พรพรรษาก้าวเดินนำหน้าพาชายหนุ่มไปขึ้นรถโดยสารที่จอดรออยู่หน้าสถานนีอย่างคล่องแคล่วเพื่อไปยังบ้านญาติ
ของเธอที่อยู่ห่างจากตัวเมืองไม่มากนัก
หญิงสาวเดินทางมาท่องเที่ยวเชียงใหม่ร่วมสองอาทิตย์เข้าให้แล้วหลังจากรู้ว่าตัวเองสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐแห่ง
หนึ่งได้ซึ่งเป็นที่เดียวกัน คณะเดียวกันกับเอกบดินทร์ นั่นละ นัยว่าเป็นการเที่ยวฉลองสอบติดคณะที่ตัวเองไฝ่ฝันไป
ในตัวและเป็นการมาเยี่ยมญาติข้างฝ่ายบิดาของเธอด้วย
หลังจากรถสองแถวพุ่งทะยานเคลื่อนออกตัวไปสักพักใหญ่ ชายหนุ่มเหม่อมอง ผู้คนตามทางเดินและร้านรวงต่างๆ
สองข้างทางแปลกตา อย่างเพลิดเพลิน ความรื่นรมณ์ ถูกขัดจังหวะลงเล็กน้อย เมื่อหญิงสาวเอ่ยถามพลางเหลือบมอง
เขาด้วยนัยน์ตาสงสัยอยู่ครามครัน เพราะเธอเห็น แววตาแปลกๆ ไม่เคยเห็นมาก่อนที่เขามองผู้หญิงคนนั้นที่สถานี
รถไฟ
ผู้หญิงคนเมื่อตะกี้ใครเหรอ ชายหนุ่ม หยุดกิจกรรมทางสายตาทั้งหมดลงชั่วครู่ เมื่อได้ยินคำถามของพรพรรษาหัน
ไปมองร่างอรชรอ้อนแอ้น ด้วยดวงตาสีหม่นลงไปอย่างเห็นได้ชัด พยายามโปรยยิ้มปิดบังซ่อนเร้นบางสิ่งบางอย่างไว้
ให้ถึงที่สุด อ้อมแอ้มเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเข้มขรึมไปว่า
ไม่มีไรหรอก เพื่อนร่วมเดินทางที่บังเอิญพบกันเท่านั้น หนำซ้ำยังฝากรอยแผลบนเบ้าตาให้เป็นที่ระลึกอีกนี่ไงเล่า
ว่าแต่คุณเธอเถอะมาเที่ยวที่นี่แค่สองอาทิตย์แต่งตัวกลมกลืนกับคนท้องถิ่นซะขนาดนั้นเลย ชายหนุ่มยิ้มก่อนเอ่ยพูด
อย่างต่อเนื่องโดยเลี่ยงไปพูดเรื่องความสวยความงามแทนซึ่งก็ได้ผลเป็นอย่างดี
หญิงสาวยิ้มสดใสผุดพรายออกมาบนใบหน้าหวานปรายตาสำรวจชุดผ้าฝ้ายพื้นเมืองสีสันสวยงามที่เธอสวมใส่อยู่ เอ่ย
ตอบเขาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ดวงตาพราวระยับ
เป็นชุดที่ร้านป้าเราเองแหละสวยป่ะ
ชุดน่ะสวยแต่คนใส่
..! ร่างสูงยังไม่ทันเอ่ยจบประโยค หญิงสาวโพล่งออกมาเสียก่อนพร้อมกับตีแขนชายหนุ่มเบาๆ เฮ้ยหยุดพูดเลยแก
ชายหนุ่มยิ้มพราย เอ่ยออกไปทันควันว่า ชุดสวยคนใส่ก็น่ารักไง ร่างอรชรอ้อนแอ้นฉีกยิ้มหวานขึ้นมาโดยพลัน
ร่างสูงชำเลืองมองหญิงสาวแวบหนึ่ง พลันทำให้นึกถึงธนากร เพื่อนนักเรียนที่สนิทกันอีกคนหนึ่งซึ่งนัดกันว่าจะมา
เที่ยวด้วยกันเสียดิบดี แต่มาด้วยไม่ได้ในนาทีสุดท้ายซะงั้น เพราะต้องไปทำธุระอย่างปัจจุบันทันด่วนให้กับบิดาของ
มันพอดี
เฮ้ยเสียดายจังว่ะ ธนากร มันมาด้วยไม่ได้ ถ้ามาคงมีเรื่องสนุกทำมากกว่านี้แน่ แม่เพื่อนสาวพอได้ยินชื่อธนากร
ทำสีหน้าบูดบึ้งบอกบุญไม่รับขึ้นมาในฉับพลัน เอ่ยสวนออกมาทันทีทันใด มันไม่มาก็ดีแล้วแหละรำคาญปากมัน
อ้าวทำไมล่ะ..มันก็คุยสนุกดีออก ชายหนุ่มเอ่ยแกล้งยั่วอีกฝ่ายที่อารมณ์เริ่มเดือดปุดๆ
มันคุยสนุกแบบกวนตีนนะสิ ผู้ชายอะไรพูดมาก
หญิงสาวใบหน้าแดงก่ำไม่ค่อยสบอารมณ์นักเพราะเคยถูกฝ่าย
โน้นแกล้งเหน็บแนมให้เสียหน้าบ่อยครั้ง
มันพูดมากพูดแซวเพราะมันชอบหรือเปล่า ร่างสูงเอ่ยสวนออกไปอย่างรวดเร็ว
พอๆเลยไม่ต้องพูดแล้วละ อีกฝ่ายชะงักเงียบลงชั่วครู่ ก่อนเอ่ยพูดด้วยท่าทีสงบลงมานิดหนึ่ง
ชายหนุ่มลอบยิ้มในความขิงก็ราข่าก็แรงของคนทั้งคู่ ธนากรนั้นเป็นคนพูดเก่งจนบางครั้งกลายเป็นพูดมากเหมาะที่จะ
เป็นนักข่าวอย่างที่ตัวเองใฝ่ฝันอยู่เหมือนกัน ชอบเหน็บแนมประชดประชันหยอกล้อกันแรงๆอยู่เป็นนิจ
แม่ฝ่ายเพื่อนสาวก็พอๆกันยอมใครเสียที่ไหนสวนกลับไปแรงๆเช่นเดียวกัน ทว่าใจลึกๆของธนากรแล้ว คงแอบชอบ
เธออยู่ในทีแต่ไม่แสดงออกเท่านั้นเอง เสียดายที่มาด้วยกันไม่ได้ไม่อย่างงั้นบางทีเพื่อนรัก คู่นี้กามเทพอาจแผลงศรให้
มาชอบกันซะที่เมืองสวยงามแห่งนี้น่าจะดี นึกแล้วอดขำไม่ได้
ขำอะไรกันนักหนาเหรอ? แม่เพื่อนสาวสังเกตุเห็นชายหนุ่มยิ้มขันอยู่คนเดียวจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย
เปล่าๆไม่มีไร
ขณะรถสองแถวแล่นออกจากตัวเมืองไปเรื่อยๆ นั้น พรพรรษา ก็ได้รับข่าวร้ายอย่างฉับพลัน เมื่อญาติของเธอที่
กรุงเทพฯโทรมาบอกว่าแม่ของเธอป่วยต้องเข้ารับการ ฝ่าตัดไส้ติ่งด่วนที่โรงพยาบาล เธอจึงจำเป็นต้องบินกลับกรุง
เทพฯในเย็นวันนี้เลยแผนการท่องเที่ยวของชายหนุ่มจึงต้องเปลี่ยนกระทันหันจากที่คิดจะไปพักที่บ้านญาติของเธอ
เปลี่ยนไปพักโรงแรมดีกว่าด้วยความเกรงใจ
เราเร่งรีบลงจากรถสองแถวแล้วขึ้นรถย้อนกลับเข้าตัวเมืองไปหาเช่าโรงแรม เช็คอินเสร็จสรรพเรียบร้อย แม่เพื่อนสาว
ขอตัวไปซื้อตั๋วเครื่องบินและไปเตรียมเก็บสัมภาระเดินทางแล้วจะกลับมารับชายหนุ่มไปเที่ยวต่อเนื่องจากยังมีเวลา
เหลือมากพอกว่าจะเครื่องบินจะออก
******************************
ภายในรีสอร์ทหรูหราแห่งหนึ่งที่ถูกตกแต่งด้วยศิลปะล้านนาประยุกต์ เพียงตะวันเพิ่งรับประทานอาหารเช้ากับธเนศ
อมรศิลปะกุล ผู้เป็นบิดาอย่างอิ่มหนำสำราญ เสร็จสิ้นเมื่อสักครู่ ก่อนที่ สองพ่อลูกจะมานั่งย่อยอาหารกันบนโซฟานุ่ม
ที่ทำจากไม้แกะสลักลวดลายสวยสดงดงามปูพื้นด้วยเบาะนุ่มราคาแพง ภายในล็อบบี้อันโอ่งโถงกว้างขวาง
ร่างบางระหง สวมใส่ชุดเสื้อแขนยาวสีขาวสะอาดตา กางเกงยีนส์ นั่งเหม่อมอง วิวทิวทัศน์ของสวนดอกไม้นานาพันธฺ์
ที่ตกแต่งอย่างสวยงามอยู่บริเวณภายนอก ผ่านกระจกใสอย่างเพลิดเพลิน
พลันจู่ๆหญิงสาว ยิ้มพรายพราวออกมาบนใบหน้าขาวนวลแก้มแดงระเรื่อโดยไม่รู้ตัว เมื่อนึกถึงภาพเหตุการณ์บน
รถไฟ เธอทำให้อีตาบ้าคนนั้นต้องเจ็บตัว แถมยังใช้ให้ถ่ายรูปจนมือหงิก ตลอดทาง แต่เดี๋ยวเถอะ! มาว่าเราเป็นเมรีขี้
เมาสมองเสื่อม
ธเนศ นั่งจิบกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์ เพื่อรอเวลาเข้าประชุมสัมมนากับผู้บริหารของบริษัท เหลือบมองเห็นลูกสาวยิ้ม
น้อยยิ้มใหญ่เกิดความสงสัย นานมาแล้วไม่เคยเห็นลูกสาวยิ้มอย่างมีความสุขอย่างนี้มาก่อนหลังจากนิตยาผู้เป็นมารดา
เสียไปเมื่อสามปีก่อนจึงเอ่ยขึ้นว่า
ยิ้มอะไรเหรอลูก เสียงของบิดาทำให้ ฝ่ายถูกเรียกผู้เป็นลูกสะดุ้งน้อยๆ ตื่นจากภวังค์คิด เอ่ยตอบผู้เป็นพ่อด้วย
น้ำเสียงอ่อนโยน
ไม่มีอะไรหรอกค่ะคุณพ่อ อ้อเหรอ ธเนศ เอ่ยพูดพลางเหลือบเห็นปวริศเดินผ่านโต๊ะประชาสัมพันธ์เข้ามาพอดี
ว่าไง หลาน ปวริศ มาถึงเชียงใหม่นานหรือยังล่ะ
ร่างสูงเพรียวบาง สวมใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีเขียวอ่อน กางเกงสแล็คสีดำ แบรนด์เนมยี่ห้อดัง มีสีหน้าอิดโรยเล็กน้อย
เนื่องจากว่าเมื่อคืนเขาอยู่กับรจนาซึ่งเป็นเลขานุการส่วนตัวของเขาทั้งคืนบนห้องในคอนโดมิเนี่ยมเพิ่งบินมาถึง
เชียงใหม่ สักพักใหญ่ๆนี้เอง
ปวริศ ย่างก้าวมุ่งตรงมายังโซฟาที่สองพ่อลูกนั่งอยู่ เอ่ยทักทายยกมือไหว้ชายสูงวัย แล้วเบือนใบหน้ามาทางหญิงสาว
เอ่ยทักทายพร้อมกับส่งสายตากรุ้มกริ่มหวานซึ้งแฝงเลศนัยมายังเธอ
สวัสดีครับคุณลุงมาถึงนานแล้วครับ สวัสดีจ้าน้องเพียงตะวัน ร่างบาง ฝืนยิ้มพลางยกมือไหว้สวัสดีอีกฝ่ายอย่าง
เสียมิได้ เธอรู้สึกไม่ค่อยชอบสายตาที่เขามองเธอแบบนี้เลยมันไม่น่าไว้วางใจอย่าไงก็ไม่รู้
งานของหลานเป็นอย่างไงบ้างช่วงนี้ ชายสูงวัยเอ่ยถาม
ช่วงนี้กำลังร่างโปรเจคงานใหม่อยู่ครับ คุณพ่อกำลังจะลงทุนสร้างอาคารห้างสรรพสินค้าครบวงจรมีโรงแรม
พร้อมสรรพ บนเนื้อที่ขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯเลยครับ ท่านว่าจะชวนคุณลุงร่วมลงทุนด้วย
ชายหนุ่มเอ่ยพูดกับชายสูงวัย แต่ส่งนัยน์ตากรุ้มกริ่ม แพรวพราว มายังร่างบางระหง มิหยุดหย่อนราวกับว่าอยากจะ
กลืนกินเธอให้หมดทั้งตัวเสียอย่างนั้น กระทั่งคนถูกมองรู้สึกขยะแขยงและรำคาญเต็มทน เสียมารยาทที่สุดเลย
น่าสนใจดีนี่
เดี๋ยวว่างๆให้คุณพ่อของหลานมาคุยรายละเอียดกัน ชายสูงวัยยิ้มพรายออกมาบนใบหน้าภูมิใจใน
ความเก่งกาจของชายหนุ่มที่ ตัวเองปรารถนาให้ลงเอยกับลูกสาวของตัวเองในอนาคต
เดี๋ยวหลานพาน้องไปเที่ยวหน่อยนะ
ลุงต้องเข้าประชุมแล้วล่ะ พ่อไปแล้วนะลูก ชายสูงวัยเอ่ย พร้อมกับค่อยๆ
ลุกขึ้นยืนตามสังขารที่ล่วงโรยลงทุกวัน ก้าวเดินออกจากล็อบบี้ตรงไปยังห้องประชุมขนาดใหญ่ในทันที
************************
พรพรรษาตระเวนพาชายหนุ่มท่องเที่ยว บ้านบ่อสร้างอันเป็นสถานที่ทำร่มบ่อสร้างซึ่งเป็นสินค้าพื้นเมืองยอดนิยมอีก
แห่งหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ โดยตัวร่มทำด้วยกระดาษสาและผ้าแพร สีสันสดใสมีลวดลายดอกไม้สวยงาม ซึ่งถือว่า
เป็นหัตถกรรมพื้นบ้านที่น่าสนใจ
สวนเฉลิมพระเกียรติราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ศูนย์กลางการเรียนรู้พืชสวนโลก มีพันธุ์ไม้
หลากหลายชนิดที่สวดงามภายในพื้นที่ยังมีการจัดภูมิสถาปัตย์ล้านนาอันวิจิตรงดงามของหอคำหลวงอีกด้วย
จากนั้นหญิงสาวพาเขามาท่องเที่ยวสวนสัตว์เชียงใหม่ เพื่อศึกษาชีวิตของหมีแพนด้าอันเป็นสัตว์ที่ป๊อปปูล่าที่สุดและ
กลายเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่แห่งนี้ไปเสียแล้ว
สุดท้ายของทริปท่องเที่ยวจบลงโดยเธอพาเขามานั่งรับประทานอาหารเย็นกันที่ร้านอาหารเล็กๆแห่งหนึ่งในบรรยากาศ
ที่เป็นธรรมชาติอันแสนร่มรื่นซึ่งไม่ห่างจากสนามบินมากนัก เพื่อรอเวลาขึ้นเครื่องก่อนที่เธอจะบินกลับกรุงเทพฯ
พรพรรษาและเอกบดินทร์ จัดการอาหารจานโปรดอันประกอบไปด้วยข้าวซอยและขนมจีนน้ำเงี้ยว อย่างละหนึ่งชาม
หมดลงอย่างรวดเร็วด้วยความหิวโซอย่างหนักเนื่องจากเดินกันมาอย่างเหน็ดเหนื่อยเกือบทั้งวัน
เฮ้ยๆตื่นเต้นว่ะอีกแค่สองอาทิตย์กว่าๆเราจะเป็นนักศึกษาใหม่กันแล้ว หญิงสาวเอ่ยขึ้นหลังจากเคี้ยวอาหารคำ
สุดท้ายหมดลง
เหอะๆไม่เห็นจะตื่นเต้นเลย ว่าแต่คุณเธอซื้อชุดนักศึกษาและข้าวของเครื่องใช้ครบหรือยัง
จะเหลือเรอะ ฉันซื้อครบหมดตั้งแต่รู้ว่าสอบเข้าได้แล้วแหละ หญิงสาวยิ้มอย่างชื่นบาน เอ่ยพูดด้วยภาคภูมิใจอย่าง
เต็มที่ ชายหนุ่มเหลือบมองมายังเธอแล้วอดขำไม่ได้
เหอะๆอะไรจะขนาดนั้น
ว่าแต่แม่เธอไม่ได้เป็นอะไรมากใช่ไหม ชายหนุ่ม เอ่ยพูดอย่างเป็นงานเป็นการด้วยความห่วงใย
ไม่เป็นไรมากแล้วแหละ การผ่าตัดเป็นไปด้วยดีสบายใจได้ ฉันโทรไปตอนเราอยู่กันที่สวนเฉลิมพระเกียรติน่ะ
อ้าวเหรอ ไม่เห็นรู้เรื่องเลยโทรไปตอนไหน สงสัยเดินชมดอกไม้ใบหญ้าเพลิน แต่ก็ดีแล้วละที่ท่านไม่เป็นอะไร
มาก
เฮ้ยเมื่อกี้นี้แผ่นผ้าโปรโมทหน้าร้านเขียนว่าไงจำได้เปล่าร่างสูงเอ่ยถามปัญหาเชาว์ อีกฝ่ายทำท่าคิดอยู่แป็บหนึ่งจึง
ตอบไปว่า
ข้าวซอยและขนมจีนน้ำเงี้ยวที่นี่รสเด็ดสุด
เจ้าของร้านลืมเขียน คำว่า ไม่อร่อยไม่คิดตังค์ด้วยหรือเปล่า! ลองไปถามดูดิ
เข้าใจคิดนะแก หาเรื่องกินฟรีเนี่ย ฮ่าฮ่า
บรรยากาศภายในร้านเงียบสงบลงในทันที เมื่อลูกค้าตามโต๊ะต่างๆทยอยออกจากร้านไปกันหมด เหลือโต๊ะของเขา
เพียงที่เดียว ขณะที่ พรพรรษาขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งอยู่ด้านหลังของร้าน
พลันมีสำเนียงหนึ่งดังแว่วกังวานทำลายความเงียบงันลงไป เสียงนั้นบ่งบอกว่าผู้เป็นเจ้าของกำลังอยู่ในอารมณ์
หงุดหงิด ร่างสูงใหญ่ ทอดสายตามองไปยังต้นตอของเสียงที่อยู่หน้าร้านนั้นอย่างรวดเร็ว
น้องตะวันมาทานที่นี่ทำไมก็ไม่รู้ ไปทานที่รีสอร์ตดีกว่า ดูซิ ร้อนก็ร้อน
ปรากฏ ชายหนุ่มร่างสูงเพรียว กับหญิงสาวร่างบางระหง สาวเท้าเข้ามาภายในร้านหยุดยืนอยู่ชั่วครู่แล้วพุ่งตรงไปยัง
โต๊ะที่ทำเลดีที่สุดของร้านที่อยู่ริมระเบียง ห่างจากโต๊ะของเขาเพียงสองโต๊ะเท่านั้น
สาวน้อยหมัดหนักคนนั้นนั่นเอง
ร่างสูงใหญ่อุทานออกมาเพียงเบาๆ แต่เหมือนว่าเจ้าหล่อนจะได้ยิน เธอเหลือบมองมายังเขาตาไม่กระพริบ อีตาบ้ามา
นั่งกินอาหารที่นี่ซะด้วย
ปวริศทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ขณะที่ เพียงตะวันทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ พร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แสนกล
จ้องมองมายังเอกบดินทร์ เสมือนกับว่า กำลังคิดแผนการร้ายอะไรบางอย่าง
พี่ปวริศทานที่นี่แหละค่ะ ตะวันอยากกินข้าวซอย ร่างบางเอ่ยพูดกับอีกฝ่าย แต่ สายตาจ้องมองมายังชายหนุ่มไม่
วางตา
พี่สั่งอาหารให้ด้วยนะคะ ตะวันขอตัวเข้าห้องน้ำแป๊บหนึ่ง ร่างบางยิ้มพรายออกมาบนใบหน้า เอกบดินทร์จ้อง
มองสบตาพร่างพราวของเธอ รู้สึกร้อนๆหนาวๆชอบกลอย่างบอกไม่ถูก
ร่างบางระหง ลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ ทำที แสร้งเป็นคนเมาสุรา เดินโซซัดโซเซหยุดอยู่ข้างๆชายหนุ่มชั่วครู่เแล้วก
ระแทกเหยียบฝ่าเท้าเต็มแรง เอ่ยพูดอย่างแผ่วเบาในลำคอ เมรีขี้เมาใช่ไหม! จากนั้นเดินหายเข้าไปภายในห้องน้ำทันที
โอ๊ย เอกบดินทร์ พยายามระงับความเจ็บปวดอย่างเต็มที่ไม่ให้มีเสียงเล็ดลอดออกมา ยัยนี่ร้ายจริงๆ อูยๆ
ปวริศ เดินไปสั่งอาหารแล้วกลับมานั่งที่โต๊ะ ล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบยาขวดเล็กๆ ออกมาดู แสยะยิ้มออกมาบนใบหน้า
นัยน์ตาแพรวพราว พลาง ครุ่นคิดแผนการร้ายอยู่ในใจ คืนนี้แหละน้องตะวันต้องเป็นของพี่แน่กับยาตัวใหม่ขวดนี้
อยากทดลองดูซิว่า ยาตัวนี้สรรพคุณดีสมคำโฆษณาที่คนขายบอกหรือเปล่า
พรพรรษาสาวเท้าออกมาจากห้องน้ำทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ เหลือบเห็นชายหนุ่มแสดงกิริยาแปลกๆพิกล! เหลียวหลัง
ไปยังห้องน้ำบ่อยๆพานให้เกิดความสงสัย จึงเอ่ยถาม
เฮ้ยเป็นไรนะ
ไม่เป็นไร ร่างสูงใหญ่ สะดุ้งน้อยๆราวกับวัวสันหลังหวะก่อนเอ่ยตอบอีกฝ่ายอย่างไม่มีสมาธิมากนัก เพราะมัวแต่
เหลียวมองข้างหลังตนเองอยู่เป็นระยะๆ เพียงชั่วอึดใจเดียว เพียงตะวันเดินออกจากห้องน้ำพอดี..แกล้งเดินโซซัดโซเซ
มาอีกแล้ว แต่ทว่าครานี้ เขารู้ทันซะแล้วขอบอกว่ายากส์
เอกบดินทร์ ฉวยจังหวะยกเท้าขึ้นหลบทันท่วงที ขณะที่หญิงสาวกำลังกระแทกส้นเท้าลงบนฝ่าเท้าของเขา
เท้า
ภายใต้รองเท้าสปอร์ตอย่างดีกระแทกจั่วลมในฉับพลัน จากนั้นเธอก้าวฉับๆเดินกลับโต๊ะของตนเองอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มโปรยยิ้มเบิกบานออกมาบนใบหน้าคมเข้มอย่างผู้ชนะ หญิงสาวนั่งดื่มน้ำชั่วครู่เหลือบมองนาฬิกาบนข้อมือ
บอกเวลา5โมงเย็นแล้ว จึงเอ่ยชวนหนุ่มกลับ
กลับเหอะใกล้เวลาเครื่องบินออกล่ะ
พรพรรษาเดินออกจากร้านไปก่อนขณะที่ ชายหนุ่มชำเลืองมองเพียงตะวันนิดหนึ่ง ก่อนสาวเท้าก้าวไปจ่ายเงินที่เค้าน์
เตอร์ หน้าร้านแล้ว เดินออกจากร้านไป ทิ้งให้หญิงสาวเหลียวหลังมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ
*******************************
แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 54 13:43:46
แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 54 20:09:49
แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 54 20:08:27
แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 54 19:05:39
แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 54 17:52:26
แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 54 17:49:27