<ต่อครับ>
บุรุษหนุ่มรู้สึกเหมือนตัวเองก้าวไปอยู่ในกับดักชนิดหนึ่ง
เป็นกับดักซึ่งแม้รู้ทางขึ้นทางออก แต่ก็จนใจว่าไม่สามารถตัดใจก้าวออกมาได้แล้ว เพราะมันยังคงอยากรับประทานเนื้อต่อไป
ชีวิตผู้คนมากมายล้วนขึ้นกับมัน
บุรุษหนุ่มมองหน้าอีกฝ่ายแล้วถามขึ้นว่า
“ท่านรู้ว่าสินค้านั่นคืออะไร”
จอมมารสั่นศีรษะตอบว่า
“ไม่รู้ รู้เพียงว่าเป็นของซึ่งยอดคนผู้หนึ่งเป็นคนส่ง เป็นของมีค่ามหาศาลซึ่งมันหวงแหนปกป้องมาตลอดชีวิต สุดท้ายเมื่อใกล้ตายค่อยส่งไปยังคนๆหนึ่ง”
“พวกท่านกลับลงมือแย่งชิงสิ่งของซึ่งไม่รู้ว่ามันคืออะไร”
“รู้ว่ามันมีค่ามากมายมหาศาลก็พอเพียงต่อการลงมือแล้ว”
สิ่งของบางอย่างกลับเป็นเช่นนี้ ไม่ทราบว่าคืออะไร ไม่เข้าใจว่าคืออะไร แต่กลับต้องการครอบครอง คิดแล้วคล้ายกับความรักซึ่งบางคนไม่เคยเข้าใจแต่กลับปรารถนายึดครองต้องการ ในที่สุดกระบี่รันทดก็พยักหน้าบอกว่า
“เช่นนั้นบอกสถานที่และวิธีการมา”
“ประเสริฐมาก” จอมมารตบโต๊ะฉาดด้วยสีหน้าพอใจ
“พรุ่งนี้เช้า ไปพบกันที่เขาอิงฝา ทางข้ามีผู้คน ทางเจ้ามีสิ่งของ ทางข้าไม่จำกัดผู้คนติดตาม ทางเจ้าจำกัดให้มีเจ้าเพียงคนเดียว”
“เขาอิงฝา...ได้..ยุติธรรมดีมาก”
“ฮา..ในโลกนี้ไหนเลยเคยมีความยุติธรรม”
จอมมารหัวร่อกึกก้องเปิดเผย งานของมันกำลังจะบรรลุเป้าหมายสำเร็จเสร็จสิ้น แล้วมันจะได้ไปอาละวาดแย่งชาวบ้านกินต่อไป
ขณะนั้นโฉมสะคราญโรงเตี๊ยมและแม่นางฟ้อนซิ่งเดินจับมือคุยกันออกมาจากหลังร้านอย่างยิ้มแย้ม จอมมารคอหอยเห็นแล้วต้องบันดาลโทสะตบโต๊ะฉาดร้องกึกก้องว่า
“แม่นางฟ้อนซิ่ง เจ้าไปสนิทสนมกับฝ่ายตรงกันข้ามแบบนี้ นายใหญ่รู้เข้าจะทำอย่างไร”
แม่นางฟ้อนซิ่งหันมามองทำตาโตแล้วหัวร่อกล่าวว่า
“อะไรกัน นายน้อยนายใหญ่อะไรไม่สนใจ คนอย่างข้ากระทำเรื่องราวตามอำเภอใจ ในสัญญาข้าก็ทำครบหมดแล้ว หมดหน้าที่แล้ว เป็นอิสระต่อข้อตกลงแล้ว”
“แต่สินค้ายังไม่ได้ เจ้าจะผละหนีไม่ได้”
“ทำไมจะไม่ได้ ในสัญญาให้ข้าช่วยจับคนของสำนักคุ้มภัยเท่านั้น ไม่ใช่ให้มาตามหาสินค้า ไม่เชื่อกลับไปอ่านสัญญาให้ดี เนอะๆๆๆ”
ประโยคหลังหันมาพยักหน้ากับโฉมสะคราญโรงเตี๊ยม ฝ่ายนั้นก็พยักหน้าและตามน้ำทันทีเช่นกันว่า
“ถูกต้องแล้ว และที่สำคัญโรงเตี๊ยมของเราไม่ใช่ที่รับฝากของ ฉะนั้นไม่คิดมากินมาดื่มก็ออกไปได้แล้ว”
“บังอาจ”
ตบโต๊ะเปรี้ยงแต่แล้วก็ร้องโอ๊ยสุดเสียง
บนโต๊ะซึ่งชอบตบบ่อยๆ ตอนนี้กลับมีก้างปลาวางอยู่จำนวนหนึ่ง อีกจำนวนหนึ่งติดปักกับฝ่ามือของจอมมารคอหอยอย่างน่าหวาดเสียว นั่นย่อมเป็นฝีมือของกระบี่รันทดจัดให้ จอมมือสะบัดมือเร่าๆ ก้างปลาไร้เงาดอกนี้ร้ายกาจนัก มาในขณะไม่ทันระวังไม่คาดคิด
“เจ้า....”
พูดได้แค่นี้ เพราะกล่าววาจาไม่ออก ความแค้นใจปะทุถึงขีดสุดแต่ไม่อาจอาละวาดออกไปได้ เพราะลำพังบุรุษหนุ่มคนเดียวยังตึงมือแล้ว อย่าว่าแต่ตอนนี้แม่นางฟ้อนซิ่งแปรพักตร์ไปอีกต่างหาก
“ท่านชอบตบโต๊ะ ข้าคิดว่าคงไม่สนุกเท่าไร เลยน้อมประคองก้างปลาให้ท่านผู้อาวุโสสั่งสอน”
วาจาของกระบี่รันทดสุภาพอ่อนน้อมยิ่ง เกรงใจยิ่ง
จอมมารดึงก้างปลาออกจากฝ่ามือ แค่นเสียงด้วยความอาฆาตแค้นว่า
“หนี้นี้เจ้าต้องชดใช้ในวันพรุ่งนี้แน่นอน”
ว่าพลางลุกขึ้นถอยปราดออกจากร้านอย่างรวดเร็ว ขืนอยู่ต่อก็นับวันเลวร้ายเป็นแน่
โฉมสะคราญโรงเตี๊ยมดึงแขนให้แม่นางฟ้อนซิ่งนั่งลง หันไปสั่งน้ำชาและเอ่ยถามกระบี่รันทดขึ้นว่า
“ทราบหรือไม่ว่าของสิ่งนั้นอยู่ที่ใด”
“อยู่ที่ข้า”
คำตอบของมันนับว่านอกเหนือความคาดหมายอย่างยิ่ง เรื่องใหญ่โตแบบนี้ไม่มีใครเอ่ยปากบอกผู้อื่นง่ายดาย แต่กระบี่รันทดกลับบอกออกมาอย่างปลอดโปร่ง กระทั่งสองสาวงามยังนึกไม่ถึง
“ท่านไฉนบอกง่ายดายเช่นนี้”
แม่นางฟ้อนซิ่งอดเอ่ยถามไม่ได้ บุรุษหนุ่มยิ้มเล็กน้อยก่อนตอบว่า
“เพราะคนถามข้าเป็นมิตรสหายที่ข้าไว้ใจที่สุด ในโลกนี้ไม่บอกนางข้ายังสามารถบอกผู้ใด”
ประกายตาของโฉมสะคราญโรงเตี๊ยมปรากฏแววตื้นตันวูบหนึ่ง การได้รับความไว้วางใจเชื่อถือจากคนๆหนึ่งอย่างจริงใจเป็นเรื่องสมควรและมีคุณค่าต่อการตื้นตันดีใจ บางคนแวดล้อมด้วยผู้คนมากมายแต่กลับหามิตรสหายเช่นนี้ไม่ได้เลยสักคน
“แล้วข้าล่ะ ทำไมท่านกล้าบอกต่อหน้าข้าในเมื่อข้าไม่ใช่สหายของท่าน”
“เพราะท่านเป็นสหายของนาง”
แม่นางฟ้อนซิ่งเงียบงันไป ได้แต่ใช้สายตาจ้องมองบุรุษหนุ่มราวกับเป็นตัวประหลาด จนถ้วยน้ำชาและกาน้ำชาวางลง นางจึงได้พึมพำว่า
“คนเช่นนี้ไม่อัจฉริยะก็ฟั่นเฟือนสมบูรณ์แบบ”
โฉมสะคราญโรงเตี๊ยมหัวเราะคิก บอกว่า
“มันจะเป็นคนวิกลจริตหรืออะไรก็ตาม ตอนนี้มันเป็นสหายของท่านเช่นกัน มันไว้ใจข้าก็เท่ากับไว้ใจท่าน”
“เย..งั้นมาชนถ้วยน้ำชากัน”
ถ้วยน้ำชาถูกชน น้ำชาถูกดื่ม จากปรปักษ์เปลี่ยนมาเป็นมิตรสหาย กระบี่รันทดพยักหน้าพลางพูดช้าๆว่า
“นี่จึงเป็นชัยชนะที่งดงามของพวกท่านทั้งสอง ไม่มีฝ่ายสูญเสีย ประเสริฐกว่าการทำลายทำร้ายกันมากมายจนประเมินมิได้ การทำร้ายกันไม่มีใครชนะ มีแต่ฝ่ายพ่ายแพ้ ชีวิตคนเราสั้นนักมีชีวิตมีโอกาสควรรักใคร่กันไว้ อย่างไรสักวันก็ต้องพลัดพรากจากลากันในหัตถ์พญายมราชอยู่แล้ว”
“ท่านกล่าวถูกต้อง เราจึงยอมมีมิตรสหายในวันนี้ มากกว่าจะทำลายทำร้ายพวกท่าน ว่าแต่เราขอดูสินค้านั่นได้ไหม”
แม่นางฟ้อนซิ่งเอ่ยปากขอดูสินค้าปริศนาอย่างสนใจ กระบี่รันทดล้วงมือไปในอกเสื้อแล้วหยิบบางอย่างส่งให้อีกฝ่ายรับมาพิจารณาดูอย่างระมัดระวัง
ลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมสีดำทำจากโลหะเล็กๆยาวประมาณครึ่งคืบมีความบางเท่าความหนาของกระบี่ทั่วไปเท่านั้น
กล่องแบบนี้จะบรรจุอะไรได้
และของมีค่าสุดยอดหาค่ามิได้นั้นคืออะไร
จบบทที่ 6
แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 54 06:26:56
แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 54 22:29:15
จากคุณ |
:
Psycho man
|
เขียนเมื่อ |
:
10 มิ.ย. 54 12:45:42
|
|
|
|