บทที่ 22 : วิญญาณคนเป็น วิญญาณคนตาย
ประกายแก้ว สกุลสุวรรณลืมตาขึ้นช้าๆ แม้เด็กสาวจะยังไม่ได้มองโดยรอบ แต่เธอก็สามารถรับรู้ได้ว่ารอบกายมีแต่ความสับสนวุ่นวาย แก้วลุกขึ้นสะบัดศีรษะที่ปวดตุบๆ พยายามนึกทบทวนเหตุการณ์ระทึกขวัญที่ผ่านมาเมื่อครู่ ใช่ ! ... เธอพยายามขัดขวางการก่อการร้ายที่มุ่งหวังสังหารท่านการุณย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่คนปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ชายชราชุดขาว หมอผีวิปลาสผู้นั้นจึงเรียกวิญญาณปิศาจในอาณัติเพื่อทำร้ายเธอและเพื่อนๆ
เพื่อนๆ ? ... ไม่รู้ว่ามิ้นท์ ส้มเช้ง วิวัฒน์และพยนต์จะปลอดภัยหรือไม่ ?
ส่วนตัวเธอล่ะ เธอขัดขวางหมอผีจนพลัดตกจากระเบียงริมบันไดเลื่อนชั้นสาม แต่ดูท่าทางแล้ว เธอน่าจะโชคดีกว่าหมอผีคนนั้น
แก้วเหลือบตามองร่างผอมซูบที่นอนอยู่บนพื้นคอนกรีตถัดไปไม่ห่าง เลือดแดงสดไหลรินจากบาดแผลที่ศีรษะ ร่างกายกระตุกน้อยๆแสดงให้เห็นว่าวิญญาณจวนเจียนจะออกจากร่าง ... ส่วนตัวเธอโชคดีกว่าที่หล่นลงในกระบะเสื้อผ้าลดราคา เหตุนี้เองจึงทำให้เธอไม่ต้องเจ็บตัวมากนัก จะมีก็แต่อาการปวดศีรษะและเคล็ดขัดยอกตามร่างกาย
ประกายแก้วไม่มีเวลาเป็นห่วงคนร้ายมากไปกว่านี้ เด็กสาวรีบเดินตรงไปทางบันไดเลื่อนเพื่อกลับขึ้นไปยังชั้นสาม เธอเป็นห่วงเพื่อนคนอื่นๆ หากแม้มีใครสักคนเสียชีวิตล่ะก็ ... คงไม่สามารถอภัยตัวเองได้ตลอดชีวิต
ทว่ายังไม่ทันก้าวขึ้นบันได เด็กสาวหันไปเห็นพนักงานดับเพลิงพร้อมหน่วยกู้ภัยพากันกรูเข้ามา ทั้งหมดกระจายกำลังกันเข้าดับไฟและค้นหาผู้บาดเจ็บ ส่วนหนึ่งวิ่งขึ้นบันไดเลื่อนตรงไปยังชั้นสาม บางทีท่านการุณย์อาจแจ้งตำแหน่งที่เกิดเหตุไว้ล่วงหน้า
น้ำถูกฉีดตามท่อสายยางโดยพนักงานดับเพลิง เปลวไฟที่ลุกไหม้กองเสื้อผ้า เสา และเพดานดับไปแล้วหลายส่วน กระนั้นยังมีอีกหลายจุดที่พระเพลิงยังคงโหมกระหน่ำ โดยเฉพาะชั้นสามอันเป็นตำแหน่งต้นเพลิง แก้วนึกภาวนาให้เพื่อนเธอทุกคนปลอดภัย
ราวกับคำอธิษฐานได้รับการตอบสนอง ไม่กี่นาทีถัดจากนั้น หน่วยกู้ภัยค่อยๆลำเลียงผู้บาดเจ็บลงมาทีละคน มิ้นท์ ส้มเช้ง พยนต์ สุดท้ายคือวิวัฒน์ ดูเหมือนทั้งหมดไม่ได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต !
และที่สำคัญ เด็กสาวไม่เห็นวิญญาณร้ายที่คุกคามเพื่อนเธอ ... บางที เมื่อหมดสิ้นจอมขมังเวทย์ผู้ควบคุม เหล่าวิญญาณ เหล่าปิศาจทุกตนคงหลุดพ้นเป็นอิสระและไปตามทางของพวกมัน
แก้วได้ยินหน่วยกู้ภัยและพนักงานดับเพลิงร้องตะโกนให้นำผู้บาดเจ็บออกพ้นจากสถานที่เกิดเหตุโดยเร็วที่สุด เนื่องเพราะบัดนี้ทั้งไฟ ทั้งควันยังไม่สามารถควบคุมได้เต็มร้อย เมื่อเพื่อนปลอดภัย ... เธอเองก็ควรออกจากสถานที่แห่งนี้เสียที โดยก่อนที่จะออกจากห้างฯ เด็กสาวตั้งใจจะไปแจ้งกับพนักงานดับเพลิงว่ายังมีหมอผีที่นอนจมกองเลือดอยู่ที่ชั้นล่าง บางทีหากช่วยเหลือทัน เขาอาจจะรอดชีวิต
“ ข้างล่างมีคนเจ็บ ” เสียงร้องตะโกนของพนักงานดับเพลิง เจ้าหน้าที่นายนั้นรุกเข้าฉีดน้ำจนไปพบร่างของชายชราหมอผี เท่านี้ประกายแก้วก็หมดห่วง ถึงตอนนี้เธออยากออกไปดูอาการเพื่อนทุกคนที่ถูกนำตัวไปด้านนอก
“ ไหนๆ คนเจ็บอยู่ไหน ? ” พนักงานดับเพลิงพร้อมหน่วยกู้ภัยสามสี่คนวิ่งตรงเข้ามา เจ้าหน้าที่รายแรกซึ่งบัดนี้ลงไปนั่งคุกเข่าคลำชีพจรส่ายหน้าอย่างหมดหวัง “ ตายเสียแล้ว คงตกลงมาจากชั้นบน หัวเละ สมองไหล ” นั่นคือคำตอบ แก้วรู้สึกทั้งเศร้า ทั้งสงสาร แต่ทำอย่างไรได้ เรื่องเดือดร้อน ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทั้งหมดก็เป็นเพราะตัวเขาเองเป็นผู้ก่อ
แม้แก้วไม่อยากให้เขาตาย ... แต่ลงท้ายกรรมก็ตามสนอง คิดปลงได้เช่นนั้น เด็กสาวจึงหันหลังกลับเพื่อจะเดินออกจากห้างฯ
“ ช่วยหนูคนนั้นดีกว่า หายใจแผ่วลงทุกที ”
ประกายแก้ว สกุลสุวรรณหันขวับด้วยความสงสัย ถ้อยคำของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำให้เธอนึกฉงนใจ ยังมีใครที่บาดเจ็บหลงเหลือในบริเวณนี้อีก ?
“ นักเรียนมัธยมนี่นา ... โรงเรียนลานนาวิทยาลัย ” พนักงานกู้ภัยเปรยขึ้นขณะเตรียมเปลสำหรับนำส่งผู้ป่วย
หรือจะเป็นเพื่อนของเธอคนใดคนหนึ่งที่ตกลงมา ? ก็ทุกคนถูกเคลื่อนย้ายไปหมดแล้วนี่ ? หรือเธอดูผิด ? หรือจะเป็นยายมิ้นท์ที่ถูกโหงพรายปิศาจบังคับให้กระโดดลงจากชั้นสาม ! เธอช่วยเพื่อนไม่ทันอย่างนั้นหรือ ?
ไวเท่าความคิด แก้วรีบวิ่งไปดู ลืมอาการบาดเจ็บขัดยอกจากการตกที่สูง ลืมกระทั่งบาดแผลถูกแทงที่ฝ่ามือ หากยายมิ้นท์เป็นอะไรไปแล้วล่ะก็ เธอคงไม่อาจให้อภัยตัวเอง
ทว่าการณ์กลับไม่ใช่อย่างที่เธอคิด เบื้องหน้าที่นอนอยู่ในกระบะเสื้อผ้า ... คือร่างของเธอเอง !?
ร่างของหญิงวัยรุ่นในชุดนักเรียนที่คุ้นตา หน้าอกปักอักษรย่อของโรงเรียนมัธยม ‘ ลานนาวิทยาลัย ’ ส่วนลำตัวของเด็กสาวยังอยู่ในกระบะเสื้อผ้าลดราคา ทว่าศีรษะกลับกระแทกที่ขอบของกระบะนั้น ยังผลให้โลหิตสีแดงไหลรินนองพื้นเป็นทาง !
และใบหน้าของร่างนั้น ... คือเธอ นางสาวประกายแก้ว สกุลสุวรรณ !!
“ กรี๊ดดดดดดดด ! ” แก้วร้องลั่นด้วยความหวาดหวั่น เด็กสาวรับรู้ในมโนสำนึก ร่างตัวเธอที่ยืนอยู่ในตอนนี้หาใช่ร่างเนื้อไม่
นั่นเพราะบัดนี้กายเนื้อนอนกองอยู่เบื้องหน้า และที่ยืนอยู่ ที่รับรู้ความรู้สึกในปัจจุบันกาล ... คือวิญญาณ !?
” ไม่ ! ไม่นะ ! ” แก้วร้องลั่น ทว่าไม่มีใครสามารถได้ยิน ไม่มีใครสามารถมองเห็น เด็กสาวถอยกรูดจนล้มลงก้นกระแทกพื้น มือเท้าสั่นเทาด้วยความกลัว และในทันทีที่ล้มลงนั้น เธอจึงได้เห็นอะไรบางอย่างที่ย้อยพลิ้วลงจากด้านบนของศีรษะ
ด้ายสีเงิน !
ประกายแก้วขนลุกวาบ เส้นด้ายประกายเงินที่งดงามประดุจใยไหมนี้เธอรู้จักดี มันคือสายใยชีวิต ... หรือหากจะเรียกว่าสายใยวิญญาณก็ว่าได้
เช่นนั้นเธอยังไม่ตาย แต่คงอยู่ในรูปของวิญญาณคนเป็น ? ... แต่ถึงกระนั้นก็อาจเรียกได้ว่าลูกผีลูกคน ใกล้ตายเต็มที !
จากคุณ |
:
Luckard
|
เขียนเมื่อ |
:
9 มิ.ย. 54 09:03:18
|
|
|
|