หลังจากคืนที่เจ้าชายเอเดรียนอาสามาส่งจนถึงคฤหาสน์ ท่านผู้หญิงมาร์กาเร็ตก็ดูจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ถึงขนาดเลิกวุ่นวายกับลูกสาวคนเดียวไปพักใหญ่ เลดี้เมลิอานาร์จึงถือเอาช่วงเวลาอันปลอดโปร่งนี้ออกไปฝึกดาบกับบิดาที่โรงฝึกจนเย็นย่ำทุกวัน หากวันไหนบิดาไม่ว่างนางก็จะแวะไปเรียนเวทมนตร์กับท่านปราญช์ที่วิหารหลวง หญิงสาวจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นในโรสอคาเซีย หรือถึงจะเห็นก็คงไม่ทันได้คิดสงสัยว่าการทำความสะอาดเครื่องเรือนครั้งใหญ่และการตกแต่งบ้านใหม่นั้น จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตของนางที่ตรงไหน จนกระทั่งแม่สาวใช้ต้นห้องวิ่งพรวดพราดหน้าตาตื่นเข้ามาในห้องอาหารแต่เช้านี่แหละ
“มีอะไรหรือเกล”
นายสาวชะงักมือที่กำลังเอื้อมไปหยิบขนมปังจากตะกร้าหวายกลางโต๊ะ เลิกคิ้วมองหน้าผู้มาใหม่ด้วยความประหลาดใจ โชคดีที่เวลานี้ท่านผู้หญิงมาร์กาเร็ตยังไม่ลงมาจากห้องนอนชั้นบน โต๊ะอาหารตัวยาวขนาดสิบสองคนจึงมีหญิงสาวนั่งอยู่เพียงผู้เดียว หาไม่แล้วแม่คนไม่รู้กาละเทศะเป็นต้องถูกดุแน่นอน
“เกิดเรื่องใหญ่แล้วเจ้าค่ะคุณหนู” เกลละล่ำละลักรายงานแทบจะไม่หายใจหายคอด้วยท่าทางตื่นเต้น
ผู้เป็นนายยังคงรักษาสีหน้าได้สงบ มีเพียงเส้นคิ้วเรียวโค้งเท่านั้นที่เลิกขึ้นสูงอย่างฉงน
“เรื่องใหญ่อะไรของเจ้า?”
“คือ...ข้าไปที่ตลาดมาเจ้าค่ะ ได้ยินเค้าลือกันให้แซ่ดว่าเจ้าชายเอเดรียนจะทรงหมั้น”
“อ้าว ถ้างั้นก็ข่าวดีน่ะสิ แล้วพระองค์จะทรงหมั้นกับใครล่ะ เลดี้โจเซฟิน หรือว่าเจ้าหญิงแอนเจล่า แต่เอ...กับเลดี้โรซามุนด์ข้าก็เคยได้ยินข่าวว่าเป็นคู่รักของพระองค์อยู่พักหนึ่งเหมือนกันนะ”
“ไม่ใช่พวกที่ว่ามาทั้งหมดนั่นหรอกเจ้าค่ะ” แม่สาวใช้ตวัดสายตาค้อนนายสาว ตอบโพล่งออกมาทันควัน “เจ้าชายจะทรงหมั้นกับคุณหนูต่างหาก”
เมลิอานาร์แทบจะสำลักซุปที่กำลังตักเข้าปาก
“เจ้าว่าอะไรนะ!?”
เกลไม่จำเป็นต้องตอบซ้ำ เพราะรู้ดีว่าคุณหนูของนางได้ยินชัดเจนทุกถ้อยคำ ก็ดูจากท่าทางตกอกตกใจนั่นปะไร นางเองตอนได้ยินเรื่องนี้ทีแรกก็ตกใจไม่แพ้กัน แต่เห็นจะด้วยเหตุผลคนละอย่างกับผู้เป็นนาย
แม่สาวใช้กระหยิ่มยิ้มย่องนึกวาดฝันอยู่ในใจ ถ้าหากคุณหนูของนางได้เป็นคู่หมั้นของเจ้าชายเอเดรียนเมื่อไหร่ละก็ นางจะเดินยืดอกชูคอตั้งแต่หัวตลาดยันท้ายตลาดเลยทีเดียว ก็เจ้าชายเอเดรียนน่ะทรงเป็นชายหนุ่มรูปงามเสน่ห์แรงที่สุดในเมืองหลวง บรรดาสาวๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งแม่หม้ายต่างก็พากันหลงใหลใฝ่ฝัน อยากจะเป็นคู่ครองของพระองค์แทบทั้งนั้น ถ้าหากเจ้าชายทรงเลือกที่จะหมั้นกับเลดี้เมลิอานาร์จริง คุณหนูของนางก็จะกลายเป็นที่อิจฉาของสาวๆ ทั้งเมืองเลยทีเดียว แต่เกลยังอดสงสัยไม่ได้เพราะที่โรสอคาเซียไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้เลยสักคน ที่สำคัญตัว ‘ว่าที่พระคู่หมั้น’ เอง ก็ดูเหมือนจะเพิ่งรู้เรื่องจากปากของนางนี่แหละ
“ตกลงคุณหนูจะหมั้นกับเจ้าชายจริงหรือเปล่าเจ้าคะ” ความอยากรู้ทำให้เกลยั้งปากเอาไว้ไม่อยู่
“เจ้าบ้าไปแล้วหรือเกล อยู่ดีๆ ข้าจะไปหมั้นกับพระองค์ได้ยังไง”
“อะไรกันเมลิอานาร์ โวยวายเสียงดังจนได้ยินไปถึงห้องโถงข้างนอกแน่ะ”
ท่านผู้หญิงมาร์กาเร็ตส่งเสียงเข้มงวดนำเข้ามาก่อน จากนั้นร่างสูงสง่าในชุดกระโปรงจีบใต้อกสีฟ้าสดใสก็ก้าวเข้ามานั่งลงที่หัวโต๊ะ พอเหลือบไปเห็นแม่สาวใช้วัยรุ่น คิ้วที่กันเอาไว้จนโค้งคมก็ขมวดย่นเข้าหากันทันที
“อ้าว...เกล เจ้าเข้ามาทำอะไรในนี้”
“ปละ..เปล่าเจ้าค่ะ”
เกลหน้าม่อย รีบย่อกายลงทำความเคารพประมุขฝ่ายหญิงของบ้าน แล้วเดินตัวลีบออกจากห้องไปด้วยความยำเกรง
สาวใช้ประจำโต๊ะอาหารนำซุปร้อนๆ ควันกรุ่น พร้อมกับไข่ลวกสองฟองเข้ามาวางไว้ตรงหน้าผู้มาใหม่ ก่อนจะถอยไปยืนคอยรับใช้อยู่ห่างๆ อย่างรู้หน้าที่
“เมื่อกี้ลูกพูดถึงข่าวลืออะไรหรือจ๊ะ แม่ได้ยินไม่ถนัด”
ท่านผู้หญิงมาร์กาเร็ตตอกไข่ใส่ถ้วยเงินใบน้อยขณะเอ่ยถามด้วยท่าทางเรื่อยๆ เหมือนชวนคุยมากกว่าจะสนใจอยากรู้จริงจัง
“ข่าวลือเรื่องคู่หมั้นของเจ้าชายเอเดรียนน่ะค่ะท่านแม่ ไม่รู้ไปเอาจากไหนมาลือกันเป็นตุเป็นตะ ข่าวโคมลอยแท้ๆ เลย”
“หรือจ๊ะ แล้วเค้าลือกันว่ายังไงล่ะ”
“เค้าลือกันว่าพระองค์จะทรงหมั้นกับ เอ้อ...”
เมลิอานาร์ค้างคำพูดเอาไว้แค่นั้นเพราะเพิ่งฉุกใจคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ นางจ้องมองอากัปกิริยาใจเย็นผิดปกติของมารดาอย่างสงสัย จนกระทั่งท่านผู้หญิงมาร์กาเร็ตต้องเงยหน้าขึ้นมาดุ
“ทำไมลูกไม่พูดต่อไปให้จบล่ะเมลิอานาร์ แม่กำลังฟังอยู่แท้ๆ”
“ท่านแม่คะ ข้าถามจริงๆ เถอะ ท่านแม่รู้เรื่องนี้มาก่อนหรือเปล่า”
“เรื่องอะไร?”
ท่านผู้หญิงมาร์กาเร็ตพยายามวางหน้าเฉยไม่รู้ไม่ชี้ หากก็ซ่อนพิรุธเอาไว้ไม่มิด เพราะความปลื้มปิติคอยแต่จะทำให้ริมฝีปากขยับยกขึ้นเป็นรอยยิ้มอยู่ร่ำไป จึงถูกผู้เป็นลูกสาวสังเกตเห็นจนได้
“ตกลงท่านแม่เป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้สินะคะ”
“เอ๊ะ เมลิอานาร์พูดจาอย่างนี้กับแม่ได้ยังไง เบื้องหลังอะไรของเจ้า แม่ยังไม่รู้เลยว่าลูกพูดถึงเรื่องอะไร”
“ก็เรื่องที่เจ้าชายเอเดรียนจะทรงหมั้นกับข้าไงคะ ทำไมอยู่ดีๆ คนถึงได้ลือกันไปทั้งตลาดทั้งที่มันไม่มีมูลความจริงสักนิด”
“ใครบอกเจ้าว่ามันไม่มีมูลความจริง”
ประโยคคำถามที่หลุดออกมาจากริมฝีปากเคลือบสีแดงสดของผู้เป็นมารดาทำเอาเมลิอานาร์ชะงักไปอย่างไม่เชื่อหู ท่านผู้หญิงมาร์กาเร็ตจึงถือโอกาสที่ลูกสาวยังงุนงงจับต้นชนปลายไม่ถูกอยู่นั้น พูดต่อไปทันที
“เรื่องนี้องค์ราชาทรงให้คนมาทาบทามกับแม่ไว้นานแล้ว และแม่ก็ตกลงรับปากพระองค์ไปแล้วด้วย แค่ยังไม่ได้บอกให้ลูกรู้เท่านั้นเอง”
“อะไรนะคะ” คนฟังอ้าปากค้าง
“เรื่องใหญ่ขนาดนี้ท่านแม่ตกลงกับองค์ราชาเอาเองได้ยังไง ทำไมไม่ถามความสมัครใจจากข้าสักคำ”
“ขืนถามเจ้าก็โยกโย้อยู่นั่นน่ะสิ แม่ตัดสินใจแล้ว ท่านพ่อเองก็ไม่ได้คัดค้านอะไร...พรุ่งนี้ฝ่าบาทจะเสด็จมาสู่ขอเจ้าให้เจ้าชายเอเดรียนอย่างเป็นทางการอีกที เตรียมตัวไว้ด้วยล่ะ”
พรุ่งนี้!!
ทำไมทุกอย่างช่างเกิดขึ้นรวดเร็วนัก
“นี่ใจคอท่านแม่จะไม่ให้ข้าได้มีเวลาตั้งตัวสักนิดเลยหรือคะ” เมลิอานาร์พยายามหาทางต่อรอง
“จะต้องตั้งตัวอะไรกันจ๊ะ ก็แค่พิธีแลกแหวนแห่งพันธะตามธรรมเนียมเท่านั้นเอง ส่วนงานเลี้ยงประกาศหมั้น องค์ราชาทรงกำหนดจะจัดขึ้นในวังเดือนหน้า พรุ่งนี้เจ้าแค่แต่งตัวสวยๆ รออยู่ที่บ้านก็พอ แม่จะให้ซอรีนขนเสื้อผ้าใหม่ขึ้นไปไว้ให้บนห้อง ต่อไปนี้เจ้าจะต้องแต่งตัวให้เหมาะสม แม่ห้ามเด็ดขาดขาดนะเมลิอานาร์ ไม่ให้เจ้าใส่เสื้อผ้าแบบผู้ชายอีก แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะถึงวันแต่งงานเจ้าจะต้องเก็บเนื้อเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ห้ามตะลอนๆ ออกไปข้างนอกอย่างเคย เข้าใจมั้ย”
“แต่... ท่านแม่คะ ข้าต้องไปฝึกดาบกับท่านพ่อนี่นา”
“เรื่องนั้นก็ขอให้เลิกซะด้วย เจ้าจะเป็นถึงพระชายาในอนาคตดังนั้นต้องรู้จักวางตัวให้เหมาะสม เอาเถอะยังพอมีเวลาอีกระยะหนึ่งกว่าเจ้าจะเข้าไปอยู่ในวัง แม่จะเป็นคนอบรมวิชาการบ้านการเรือนและการวางตัวของกุลสตรีให้เจ้าเอง”
โอ๊ย...ใครก็ได้ช่วยบอกข้าที นี่มันฝันร้ายใช่มั้ย...
เลดี้เมลิอานาร์ได้แต่คร่ำครวญอยู่ในใจ อาหารเช้ามื้อนั้นดูเหมือนจะติดอยู่แค่ลำคอจนนางกลืนอะไรไม่ลงอีกต่อไป หญิงสาวรู้สึกมึนงงไปหมด ไม่เข้าใจว่าเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นได้อย่างไร ตั้งแต่ตอนไหน แล้วทำไมถึงต้องเป็นนาง...ที่สำคัญเจ้าชายเอเดรียนทรงทราบเรื่องนี้หรือยัง?
น่าจะยัง..
นางสรุปเอาเอง เพราะถ้าทรงทราบ มีหรือที่เจ้าชายจะทรงยอมรับง่ายๆ ใครๆ ก็รู้ว่าพระองค์ทรงมีคู่รักลับๆ อยู่หลายคนด้วยกัน ทั้งที่ออกหน้าและไม่ออกหน้า แต่ละคนก็ล้วนเป็นสาวงามขึ้นชื่อทั้งนั้น เมลิอานาร์มั่นใจว่า หากเจ้าชายเอเดรียนทรงคิดจะมีคู่ครองขึ้นมาจริงๆ พระองค์คงจะเลือกหนึ่งในบรรดาสาวๆ เหล่านั้นแหละ ไม่ใช่นาง
หญิงสาวตัดสินใจได้ในนาทีนั้นว่าจะต้องไปเจรจากับเจ้าชายเอเดรียนให้รู้เรื่องอย่างเร่งด่วน ถ้าหากโชคดีได้รับความร่วมมือจากชายหนุ่มอีกแรง บางทีพรุ่งนี้องค์ราชาอาจไม่ต้องเสียเวลาเสด็จมาที่โรสอคาเซียเลยก็เป็นได้...
แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 54 21:35:51
จากคุณ |
:
akihiro
|
เขียนเมื่อ |
:
3 มิ.ย. 54 21:35:19
|
|
|
|