ความคิดเห็นที่ 1 ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยได้เข้าวัด นอกจากเวลากลับบ้านที่ต่างจังหวัดจึงค่อยตามแม่ไป เห็นคนสูงอายุมาทำบุญกันแยะมาก เข้ามาเจอคุณเจียวต้ายไปวัด เลยรู้สึกดีมากๆครับ จากคุณ : kaburapat เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 08:57:59

ความคิดเห็นที่ 2 เข้ามาอนุโมทนาบุญค่ะ (คราวนี้ทันแน่ๆ ไม่เหมือนงานบวช...^____^) ตอนอยู่ไทย ทำงานแถวสี่พระยา ทุกต้นเดือนหนูก็จะบริจาคทำบุญโลงศพ ของมูลนิธิร่วมกตัญญู วัดหัวลำโพงเหมือนกันค่ะ เดือนละ 200 บาท นอกจากเป็นวันเกิดตัวเอง วันเกิดพ่อ-แม่ ก็จะบริจาคชุดใหญ่ ทั้งโลงศพ ผ้าขาว และอื่นๆ ชุดละ 500 บาท (แต่ตอนจุดธูปไหว้พระเนี่ย แอบลุกลี้ลุกลนนิดนึง เพราะควันธูปเข้าตาจนแสบ แถมติดเสื้อผ้า ติดผม อย่างแน่นเหนียวทีเดียวเชียว ถึงออฟฟิสเจ้านายรู้เลยว่าวันนี้ไปทำบุญมา ^____^) ที่ชอบมากๆ งานหนึ่งคือ ทุกปีพี่เลขาที่ทำงานด้วยกัน เธอจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัดในช่วงงานวัดประจำปีที่จัด 9 วัน เธอจะกลับบ้านก่อนวันเริ่มงาน 1 วัน โดยซื้อดอกกล้วยไม้ และดอกไม้สวยๆ ต่างๆ จากปากคลองตลาด แพ็คใส่กล่องอย่างดี ไปจัดเป็นช่อพร้อมธูปเทียนเพื่อขายให้แก่ผู้มาเที่ยวงานได้บูชาพระ นำเงินเข้าวัดครั้งหนึ่งๆ เป็นเงินเกือบสองหมื่นบาททุกปี ได้ร่วมบริจาคเงินเพื่อซื้อดอกไม้กับเธออยู่ 3 ปี เห็นรูปที่เธอนำภาพดอกไม้จำนวนมากมายมาให้ดูแล้วปลื้ม ไม่ต้องรอให้ชาติหน้าเกิดมาสวย ... เพราะถวายดอกไม้งามๆ แต่รู้สึกดีใจ และอิ่มใจทุกครั้งที่ได้ทำสิ่งดีๆ นั่นก็คุ้มแล้วนะคะ หว่ายยยย... โม้เยอะเลยคราวนี้ ... อิอิ รักษาสุขภาพด้วยนะคะคุณลุง สวัสดีคุณขบูรพัทธิ์ด้วยค่ะ ^____^             จากคุณ : แพรวดาว เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 09:36:18

ความคิดเห็นที่ 3 หลายเดือนก่อน มีโอกาสร่วมกับนักเขียนหลายคนทั้งในถนนและเด็กดี ทำหนังสือสวดมนต์ร่วมสามพันเล่ม รู้สึกอิ่มบุญและดีใจมาก แม้ว่าคนเป็นต้นบุญจะอยู่ไกลถึงนครสวรรค์โน้น พอได้รับมาก็นำไปวางไว้ตามวัดต่างๆและแจกจ่ายจนหมดในเวลารวดเร็ว ปกติไม่ค่อยได้ทำบุญมากนัก แต่ส่วนใหญ่จะเน้นตักบาตรกับพระสององค์ที่บ้านเหมือนที่เคยเล่าให้ฟังค่ะ แต่ทุกๆปีจะกลับไปถวายจัตตุปัจจัยให้วัดที่เมืองกาญจน์เพื่อให้สามเณรหลายร้อยองค์ได้เรียนหนังสือ ตอนนี้สะดวกทำแค่นี้ แต่ต่อๆไปคงได้ขยายผลมากขึ้นเป็นลำดับ เห็นคุณเจียวต้ายแล้วนึกถึงพระสององค์ที่บ้าน เหมือนกันมากเลยค่ะ เรื่องทำบุญเนี่ย แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 54 11:02:35 จากคุณ : มนต้นไม้๑^.^๑ (Setakan) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 11:00:10

ความคิดเห็นที่ 4 มาร่วมอนุโมทนาครับ จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 11:31:08

ความคิดเห็นที่ 5 มาร่วมอนุโมทนาค่ะ  ขอแจมเล่าประสบการณ์ที่ทำคล้ายๆคุณปู่ได้หรือเปล่าคะ ^^ ต้องขออนุญาตก่อน นึกๆแล้วยาวเฟื้อยเยื้อย(ภาษาคุณแพรวดาวอะค่ะ) ระหว่างรอคุณปู่มาตอบ ก็เผ่นไปทำงานก่อนนะคะ แฮ่ๆ :p~ จากคุณ : รุริกะ เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 13:03:39

ความคิดเห็นที่ 6 ผมสนใจธรรมะและการทำบุญให้ทาน เมื่อประมาณสามสิบปีมาแล้วครับ คุณkaburapat ได้พยายามหาวิธีการหลายอย่าง ที่จะได้ทำบุญอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่ต้องใช้จ่ายเงินมากจนเกินตัว แล้วก็ได้ผลครับ ป่านนี้ยังมีศรัทธาในการทำบุญกับ พุทธศาสนา และสาธารณกุศล และบุคคลด้อยโอกาส โดยไม่เบื่อครับ ผมมีศรัทธาต่อมูลนิธิปอเค็กตึ๊งมานานมากครับ คุณแพรวดาว เมื่อหนุ่ม ๆ มีไฟไหม้ในกรุงเทพเวลากลางคืนบ่อย ๆ มากบ้างน้อยบ้าง แต่วันรุ่งขึ้นเช้ามืด ปอเต็กตึ้งจะมีข้าวต้มมาแจก ทั้งผู้ถูกไฟไหม้ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ท้องอิ่มแล้วค่อยคิดหาทาง ช่วยเหลือตนเองต่อไป อีกกิจการหนึ่งก็คือการล้างป่าช้าและเผาศพไม่มีญาติ ดูเหมือนจะทำที่วัดดอน แถวสีลม เป็นประจำ ดังนั้นในปัจจุบันนี้ ที่ผ่านรอบร้อยปีมาแล้ว ผมจึงบริจาคกับมูลนิธิแทบทุกรายการ รวมทั้งการช่วยเหลือภัยพิบัติของไทยและต่างประเทศด้วยครับ หนังสือสวดมนต์แปลของสวนโมกขพลารามที่ใช้ในวัดชลประทานรังสฤษดิ์นั้น ผมซื้อมา บริจาคทุกวันอาทิตย์อยู่หลายปีครับคุณมนต้นไม้๑^.^๑ (Setakan ลงชื่อญาติพี่น้องปู่ย่าตายายแทบหมดตระกูลที่จำชื่อได้ครับ ชอบคุณครับ คุณravio เพียงอนุโมทนาในบุญกุศลที่ผู้อื่นทำ ท่านก็ว่าได้บุญแล้วครับ ผมจะรออ่านครับคุณรุริกะ  ไม่ว่าจะเขียนในกระทู้นี้ หรือตั้งกระทู้ใหม่ครับ. จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 14:01:08

ความคิดเห็นที่ 7 กลับมาแล้วค่ะคุณปู่ :) ถอนหายใจให้หายเหนื่อย แล้วมานั่งคิดๆว่าเอ๊ะ เมื่อกลางวันว่าจะเล่าอะไร เอ... เล่าๆไป แล้วใครมาอ่าน เขาจะหาว่าอวดบุญหรือเปล่า ฮืมม์ เอาล่ะ... ตั้งหลักใหม่ `·.,¸,.·*¯`·.,¸,.·* หลานสาวเล่าเรื่อง (ตอนที่ ๑) `·.,¸,.·*¯`·.,¸,.·* ......................... .................... .............. ... คุณปู่นั่งพัก อิงเก้าอี้สบายๆนะคะ หลานจะอ่านอาขยานให้ฟัง เล่าเรื่องการทำบุญสะเปะสะปะของหลาน ให้คุณปู่ชื่นใจว่า ท่วงท่าการเล่าที่สงบงามของคุณปู่ เนื้อหาการทำบุญที่คุณปู่เล่ามา ทำให้หลานได้ระลึก นึกถึงบุญใดที่ตนเองทำไปแล้วบ้าง ก็จะนำมาเล่าสู่กันฟัง ให้คุณปู่ได้ร่วมยินดีตามสมควรนะคะ ^-^ ย้อนกลับไปกระทู้ที่แล้ว เรื่องการบวชแทนคุณบิดามารดา หลานก็ได้แต่อนุโมทนา ปนนึกเสียดายที่เกิดมาเป็นผู้หญิง อย่าว่าแต่บวชพระ จะอุปัฏฐากดูแลพระ ก็ทำไม่ได้เหมือนชายหนุ่ม (หลานจึงใช้วิธีถวายปัจจัยเป็นค่ายา ค่ารักษาพยาบาล ค่าตรวจร่างกาย เมื่อทราบว่าพระสงฆ์ที่เคารพเข้าโรงพยาบาล กับคอยดูแลเรื่องหยูกยาตามวัดที่เข้าไปปฏิบัติ อะไรอย่างนี้ค่ะ) ส่วนกับพ่อแม่ ก็ส่งเงินให้ท่านตั้งแต่เรียนจบค่ะ มาขาดตอนอยู่ช่วงหนึ่ง ที่มารู้ว่า ส่งไปทีไร แม่ก็เอาไปเข้าบัญชีไว้ต่างหาก ถามแม่ว่าเอาไว้ทำอะไร แม่บอก ก็เอาไว้ให้ลูกนั่นแหละ (แป่วๆๆ) บอกแม่คะ ถอนออกมาใช้นะคะ ซื้อเสื้อผ้า ซื้อขนม เข้าร้านทำผมอะไรก็ทำเลย ส่งมาให้แม่ใช้ แม่ก็ไม่ใช้ จึงหยุดส่งให้แม่ไปพักใหญ่ค่ะ (งอนแล้วนะ อิอิ) แล้วพอครบปีหรือสองปี มีเงินก้อนใหญ่แล้วล่ะ หลานก็ตัดสินใจ ซื้อที่นา ๑๐ ไร่แถวใกล้บ้าน เอาไว้ให้แม่ไปเดินเล่นตามคันนาค่ะ ซื้อด้วยอารมณ์อมยิ้มอย่างเดียวเลย :) แม่หลานเป็นลูกชาวนา พบรักกับพ่อ ก็ไปจีบกันริมทุ่งนา ต่อมาเมื่อทางบ้านขัดสน ตาก็ขายนาไปจนหมดไม่มีเหลือ แต่ทุกวันนี้แม่มีที่นาผืนเล็กๆ ไว้เดินดูรวงข้าวสีทองปีละหน ชาวบ้านแถวนั้นเป็นคนมาหว่านข้าว ทำนา และเกี่ยวข้าวให้ค่ะ แม่ไม่ต้องทำอะไรเลย พอเขาเกี่ยวมา เขาก็แบ่งข้าวไปครึ่งหนึ่ง เอาไปขาย ได้เป็นค่าแรงของเขาไป ส่วนที่บ้านหลานก็มีข้าวเก็บในยุ้งฉาง เป็นข้าวปลอดสารพิษ(ชัวร์ๆ เพราะนาเราเอง) แบ่งขายก็ได้ปีละหลายหมื่น รูปทุ่งรวงทองของที่บ้าน เหลืองอร่ามราวจีวรพระ (บวช)แทนคุณพ่อแม่ด้วยวิธีนี้ก็แล้วกันนะคะ ถ่ายเมื่อตุลาคม ๕๓ ปีที่แล้วค่ะ ^___^ จากคุณ : รุริกะ เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 19:47:56

ความคิดเห็นที่ 8 `·.,¸,.·*¯`·.,¸,.·* หลานสาวเล่าเรื่อง (ตอนที่ ๒) `·.,¸,.·*¯`·.,¸,.·* ถัดมา เมื่ออ่านเรื่องคุณปู่ทำบุญกับมูลนิธิ ช่วยเหลือศพไร้ญาติ (เรื่องช่วยเหลือภัยพิบัติหลานก็บริจาคผ่านธนาคารเป็นระยะ แต่ขอเม้าท์เรื่องนี้ดีกว่านะคะ เชื่อว่าคุณปู่จะสนใจเป็นพิเศษ) คือหลานนึกถึงการไปทำบุญแทนนักเขียนใหญ่ท่านหนึ่งค่ะ เนื่องจากที่ทำงานของหลานอยู่ไม่ห่างจากศาลเจ้าจีน ดังนั้นพอมีเวลา ก็จะแวะไปที่ศาลเจ้าเดือนละครั้ง เพื่อไปบริจาคชุดและโลงให้ศพไร้ญาติ แต่เรื่องที่น่าอมยิ้มคือเมื่อมกรา ๕๔ นี้เอง (เดือนเดียวกับคุณปู่เลยค่ะ ^^) หลานก็ไปทำบุญที่ศาลเจ้าจีนตามปรกติ แต่เขียนใบอนุโมทนา โดยระบุผู้บริจาคเสียใหม่ ก่อนจะนำไปเผา ด้วยความรู้สึกเช่นเดียวกับคุณปู่ คือไม่ได้มีความสงสัยข้องใจ ว่าจะถึงหรือไม่ถึง แต่ก็แอบสงสัยในใจว่า เจ้าหน้าที่คงงง ว่านี่คนเพี้ยนๆ มาบริจาคโลงศพหรือเปล่านะ ^^ ถ่ายรูปมาอวดเจ้าตัวดังนี้ค่ะ มีการถามด้วยนะ ว่าศพไร้ญาติที่ได้รับโลงศพกับเสื้อผ้าไป เขาจะรู้จักผมไหม จากคุณ : รุริกะ เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 19:51:37

ความคิดเห็นที่ 9 `·.,¸,.·*¯`·.,¸,.·* หลานสาวเล่าเรื่อง (ตอนที่ ๓)  `·.,¸,.·*¯`·.,¸,.·* จากการอ่านกระทู้นี้อีกเช่นเคยค่ะ เรื่องญาติธรรมติดต่อมาร่วมบุญ จริงๆช่วงนี้ หลานกำลังจัดทำหนังสือ(การ์ตูน)ธรรมะเพื่อบริจาคอยู่เล่มหนึ่ง พอประกาศออกไปเพียงไม่กี่วันเท่านั้น ก็มีญาติธรรมส่งข้อความมาหา จะโอนเงินมาให้จำนวนหนึ่ง สำหรับงานนี้และงานต่อๆไป งานใดก็ได้ แล้วแต่หลานตัดสินใจ ให้ได้ร่วมบุญกันไปเรื่อยๆก็ดีใจแล้ว (ตื้นตันใจนะคะ ได้รับความไว้วางใจขนาดนี้) เล่าต่อค่ะ หนังสือ(การ์ตูน)เรื่องนี้ มีบทสวดมนต์ด้านหลังด้วยนะคะ ^-^ (หนังสือบทสวดมนต์เต็มรูปแบบ หลานก็ร่วมบุญกับญาติธรรมเมื่อปลายปีที่ผ่านมาค่ะ) ตอนนี้ก็มีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆช่วยประชาสัมพันธ์ให้เป็นระยะๆ เช่น ในเว็บไซต์นี้ค่ะ http://www.cartoondhamma.com/ คุณปู่จะลองอ่านตัวอย่างแบบพลิกๆจาก link นี้ก็ได้นะคะ http://www.digitalinstinct.com/magicmink/ เรื่องนี้เคยออกอากาศทาง TPBS ตั้งแต่ปีที่แล้ว มาถึงวันนี้ เพื่อคืนกำไรให้สังคม โครงการนี้จึงเกิดขึ้นนะคะ (ที่หลานยุ่งๆและหายเงียบไป แม้ว่างก็ยังไม่เข้ามา ก็เพราะต้องไปตรียมงาน หัดทำ spreed sheet เก็บ data ทำบัญชี ฯลฯ เหล่านี้แหละค่ะ) เดี๋ยวพอใกล้กำหนดเวลา ก็คงต้องหายไปอีก ธุระเยอะจัด เล่ายาวเฟื้อยจนกลัวคุณปู่จะเบื่อ(ยาวจริงอะไรจริง เห็นไหมคะ) ต้องขอจบเท่านี้ก่อนแล้วค่ะ ย้ำว่าทั้งหมดที่เล่ามา อ้างอิงเท่าที่คุณปู่จุดประกายเท่านั้น ไม่ได้จะอวดอ้างฤทธิเดชรามรงค์แต่อย่างใด นึกเสียว่าเป็นหลานสาวเดินเตาะแตะตามหลังคุณปู่ คล้ายรอยเดียวกันอย่างบังเอิญ แต่กว่าจะสะสมเลขไมล์ได้เท่ากับคุณปู่นั้น ก็คงอีกยาวไกลทีเดียวค่ะ. จากคุณ : รุริกะ เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 20:01:32

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณมากครับที่เล่าเรื่องทำบุญได้เนื้อถ้อยกระทงความดีครับ คุณ รุริกะ ไม่เสียแรงเป็นนักเขียน เรื่องการแทนคุณนี้ ผมได้เขียนไว้หลายแห่งว่ามีหลายประเภท เช่น ทำบุญเพื่อหวังบุญ ทำบุญโดยไม่ต้องการตอบแทน คือไม่อธิษฐานขออะไรเลย ทำบุญเพื่อเป็นทุนสะสมไปชาติหน้า(ถ้ามี) และทำบุญเพื่อแทนคุณ แก่ผู้มีพระคุณที่เราไม่สามมารถตอบแทนด้วยวิธีอื่นได้ ผมทำบุญตามวันเกิดของคนในครอบครับ ให้เขาได้มีความคุ้นเคยกับการทำบุญ ที่จะติดตัวเขาต่อไป เมื่อผมไม่มีโอกาสทำแล้ว ผมทำบุญให้ แม่ พ่อ และลูก ที่เสียชีวิตไปแล้ว ตามคติของพุทธศาสนา และเผาใบอนุโมทนา ตามประเพณีจีน (ซึ่งผมไม่มีเชื้อสาย แต่ศรัทธา) แล้วก็ทำบุญให้แก่ผู้อื่นด้วยวิธีการต่าง ๆ ถ้าจะมีบุญกลับมาถึงตนเองบ้าง ก็ยินดี ผมทำบุญให้ท่านผู้มีพระคุณ ตั้งแต่ท่านอายุเข้า ๙๐ ปี เมื่อเอาใบเสร็จไปให้ท่านอนุโมทนา ท่านก็บอกว่า ตัวท่านทำบุญมามากแล้วในชีวิต ผมไม่ต้องทำอีกหรอก เพราะท่านเวทนาว่าผมมีฐานะด้อยกว่าท่าน แล้วงั้นผมจะได้แทนคุณท่านในชาตินี้หรือ ผมจึงไม่เชื่อท่าน ทำต่อไปแล้วก็เก็บใบอนุโมทนาไว้ จนท่านเสียชีวิตไปด้วยโรคชราเมื่ออายุ ๙๕ ปี ผมจึงรวบรวมเอาไปเผาอุทิศส่วนกุศลให้แด่ท่าน ซึ่งผมทำแล้วสบายใจมากครับ. จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 21:08:15

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณคุณปู่เช่นกันค่ะ อ่านแล้วซึ้ง พูดไม่ออกเลย :) จากคุณ : รุริกะ เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 22:23:59

ความคิดเห็นที่ 12 ห่างเหินการทำบุญไปนานมากเลยค่ะเพราะแถวบ้านนี่ไม่มีวัดในศาสนาพุทธเลย วัดที่อยู่ใกล้ที่สุดเป็นวัดลาว ขับรถไป 2 ชั่วโมงแน่ะค่ะ เวลาไปเมืองไทยแต่ละทีก็อยู่ได้ไม่กี่วันเพราะทิ้งงานไปนานๆ ไม่ได้ มาอ่านแบบนี้ทำให้คิดได้ว่าไปเมืองไทยครั้งต่อไปต้องหาโอกาสไปทำบุญแล้วล่ะค่ะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 08:29:48

ความคิดเห็นที่ 13 ลาวกับไทยก็น่าจะกราบไหว้พระพุทธเจ้าองค์เดียวกันนะครับ คุณกุลธิดา (kdunagin) การทำบุญผมว่าไม่จำเป็นต้องทำกับพระภิกษุเท่านั้นนะครับ ทำกับองค์กรอะไรก็ได้ ที่เขามีวัตถุประสงค์จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ที่ได้รับความทุกข์น่ะครับ. จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 10:46:44

ความคิดเห็นที่ 14 ทุกวันนี้พยามตื่นทำกับข้าวง่ายๆตักบาตรหน้าบ้าน ทุกวันพุธกับวันอาทิตย์ค้าบ อุทิศให้ผู้เสียชีวิต หมา แมว และ ขอแค่ให้ผลบุญที่ทำทุกครั้งตกแก่แม่ค้าบ แง๊วววว จากคุณ : ข้าวโพดแมวติสต์แตก เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 17:50:27

ความคิดเห็นที่ 15 ^^ มาอ่านครับ จากคุณ : KTH (KTHc) เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 18:52:52

ความคิดเห็นที่ 16 คุณข้าวโพดยังตักบาตรมากกว่าผม อาทิตย์ละหนึ่งวันครับ ทำสม่ำเสมอ ก็สบายใจดีครับ ขอบคุณ คุณ KTH (KTHc) ที่ติดตามอ่านด้วยครับ. จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 06:16:36