+ + + + + เพรงพราก บทที่ ๒๓ - ๒๔ + + + + +
|
 |
คุณมนต้นไม้...อิอิอิ ฝากใจด้วยก็ได้นะ ๕๕๕
คุณก็อตตี้...สองบทนี้อาจมีเฉลยค่ะ
+ + + + + + + + +
บทที่ ๒๓
ปาร์ตี้เล็กๆ เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่หกโมงเย็นกว่าๆ เพราะนอกจากมืดเร็วแล้ว ที่นี่ยังปั่นไฟใช้เองอีกด้วย ดังนั้นจึงมีต้องเวลาเปิดปิดไฟ ดุริยะผู้อยากทอดเวลาแห่งความสุขให้ยาวนานที่สุด จึงรีบเริ่มปาร์ตี้ให้เร็วที่สุด
ทางรีสอร์ทจัดเตรียมสถานที่ให้ริมทะเล แล้วตกแต่งด้วยดอกลีลาวดีเป็นส่วนใหญ่ แม้แต่ไฟเล็กๆ ที่ห้อยระย้าก็เป็นรูปลีลาวดี ซึ่งดูเจนี่จะติดใจดอกไม้ชนิดนี้เอามากๆ
ฉันว่า บางครั้งมันเหมือนผู้หญิงสวยจัดๆ เซ็กซี่เต็มขั้น แล้วก็...น่าค้นหานะ เธอออกปากวิจารณ์พลางหมุนดอกสีขาวกลิ่นหอมในมือเล่น
คุณกำลังพูดถึงตัวเองอยู่ใช่ไหม เจนี่ เหวียนเอ่ยแซวคู่หมั้นพลางมองเธอด้วยแววตาทั้งรักทั้งหลงเต็มหัวใจ ทำให้ดุริยะที่กำลังสำรวจความเรียบร้อยอยู่ทางด้านหนึ่งต้องหันมามองยิ้มๆ
เจนี่หัวเราะเบาๆ ยื่นหน้าไปให้รางวัลที่แก้มสากๆ ของเขาด้วยความรักล้นหัวใจเช่นกัน ก่อนจะผละออกแล้วเอ่ยว่า
แต่บางครั้ง ฉันรู้สึกว่ามันเป็นดอกไม้ที่สวย สะอาด บริสุทธิ์ เป็นตัวของตัวเอง เป็นธรรมชาติที่น่าหลงใหลน่ะ...อืม...ใช่แล้ว... นางแบบสาวดีดนิ้วเปาะอย่างนึกอะไรได้
ฉันรู้สึกว่าดอกไม้นี่เหมือนเพลง เธอสวย บริสุทธิ์ แล้วก็น่าหลงใหล ใช่มั้ย อเล็กซ์ ตอนท้ายเธอหันไปเอ่ยแซวดุริยะ ซึ่งชายหนุ่มก็ได้แต่หัวเราะเขินๆ และยักไหล่ทำนองว่า ก็คงจะอย่างนั้นกระมัง
ขณะนั้นเองเพลงพิณก็ลงมาถึง
หญิงสาวร่างแบบบาง ปล่อยผมยาวสลวย แต่งหน้าเพียงอ่อนๆ ในชุดแสคยาวผ้าเนื้อพลิ้วสีฟ้าอ่อนพิมพ์ลายดอกลีลาวดีสีขาว เรียกยิ้มปลื้มและพึงพอใจจากดุริยะได้
มาถึงตอนนี้ เขาอยากจะหันไปตอบเจนี่เสียนักว่า เธอพูดถูกแล้ว แต่สายตาเจ้ากรรมกลับไม่อาจละจากวงหน้านวลชวนหลงใหลนั่นได้เลย
มุมหนึ่งในท่ามกลางความมืด ข้างๆ ลีลาวดีต้นใหญ่ สายตาคู่หนึ่งจับจ้องที่เพลงพิณตลอดเวลานับแต่เธอเยื้องย่างเข้ามาในบริเวณงานเช่นกัน ครู่ใหญ่นั่นละ เจ้าของดวงตาจึงหมุนตัวเดินออกจากตรงนั้นไปเงียบๆ
แต่เดิมนั้น บุณฑริกตั้งใจว่า จะไม่มารบกวนเวลาแห่งความสุขของเพลงพิณ ทว่าด้วยอำนาจที่เหนือมนุษย์ธรรมดา ก็ทำให้เธอรับรู้ได้ว่า กำลังจะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นกับเพลงพิณ เจ้าของร่างที่จะทำให้จุดหมายของเธอสัมฤทธิ์ผล
เมื่อถึงวันที่เธอรอคอย ร่างนั้นจะต้องยังงดงาม ผ่องใสและบริสุทธิ์อยู่เช่นเดิม จึงไม่ควรมีใครแตะต้องหรือทำให้ร่างนั้นเกิดราคีแม้เพียงปลายเล็บ ไม่ว่าจะแตะด้วยความรักหรือด้วยความชังก็ตาม
ดังนั้น เธอจึงต้องมาที่นี่ เพื่อปกป้องร่างนั้นทุกวิถีทาง
และเมื่อเห็นเพลงพิณในชุดสีฟ้าน้ำทะเลแล้ว บุณฑริกก็อดย้อนนึกถึงวันคืนเก่าๆ ระหว่างเธอกับบารมีไม่ได้ แม้จะเป็นทะเลคนละแห่ง แต่เธอก็แต่งตัวคล้ายๆ อย่างนี้ บรรยากาศก็คล้ายคลึง อย่างน้อย ก็มีดุริยะอยู่ร่วมด้วยเหมือนกันอย่างนี้ละ
และแม้วันนั้นจะเป็นวันเกิดของอำนาจ แต่บารมีก็หวานกับเธอจนสามารถขโมยซีนเจ้าของวันเกิดให้บรรดาหนุ่มๆ สาวๆ อิจฉากันได้
บารมีของฉัน รอฉันอีกนิดเถอะนะคะ อีกไม่นาน เราจะได้พบกันและอยู่ด้วยกันตลอดไป หญิงสาวพึมพำออกมา ก่อนจะหลับตาลงเพื่อส่งความรักไปให้เขา
ชะรอยว่าแรงรักแรงคิดถึงของเธอจะทรงอานุภาพรุนแรง เพราะจู่ๆ บารมีที่กำลังเดินเล่นอยู่ในสวนสวยหลังบ้านก็ชะงักเท้ากึก เมื่อรู้สึกได้ว่ามีสายลมสายหนึ่งพัดผ่านผิวหน้าให้ความรู้สึกคล้ายรอยจูบจากเรียวปากอันอ่อนนุ่มของหญิงสาว
หนุ่มใหญ่เผลอยกมือลูบแก้มตัวเองแบบงงๆ พอเอามือลง เขาก็ถอนหายใจยาวๆ ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความเศร้าลึกในอก
ความเศร้าอันบอกใครไม่ได้ บรรยายให้ใครฟังไม่ถูก ว่าเกิดจากเรื่องใดกันแน่ จะว่าเรื่องที่โดนเพลงพิณปฏิเสธแบบไร้เยื่อใย เขาก็ไม่อาจตอบได้เต็มปากนักว่าใช่
จริงอยู่ที่เขารู้สึกผิดหวัง ทว่ามันไม่ได้ร้อนแรงเหมือนเช่นวันแรก แล้วมันก็ค่อยๆ อ่อนกำลังลงช้าๆ ซึ่งก็ได้นำความประหลาดใจมาสู่เขาเหลือเกิน...วันที่ได้จูบเธอ เขารู้สึกเหมือนชีวิตจะขาดเธอไม่ได้ แต่มาถึงวันนี้ เขาพบว่าตัวเองแทบไม่รู้สึกอะไรแบบนั้นอีกแล้ว
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะ เราก็ไม่ใช่หนุ่มๆ ที่จะรักง่ายหน่ายเร็วเสียหน่อย...เฮ้อ หนุ่มใหญ่ได้แต่ถอนหายใจยาวด้วยความไม่เข้าใจตัวเอง
มีเสียงฝีเท้าเดินตรงมาทางนี้ บารมีหันไปมอง แล้วก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อเห็น ลูกคนกลาง กับ หลานสาว กำลังเดินควงแขนกันตรงมาหา ซึ่งนับว่าเป็นภาพใหม่สำหรับเขาและคนในบ้าน เพราะตามปกติ หวันยิหวาจะสนิทและอยู่ติดกับลูกชายคนเล็กของเขามากกว่า
ไง สองคน ทำไมมาด้วยกันได้ล่ะ เขาเป็นฝ่ายร้องทักขึ้นก่อน
ไม่ได้ตั้งใจหรอกค่ะ คุณตา บังเอิญเจอกันตรงทางเข้าสวนนี่เองค่ะ หวันยิหวาเป็นคนตอบเสียงใส ก่อนจะปล่อยแขนจากพาทิศแล้วเดินเข้ามาเกาะแขน คุณตา แทน
มีเรื่องอะไรหรือเปล่า บารมีขมวดคิ้วหนักกว่าเดิมและมองทั้งคู่สลับกันไปมา ก่อนจะหยุดสายตาที่พาทิศแล้วพยักหน้าเป็นเชิงให้เขาเป็นคนตอบ
เอ้อ คือ... พาทิศอึกอักและหลบตาผู้เป็นบิดาไปทางหนึ่ง
พวกเราจะมาดูน่ะค่ะ ว่าคุณตา ทานข้าวเรียบร้อยหรือยัง แล้วทานอร่อยมั้ย เห็นอย่างนั้น หวันยิหวาจึงเป็นคนตอบแทน ซึ่งก็ยิ่งสร้างพิรุธให้บารมียิ่งสงสัยเพิ่มขึ้นอีก เขาหัวเราะเบาๆ แล้วเอ่ยว่า
อ้อ ตากลายเป็นตาแก่น่าสงสารที่ลูกหลานต้องตามมาดูแลเสียแล้วหรือ
ก็...ยิหวากับน้าอั๊ตเป็นห่วงคุณตาจริงๆ นี่คะ
หือ? ตามีอะไรน่าห่วงงั้นหรือ ตอนที่ถาม สายตาเขาไม่ได้มองที่หวันยิหวาแต่จ้องพาทิศอย่างต้องการคำตอบ
เอ้อ ผม...แค่...จะมาดูว่า...
พวกเรากลัวว่าคุณตาจะโดนพี่เพลงพิณหลอกน่ะค่ะ หวันยิหวาโพล่งขึ้นอีกโดยที่ชายหนุ่มห้ามไม่ทัน ผลก็คือบารมีนิ่งขึงไป มือไม้ตกลงข้างตัว แต่หวันยิหวายังไม่สะกิดใจ ยิหวาเลยชวนน้าอั๊ตมาตั้งแก๊งค์พิทักษ์คุณตากัน
ยิหวา... พาทิศเรียกชื่อเด็กสาวเป็นเชิงปราม แต่เธอก็รับสัญญาณเขาไม่ได้เสียที ยังอ้าปากเพื่อจะพูดอะไรต่อไปอีก ชายหนุ่มจึงต้องเอื้อมมือไปดึงแขนเธอให้มายืนข้างๆ เขา และส่งสัญญาณปรามอีกครั้ง คราวนี้รับได้ จึงได้แต่ทำหน้าเหลอ มองเขาอย่างไม่เข้าใจ
อ้าว ทำไมล่ะคะ น้าอั๊ต ทำไมต้องห้ามไม่ให้ยิหวาพูดด้วย ก็ยิหวาเป็นห่วงคุณตาจริงๆ นี่คะ ถึงแม้ตอนนี้จะมีน้าเล็กคอยช่วยดึงพี่เพลงออกจากคุณตาแล้วก็เหอะ ยิหวาก็ยังไม่แน่ใจอยู่ดีว่าน้าเล็กจะทำสำเร็จหรือเปล่า
พาทิศยกมือตบหน้าผากตัวเองดังแปะๆ กับความช่างพูดช่างตรงไปตรงมาของหลานสาวคนนี้ ชายหนุ่มลอบมองบิดา ก็เห็นว่ายังนิ่งเงียบ มีเพียงแววตาเท่านั้นที่ผสมปนเปกันระหว่างความอยากรู้กับการตำหนิ
อั๊ต พายิหวาตามอาเข้าไปข้างในบ้าน! บารมีสั่งเสียงเฉียบขาดแล้วหมุนตัวเดินนำไปทางบ้านหลังใหญ่ของตน พาทิศกลืนน้ำลายลงคอยากเย็นเพราะมองเห็นเค้ารางของความยุ่งยากที่กำลังก่อตัวขึ้น
ส่วนหวันยิหวานั้น ก้าวตามคนเป็นตาทันทีโดยไม่ต้องรอให้พาทิศทำตามคำสั่งท่าน
แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 54 01:35:30
แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 54 01:35:04
จากคุณ |
:
บราวนี่รสเสน่หา
|
เขียนเมื่อ |
:
9 มิ.ย. 54 01:13:14
|
|
|
|