขึ้นยืนดูการกระทำของเด็กสาวผู้เคยมีบุญคุณต่อชีวิต แก้วผู้ไม่สนใจใครรวบรวมกำลังพลิกโซฟาให้ล้มไปอีกทาง
เวลาเหลือไม่ถึงสองนาที !
ภาพที่กระจ่างชัดต่อหน้าเด็กสาว พรมที่พื้นใต้โซฟามีรอยงัดแงะ ฉีกขาด !? ดวงเนตรสองภพของประกายแก้วสามารถมองเห็นเปลวไฟสีดำที่พวยพุ่งออกมาจากรอยงัดแงะนั้น ต้นกำเนิดเพลิง ต้นกำเนิดวินาศกรรมอยู่ที่ใต้พื้น !!
“ เจอแล้ว ” แก้วพูดพลางใช้มือฉีกพรมออก มันแกะง่ายกว่าที่คิด ลักษณะเหมือนพรมนั้นโดนฉีกแกะมาแล้วครั้งหนึ่งแล้วใช้กาวติดเพื่ออำพรางไว้ ใต้พรมเป็นฝาไม้ขนาดใหญ่ เด็กสาวพยายามใช้มือแกะแล้วเปิดมันออก ทว่าติดแน่น ! “ ฉันช่วยเอง ” ท่านการุณย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดไม่รอช้า รีบเข้ามาช่วยเด็กสาวยกแผ่นไม้ เขารู้สึกเชื่อมั่นนักเรียนมัธยมผู้เคยช่วยชีวิตจากเหตุลอบสังหาร
‘ พ่อ ! มันอยู่นั่น นังเด็กที่ชอบรังควาญพวกเรา ! ’ แว่วเสียงที่เคยได้ยินมาก่อน ประกายแก้วจดจำได้ว่าสำเนียงที่ได้ยินเป็นเสียงกุมารผีที่คอยอาฆาตหลอกหลอน ... หากตอนนี้มันอยู่แถวนี้แล้วล่ะก็ หมอผีชุดขาวผู้เป็นต้นเรื่องก็น่าจะอยู่ในละแวกนี้เช่นเดียวกัน
เหลืออีกหนึ่งนาที !
บัดนี้ประกายแก้ว สกุลสุวรรณกับท่านผู้ว่าการุณย์กำลังช่วยกันยกแผ่นไม้ขึ้นอย่างสุดแรงเกิด แก้วเค้นพลังทุกส่วนเพื่อเปิดฝาช่องลับใต้พื้น ทว่าทันใดนั้น ! เบื้องหน้าเด็กสาวพลันปรากฏร่างกุมารผีห้อยหัวลงมาจากเพดาน
‘ ฮิๆๆๆๆๆ ข้าเตือนแล้วนะว่าอย่ามายุ่ง ! ’ เสียงหัวเราะก้องกังวานสั่นประสาท แววตาผีร้ายวาวโรจน์ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ประกายแก้วเกือบผวา ผงะออกห่าง ทว่าเด็กสาวยังสามารถตั้งสติไว้ได้ หากแม้นปล่อยมือแล้วเผ่นจากที่ตรงนี้ ความหวังที่จะหยุดยั้งวินาศกรรมก็จะหมดสิ้นในทันที
ดังนั้นเธอจึงต้องอดทนต่อการหลอกหลอน !
แผ่นไม้ถูกเปิดออก สิ่งที่ปรากฏให้เห็นต่อหน้าแก้ว นอกจากอัคคีมายาดำแล้วยังมีเครื่องกลขนาดใหญ่พอสมควร ลักษณะของมันเป็นแท่งๆ มีขดลวดสปริง มีนาฬิกาที่กำลังนับถอยหลังด้วยตัวเลขดิจิตอล ทว่าแม้เธอจะไม่เข้าใจการทำงานของมันโดยละเอียด ทว่าเด็กสาวก็สามารถเดาออกได้ว่ามันคืออะไร
ระเบิดเวลา ! ที่แย่กว่านั้น ... บัดนี้ตัวเลขที่หน้าปัดเหลืออีกเพียงครึ่งนาที !
จากคุณ |
:
Luckard
|
เขียนเมื่อ |
:
2 มิ.ย. 54 08:26:35
|
|
|
|