Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
จอมใจอเวจี.....PSYCHO HELL 10 (The Doors) ติดต่อทีมงาน

=============
จอมใจอเวจี
บทที่ 10…….The Doors
: GTW
=============


ความเดิม
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10556025/W10556025.html

ไนท์ออกไปต่อสู้กับมาร์ลาสเพื่อให้ได้มาซึ่งใบผ่านทางไปยังยอดเขาสื่อสาร เพื่อพาเฟรี่ไปคืดต่อกับเบื้องบน

ดูเหมือนไนท์จะแพ้เรื่องกำลังฝีมือเนื่องจากบาดเจ็บอยู่ก่อนหน้านั้น อันเป็นผลมาจากนิสัยแปลกประหลาดของเขาเอง แต่เขาเป็นฝ่ายชนะทางด้านจิตใจจนมาร์ลาสยอมรับและมอบใบผ่านทางให้


ไนท์มารักษาตัวอยู่ห้องข้างๆห้องของเฟรี่ ซึ่งกำลังหวาดกลัวภูตผีปีศาจ จนไนท์ต้องลงจากเตียงมานอนเล่านิทานก่อนนอนให้ฟัง

-----------


และในที่สุดนางฟ้าตกสวรรค์ก็หลับไปในสภาพอิงแอบแนบชิดผนัง พร้อมรอยยิ้มน้อยๆบนในหน้าเหมือนเด็กฟังนิทานจนหลับไปเพียงแต่ฟังอยู่ในอเวจีเท่านั้นเอง

เสียงของไนท์จางหายไปเมื่อแน่ใจว่าคนฟังหลับสนิทซึ่งก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืน


---------


เฟรี่กำลังฝัน

ความฝันของเธอช่วงแรกค่อนข้างสับสน จับต้นชนปลายไม่ถูก คงเป็นเพราะมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในตอนกลางวัน แต่ในที่สุดความฝันก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง กำลังฝันว่าอยู่ริมแม่น้ำใสสะอาดและความเขียวขจีรื่นรมย์ของแมกไม้ริมฝั่ง ท้องฟ้าสีคราม นั่งอยู่บนโขดหินเอามือท้าวคางมองดูสายน้ำเบื้องล่างอย่างเพลิดเพลิน

ปลาตัวใหญ่กระโดดขึ้นเหนือผิวน้ำ หยาดน้ำสาดกระเซ็นจนต้องถอยห่างออกมา แต่ดูเหมือนหยดน้ำยังตามมาได้เรื่อยๆ จนรู้สึกเปียกชื้นอย่างน่ารำคาญ

หญิงสาวตกสวรรค์ตื่นขึ้นกลางดึกอย่างง่วงงุนงง เอามือขยี้ตาไปมา แสงไฟในห้องลดระดับความสว่างลง แต่ยังพอมองเห็นสภาพในห้องซึ่งนอนอิงแอบแนบผนังอยู่ รู้สึกแขนเสื้อเปียกชื้น ความฝันบ้าอะไรจะทำให้เปียกได้แบบนี้ ไม่ได้ฉี่รดที่นอนสักหน่อย

ไม่ใช่น้ำ...

ถอยห่างออกจากผนัง และเริ่มสังเกตว่ามีของเหลวอะไรบางอย่างซึมออกมาจากผนัง มีสีดำสนิท

ความรู้สึกบอกว่านี่มันเป็นเลือด

มือแตะดู เลือดสีดำแบบนี้จะต้องเป็นเลือดของพวกโลกเบื้องล่าง แล้วคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคนซึ่งนอนอยู่ฝั่งตรงข้าม

นักรบหน้ากากจอมเย็นชาผู้นั้นบาดเจ็บจากการต่อสู้หลายหลายครา แต่ยังมีหน้ามานอนพื้นเล่านิทานบ้าบอคอแตกให้คนอื่นฟัง สงสัยจะเจ็บหนักกว่าที่คิด ทำไมถึงลืมคิดเรื่องนี้ไปนะ ตอนนี้อาจนอนอยู่บนพื้นอันเยือกเย็นอย่างเดียวดาย และคนแบบนั้นคงไม่เอาผ้ามาปูพื้นก่อนนอนเหมือนเราหรอก...เลือดหมดตัวจะไม่นอนตายไปเลยหรืออย่างไรกัน

ลองเอามือเคาะผนังเบาๆเหมือนจะส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายรับรู้ แต่คำตอบคือความเงียบ

แบบนี้ทำให้ทนนอนอยู่ต่อไปไม่ได้ เพราะพื้นห้องมีเลือดซึมผ่านเข้ามา ผนังห้องของพวกชาวนรกนี้ทำด้วยวัสดุชนิดไหนกันจึงดูบอบบางไม่ปลอดภัยแบบนี้ ถ้าเป็นเทคโนโลยีของเบื้องบนรับรองว่าแข็งแรงมั่นคงกันซึมกันชื้นไม่มีที่ติ

แล้วอีกฝั่งนอนประสาอะไรกัน ปล่อยให้เลือดไหลมารบกวนคนอื่นแบบนี้ ต้องไปต่อว่าเสียหน่อย

หลังจากพยายามเช็ดเลือดซึ่งเปื้อนตามแขนเสื้อออกก็ลุกขึ้น เดินตรงไปเปิดประตูอย่างแผ่วเบา ชะโงกหน้ามองซ้ายมองขวาให้แน่ใจว่าปลอดภัยตามวิสัยคนรอบคอบ เห็นทางเดินปราศจากผู้คน ชาวนรกนี่ก็นอนเป็นเหมือนกัน หญิงสาวคิดขณะค่อยๆเดินไปยังหน้าห้องของคู่กรณี ลองจับลูกบิดประตู หมุนดู

เปิดไม่ได้

นั่น..ทะลึ่งล๊อคจากด้านในด้วย ยังกับกลัวว่าจะมีใครจะบุกเข้าไปปล้ำ คนบ้า คนผีทะเล คนผีอเวจี ไม่เห็นต้องทำแบบนี้เลย แบบนี้ก็อดต่อว่าล่ะสิ.....

หลังจากยืนอยู่พักหนึ่งก็คิดได้ว่าการมายืนอยู่หน้าห้องคนอื่นแบบนี้ไม่ดีแน่ เดี๋ยวมีคนมาเห็นจะเข้าใจผิด หาว่าเรามีจิตพิศวาสหมอนั่น จนต้องย่องมาหาตอนกลางคืน พอคิดได้ก็รีบล่าถอยกลับเข้ามาห้องของตัวเองตามเดิม

แต่พอกลับมาแล้วก็นั่งอยู่ไม่ติด เพราะเริ่มสังเกตเห็นว่าเลือดซึ่งซึมมาจากอีกด้านหนึ่งค่อยมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นแบบนี้อาจทำให้เลือดไหลหมดตัวก็ได้ เปล่า..เราไม่ได้ห่วงอะไรมากมายหรอก กลัวว่าจะไม่มีคนนำทางออกจากดินแดนแห่งนี้เท่านั้น นอนบนเตียงก็ได้ แล้วไม่ต้องไปสนใจก็ยังไหว  หมอนั่นหัวแข็ง คงไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอก

แต่พอนอนลงไปได้ไม่ถึงอึดใจก็ลุกขึ้นมานั่ง แล้วลงไปเอาหูแอบแนบผนัง เคาะเรียกอีกสามสี่ครั้ง แต่คำตอบคือความเงียบ

คนบ้า......ร้องในใจอย่างโมโห ทำไมต้องปิดประตูแน่นหนาแบบนั้นด้วย แถมยังเงียบกริบไม่สื่อสารอะไรมาสักอย่าง หลับเป็นตายเลยหรือ

ขุ่นเคืองจนต้องเอามือทุบผนังแรงๆเป็นการระบายอารมณ์ แต่แล้วก็อ้าปากค้าง

ผลของการทุบโครมลงไปแรงๆ ผนังด้านนั้นถึงกับแตกทะลุเป็นรูอย่างไม่น่าเชื่อ

นี่มันอะไรกัน...มองมือตัวเอง มองผนังแล้วทำหน้างงๆ ไม่น่าเป็นไปได้......เรามีพลังแฝงมหาศาลหรือผนังมันบอบบางกันแน่

หรือว่าบางที ทฤษฏีสสาร-ปฎิสาร ตามที่เคยเรียนมาจะมีส่วนถูก ความเป็นชาวเบื้องบนคงมีพลังอำนาจประหลาดอะไรบางอย่างทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้

ถ้าอย่างนั้นต้องลองต่อไป...หญิงสาวคิดอย่างหมายมั่นปั้นมือก่อนจัดการงัดแงะทลายกำแพงออกเป็นชิ้นๆ เหมือนเด็กซนๆได้ของเล่นใหม่ๆ สนุกดีเหมือนกันในการลุกขึ้นมางัดผนังบ้านห้องคนอื่นกลางดึก

ไม่นานผนังก็เป็นช่องพอจะมุดเข้าไปได้ รอบตัวของเธอมีแต่เศษอิฐดินกระจายเต็มไปหมด มอมแมมไปทั้งตัว

ในห้องของไนท์ก็เปิดไฟทิ้งไว้เช่นกัน

นอนนิ่งอยู่ห่างออกไปเพียงนิดเดียว

ลองยื่นมือไปจับตัวดูก็ยังไม่ขยับ แขนเย็นเฉียบ ทำเอาใจหายวูบ หรือจะเป็นอะไรไปแล้ว

“ไนท์”

ลองเรียกชื่อด้วยเสียงค่อนข้างดัง เขย่าแขน แต่อีกฝ่ายเงียบ

เฟรี่กัดริมฝีปาก ก่อนลุกไปค้นหาอะไรบางอย่างบริเวณหัวเตียงแล้วกลับมาคุกเข่าก้มมุดหลุดโพรงเข้าไปยังห้องของคู่กรณีอย่างลำบากเพื่อจะได้ตรวจดูอาการ

ตอนนี้หญิงสาวเพิ่งสังเกตว่าห้องนี้ไม่เหมือนห้องนอนธรรมดา เหมือนมีอุปกรณ์การแพทย์หลายอย่างวางอยู่โน่นนี่ รวมทั้งเตียงเองก็เหมือนจะมีสายไปโยงไปเชื่อมต่อกับตู้อุปกรณ์ซึ่งวางบริเวณปลายเตียง เหมือนห้องในสถานพยาบาลมากกว่าจะเป็นห้องพักธรรมดา

คนไข้คนนี้ยังมีลมหายใจ แต่อ่อนล้าโรยแรง

สิ่งแรกที่ต้องทำคือตรวจดูอาการ...แล้วก็ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ผ้าพันแผลก็คงทำเองจากเศษเสื้อผ้าเก่าๆแบบลวกๆ สุดท้ายก็มาลำบากเราเหมือนเดิม วิชาพยาบาลเบื้องต้นซึ่งร่ำเรียนมามีโอกาสใช้งานก็ตอนนี้ล่ะ..ตามมีตามเกิด ดึกๆแบบนี้จะไปหาใครมาช่วยได้

เมื่อจัดการปัญหาเบื้องต้นเรียบร้อยก็ลากร่างของนักรบหมดสภาพขึ้นไปนอนบนเตียงอย่างยากลำบาก หหลังจากนั้นยิบเอาซองเล็กๆซึ่งติดตัวมาด้วย ฉีกซองแล้วหยิบอุปกรณ์บางอย่างออกมา

เข็มฉีดยารักษาอาการบาดเจ็บขนาดเล็กจิ๋ว
ด้วยความรอบคอบอันเป็นวิสัยของหญิงสาว ทำให้มีอุปกรณ์ฉุกเฉินติดตัวเสมอ

“อยากเจ็บดีนัก ต้องเจอแบบนี้...”

หญิงสาวกระซิบอย่างเป็นต่อเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่รู้สึกตัว เหงื่อยังคงซึมตามใบหน้าขาวเนียนของพยาบาลจำเป็น จัดการถลกแขนเสื้อของคนไข้จำเป็นขึ้น ตรวจดูตำแหน่งเส้นเลือดแล้วปักเข็มเล็กๆลงไป ขณะปักเข็มแฟรี่หลับตาปี๋ด้วยความรู้สึกหวาดเสียว ชาตินี้คงเป็นพยาบาลกับเขาไม่ได้ เห็นเลือดนิดหน่อยก็จะเป็นลม..สลบ

“พอดีมียาฉุกเฉินติดตัวมา ก็ไม่นึกหรอกว่าจะได้ใช้ พรุ่งนี้เจ้าต้องขอบคุณข้าล่ะ...”

บอกกับคนไม่ได้สติอีกครั้ง ขณะตรวจดูผลงานอย่างค่อนข้างพอใจ สภาพทั่วไปของนักรบปีศาจดีขึ้นมาก ผ้าพันแผลเก่าถูกเปลี่ยนออกไปด้วยผ้าพันแผลใหม่ซึ่งวางอยู่บนหัวเตียง

“ยังกับห้องผีดิบคืนชีพ”

 เฟรี่ทำจมูกย่นบ่นกับตัวเองขณะมองสำรวจรอบๆ ห้องก่อนหันมามองหน้ากากเย็นชาอีกครั้ง อยากจะแกะหน้ากากดูหน้าสักหน่อยแต่คงไม่ดีแน่ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น

“ไปล่ะนะ...”
บอกพลางเอานิ้วชี้จิ้มหน้ากากหนึ่งที

“นอนให้ดีๆล่ะ ตื่นขึ้นมาแล้วจะดีเอง แล้วไม่ต้องละเมอลุกขึ้นมาล็อคประตูนะ ไม่มีใครแอบบุกมาปล้ำหรอกหน้าตาแบบนี้”

ว่าแล้วก็ก้มตัวลงทำท่าจะมุดโพรงกลับ แต่แล้วก็ยิ้มให้กับตัวเองเมื่อนึกได้ว่าแค่เดินออกทางประตูก็ได้แล้ว ทำไมจะต้องลำบากมุดกลับไป

หญิงสาวเดินยิ้มออกประตูออกมาจากห้องของไนท์ แต่พอมาถึงประคูห้องของตัวเองก็ต้องยิ้มค้าง

ประตูล็อคจากด้านใน!

กรรมของเวร....เฟรี่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ก็เธอเองเป็นคนรอบคอบเลยล็อคประตูจากด้านในเสมอ เมื่อครู่ตอนออกไปจากห้องครั้งแรก พอกลับมาก็กดล็อคแบบไม่ตั้งใจตามความเคยชิน ลูกกุญแจก็ไม่มี.. ขามาลอดผ่านโพรงข้างผนังไม่ได้ออกมาทางประตูสักหน่อย แบบนี้ก็ต้องกลับไปห้องของไนท์แล้วลอดโพรงกลับห้องตัวเอง ลำบากหน่อยไม่เป็นไร กลับห้องได้ก็อาบน้ำเข้านอนให้สบายกายใจ

แต่พอจับลูกบิดหน้าห้องของคนป่วยจำเป็นดูก็ใจหายวาบ

เปิดไม่ได้......

กรรมของเวรอีกแล้ว

เมื่อครู่เธอเผลอกดล็อคประตูแบบไม่ตั้งใจอีกแล้วตามความเคยชินความรอบคอบ ทั้งที่เป็นคนสอนไนท์ว่าไม่ต้องล็อค ไม่ต้องกลัวใครมาปล้ำ

เข้าห้องของไนท์ไม่ได้แล้ว เข้าห้องตัวเองก็ไม่ได้

แบบนี้จะทำอย่างไรดี

ทั้งโมโหทั้งขำตัวเอง คิดแล้วอ่อนใจ แต่อีกไม่นานคงสว่าง ไม่ต้องทำอะไรอีกแล้ว ตอนนี้เหนื่อยก็เหนื่อย เพลียก็เพลีย เลยเดินกลับมาหน้าห้องตัวเอง นั่งพิงผนัง เอามือกอดอกเพราะอากาศเย็น ผ้าห่มก็ไม่มี เฟรี่เอ๊ย...ทำไมถึงเฟอะฟะแบบนี้ ถ้าอยู่บ้านตนเองป่านนี้ก็หลับสบายไปแล้ว แต่ก็โล่งใจไปอย่างหนึ่งล่ะ คนนำทางอาการคงดีขึ้นเองในไม่ช้า อีกไม่นานก็จะกลับถึงบ้านอันอบอุ่น  จะนอนจะเที่ยวจะกินชดเชยความลำบากให้สาสม อยู่ในโลกและสังคมสวยงาม

ทั้งที่เพลียแต่ก็ยังข่มตาไม่หลับ ใจคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ตอนนี้เราอยู่ในดินแดนปีศาจ ทางเดินตอนนี้ก็ดูเปล่าเปลี่ยวน่ากลัว ถ้าเกิดมีผีโผล่ออกมาเดินเล่น ตามทางเดินสักสองสามตัวจะทำอย่างไร แล้วเกิดว่าผีพวกนี้อยากแวะมานั่งคุยด้วย!

ไม่น่า...ไม่คิดแบบนี้ คิดอย่างอื่นสิ คิดถึงคนรัก คงกำลังหลับอยู่ จะคิดถึงเราบ้างไหม แล้วถ้าเกิดมีผีตัวหักๆโผล่ขึ้นมาจากพื้นล่ะผมยาวๆปรกหน้าขาวซีดตาเบิกโพลงคลานเข้ามาแบบผิดธรรมชาติเก้กังเก้งก้างน่าเกลียดน่ากลัว

ยิ่งคิดยิ่งกลัว

ไม่ๆๆๆคิดแบบนี้.....

คิดถึงสมัยเรียนหนังสือดีกว่า... มีเพื่อนมากมายในห้อง อาจารย์สอนก็ใจดี สอนก็เข้าใจง่าย สมัยนั้นมีหนุ่มๆมาชอบเป็นครั้งแรก เอ ชื่ออะไรนะ... แต่ถ้านั่งเรียนอยู่ดีๆ แล้วเพื่อนๆทุกคนเกิดนั่งตัวแข็งทื่อขึ้นมาเฉยๆแล้วค่อยๆบิดคอหันขวับมามองเป็นตาเดียวล่ะ

ไม่ๆๆ...

และถ้าผีผมยาวหน้าขาวโผล่ขึ้นมาจากพื้นข้างหน้าจะทำอย่างไรดี จะสู้หรือจะหนี

ขนลุกซู่ ทั้งที่ยังไม่มีอะไรโผล่มาทักทาย

ทำไมต้องคิดเรื่องน่ากลัวแบบนี้

สุดท้ายก็ลุกขึ้น ย้ายที่ ไปนั่งหน้าห้องของไนท์ดีกว่า เพราะรู้สึกว่าอย่างน้อยยังมีคนรู้จักอยู่ใกล้ๆ แม้จะอยู่ข้างในห้องก็ตาม

พอย้ายมานั่งอยู่หน้าห้องของนักรบปีศาจก็รู้สึกอบอุ่นใจขึ้นแต่ก็ยังไม่วายจะหวาดกลัวอยู่บ้าง ใครล่ะจะไม่กลัว นั่งอยู่หน้าห้องคนเดียวในบ้านคนอื่นแบบนี้ ถ้าผีโผล่มาจะทำอย่างไร

“ไนท์.....”

ร้องเรียกเบาๆแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ยิน เอามือจับประตูเล่นไปมา น้ำตาคลอเบ้า

“ถ้าผีมันมา เจ้าจะต้องออกมาช่วยข้านะ”

“ข้ารู้ว่าเจ้าจะต้องมาช่วย”

“.........”

“รู้นะ..ว่าข้าอยู่หน้าห้องนี่เอง”

เฟรี่พยายามหลับตา คิดถึงนิทานที่ไนท์เล่าให้ฟัง ทบทวนไปมาอยู่หลายรอบเพื่อไม่ให้จิตใจฟุ้งซ่านหันไปคบหาบรรดาผี การควบคุมความคิดของตนเองเป็นเรื่องยากเหลือเกิน เวลาดูเหมือนจะผ่านไปอย่างเชื่องช้า อากาศดูเหมือนจะเยือกเย็นลงทุกที


++++++

แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 54 20:06:22

แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 54 19:50:33

จากคุณ : GTW
เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 19:37:05




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com