Elve Avatar เอลฟ์ อวาตาร์ : เจ้าชายอัปลักษณ์กับแหวนวิเศษ ตอนที่ 2
|
 |
ซาไชน์ เผ่าหมอผีชั่วร้ายสันดาบหยาบ หากแต่ขลาดเขลา ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงมันเป็นตัวอะไร ลือกันว่ามันเป็นมนุษย์ที่หลงใหลอำนาจมนตร์ดำจนกลายร่างเป็นอสูรกาย สูญเสียจิตใจของความเป็นมนุษย์ พวกมันเคลื่อนไหวภายใต้ผ้าคลุมสีดำทะมึนสกปรก ขี่นกยักษ์โครวเวอร์ที่มีขนดกหนาสีดำ
ถิ่นฐานของพวกซาไชน์อยู่ในทวีปยารีทางตอนเหนือ ซึ่งเป็นดินแดนน้ำแข็งอันหนาวเหน็บ ความขลาดของพวกมันถูกเล่าขานมาตั้งแต่สงครามบรรพกาลเมื่อห้าพันปีก่อน
ซาไชน์ดำรงตนเป็นสมุนรับใช้ให้พวกนากะไส ก่อนที่ดาร์คลอร์ดกุสทอร์จะถูกส่งไปใต้มหาสมุทร พวกซาไชน์เกรงพลังอำนาจของโอไร จึงพากันทรยศหักหลังนากะไส แล้วอพยพไปอยู่ในถ้ำน้ำแข็งแถบสุสานงาช้าง โอไรเห็นว่าพวกซาไชน์อ่อนแอเกินกว่าจะรังแกเผ่าพันธุ์อื่นๆ จึงละเว้นไม่ลงทัณฑ์ แต่ดูเหมือนโอไรจะคาดการณ์ผิด
เมื่อคำสาปของพวกนากะไสที่สาปสรรค์เผ่าพรรค์ต่างๆ ส่งผลให้เอลฟ์ส่วนหนึ่งต้องกลายสภาพวิปริต สิ้นเวทมนตร์มายา กลายเป็นเผ่าบร็อมผู้อ่อนแอและต่ำต้อยยิ่งกว่าพวกซาไชน์เสียอีก และด้วยเหตุผลกลใดไม่อาจรู้ได้ พวกซาไชน์มันแพร่พันธุ์มาจนถึงยุคปัจจุบัน และหันมารังแกชาวบร็อม
หลายปีที่ผ่านมา หมอผีซาไชน์จะออกล่าชาวบร็อมในยามรัตติกาล เพราะพวกหมอผีที่อุทิศตนสู่ด้านมืด จะตกต้องแสงสว่างไม่ได้ จะทำให้ชีวิตพวกมันบรรลัยในพริบตา มันจึงแพ้แสงไฟกับแสงสว่าง ไม่เคยมีใครเห็นซาไชน์ในตอนกลางวัน
ชาวบร็อมหลายชีวิตที่พลาดพลั้งถูกจับตัวไป ล้วนสาบสูญไม่หวนกลับมา ว่ากันว่าพวกซาไชน์อำมหิตกว่าเมื่อห้าพันปีก่อนมากนัก พวกมันจับชาวบร็อมไปถลกเนื้อหนังแล้วต้มยาวิเศษเพื่อดื่มกิน
อาริเทียร์เทียบเรือที่เมืองท่าบรู๊ซบนเกาะมูโรไค ตะวันยามบ่ายถูกบดบังด้วยเมฆคราม นางก้าวลงจากเรือสำเภาขนาดเล็กอย่างระมัดระวัง ทั้งตื่นเต้น ทั้งหวั่นใจ ไม่มีองครักษ์ใดจากคาเทียร์ติดตามมาปกปักรักษา นางเดินทางเพียงลำพังเพื่อสืบหาแหวนแห่งซอร์
ด้วยภารกิจที่ลับสุดยอด อาริเทียร์จึงแปลงโฉมจากเจ้าหญิงเป็นเอลฟ์สาวในชุดสามัญ สวมเสื้อแจ็กเก็ตกับกางเกงสี่ส่วนที่ทำจากหนังสัตว์ ทับด้วยผ้าคลุมไหมสีเขียวมรกต สวมบู๊ทเอลฟ์ทูรอน ซึ่งเป็นรองเท้าบู๊ทที่ทำจากหนังช้าง
ภาพเบื้องหน้าของนางคือตลาดเมืองท่าและผู้คนหลากเผ่าคลาคล่ำ นางเผยยิ้มระรื่น เพราะนี่คือครั้งแรกตลอดสองร้อยปีที่ได้เดินทางออกจากป่าสามสี มันอาจจะไม่ใช่การเดินทางแสนสำราญ แต่นางก็รู้สึกปิติ ที่มีโอกาสได้มาเห็นความมีชีวิตชีวาของโลกกว้าง และนางก็เชื่อมั่นว่าแหวนแห่งซอร์จะต้องอยู่ที่ใดสักแห่งบนเกาะมูโรไค
ดวงตากลมภายใต้ไรผมสีทองมองไปรอบด้าน นางเคยอ่านแต่ในตำราที่เล่าถึงความข้นแค้นของเกาะมูโรไค ทว่าสิ่งที่เห็นคือเมืองท่าที่คึกคัก โดยเฉพาะม้ามูโรไคที่ดูเหมือนจะเป็นสินค้าขายดี มองไปหนใดก็มีแต่ม้ามูโรไค นอกเหนือจากนั้นก็เป็นแผงปลา พืชผักที่แห้งเหี่ยว เครื่องปั้นดินเผาที่ไม่ค่อยจะงามตา และร้านเครื่องประดับที่ทำจากการสลักเสลาเนื้อไม้
อาริเทียร์เดินสำรวจเมืองท่าตามทางเดินใหญ่ ได้เห็นนักเดินทางมากมายที่เป็นเอลฟ์ คนแคระ มนุษย์ ทั้งยังมีหมีขาวหรือพวกอาริงกัสจากทางเหนือ สำหรับสิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่เป็นทรงกระบอกทำจากท่อนซุง ดูผิวเผินเหมือนต้นไม้เล็กๆที่มาประกอบกันจนเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ มันเป็นสถาปัตยกรรมที่เห็นได้ทั่วไปในป่าคาร์เทียร์ ก็แน่ล่ะ เดิมทีชาวบร็อมก็คือเอลฟ์ ศิลปะวิทยาการจึงไม่ต่างจากพวกเอลฟ์เลยสักนิด
อันที่จริงอาริเทียร์ไม่ได้ลืมหน้าที่หลัก แต่ดูเหมือนนางใช้เวลาไปกับการเดินเที่ยวจนแสงทองของอาทิตย์อัสดงสาดลำไปทั่วเมืองท่าบรู๊ซ จวนค่ำเสียแล้ว นางรู้สึกตัวอีกทีก็ต้องมองหาร้านรวงอันจะเป็นที่พักพิงเพื่อวางแผนสำหรับวันพรุ่งนี้
สายลมยามค่ำคืนพัดผ่านแมกไม้ ความคึกคักหดหายเหลือเพียงความเงียบเหงาของราตรี ความมืดดำหม่นหมองทาทาบไปทั่วอาณาบริเวณ อาริเทียร์เป็นเอลฟ์ที่ฉลาด นางจึงแปลกใจกับการที่ชาวบร็อมปิดประตูขัดกลอนตั้งแต่ฟ้าเริ่มมืด บนถนนทางเดินที่เคยคลาคล่ำด้วยผู้คนต้องร้างไร้เงาผู้ใด
“หายไปไหนกันหมดนะ” นางบ่นพึมพำพลางสอดสายตาผ่านบานหน้าต่าง ทั้งเงี่ยหูฟังเผื่อจะได้สดับเสียงเพลงอันไพเราะ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น นอกจากความเงียบที่เหมือนจะอยู่ยาวชั่วข้ามคืน
เอลฟ์จะชื่นชมธรรมชาติในยามกลางวัน จะจุดไฟสวยงามและร้องเพลงในยามราตรี ทั้งที่นางเคยเข้าใจว่าชาวบร็อมน่าจะมีวัฒนธรรมที่ไม่ต่างจากเอลฟ์ แต่ค่ำคืนแรกบนเกาะมูโรไค นางก็ได้พบความเงียบงันน่าขนลุกของพองของชาวบร็อมเสียแล้ว
กระทั่ง! เงาทะมึนของร่างใครคนหนึ่งปรากฏบนทางเดินเบื้องล่าง เสียงฝีเท้าที่เร่งรีบทำให้เอลฟ์สาวต้องชะโงกมองหา ดวงตาเอลฟ์มองเห็นได้ไกลและชัดเจน นางแลเห็นร่างชาวบร็อมตัวน้อยกำลังวิ่งกระหืดกระหอบราวกับหวาดกลัวบางสิ่งบางอย่าง
อาริเทียร์พยายามมองย้อนไปด้านหลังที่ชาวบร็อมผู้นั้นวิ่งจากมา ก็ไม่พบสิ่งใด นางนิ่งคิดอย่างงงงัน พลันตัดสินใจลุกจากห้องพัก แล้วลงมาด้านล่าง ไล่ตามชาวบร็อมผู้นั้นไป
จากคุณ |
:
CaesarNote
|
เขียนเมื่อ |
:
6 มิ.ย. 54 18:54:24
|
|
|
|