>>>>!!!จ้างเธอให้รัก ตอนที่2!!!<<<<
|
 |
ลิงค์ของตอนที่ผ่านมานะคะ บทนำและตอนที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10613052/W10613052.html ******************** บทที่สอง พบเจอ หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปแล้ว นีรนาเริ่มจะทนกับสภาพห้องที่ทำให้เธอหงุดหงิดทุกครั้งเมื่อย่างเท้าก้าวข้ามธรณีประตู ได้ การเรียนก็เหนื่อยพอดูแต่เรื่องหอพักนั้นเหนื่อยใจกว่า เธอเพิ่งจะได้ห้องพักราคาปานกลางใกล้ๆมหาวิทยาลัยหลังจากสอบถามนักศึกษาซึ่งเรียนในระดับเดียวกัน นีรนารู้สึกโชคดีมาก เธอจึงรีบติดต่อเพื่อเริ่มทำการขนย้ายทันทีทว่าหญิงสาวต้องรอจนกว่าวันเริ่มสัญญาเช่านั่นก็คืออาทิตย์หน้า แปลว่าเธอต้องนอนซมในห้องพักอับชื้นของพี่สาวต่อไปอีกสักพักอย่างจำยอม ตอนนี้นีรนารู้สึกคุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวมากขึ้น เธอมีเวลาโทรศัพท์กลับไปบอกแม่และพ่อว่าเธอสบายดี เพียงเรื่องอาชีพของนราวรรณเท่านั้นที่เธอไม่ได้พูดความจริง นีรนารู้ดีว่าแม่จะต้องเสียใจมากๆหากรู้ว่านราวรรณขายบริการ แม่ของเธอไม่ชอบหญิงสาวผู้ได้ชื่อว่าโสเภณีเนื่องด้วยอคติส่วนตัวของแม่ หญิงสาวเกลียดความรู้สึกที่ดูเหมือนพี่สาวตัวเองต่ำต้อยสำหรับสายตาของคนอื่นเช่นนี้ บางทีหลายคนคงคิดว่านราวรรณเป็นผู้หญิงไร้ค่าและนีรนาก็อยากจะปกป้องพี่สาวตนเองแม้ว่าจะทำอะไรไม่ได้เลยก็ตามที นีรนาไล่ความคิดเหล่านั้นออกไปจนหมดสิ้นระหว่างเขียนรายงาน การศึกษาคงจะเป็นสิ่งเดียวที่จะยืนยันความมุ่งมั่นของตัวเธอเองและพี่สาวได้ เธอกำลังทำได้ดีและพึงพอใจกับงานนี้มาก เย็นนี้พี่มีนัดกับลูกค้า คงจะทานอาหารค่ำด้วยไม่ได้ ขอโทษนะ วรรณ นีรนาอ่านข้อความอย่างเอือมระอา เธอเบื่อกับคำกล่าวซ้ำซากของพี่สาว ตอนนี้เริ่มรู้สึกตัวว่าอยากมีงานนอกเวลาทำบ้างเพื่อไม่ต้องพึ่งพาเงินทุนพี่สาวเพียงอย่างเดียว ในวันรุ่งขึ้นนีรนารีบตื่นเช้าเดินทางไปเรียนในมหาวิทยาลัย ครั้งนี้เธอเห็นแผ่นป้ายประกาศกล่าวแสดงความยินดีกับเหล่าบัณฑิตซึ่งเรียนจบในปีนี้ เธอมองดูข้อความแปะทั่วทั้งมหาวิทยาลัยด้วยความประหลาดใจ เธอจำได้ว่าปีที่แล้วเธอเพิ่งจะได้รับใบปริญญา เป็นช่วงเวลาที่น่ายินดีแม้ว่าครานั้นมีเพียงแม่คนเดียวที่มาแสดงความยินดีร่วมกันกับเธอก็ตามที นีรนาใช้เวลาช่วงเช้าอ่านหนังสือในห้องสมุดก่อนจะผล็อยหลับไปภายในเวลาเพียงยี่สิบนาทีหลังจากเริ่มพลิกกระดาษหน้าแรก ในตอนนั้นเองที่มีนักศึกษาชายรุ่นพี่คนหนึ่งกำลังค้นหาหนังสือตามชั้นวางหนังสือ เขาเดินไปเรื่อยๆไล่ตัวหนังสือจนกระทั่งสายตาต้องไปสะดุดเข้ากับนีรนาผู้ซึ่งแอบพิงศีรษะกับกำแพงในแถวชั้นวางหมวดคณิศาสตร์เพียงลำพัง ชายหนุ่มเพ่งพิจมองดวงหน้าของอีกฝ่ายก่อนจะอมยิ้มออกมา นีรนาสินะ ... เขาคิดในใจแล้วจึงสะกิดเธอเบาๆทว่าเธอไม่ตื่นแถมด้วยการสะบัดมือแรงๆตอบ ชายหนุ่มต้องส่งเสียงปลุกแล้วนีรนาจึงลืมตาตื่นขึ้นมามองดูอีกฝ่าย ขอโทษค่ะเธอบอกเมื่อเขาหยิบหนังสือออกไปจากชั้นวางพร้อมหัวเราะเบาๆ นีรนาหรือเปล่าครับหญิงสาวมองดูชายหนุ่มก่อนจะพยักหน้ารับ ทีคครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ เช่นกันค่ะเธอบอกอย่างงงๆ แววตาสงสัยไม่สามารถหลบซ่อนจากการสังเกตจากอีกฝ่ายได้ผมเรียนคณะบริหารธุรกิจ คงจะบังเอิญดีหากผมจะบอกว่าผมไปหาเพื่อนที่คณะของนีรบ่อยๆนีรนาฟังพลางนึกว่าเธอไม่เคยเจอหน้าผู้ชายคนนี้ที่ภาควิชาของตนเองเลยสักครั้งเดียว แต่ก็ไม่แปลกอะไรเลยหากเธอลองนึกดูอีกทีว่าตนเองเพิ่งจะเข้ามาอยู่ที่นี่ได้เพียงอาทิตย์เดียวเท่านั้น ไอ้บอลน่ะครับ อ้อ รู้จักค่ะนีรนาบอกพลางพยักหน้ารับ รุ่นเดียวกับบอลสินะคะ รุ่นพี่ของนีรหนึ่งปีนั่นล่ะครับ เอาล่ะ ไม่รบกวนแล้ว ... ถ้าหากเจอกันอีกก็ทักกันได้นะครับทีคบอกพลางกล่าวลา เธอโบกมือน้อยแล้วจึงหันไปหยิบหนังสือตั้งใจอ่านอีกครั้งก่อนเข้าชั้นเรียนในช่วงบ่าย \\\\\\\\\\\\\\\\\\\ ทีค หรือชื่อจริงของเขาคือ กษิดิษ อรุณาเดช ชายหนุ่มผู้มีอนาคตไกล เขาถือหุ้นกิจการร่วมกับพี่ชายไม่แท้ของตนเองตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรี ถ้าหากกล่าวถึงเด็กเก่งในคณะบริหารธุรกิจแล้วทุกคนคงจะต้องรู้จักชื่อของเขา เนื่องจากว่าครอบครัวของทีคร่ำรวยอยู่ก่อนแล้วทำให้ตัวเขาเองได้รับความสะดวกสบายตั้งแต่ครั้งยังเยาว์ พี่ชายต่างมารดาช่วยเป็นแรงผลักดันให้เขาเข้าร่วมในวงการทางธุรกิจ เริ่มแรกทีคศึกษางานทางเศรษฐกิจด้วยตนเองตั้งแต่มัธยมต้นและมีความทะเยอทะยานที่จะร่วมเล่นหุ้นกับเหล่าผู้ใหญ่ ซึ่งในที่สุดตอนนี้เขาก็มีอีกหนึ่งกิจการซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนเกี่ยวกับรถยนต์ร่วมกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง นามว่าบอลเขาเป็นผู้ที่เรียนอยู่สาขาคณิตศาสตร์ร่วมกับนีรนานั่นเอง บอลเพิ่งจะรู้ตัวว่าตนเองหลงรักงานเชิงธุรกิจมากกว่าการเรียนจนจบปริญญาแล้วทำงานราชการอย่างเช่นอาชีพครูอาจารย์ เขาตั้งใจจะเรียนปริญญาโทให้จบภายในปีหน้าและผันตัวเพื่อเป็นนักธุรกิจเช่นเดียวกับกษิดิษ อรุณาเดช ทีคไม่แปลกใจหรอกว่านีรนาจะไม่รู้จักเขา ในเมื่อเขารู้ดีว่าเธอเพิ่งจะสอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยแห่งนี้ในระดับปริญญาโทปีนี้ ครอบครัวนีรนามาจากชนชั้นกลางผู้ที่มีฐานะไม่ค่อยดีนักและที่สำคัญคืออาศัยในห้องเช่าแห่งหนึ่งซึ่งเขาก็ไม่มีทางรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน ทว่าทีคอยากรู้มากกว่านั้น .... บางทีอาจจะเพราะเขาชอบเธอ ... เขาเพิ่งจะพบเห็นเธอเดินผ่านไปผ่านมาในอาคารของคณะเพียงแค่อาทิตย์กว่าๆเท่านั้นเอง แต่ทว่ารอยยิ้มและแววตาของเธอดึงดูดจนทำให้เขาคิดว่าเธอคงจะเป็นคนที่ใช่แล้วความคิดนั้นก็ทำให้เขารู้สึกได้ว่าอยากจะรู้จักเธอให้มากกว่านี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเสียงเธอสนทนากับเขา เสียงน่ารักชะมัด... ทีคได้แค่เพียงยิ้มกริ่มและเดินจากเธอไปอย่างอารมณ์ดี เขาหวังเอาไว้แค่เพียงไม่ให้ไอ้บอลมันลาออกจากภาควิชาคณิตศาสตร์เสียก่อน เพื่อที่เขาจะได้มีเวลาเดินแกร่วแวะไปดูหญิงสาวบ้างเป็นครั้งคราวอีก แกเป็นอะไร ดูอารมณ์ดีจริงเชียว เพื่อนในภาควิชาเดียวกันต้องถามอย่างสงสัยขณะมองดูรอยยิ้มประหลาดๆของทีค ทีคไม่ได้ตอบ เขาได้แต่เพียงยักคิ้วหลิ่วตา มองดูเวลาบนหน้าปัดนาฬิกาหากเมื่อเวลาเรียนหมดเมื่อใดเขาก็จะวิ่งรี่ตรงไปยังลิฟท์ขึ้นไปยังชั้นห้าเดินข้ามตึกไปหาไอ้บอลที่ภาคคณิตศาสตร์ทันที อีกไม่นานก็จะถึงวันรับปริญญาแล้วนะ ใช่สิ รุ่นพี่พวกเราจบสิบคนทีคบอกเสริมหันไปมองป้ายประกาศ หนึ่งในนั้นก็เป็นพี่ชายร่วมสาบานของฉันด้วย แกคงไม่ได้หมายถึงเขาเพื่อนของเขาบอกพลางเดินออกจากอาคารและกล่าวชวนทีคให้เล่นบาสเกตบอลเป็นเพื่อนช่วยซ้อม เขานั่นล่ะ ... พี่ชายผู้ที่กระตุ้นให้ฉันถือหุ้นของบริษัทร่วมกันกับเขาน่ะ แล้วก็เพราะความมั่นใจทำให้ฉันทุ่มเงินทั้งหมดในบัญชีไปโดยไม่นึกเสียดายเลย ให้ตายเถอะ ... คงมีแต่เขาเพียงคงเดียวที่โน้มน้าวแกได้น่ะทีค ถ้าหากว่าคนที่กล่าวประโยคนี้คือทีคล่ะก็ ... เพื่อนของเขาคงไม่มีทางเชื่อถือเป็นแน่ ทีคมีความอัจฉริยะซ่อนลึกในทางธุรกิจ ถึงแม้ว่าบางครั้งไม่ค่อยเข้าเรียนแต่คะแนนก็นำลิ่วเสมอๆพอๆกับตัวเลขขาขึ้นของกราฟน้ำมัน ทีคซ้อมชู้ตลูกบาสจากนอกเขตโทษ ใจของเขาไม่ได้ฟังคำถามของเพื่อนตนเองเสียเท่าไหร่ ทุกวินาทีคือตัวเลขเชิงธุรกิจและงานเลี้ยงด้วย ไม่สิ ... ตอนนี้รวมถึงเรื่องของนีรนาก็แทรกเข้ามาในความคิดบ้างเป็นครั้งคราว นี่แน่ะ ไอ้โต้ทีคหันมาโยนลูกบาสเกตบอลคืนให้แก่เพื่อน อะไรล่ะ ช่วยฉันหน่อยสิ เพื่อนของเขาต้องเลิกคิ้วสูงตอบ ช่วยเรื่องอะไรล่ะ จีบผู้หญิง ไอ้โต้ต้องหัวเราะกราวรู้ในทันทีนั้นว่าทีคกำลังแอบชอบผู้หญิงสักคน ใคร? ด้านหลังของแกทีคพูดแทบจะเป็นเสียงกระซิบ เหลือบสายตามองนีรนาซึ่งถือหนังสือสนทนากับเพื่อนสาวบริเวณทางเดินเชื่อมอาคาร เธอกวาดสายตามองสนามบาสเกตบอลผ่านมาพอดิบพอดี ทีคจึงโบกมือไหวๆแล้วเธอก็พยักหน้ายิ้มอย่างอบอุ่นตอบ ไอ้โต้ต้องยักคิ้วให้แก่เพื่อน น่ารักใช่ไหมล่ะทีคบอกด้วยความพึงพอใจ น่ารักดี เรียนป.ตรีหรือเปล่าน่ะ? ไม่ใช่หรอก รุ่นน้องพวกเราหนึ่งปีทีคบอก เธอเพิ่งจะเรียนปริญญาโทภาคคณิตศาสตร์ปีนี้ น่าสนใจนะไอ้โต้หัวเราะแล้วทีคต้องเข้ามาต่อยแขนเพื่อนเบาๆ ฉันจองแล้ว วันนี้จะไปหาไอ้บอลที่ภาคของมัน ต้องให้ฉันช่วยหรือเปล่าล่ะไอ้โต้ถาม วันนี้คงไม่ต้องหรอกทีคบอกพร้อมกับแย่งลูกบาสเกตบอลจากเพื่อนก่อนจะวิ่งก้าวกระโดดเลี้ยงลูกแล้วชู้ตลงห่วงอย่างสวยงาม ให้กำลังใจว่าฉันจะจีบเธอได้ก็พอแล้ว ในช่วงเวลาสี่โมงเย็นของวันเดียวกัน ทีคก็รีบโทรศัพท์สนทนากับบอลผู้เป็นเพื่อนสนิท เขาไม่รอช้าที่จะไปพบเพื่อนตนเองทันทีและก็เป็นไปตามคาดเมื่อพบว่านีรนานั่งสนทนากับไอ้บอล ทีคมองผ่านกระจกใส เขาจัดเสื้อผ้าให้ดูเรียบร้อย จัดทรงผมให้เนี้ยบที่สุดแล้วก็ผลักประตูเข้าไปอย่างผึ่งผาย สวัสดีค่ะนีรนาหันมาทักทาย ทีคดีใจจนยิ้มแก้มปริ เขาเดินอย่างมีมาดไม่ฟังเสียงทักของไอ้บอลเลยเพียงสักนิดเดียวแล้วจึงนั่งลงข้างๆเพื่อนตนเองเหลือบมองหญิงสาวเบื้องหน้าพร้อมสายตามีเลศนัย สวัสดีค่ะพี่ทีค สวัสดีจ้าสาวๆทีคหันไปทักทายรุ่นน้องของไอ้บอลภาคคณิตศาสตร์ วันนี้แกมาเร็วดีนะไอ้บอลบอกอย่างรู้ทัน อันที่จริงเพื่อนของเขารู้ว่าทีคต้องชอบนีรนานับตั้งแต่วันแรกของการเปิดเรียนภาคการศึกษานี้ เมื่อพบว่าทีคจับจ้องเธอตาไม่กระพริบขณะที่บอลกำลังวิเคราะห์งานธุรกิจของตนเองให้แก่เพื่อนฟังแทบทุกครั้ง เย็นนี้พวกเราไปทานข้าวด้วยกันดีกว่านะ ไอ้บอลทีคพยักเพยิดหน้า นะครับนีรหญิงสาวได้แต่เพียงแปลกใจยิ้มตอบ ไม่ว่าเธอจะคิดอย่างไรถ้าหากเธอไม่ปฏิเสธเขาก็คงจะชวนให้ถึงที่สุด ไอ้บอลต้องกระแอมเสียงดัง พวกเราควรจะคุยเรื่องสัญญาว่าจ้างของลูกจ้างในเดือนนี้กันก่อนจะดีไหม ... อันที่จริงวันนี้แกควรจะส่งเอกสารประกอบการลงบัญชีมาให้แก่ฉันได้ด้วย ขอโทษที ... พรุ่งนี้ดีไหมทีคต้องหันไปยิ้มแหยๆขณะบอลหรี่ตาตอบ นีรนาหัวเราะเบาๆก่อนจะนั่งเขียนรายงานภาษาคณิตศาสตร์ซึ่งยากจะเข้าใจสำหรับทีคเป็นอย่างยิ่ง วันนี้เป็นวันที่ดีสำหรับชายหนุ่ม เขาไม่มีสมาธิทำงานเลยเพียงสักนิดนอกจากแอบเหลือบมองหญิงสาว ไอ้บอลต้องเอากระดาษตีศีรษะเพื่อนเบาๆเรียกสติคืนแล้วจึงทำให้ทีคเห็นความสำคัญงานธุรกิจของตนเองอีกครั้ง เมื่อพวกเขาตกลงธุระกันเรียบร้อยทีคจะเป็นคนโทรศัพท์สนทนากับผู้ช่วยผู้จัดการงานให้ช่วยดำเนินการทุกอย่าง ทีคทำงานที่ไหนหรือคะนีรนาเอ่ยถามในที่สุด เปล่าครับชายหนุ่มส่งสายตาบอกให้ไอ้บอลลุกออกไป ผมกับบอลเราประกอบกิจการห้างหุ้นส่วนร่วมกัน นีรนาต้องเบิกตาโตน่ารักๆของเธอ มองดูปราดเดียวก็รู้ว่าเธอคงจะมองเขาในเชิงบวก ใช่ ... ทีคอยากจะทำตัวให้ดูดีแก่หญิงสาวที่เขาต้องการจีบอย่างจริงจัง เก่งจังเลยค่ะนีรนารู้สึกปลื้ม ฉันก็เคยฝันว่าอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ทีคต้องอมยิ้มขณะมองดูแววตาขี้สงสัยของเธอ ... เขาอยากจะบอกเธอว่า ... ถ้าหากคุณเป็นแฟนกับผม เราก็คงจะได้มีธุรกิจร่วมกันแล้วล่ะ ทว่าบางทีมันอาจจะเร็วไปหน่อย ผมแนะนำให้ได้นะครับ ไม่ต้องห่วงทีคพูดพร้อมยักคิ้ว ดูเหมือนนีรนาจะขำในลำคอ ... หรือว่าเธอเขินเขา? ไอ้ทีค แกกลับไปทำงานได้แล้วไอ้บอลไล่เขาทำไมตอนนี้นะ นีรต้องส่งรายงานเย็นนี้ ทีคต้องร้องอุทานเบาๆก่อนจะกล่าวขอโทษ ทว่าเขาไม่ได้ออกจากห้องนี้หรอก ชายหนุ่มยังคงนั่งตรงข้ามกับเธอ หยิบโทรศัพท์มือถือของตนเองออกมาตรวจข่าวเศรษฐกิจผ่านอินเตอร์เน็ตไร้สาย เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงหกโมงเย็น นีรนารีบส่งรายงานแก่อาจารย์ เธอโดนติเรื่องการเขียนข้ามขั้นตอนตามกระบวนการทางคณิตศาสตร์ บอลเห็นว่าเธอไม่ค่อยพอใจงานของตนเองจึงชวนนีรไปทานอาหารเย็นด้วยกันเพื่อสนทนาคลายเครียด หญิงสาวตอบรับขณะที่ทีคต้องฉีกยิ้มกว้าง ทีคต้องใช้นิ้วชี้สะบัดบอกเพื่อนเป็นเชิงกล่าวขอบคุณขณะที่นีรนาไม่ทันได้สังเกตเห็น ชายหนุ่มชวนหญิงสาวทานอาหารในภัตตาคารหรูๆร่วมกัน เขามองดูเธอตกตะลึงกับรายการอาหารและราคาถูกๆบนแผ่นเมนู แพงเขาได้ยินเสียงนีรนากระซิบ ไม่เคยทานหรือครับ?ทีคสงสัยก่อนที่หญิงสาวจะส่ายหน้าปฏิเสธ นั่นสินะ ... เขาลืมไปได้อย่าไรกัน ... เขาสืบประวัติของเธอมาแล้วนี่นา เธอเกิดในฐานะที่ลำบาก และอาหารราคาแค่นี้สำหรับเธอคงจะไม่พอจ่ายต่อวันเสียด้วยซ้ำ มีเมนูแนะนำด้วยนะบอลบอกก่อนจะชี้ไปยังภาพถ้วยอาหาร นีรนาอยากจะลิ้มรสอาหารเหล่านี้ แต่เธอไม่ชอบทานอาหารราคาแพงและครั้งนี้คงจะเป็นโอกาสสำหรับเธอ ผมจ่ายเองทีคยิ้มกริ่ม นีรนารีบสั่งในทันทีโดยที่เธอไม่ลังเลอีก บอลเหลือบมองก่อนจะหัวเราะขำขัน \\\\\\\\\\\\\\\\\ คุณหนูคะ โทรศัพท์คุณเปมิกาค่ะชายหนุ่มเลื่อนสายตาจากตัวหนังสือหันไปมองคนใช้ เขารับโทรศัพท์เอาไว้แล้วจึงกล่าวขอบคุณ สวัสดีครับปรุฬห์บอกก่อนจะฟังเสียงนิ่มๆเล็กๆจากปลายสาย สวัสดีค่ะ พี่รุฬห์ คุณพ่อชวนพี่รุฬห์ทานอาหารเย็นร่วมกันน่ะค่ะ ไม่ทราบว่าวันนี้ ... ครับ พี่จะไปหานะครับปรุฬห์บอกแล้วจึงรีบวางสาย เขาต้องเอนตัวลงบนพนักใช้นิ้วนวดคิ้วหันไปยื่นโทรศัพท์คืนแก่คนใช้แล้วจึงรีบเดินกลับเข้าไปในห้องนอนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า เขาต้องเล่นตามบทบาทคู่หมั้นไปจนถึงเมื่อไหร่กันนะ? วันนี้?พรุ่งนี้? หรือว่าจนกว่าจะแต่งงานกัน? ทุกครั้งที่เปมิกาส่งเสียงเรียก เขาจะต้องนึกถึงแฟนเก่าของตนเอง ... เขาอุตส่าห์ลืมเธอไปแล้วด้วยซ้ำ แต่น้ำเสียงของเปมิกากับแฟนเก่าของเขาไม่แตกต่างกันมากนัก นั่นสินะ แฟนเก่าของชายหนุ่มจะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ ...เธอยังคงอยู่ลอนดอนจนกว่าจะเรียนจบปริญญาเอกหรือเปล่านะ ... แต่เอาเถอะ เธอเป็นแค่อดีตของเขา ปรุฬห์ต้องเลิกคิดถึงมันได้แล้ว เขาควรเผชิญหน้ากับความจริงเสียที! ชายหนุ่มรีบผลัดเสื้อแล้วจึงเดินสับเท้าถี่ๆเข้าไปยังโรงรถ เปิดประตูรถสปอร์ตสีเหลืองพาดลายดำแล้วจึงขับเคลื่อนเพื่อเดินทางสู่ครอบครัวธนากิจ ทันทีที่ประตูรั้วครอบครัวธนากิจเปิดกว้างต้อนรับปรุฬห์อย่างอบอุ่น เขาก็มองเห็นเรือนร่างเล็กของหญิงสาวตัวน้อยต้อนรับเขาพร้อมรอยยิ้มอยู่บนหัวบันไดหินอ่อนบริเวณหน้าประตูบ้านพร้อมด้วยบรรดาพี่เลี้ยงและสุนัขพันธุ์คอร์กี้สองตัว ปรุฬห์กล่าวสวัสดีแก่ทุกคนพร้อมรอยยิ้มมีสเน่ห์ เขาถูกเชิญให้ไปนั่งร่วมกันในศาลากลมใกล้ริมน้ำ เป็นยังไงบ้างครับ แสดงผลงานหรือการบ้านให้อาจารย์ดูบ้างแล้วยังครับ? ค่ะเปมิกาพยักหน้ารับ เธอนำอาหารว่างมาให้แก่เขาขณะเดินเข้ามาในศาลา สะบัดกระโปรงสั้นเทียมเข่าแล้วจึงนั่งลงอย่างเรียบร้อย ไม่มีปัญหาค่ะพี่รุฬห์ เปมรู้สึกว่ามันสนุกดี ปรุฬห์ฟังพลางพยักเพยิดหน้ายิ้ม สำหรับเขาแล้ว เขาคิดว่าเธอเป็นเด็กดีในด้านการเรียนอีกทั้งเธอเองก็มีมารยาทต่อแขกผู้ใหญ่ ทว่าคำนินทาลับหลังของบรรดาสาวใช้ทำให้เขาต้องตงิดใจว่าเธอแสร้งสนทนาไมตรีดีต่อเขาเหมือนที่เขากำลังกระทำกับเธอเช่นนั้นอยู่หรือไม่ ปรุฬห์อยากให้สิ่งที่เขานึกนั้นถูกต้อง .... ถ้าหากเปมิกาไม่ชอบเขา เขาก็มีโอกาสจะเสนอทางเลือกให้เธอยกเลิกสัญญาเรื่องการหมั้นหมาย พ่อบอกแก่ปรุฬห์ว่าพ่อต้องการจะตกลงเรื่องการหมั้นหมายอย่างเป็นทางการหลังจากเขารับปริญญา นั่นหมายความว่าข่าวเรื่องนี้จะต้องถูกตีพิมพ์ออกสื่อแน่นอน อย่างน้อยก็ต้องจับตาดูความคืบหน้าว่าเขาจะจัดพิธีหมั้นเมื่อไหร่เดือนไหน แล้วมันก็คงจะไม่ฉลาดเลยหากเขาจะกล่าวปฏิเสธเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นว่าเขาต้องการจะถอนหมั้น ปรุฬห์ควรจะถามเปมิกาตรงๆขณะที่กำลังมีโอกาสสินะ น้องเปมิกา คะ?หญิงสาวส่งเสียงทักพร้อมรอยยิ้ม พี่อยากรู้ว่า ...ปรุฬห์จับจ้องมองดวงตาของอีกฝ่าย ทุกอย่างนิ่งสนิท เขาควรจะพูดดีหรือเปล่านะ ... ไม่สิ เราไม่ควรลังเลอีกแล้ว พี่อยากจะรู้ว่า เปมิกาคิดยังไงกับพี่หรือครับสิ้นสุดคำถามอีกฝ่ายก็หน้าแดงก่ำรีบหลบสายตาของเขาทันทีนั้น ปรุฬห์ต้องการเพียงคำตอบ เขาพยายามเขม้นมองเธอคาดคั้นคำพูดทว่าเธอกลับยิ้มบางๆเหลือบมองดูเขาด้วยท่าทีเขินอาย ... เดี๋ยวสิ ... น้องเปมิกาเขิน ... ถ้าหากเธอไม่ชอบเขาเธอไม่ควรจะเขิน ... เดี๋ยวก่อนนะ ... เธอคงจะไม่ได้ชอบเขาใช่ไหม เปมิกาคงจะมีแฟนแล้ว เด็กสมัยนี้คงจะมีแฟนกับแทบทุกคนตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมต้นแล้วล่ะ! ไม่ต่างอะไรไปจากเขาหรอก กลับไปหาแฟนของเธอเสียสิ เปมิกา ... เขารอเธออยู่นะ! คือว่าเธอแค่นหัวเราะออกมา คือแบบนี้นะครับน้องเปมิกาปรุฬห์ต้องรีบยื่นข้อเสนอ พี่คิดว่าเราสองคนกำลังถูกจับคลุมถุงชน ถูกไหมเธอพยักหน้าตอบ แล้วพี่ก็คิดว่าการคลุมถุงชนมันล้าสมัยไปแล้วน่ะ เราน่าจะบอกแก่ผู้ใหญ่ว่าเราควรใช้วิธีอื่น วิธี ...เปมิกายิ้ม วิธีอะไรหรือคะ? หรือว่าเราสองคนควรจะอยู่ก่อนแต่ง! ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ พี่ไม่ได้คิดอย่างนั้นปรุฬห์รีบปฏิเสธ ทว่าแทนที่เปมิกาจะโกรธ เธอกลับยิ้มอย่างอามรมณ์ดี...เอ๊ะ!
หรือว่าเธอกำลังชอบเขา! คือพี่คิดว่าเราสองคนต้องไปบอกกับผู้ใหญ่แล้วล่ะ ค่ะเธอเห็นด้วย ไปบอกกันเลยว่าเราไม่ต้องการถูกจับคลุมถุงชนแล้ว ใช่ค่ะ ไม่คลุมแล้วปรุฬห์ดีใจมากที่เธอเห็นดีด้วย นั่นสินะ! เขาต้องไปบอกเรื่องนี้แก่ทั้งสองฝ่าย แล้วจากนั้นพวกเราก็จะเป็นอิสระ ใช่ค่ะ เป็นอิสระค่ะเปมิกาบอกด้วยแววตามุ่งมั่น ไม่ต้องหมั้นก็ได้ค่ะ เราสองคนแต่งงานหลังจากเปมแก้รายงานแล้วกลับไปรับปริญญาที่เมืองนอกกันเลยก็แล้วกันนะคะ! ใช่ครับ เอ๊ย!ไม่ใช่ครับ!!!ปรุฬห์เบิกตามองอย่างตกใจ เห็นคนตัวเล็กเดินลิ่วๆวิ่งเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ตะโกนเรียกพ่อแม่ เดี๋ยวครับน้องเปมิกาในจิตใจของเขาคิดเพียงอย่างเดียวว่า ... ตายล่ะวา เขาไม่เอาแน่ๆ! เขาไม่ได้ต้องการแต่งงานกับเธอ คราวนี้เขาเห็นอย่างชัดแจ้งว่าเปมิกาเต็มใจจะแต่งงานกับเขาแต่ว่าเขาไม่ได้เต็มใจร่วมกับเธอด้วยหรอกนะ! ให้ตายเถอะ! น้องเปมิกาคร้าบ เดี๋ยวก่อนครับ เดี๋ยวก่อนนะปรุฬห์วิ่งตามจนทันดึงแขนของเธอเอาไว้ ใช้มือคลึงใบหน้าของเธอให้อยู่นิ่งๆทว่าหญิงสาวซึ่งจ้องมองเขาในระยะใกล้กลับหน้าแดงก่ำ จู่ๆเปมิกาก็หลับตาพริ้ม เธอคงคิดว่าเขาจะจูบเธอแน่ๆ ปรุฬห์ต้องเงยหน้ามองฟ้าถอนหายใจยาวๆ เขาอยากจะเป็นบ้าจริงๆก็คราวนี้แล้ว ในตอนนั้นเองที่ประตูบ้านก็เปิดออกแล้วพ่อกับแม่ของเปมิกาก็เดินออกมาหาปรุฬห์ ทั้งสองจึงเชิญให้เขากลับไปนั่งที่ศาลาเพื่อสนทนากันเรื่องของธุรกิจเครื่องดื่มพร้อมกับเสิร์ฟอาหารรสเลิศให้แก่ว่าที่เจ้าบ่าวในอนาคตของครอบครัวแห่งนี้ คุณศักรินทร์ยกยอคุณพ่อของชายหนุ่มพอๆ ปรุฬห์ต้องบอกขอบคุณก้มหน้าทุกห้านาทีจนรู้สึกคอเคล็ด เขาทานอาหารด้วยความไม่สุขใจเลยเพียงสักนิดเดียว พ่อของเขาโกหก ... การแต่งงานไม่เกี่ยวกับเรื่องธุรกิจอย่างนั้นหรือ? แล้วไอ้เรื่องถกเถียงทางธุรกิจขณะนั่งคุยกันตลอดทุกครั้งที่เจอหน้าครอบครัวธนากิจแบบนี้มันหมายความว่าอะไร? เขาโตพอจะรับผิดชอบตัวเอง เรียนรู้ชีวิตโดยไม่ต้องพึ่งพาเพื่อนของพ่อได้แล้วด้วยซ้ำ ทำไมพ่อถึงคิดว่าเขายังเป็นเด็กอยู่แบบนี้? งานธุรกิจไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยจับเคยต้อง ชายหนุ่มช่วยเหลืองานญาติในหน้าที่ผู้จัดการฝ่ายการตลาดตั้งแต่ที่เขาเรียนปริญญาตรีด้วยซ้ำ ประสบการณ์ทำงานและการประสานงานกับลูกน้องไม่ใช่ปัญหา การเป็นตัวแทนประชุมหรือเช็คตารางงานและเซ็นสัญญาทางธุรกิจเขาก็เคยทำมาแล้วทั้งนั้น อีกทั้งเขาก็เรียนจบมาทางด้านการบริหาร เขาย่อมวิเคราะห์และคาดเดาอนาคตเชิงธุรกิจที่ตนเองทำอยู่ได้มากกว่าผู้ไม่มีประสบการณ์เลย การประสานความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับความสัมพันธ์ครอบครัวเป็นคนละเรื่องที่ไม่มีความเกี่ยวพันกันทั้งสิ้น! แล้วพ่อยังคงคิดว่าเขาต้องพึ่งพาครอบครัวศักรินทร์เพื่ออะไร? คุณศักรินทร์ก็แค่เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งและเป็นเพื่อนสนิทของพ่อเท่านั้นเอง ไม่ใช่เพื่อนสนิทของเขาเสียหน่อย หลังจากปรุฬห์เยี่ยมเยียนบ้านว่าที่คู่หมั้นของตนเองเสร็จเรียบร้อยพร้อมมองรอยฉีกยิ้มกว้างกับมือซึ่งโบกให้ไหวๆของเปมิกาก็พอจะรู้ว่าการถอนหมั้นคงเป็นไปได้ยากกว่าที่คิด ปรุฬห์ต้องถอนหายใจยาวๆรวบรวมสมาธิหาวิธีการรับมือกับปัญหานี้ใหม่ ชายหนุ่มขับรถไปบนท้องถนน เขาไม่ได้ต้องการเดินทางกลับบ้าน เพียงแค่แวะไปรอบๆเมืองมองดูผู้คนเลิกจากกิจการงานของตนและต่างก็ทยอยกันกับบ้าน มองดูสภาพความจำเจไร้ซึ่งชีวิตชีวา มองดูถนนซึ่งไม่เคยเปลี่ยนแปลงและห้องหับตึกแถวบ้านเมืองอันเป็นสังคมซึ่งไม่ได้พัฒนาขึ้นมาจากแต่เก่าก่อน ทุกอย่างเหมือนเดิมและน่าเบื่อหน่าย ชายหนุ่มขับรถไปบนถนนยามค่ำคืนจนถึงอาคารโทรมๆแห่งหนึ่ง บริเวณนี้เป็นสถานที่ซึ่งเขามักใช้เวลากับเพื่อนๆในยามค่ำคืนเพื่อฝึกซ้อมบาสเกตบอลสมัยเรียนปริญญาตรีด้วยกัน บัดนี้มีเด็กรุ่นใหม่มาแทนที่กันหมดแล้ว ชายหนุ่มจอดรถและเดินเข้าไปในสนามนั่งดูลูกบาสเกตบอลกระเด้งกระดอนกระทบพื้น สักพักก็ถูกขว้างข้ามอากาศและยัดเข้าห่วง เสียงตึงตังซึ่งในอดีตเขาได้ยินทุกวี่ทุกวัน ตอนนี้เขากลับคิดถึงมัน ชายหนุ่มโตแล้วและโลกแห่งความจริงก็น่าเบื่อกว่าที่เขาคิด แม้ว่าชีวิตของเขาจะรวยล้นฟ้ามาตั้งแต่กำเนิดแต่ความสุขก็ไม่เคยซื้อขายกันได้เลยเพียงสักครั้งเดียว ผัวะ! ศีรษะของปรุฬห์โดนลูกบาสเกตบอลซัดใส่เต็มเปา ตัวของเขาสะบัดรู้สึกว่าสติจะวูบไปชั่วขณะก่อนจะได้ยินเสียงกลุ่มเพื่อนชายหัวเราะกราว ปรุฬห์รีบหยิบลูกบาสเกตบอลหมายจะอัดใส่เจ้าเด็กไม่รู้จักกาลเทศะทว่าสายตาของเขาก็สบมองเข้ากับชายหนุ่มผิวขาวตัวสูงพอๆกับเขา ผมเผ้ายุ่งเหยิงร่างเต็มไปด้วยเหงื่อ เขาสะดุดตาครั้งหนึ่งขณะดูรอยยิ้มของอีกฝ่ายแล้วจึงตัดสินใจซัดลูกบาสเกตบอลกลับไปพร้อมวิ่งเข้าหาหมายจะตะครุบหยอกล้อเพื่อนในฐานะคนรู้จักกันดี บรรดารุ่นน้องเข้ามาแย่งลูกบาสเกตบอลคืนแล้วจึงกล่าวสวัสดีแก่ปรุฬห์ ไม่เจอพี่รุฬห์นานเลยนะครับบรรดาชายหนุ่มซึ่งร่วมซ้อมบาสเกตบอลกล่าวขึ้น ไม่ว่างเลยน่ะปรุฬห์ตอบตามตรงก่อนจะดึงร่างของเพื่อนชายขึ้นจากพื้น ทีค แกสูงขึ้นหรือเปล่า ทีคต้องยักคิ้วด้วยความแปลกใจ บ้าน่าพี่รุฬห์! เฉพาะผมที่ไม่ได้เจอพี่แค่อาทิตย์เดียว พี่ไข้ขึ้นหรือเปล่าน่ะเขาแกล้งใช้หลังมือทาบหน้าผากพี่ชายต่างครอบครัวซึ่งสนิทกันดี และชายหนุ่มทั้งสองต่างก็รู้จักมักคุ้นกันมาตั้งแต่สมัยยังเด็กยังเล็ก รุฬห์เองเป็นผู้ที่ชักชวนให้ทีคมาทำธุรกิจร่วมกันซึ่งผลที่พวกเขาลงทุนในการถือหุ้นหลายปีมาแล้วก็สร้างกำไรได้เป็นจำนวนมาก ปรุฬห์ปัดมือของทีคออกพร้อมกับหัวเราะร่า พี่เป็นอย่างไรบ้างทีคถามขณะเดินออกมานั่งข้างๆสนาม เขาหยิบผ้าขาวมาซับเหงื่อและซดน้ำด้วยความกระหาย ปรุฬห์ยิ้มน้อยๆยักไหล่ก่อนจะส่ายหน้า ไม่รู้สิ พูดไม่ถูกเลยว่าพลางวางแขนประสานมือบนหัวเข่า
ตกลงว่าพี่ไม่ไปต่างประเทศน่ะหรือ? ไม่หรอก ฉันช่วยงานพ่อที่นี่ต่ออีกสักพักปรุฬห์บอกพร้อมเลื่อนสายตามองรุ่นน้องตนเอง ว่าแต่แกเถอะ ธุรกิจของแกกับไอ้บอลเป็นอย่างไรบ้าง เป็นไปได้สวยทีคตอบอย่างภาคภูมิใจขณะที่ปรุฬห์ต้องส่ายหน้าพร้อมหัวเราะ มั่นใจเสมอล่ะ แน่นอนครับทีคกล่าวอย่างไม่ลังเล ตอนนี้งานผมล้นมือจนคาดว่าอาจจะเลื่อนใบปริญญาออกไปอีกปีหรือสองปีเลยล่ะครับ แกไม่ต้องห่วงเรื่องงานบริษัทของพวกเราชายหนุ่มกล่าว ฉันตรวจสอบตารางงานให้แกเรียบร้อยแล้ว ลองเข้าไปดูในไฟล์ที่ฉันส่งให้แกผ่านอีเมล์เมื่อวานนี้ ในระหว่างที่ฉันต้องช่วยเหลืองานของพ่อในบริษัทของพ่อ ... ฉันก็จะพยายาม เขียนข้อเสนอทางธุรกิจให้เสร็จเรียบร้อยภายในคืนนี้เพราะคาดว่าคงไม่ได้ร่วมประชุมครั้งหน้าสำหรับบริษัทของพวกเรา ทีคฟังพลางเลื่อนผ้าซับเหงื่อพร้อมถอนหายใจยาวๆ หากพี่ไปเมืองนอกนับเป็นปีๆ ... คงไม่พ้นผมกับคุณอาพิชานนท์ใช่ไหมที่จะช่วยดูแลบริษัทน่ะ ปรุฬห์ต้องพยักเพยิดหน้าตอบ เรายังคงติดต่อกันได้ในโลกของอินเตอร์เนตจริงไหม เอาเถอะ ... ว่าแต่งานของพี่ที่พ่อมอบให้เป็นยังไงบ้างครับ ปรุฬห์ต้องเหลือบสายตามองความสงสัยของอีกฝ่าย ฉันยกหน้าที่ให้คุณธนวัต ฝ่ายคณะกรรมการบริหารดูแลให้น่ะ ... รู้ไหม ... นับตั้งแต่ชีวิตวุ่นวายแบบนี้ฉันก็อยากจะนอนอยู่หน้าโทรทัศน์ไม่ออกไปไหนเลยนอกจากห้องนั่งเล่นสักปีหนึ่งน่ะ ติดธุระช่วงนี้สินะ ใช่ ร้ายชะมัด ไม่ร้ายหรอก แค่ปัญหาเดียวก็ทำให้ฉันอยากกินยานอนหลับสักอาทิตย์สองอาทิตย์หรือตลอดไป ไม่เอาน่าพี่รุฬห์ทีคตกใจ เขาจ้องมองปรุฬห์ด้วยความสงสัย มีอะไรหรือครับพี่ ปรุฬห์มองหน้าน้องชายตัวแสบของตนเองแล้วจึงเอ่ยตอบ ว่าที่คู่หมั้นของพี่กลับมาจากต่างประเทศทีคต้องอุทานอย่างประหลาดใจยิ่งนัก พี่ถูกจับคลุมถุงชนน่ะ พยายามจะหาทางแก้ไขเรื่องนี้อยู่ ทีคเข้าใจปัญหาของปรุฬห์ในทันทีนั้น เขาจึงไม่ถามไถ่มากความกับพี่ชายต่อ ได้แค่เพียงส่งน้ำดื่มเย็นๆให้แก่ปรุฬห์ดับกระหายและคลายเครียด เขาไม่สวยถูกใจพี่รุฬห์ล่ะสิทีคพยายามพูดติดตลก ปรุฬห์ต้องผลักศีรษะน้องชายเป็นคำตอบ พี่ไม่พร้อมจะแต่งงาน ... ไร้สาระจริงๆเลยนะแกน่ะปรุฬห์บอกพลางกลั้วหัวเราะ ให้ผมช่วยหรือเปล่า? แกจะช่วยอะไร ตอนนี้นึกไม่ออกหรอกทีคทำท่าไตร่ตรอง ที่แน่ๆ ผมคงไม่ช่วยทำหน้าที่ปีนบันไดเข้าไปในห้องนอนตอนกลางดึกของว่าที่คู่หมั้นของพี่เพื่อสร้างกระแสชู้รักระหว่างนี้ก็แล้วกัน" น่าเสียดาย ฉันกำลังคิดเรื่องนั้นอยู่ทีเดียวปรุฬห์ได้ทีหยอกกลับ ทีคต้องเปิดฝาขวดน้ำกวาดแขนสาดน้ำเย็นๆใส่ชายหนุ่มแล้วปรุฬห์ก็ต้องลุกขึ้นพรวดรวบตัวเด็กเจ้าเล่ห์มาล็อคคอเอาไว้ใต้วงแขน ทีคพยายามตะโกนสะบัดจนหมดแรงแล้วเขาจึงอ้อนวอนให้ปรุฬห์ปล่อยผมมีคนที่ชอบอยู่แล้ว จริงหรือปรุฬห์สงสัย อย่างแกน่ะหรือ? นอกจากเรื่องบาสเกตบอลกับตัวเลขเงินในบริษัทแล้วแกคิดเรื่องรักๆใคร่ๆเป็นกับเขาเป็นด้วยหรือ โอ้โห ปากร้ายเหมือนอย่างเคยเลยนะทีคว่าพลางเท้าสะเอว อย่างน้อยผมก็เคยสลัดรักผู้หญิงมาคนสองคนล่ะน่า ถ้าอย่างนั้นฉันก็มีประสบการณ์มากกว่าแก เพราะว่าฉันสลัดรักผู้หญิงสามคน ทีคฟังพลางส่ายหน้า พี่ชายของเขาแสดงความร่าเริงออกมาอย่างเคยแบบนี้แล้วยิ่งทำให้เขาเบาใจขึ้น แล้วระหว่างนั้นเองเสียงโทรศัพท์ก็ดังถี่ๆ ปรุฬห์พบว่าเป็นหมายเลขสายโทรศัพท์จากต่างประเทศเมื่อเขามองดูข้อความที่ส่งมา ชายหนุ่มก็ต้องเบิกตาโพลงกว้างด้วยความตกใจสุดขีด! ลตาปรุฬห์พึมพำเสียงแผ่ว ...ลตา ... แฟนเก่าของเขาซึ่งไม่ติดต่อกันอีกเลยในฟลายปีที่ผ่านมา ทำไมจู่ๆถึงส่งข้อความมาให้! เกิดอะไรขึ้นกันแน่! สวัสดีนะรุฬห์ คิดถึงมากๆเลย เป็นอย่างไรบ้าง ^^ อื้อ ... เราขอโทษนะ ไม่ได้ติดต่อไปหารุฬห์เป็นปีเลย ไม่รู้ว่าเธอยังคงใช้หมายเลขโทรศัพท์นี้อยู่อีกหรือเปล่า แต่เราคงได้เพียงหวังว่าข้อความนี้จะถึงมือของรุฬห์น่ะ เราอยู่ที่เชฟฟิลด์ ย้ายมาพักผ่อนช่วงปิดเทอมที่นี่และได้ยินข่าวเรื่องของรุฬห์กับคู่หมั้น เราอยากจะบอกว่าขอแสดงความยินดีด้วยนะ ขอให้รักกันมากๆล่ะ ปล. ขอโทษจริงๆที่เราไม่ได้รับสายโทรศัพท์ของรุฬห์ในตอนนั้น ... เราไม่กล้าจริงๆ แต่มันก็ผ่านไปแล้ว และตอนนี้เราเพิ่งจะรู้ตัวว่าหลงรักแอลเลนมากจนต้องทนให้เขานอกใจและโดนทุบตีในทุกวันนี้ เรายอมไม่บอกพ่อแม่หลายเดือนมาแล้วแต่มันช่างเจ็บปวดจริงๆ ... รุฬห์ เราคิดถึงบ้านมากๆ หวังว่าเราสองคนคงจะมีโอกาสพบกันอีกนะ จาก ลตา หลงรักแอลเลน ... หลงรักแอลเลน... หลงรักแอลเลน... ข้อความนี้ทวนอยู่ในสมองของปรุฬห์ราวกับเสียงสะท้อน อะไรหรือครับพี่ทีคมองดูดวงตาที่เบิกกว้าง ปรุฬห์เหงื่อตก เขานิ่งเงียบก้มอ่านทวนข้อความอีกสองครั้งก่อนจะเก็บโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋ากางเกงอย่างใจเย็นที่สุด เป็นอะไรหรือเปล่า พี่รุฬห์ ปรุฬห์หันหน้ามามองน้องชาย พลางเม้มริมฝีปากแน่น พี่จะเลี้ยงเหล้า ไปบาร์กับพี่ตอนนี้ได้ไหม
จากคุณ |
:
davidmccartney
|
เขียนเมื่อ |
:
4 มิ.ย. 54 20:13:37
A:202.12.74.1 X: TicketID:318829
|
|
|
|