12 ข้าวของใคร
ฮาโหล... นี่ฉันเองนะ... เรื่องที่ฉันสั่งให้นายริชาร์ดจัดการน่ะ คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว? ถึงแม้ตัวจะหลบมาอยู่ บ้านนา แต่กรรมการผู้จัดการทรูฟู๊ตก็ยังไม่ลืมที่จะโทรตามงานผู้ช่วย
ส่งไปแล้ว 26 ประเทศครับ กำลังติดตามความคืบหน้าอยู่
ดีมาก
หลังจากที่พลรู้จากทีมวิจัยว่าน้องชายของเขาทิ้งสมบัติมีค่ามหาศาลไว้ให้ เขาก็รีบจัดแจงสั่งฮุบมาเป็นสมบัติของบริษัท... ยื่นขอจดสิทธิบัตร ยีนข้าวหอมมะลิแดง และพันธุ์ข้าวที่พอจะหาเมล็ดจากกรมข้าวหรืออีรีได้ ในประเทศต่างๆ ที่เป็นคู่ค้าของทรูฟู๊ต ไม่ให้เสียเวลาระหว่างที่เขามาหาเมล็ดพันธุ์พื้นบ้านหายากที่นี่
จากนั้น ขั้นตอนต่อไป...
คอนเฟิร์มเวลาออกรอบให้ฉันได้รึยัง?
ครับ ได้เป็นวันพุธสัปดาห์หน้า ที่กรีนฮิลล์กอล์ฟคลับ เวลาทีอ๊อฟหกโมงยี่สิบ ผมโทรไปแจ้งกับเลขาของอีกสามท่านเรียบร้อยแล้วครับ
อื้ม... ขอบใจ
นักธุรกิจนัดตีกอล์ฟกับนักการเมือง เรื่องที่พูดคุยกันย่อมเป็นเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์...
สมัยพ่อของเขาก็ร่วมมือกับนักการเมือง ใช้นโยบายเสมือนเป็นวีรบุรุษช่วยเกษตรกร อ้างช่วยเหลือชาวไร่ชชาวนา ยกเลิกการเก็บภาษีสารเคมีเกษตร ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2534 เป็นต้นมา บริษัทฯ ขายปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชก็ไม่ต้องจ่ายภาษีจำนวนมหาศาล
ทรูฟู๊ตยังเคยใช้เงินกู้ระยะยาวจากธนาคารเอ็กซิมแบงค์ไปส่งเสริม การปลูกข้าวแบบครบวงจร ให้ประเทศเพื่อนบ้าน
พม่า เขมร แล้วก็ส่งข้าวกลับเข้ามาขายในไทยโดยไม่ต้องเสียภาษี ทำให้ทรูฟู๊ตได้ต้นทุนถูก ก็ขายข้าวราคาถูกกว่าราคาข้าวในประเทศ ผู้บริโภคไทยก็ไม่ได้รู้อะไรมาก ยังไงก็ซื้อของถูกไว้ก่อน หารู้ไม่ว่า กินข้าวพม่า เขมร ประเทศเพื่อนรักอยู่
มาวันนี้ เขาก็ต้องการความร่วมมือจากรัฐบาล ...ผลักดันให้มีการแก้กฎหมายเช่นกัน เพราะปัจจุบัน กรมทรัพย์สินทางปัญญา ไม่ ยอมรับจดสิทธิบัตรพันธุ์พืชพันธุ์สัตว์ทุกชนิด
พรบ.คุ้มครองพันธุ์พืช 2542 เป็นเหมือนขวากหนามสำคัญที่ทำให้เขาไม่สามารถใช้เทคโนโลยีชีวภาพกุมอำนาจได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
ในทางกลับกัน ถ้าเขาวิ่งเต้นจนทรูฟู๊ตสามารถเป็นเจ้าของสิทธิบัตรยีนเมล็ดพันธุ์พืช แบคทีเรียและเชื้อราตัวสำคัญที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและยาได้ทั้งหมดล่ะก็... หึหึ... บรรษัทยักษ์ทั้งหลายจะต้องกรูกันเข้ามาผูกสัมพันธ์ เป็นโอกาสอันงามที่อณาจักรธุรกิจของตระกูลที่ตกมาอยู่ในมือเขาจะขยายแผ่ออกไปแบบไม่จบไม่สิ้น เพราะเขาจะเลือกควบรวมกิจการกับบรรษัทระดับโลกที่ให้ข้อเสนอที่ดีที่สุด ไม่จำเป็นต้องยอมให้พันธมิตรรายปัจจุบันที่ดันก้นด้วยการส่งนักวิจัยมาช่วยเขาอยู่ตอนนี้แต่เพียงรายเดียวอีกต่อไป
หลังจากสั่งงานทางโทรศัพท์จนหมดเรื่องสำคัญแล้ว พี่ชายแสนดีของนำทัพพ์ก็กลับนึกอะไรอีกอย่างขึ้นมาได้
เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งวางสาย... แกช่วยส่งนักสืบมาให้ฉันสักคนสิวะ
ภาพที่เขาแอบเห็นเมื่อคืนนี้ เขาจะต้องรู้ให้ได้... มันหมายความว่ายังไงกันแน่?!
หน้าแกไปโดนอะไรมาวะ? คุณพลถาม ทั้งๆ ที่รู้ว่าสาเหตุของรอยช้ำที่แก้มน้องชายเกิดขึ้นด้วยสาเหตุใด เห็นแล้วสยองไม่หาย ผู้หญิงอะไรวะ น่ากลัวโคตร ...หรือว่า โดนหญิงตบมา?... ฮ่าๆ ทำไมต้องทำหน้าอย่างงั้นเล่า หรือฉันเดาถูก? ...แกไปทำอะไรให้ยัยจี้ไม่พอใจหรือไง?
ไอ้เรื่องเล่นละครหน้าตาย พลมั่นใจว่าเขาไม่แพ้ใครหน้าไหนทั้งนั้น น่าโมโหที่ข้าวขวัญ ผู้หญิงที่เขาหมายมั่นกับไอ้เป๋น้องนอกคอกกล้ามาบังอาจมาเล่นละครหน้าตายแข่งกับเขา ร่วมหัวกันทำไม่รู้ไม่ชี้ ทั้งๆ ที่ ตายังไม่กล้าสบเลย เวรเอ้ย! พิรุธเห็นๆ...
ไม่แน่ว่า การมาที่นี่พร้อมข้าวขวัญ อาจเป็นความบังเอิญที่โชคดีที่สุดของเขาก็ได้! ถ้าเดาไม่ผิดละก็
แหม... พวกเราเพิ่งทราบว่าท่านมา ไม่ได้มาต้อนรับเสียแต่เนิ่นๆ ต้องขออภัยเป็นอย่างสูง
พอได้ข่าวว่ากรรมการผู้จัดการทรูฟู๊ตมาเยือนถึงถิ่น เจ้าหน้าที่ของบริษัทประจำเขตนี้ก็รีบแจ้นมาสอพลอนาย พร้อมกับเจ้าหน้าที่รัฐในหน่วยงานการเกษตรก็แห่กันมาต้อนรับ แผลบๆๆ... ติดตามมาด้วย ปาดชาวบ้าน คนสำคัญประจำชุมชน ต้นแบบเกษตรกรไฮเทค (พัฒนาแล้ว) และภริยาก็มาเสนอหน้ามาทำความรู้จักด้วย แผลบๆๆ...
กรรมการผู้จัดการทรูฟู๊ตเคยลั่นลาจาไว้ในการแถลงข่าว... ทรูฟู๊ตของเราต้องเข้าให้ถึง หัวใจชาวบ้าน ดังนั้น ไม่ว่า คุณจอห์นและเคียวโกะจะมาแปลกพิศดารยังไง เขาก็ยังเสวนาพาทีด้วยเป็นอย่างดี ผิดกับข้าวขวัญ ซึ่งพลเข้าใจว่า สาวไฮโซอย่างเธอถือตัว ไม่ยอมแม้แต่เข้าใกล้ หารู้ไม่ว่า ที่หญิงสาวเกลียดที่สุดก็คือเพื่อนบ้านขี้เม้าที่ชอบเอาเรื่องของแม่กับเธอไปเล่าต่อๆ กันเสียๆ หายๆ โดยเฉพาะลุงป้าคู่นี้ และที่สำคัญ เธอไม่อยากให้ทั้งสองจำเธอได้ โชคดีที่วันนี้ เธอใส่หมวกปีกกว้างกับแว่นตากันแดดอันโต
เป็นอะไรไปเล่า ข้าว... พวกเค้าก็แค่ชาวบ้านไม่มีพิษมีภัย นี่จะบอกอะไรให้นะ เราน่ะ ต้องคบกับคนในท้องถิ่นไว้รู้มั๊ย? เพราะคนพวกนี้แหละ จะเป็นสะพานให้เราเข้าถึง ภูมิปัญญาพื้นบ้าน ซึ่งสามารถเอามาพัฒนาต่อยอดทำธุรกิจได้มหาศาล ผมถึงชอบให้ทุนวิจัยมหาลัยชุมชนที่อยู่ตามต่างจังหวัดไง เพราะเข้าถึงความรู้ท้องถิ่นได้ง่าย พวกอาจารย์ก็ใสซื่อ ไม่ทันเกมอะไรทั้งนั้น
ลูกสาวลุงสิบฟังแล้วรู้สึกสะดุดใจแปลกๆ โดยเฉพาะเมื่อได้ยินประโยคต่อมา เธอถึงกับสะดุ้ง
...อย่างโรงเรียนชาวนานี่ก็น่าสนใจนะ คิดดูสิ เป็นที่ชุมนุมของชาวนาที่เดินทางมาจากทั่วสารทิศ ตอนนี้เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่า ทำไมไอ้ทัพพ์มันถึงได้มีพันธุ์ข้าวพื้นบ้านเยอะนัก ...ยิ่งคนอย่าง ลุงสิบ เนี่ย เรายิ่งต้องคบเอาไว้ ได้ประโยชน์แน่!
เป็นโชคดีของสยามประเทศที่ปาดชาวบ้านคู่นี้ มีแต่โม้ สลับแผลบๆ ท่านเจ้าสัวน้อย อย่างงั้นอย่างงี้ ไม่มีภูมิปัญญาท้องถิ่นอะไรให้เลย เพราะบ้าเห่อตามเทคโนโลยีสุดไฮเทคจนแทบไม่ต่างอะไรกับพนักงานขายของทรูฟู๊ตนัก
คุณพลอย่าไปดูงานโรงเรียนชาวนาเลยครับ ขี้โม้เปล่าๆ เค้าตั้งขึ้นมา หลอกเอาทุนญี่ปุ่น ทุนฝรั่ง ไม่ได้มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน
ช่าย... แล้วยังชอบโจมตีผลิตภันฑ์ของพวกเราด้วย เจ้าหน้าที่ทรูฟู๊ตรีบฟ้อง
ไปดูผลงานของพวกผมที่ศูนย์เผยแพร่เทคโนโลยีเกษตรทรูฟู๊ตดีกว่า แล้วท่านจะภูมิใจ บ่ายนี้เรามีประกาศผลการแข่งขันรายการเรียลลิตี้โชว์ ชาวนนานักล่าฝันด้วย นะครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากให้ท่านช่วยเป็นผู้มอบของรางวัลให้กับผู้ชนะ
นายมา ใครบ้างไม่อยากโชว์ผลงาน ...บ่ายวันนั้น คุณพลจึงไม่ได้อยู่ดูงานตามที่ตกลงไว้กับพี่:-)อาจารย์ใหญ่โรงเรียนชาวนา แต่กลับออกไปดูงาน ข้าวลูกผสม และทำหน้าที่ มอบกุญแจรถกระบะและแจกทองให้กับชาวนาที่เข้าร่วมโครงการ ปลูกข้าวลูกผสม ซึ่งทางทรูฟู๊ตส่งเสริมโดยจัดกิจกรรมแข่งขันปลูกข้าวให้ได้ผลผลิตต่อไร่มากที่สุด
ข้าวลูกผสม เป็นโครงการที่วิจัยมาตั้งแต่สมัยพ่อผมแล้วล่ะ พลอธิบายให้หญิงสาวข้างตัวเขาฟัง ...เราพยายามเจาะตลาดเมล็ดพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อะไรรู้มั๊ย?
ข้าวขวัญรู้สึกขนลุกเมื่อเห็นรอยยิ้มของเขา
ข้าว!
ใช่! ผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก เมล็ดพันธุ์ที่เราต้องใช้มากที่สุดย่อมต้องเป็น ข้าว... คิดดูสิ ตลาดเมล็ดข้าวโพดที่เรากุมไว้ได้ มีปริมาณการใช้แค่สองหมื่นกว่าตันต่อปี ยังมีมูลค่าตลาดกว่าสองพันสี่ร้อยล้านบาท ส่วนเมล็ดพันธุ์ข้าวนั้น มีปริมาณการใช้รวมกว่าหนึ่งล้านตันต่อปี... กี่เท่าของข้าวโพด? มูลค่ามหาศาลแค่ไหน?
ข้าวขวัญคำนวนในใจเคร่าๆ... ถ้าเมล็ดพันธุ์ข้าวกิโลประมาณละ 20 บาท กว่าหนึ่งล้านตันก็... อา... สองหมื่นกว่าล้านบาท! (ถึงจะสู้ขายดาวเทียมไม่ได้ก็เหอะ แต่ว่าดาวเทียม ขายเสร็จแล้วจบ แต่นี่มันมูลค่าตลาดต่อปีเชียวนะ)
...ใครๆ ก็อยากได้นัก ตลาดเมล็ดพันธุ์ข้าวไทย แต่น่าเสียดายว่า ที่ผ่านมาชาวนาไทยเรายังเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้เองเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็หมายความว่า ยังไม่มีใครเป็นเจ้าของตลาด อำนาจยังเป็นของตาสีตาสาเท้าเปล่าอยู่ แต่ในอนาคต... หึหึ... ก็ไม่แน่ว่าจะตกอยู่ในกำมือเรา และ หึหึหึ ...ถ้าผูกขาดตลาดได้เหมือนกรณีตลาดข้าวโพดมูลค่าตลาดอาจจะสูงขึ้นจนถึงหกเจ็ดหมื่นล้านบาท!
(ถ้าเป็นอย่างงั้น ก็เหมือนขายดาวเทียมปีละดวงแล้ว! ...คุณพลทองแท้ขา)
เราพัฒนาพันธุ์ข้าวไฮบริดเพื่อให้พี่น้องชาวนาได้ข้าวมากถึง 150 ถังต่อไร่!
จุดเด่นที่ทรูฟู๊ตโฆษณาข้าวลูกผสมหรือข้าวไฮบริด คือผลผลิตสูง การตลาดจึงออกมาแนว แข่งกันปลูก ใครได้ปริมาณข้าวต่อไร่มากกว่าชนะ รับรางวัลเป็นรถกระบะ จักรยานยนต์และสร้อยคอทองคำ ตามความนิยมของกลุ่มเป้าหมาย แล้วทำการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ ออกข่าวให้ชาวนาตื่นเต้นกับนวัตกรรมสุดยอด
ท่านเจ้าสัวเคยให้สัมภาษณ์ออกทีวีว่า ทรูฟู๊ตออก ข้าวรุ่นใหม่ ไฮบริดช่วยลดโลกร้อน (ฟังดูดี๊ดี เหมือนรถยนต์ไฮบริด) ที่ว่าเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมก็คือ ข้าวพันธุ์นี้ให้ผลผลิตมากกว่าข้าวทั่วๆ ไปเกือบเท่าตัว (ท่านเจ้าสัวไม่ได้บอกหมายเหตุว่า ต้องใส่ปุ๋ยและยายี่ห้อทรูฟู๊ตตามสูตรซึ่งเพิ่มขึ้นกว่านาข้าวทั่วๆไปเท่านั้น และขึ้นอยู่กับสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง เกษตรกรโปรดศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจ) สามารถทำให้ประเทศไทยลดพื้นที่ปลูกข้าวลง โดยยังได้ผลผลิตเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้น จะได้เหลือพื้นที่เพาะปลูกพืชอื่นๆ อย่างเช่นพืชพลังงาน และเพิ่มพื้นที่ป่า รัฐบาลก็เห็นดีเห็นงามด้วย ถึงขนาดเตรียมใส่แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ
แต่...
ชาวนาชาวไร่กี่คนจะรู้ว่า ข้าวลูกผสม มันมายังไง? ข้าวขวัญลองถามคุณลุงแชมเปี้ยนที่เพิ่งรับกุญแจรถกระบะจากคุณพลไป แกก็ไม่รู้ ถามคุณน้าที่รับกุญแจมอไซด์ ก็ไม่รู้ ถามพี่ป้าน้าอาที่รับสร้อยทอง ก็ไม่มีใครตอบได้
ดอกข้าวปกติน่ะ มีเกสรตัวผู้และตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกัน และจะผสมในดอกเดียวกันเองโดยธรรมชาติ
คนที่ยอมตอบข้อสงสัยของข้าวขวัญคือ พ่อของเธอ...ลุงสิบนั่นเอง
เวลาชาวนาหรือนักปรับปรุงพันธุ์พืชในสมัยก่อนจะผสมพันธุ์ดีสองพันธุ์ ต้อง ตัด เอาแต่เกสรตัวผู้จากต้นหนึ่งไปเขย่าให้ละอองเรณูตกใส่เกสรตัวเมียของอีกพันธุ์หนึ่งซึ่งถูกตัดเอาเกสรตัวผู้ทิ้งไป ถึงจะผสมข้ามพันธุ์ได้ ไม่งั้นมันจะผสมในดอกเดียวกันเอง ...จากนั้นก็เอาเมล็ดข้าวพันธุ์ผสมรุ่นที่หนึ่งไปปลูก แล้วคัดเอาแต่เมล็ดที่มีลักษณะดีจากต้นที่มีคุณสมบัติเด่นของต้นพ่อต้นแม่ไปปลูกเพิ่มจำนวนต่อๆ ไป... คัดแล้วปลูก คัดแล้วปลูก รุ่นแล้วรุ่นเล่า... จนมีคุณสมบัติคงที่ ถึงได้ใช้เวลาเป็นปีๆ ผ่านหลายฤดูเพาะปลูกกว่าเราจะได้ข้าวพันธุ์ดีตามที่ต้องการ ช่างเป็นอะไรที่ต้องการความมานะอดทนสูงมากๆ ...ข้าวขวัญมองพ่อของเธอด้วยสายตาชื่นชม
แต่ข้าวลูกผสม ไม่ใช่แบบนั้น...
ข้าวลูกผสมก็คือ เมล็ดข้าวจากการผสมข้ามพันธุ์รุ่นที่ 1 ซึ่งลักษณะเด่น จะปรากฎเหนือกว่าต้นพ่อต้นแม่ ด้วยหลักการ เฮตเตอร์โรซีส (Heterosis) ตามทฤษฎีพันธุ์กรรม
ถ้าใครได้เห็นชั้นหนังสือของพ่อเหมือนข้าวขวัญ ก็จะไม่แปลกใจว่าทำไมชาวนาที่ไม่ผ่านมหาวิทยาลัย จะรู้เรื่องอะไรแบบนี้ คนอย่างพ่อ ถ้าสงสัยอะไรแล้วล่ะก็ เขาจะค้นคว้าหาข้อมูลมาอ่านให้รู้จนได้
... ทีนี้... ถ้าเราต้องการเมล็ดข้าวพันธุ์ผสมรุ่นที่ 1 จำนวนมากๆ เพื่อเอาไปปลูกขายล่ะ เราจะทำยังไง? พ่อลองถามลูกสาว
เอ... นั่นสินะ ใครจะมานั่งตัดเกสรตัวผู้มาเขย่าเอาระอองเรณูใส่เกสรตัวเมียของอีกต้นหนึ่งทีละเมล็ดๆ ทีละต้น เป็นล้านๆ เมล็ด
ข้าวขวัญนึกภาพไม่ออกเลยว่ามันจะลำบากยากเข็ญขนาดไหน
คิดไม่ออกหรอก... พ่อก็คิดไม่ออกเหมือนกัน เพราะมันวิปริตผิดธรรมชาติจนคิดไม่ถึง... พอดี มีชาวจีนคนหนึ่ง เค้าไปเจอข้าวป่าที่เกสรตัวผู้ไม่พัฒนา ก็เลยใช้เทคโนโลยีปรับปรุง ข้าวพันธุ์แม่ ให้มีแต่เกสรตัวเมีย ไม่มีเกสรตัวผู้ แล้วเอามาปลูกสลับแถวกับ ข้าวพันธุ์พ่อ ให้ละอองเรณูจากข้าวพันธุ์พ่อปลิวไปผสม ก็จะได้เมล็ดข้าวลูกผสมจำนวนมากสำหรับนำไปขายให้ชาวนาซื้อไปปลูก
แล้วทำไม เค้าถึงว่า ห้ามชาวนาเก็บเมล็ดไว้ปลูก ต้องซื้อใหม่ทุกครั้งล่ะคะ?
ข้าวขวัญจำรอยยิ้มของคุณพลตอนที่หันมาบอกเธอว่า... ปลูกต่อไม่ได้ มันจะกระจายพันธุ์ ชาวนาต้องซื้อเมล็ดจากเราไปปลูกตลอดกาล!
เพราะลักษณะด้อยจะปรากฎในรุ่นสอง สาม สี่... ซึ่งไม่มีการคัดเอาลักษณะดีไว้ ลักษณะด้อยทิ้งเหมือนอย่างการผสมพันธุ์ข้าวเพื่อปรับปรุงพันธุ์
พวกเราก็กลุ้มกันมากเรื่องนี้ เลยติดตามศึกษา ปรากฎว่า มันไม่ได้ให้ผลผลิตสูงอย่างที่โฆษณาไว้ สูงขึ้นกว่าปกติไม่มาก ไม่คุ้ม เพราะต้นทุนสูงขึ้นมาก ชาวนาต้องแบกรับเอง คุณภาพข้าวก็ไม่ดี ที่น่ากลัวที่สุด... ถ้าปล่อยให้ข้าวผีนี่ยึดนาสำเร็จล่ะก็...
การผูกขาดตลาดเมล็ดพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดของไทยจะเกิดขึ้น... เมล็ดพันธุ์ข้าว จะไม่ได้เป็นของชาวนาอีกต่อไป!
รู้แบบนี้แล้ว ลูกสาวของพ่อยังจะทำงานให้เค้าอีกหรือเปล่าคะ? ลุงสิบถามลูกสาว จริงๆ เขาอยากถามด้วยว่า รู้แบบนี้แล้ว ลูกสาวของพ่อยังจะ คบ กับมันอยู่อีกหรือเปล่า
คืนนี้หนุ่มใหญ่เพิ่งกลับจากสัมมนาต่างประเทศ ได้ข่าวว่าลูกสาวของเขามาหาถึงที่นี่ก็ดีใจจนบอกไม่ถูก แต่พอรู้เรื่องที่เธอมากับกรรมการผู้จัดการทรูฟู๊ตแล้วกลับร้อนใจจนทนไม่ไหว ต้องสั่งให้นำทัพพ์ช่วยเอาไอ้หมอนั่นออกไปที่ไหนก็ได้ระหว่างที่เขาขึ้นมาหาลูกสาวถึงบ้านนี้ เขาไม่อยากเห็นหน้ามัน ยิ่งตา:-)บอกว่ามันขอพบผู้ก่อตั้งณ นครแห่งข้าวด้วยแล้ว เขาขอไม่เจอมันเลยดีกว่า
พ่อขา... ที่ขวัญรับงานคุณพลมันคนละส่วนกันนะคะ
ลูกสาวพ่อคิดว่า ยักษ์ร้ายที่คอยสูบเลือดชาวไร่ชาวนามาตลอดจะใจดีมาส่งเสริมเกษตรอินทรีย์เหรอ? พ่อว่ามันคงต้องมีอะไรแอบแฝงแน่
ข้าวลูกผสม ก็เป็นแค่กลยุทธ์หนึ่งในการชิงตลาดเมล็ดพันธุ์ข้าวเท่านั้น ตอนที่คุณพลพูด ข้าวขวัญก็รู้สึกไม่สบายใจเลย ไหนว่าทรูฟู๊ตในรุ่นเขาจะทำการเกษตรแบบยั่งยืนไม่ใช่เหรอ ถ้าชาวนายังไม่ได้เป็นแม้แต่เจ้าของเมล็ดพันธุ์ แล้วมันจะยั่งยืนได้ยังไง?
ข้าวขวัญเองเข้าใจที่พ่อเตือน แต่ก็ยังอยากจะเชื่อว่า เธอสามารถช่วยทำให้คุณพลเปลี่ยนทิศทางทรูฟู๊ตให้ทำธุรกิจได้กำไรแล้วคืนสู่สังคมบ้าง โดยเฉพาะถ้าสามารถทำอะไรที่มันไปด้วยกันได้...
เอาอย่างงี้นะคะพ่อ ขวัญขอลองทำดูก่อน ถ้ามันไม่ใช่อย่างที่คิด ขวัญก็ถอนตัว ดีซะอีก ถือว่าได้รู้ความลับของศัตรู
ชายหนุ่มฟังที่ลูกสาวคนเก่งของเขาบอกดังนั้นก็ค่อยเบาใจแต่ก็ยังไม่วายเป็นห่วงอยู่ดี
คบกับคนคนนี้น่ะ ต้องระวังให้มากๆ นะลูก เฮ่อ...พ่อไม่เข้าใจเลยว่าทำไมหนูถึงได้มีปัญหาอะไรนำทัพพ์... คนเป็นพ่อเสียดายลูกเขยที่หมายตาไว้จนออกนอกหน้า
พ่อคะ... พ่อเลิกพูดถึงเค้าเถอะค่ะ แล้วก็... ที่พ่อเตือนให้หนูระวังคุณพลน่ะ พ่อแหละต้องระวังนายนำทัพพ์ ข้าวขวัญเกือบหลุดปากออกไปแล้วว่า นำทัพพ์เป็นอะไรกับคุณพล แต่... หยุดตัวเองไว้ได้ทัน
เธอก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องกลัวพ่อรู้ หรือกลัวพ่อมีปฏิกริยาอะไรกับเขา โกรธ รังเกียจ เสียใจ... ไม่นะ! ถึงเธอเกลียดเขา แต่ก็ยังอยากให้พ่อมี ลูกรัก คนนั้นอยู่ข้างๆ แปลกที่เธอไม่รู้สึกว่าน้องชายคุณพลอันตรายเหมือนพี่ ทั้งๆ ที่... ข้าวขวัญเผลอแตะริมฝีปาก นึกถึงสัมผัสอันตรายเมื่อคืนนี้...
คนเป็นพ่อส่ายหัว เขาอยากรีบๆ ให้ลูกสาววัยสามสิบของเขาแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาซะที หนุ่มที่ชนะใจเขา ก็พร้อมรอเป็นลูกเขยอยู่นานแล้ว แต่ไม่รู้จะทำยังไง ในเมื่อลูกสาวเขาเป็นฝ่าย เรื่องมาก แล้วนี่ดูสิดู... มาบอกให้พ่อระวังเจ้าทัพพ์ แต่ตัวเองกลับไม่ยอมนอนบ้าน มานอนอยู่บ้านเค้า ห้องนอนเค้า
ที่พ่อต้องระวังน่ะ ระวังอะไรจ๊ะ ระวังลูกสาวโดนเค้าปล้ำรึเปล่า? ลุงสิบแซว หารู้ไม่ว่าเรื่องนั้นระวังไม่ทันแล้ว ข้าวขวัญถึงกับสะดุ้ง รีบกลบเกลื่อน
พ่ออ้า... พูดอะไรน่าเกลียด
อ้าว ก็ลูกไม่ยอมกลับบ้านนอนกับพ่อ
โธ่ ก็หนูยังไม่อยากเปิดเผยตัวให้คุณพลรู้นี่นา เดี๋ยวเป็นนักสืบให้พ่อไม่ได้น้า
ข้ออ้างรึเปล่า? ...ไม่ใช่อยากนอนหมอนใบเดียวกับใครแน่นะ?
ตายแล้ว พ่อมีตาทิพย์หรือไง ถึงได้รู้ว่าเธอแอบสูดดมหมอนของเค้า
เราอย่าไปเอ่ยถึงคนคนนั้นเลยนะคะพ่อ หญิงสาวรีบพาพ่อของเธอไปอีกทาง ...เล่าให้ขวัญฟังดีกว่าว่าไปสัมมนามาเป็นไงมั่ง คิดถึงจังเลย เดี๋ยวนี้พ่อขวัญดังใหญ่แล้ว ออนทัวร์เที่ยวตลอดเลยน้า
โดนลูกสาวหอมแก้มเข้าไป ลุงสิบก็รู้สึกชื่นใจจนลืมเรื่องกลุ้มใจไปแทบหมดเลย
พรุ่งนี้พ่อก็มีไปต่างจังหวัดอีก อาจารย์ราชราชภัฏฯ เชิญไปบรรยาย
จากนั้น ทั้งสองก็คุยกันกระหนุงกระหนิงตามประสาพ่อๆ ลูกๆ อยู่พักใหญ่ใต้ซุ้มไม้เลื้อยบนระเบียงบ้านนำทัพพ์ โดยไม่รู้เลยว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาของ ใครคนหนึ่ง
จนกระทั่งลุงสิบนึกขึ้นได้มองนาฬิกาเห็นว่าดึกมากแล้ว เขาคงต้องตัดใจกลับบ้านไปก่อน แต่... พอได้จูบหน้าผากมนสวยของลูกสาว บอก ฝันดี เหมือนทุกคืนที่เขาส่งหนูน้อยข้าวขวัญเข้านอน ก็เกิดอาการ หวงลูก ขึ้นมา
เอ่อ... ขวัญ
อะไรคะ?
เอ่อ... จะไม่ไปนอนด้วยกันจริงๆ เหรอ? ยังแอบมีความหวังว่าลูกจะเปลี่ยนใจ ถึงจะอายุสามสิบแล้ว ไม่น่าหวง ควรจัดโปรโมชั่นด้วยซ้ำ ...เคยจากอกเขา เดินทางไปเรียนอยู่ไกลแสนไกลหลายปี ทุกวันนี้ก็ไม่ได้กลับบ้านกลับช่อง แต่ในสายตาของคนเป็นพ่อ ก็ยังเห็นเธอเป็นลูกสาวตัวน้อยอยู่วันยังค่ำ
ไม่ดีกว่าค่ะ ถ้าคุณพลเห็นเธอไปนอนบ้าน หนุ่มใหญ่หล่อล่ำ อย่างคนตรงหน้านี่ โดยไม่รู้ว่าเขาเป็นพ่อเธอล่ะก็ จะว่ายังไงนะ
เอ่อ...แต่ว่า
ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ประตูมีล๊อค คิคิ ข้าวขวัญมัวแต่ขำท่าทางหวงลูกสาว เลยพูดออกไปโดยไม่ทันคิด แต่พ่อย้อนกลับมาทำเอาเธอหายใจติดขัด...
หาอะไรหนักๆ มากั้นที่ประตูอีกทีนะ เผื่อเจ้าของบ้านมีกุญแจเปิดเข้าไปได้
อ่า... จริงด้วย นำทัพพ์มีกุญแจ จะว่าไป...เขามีกุญแจเปิดทุกห้องของเธอได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นห้องที่เธอนอนคืนนี้ หรือที่ที่เธออยู่ทุกวัน แม้แต่ห้อง... หัวใจ...
บ้าน่า... ข้าวขวัญไม่รู้ตัวเลยว่า เธอว่าใครบ้ากันแน่ พ่อหรือตัวเธอเองที่คิดอะไรฟุ้งซ่าน ...กลับบ้านไปได้แล้ว เป็นเพราะพ่อคนเดียวเชียว!
โอเคๆ ไปก็ได้ ไม่เห็นต้องไล่กันขนาดนั้นเลย
ลูกสาวเลี้ยงโตแล้วรักคนอื่นมากกว่าพ่อ ประโยคหลังหนุ่มใหญ่แกล้งบ่นอุบอิบเบาๆ ให้ลูกสาวได้ยิน
ข้าวขวัญยืนมองร่างสูงใหญ่ไหล่กว้างของพ่อจนหายลับไปในความมืดด้วยความภาคภูมิใจ พ่อเธอก็อายุไม่น้อยแล้ว แต่ยังดูเท่ห์อยู่เลย
หึหึ... คนบ้า คิดอะไรไม่รู้... สงสัยตัวเองเคยทำบาปกับสาวเอาไว้ล่ะสิท่า เลยมานั่งหวงเรา
เฮ่อ... จนป่านนี้แล้วยังไม่หา แม่ใหม่ มาให้เธอสักที ข้าวขวัญอยากให้พ่อมีความสุข ไม่อยากให้อมทุกข์เพราะยังรักผู้หญิงที่เขาทิ้งเธอกับพ่อไปเลย
จากคุณ |
:
Acciacatura
|
เขียนเมื่อ |
:
6 มิ.ย. 54 13:37:13
|
|
|
|