เวรันนที # ตอนที่9 สายน้ำที่ไหลย้อนกลับ#
|
 |
เหมือนลมวูบใหญ่ได้หอบเอาร่างเหนือมนุษย์เหล่านั้นออกจากปลายสะพานแคบ ทุกอย่างตอนนี้กลับเข้าสู่ความสงบเช่นแรกเริ่ม ทว่ายังมีสายตาบางคู่ที่แฝงเร้นอยู่หลังพุ่มไม้ใกล้ศาลาริมน้ำ มันคอยเฝ้าดูเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่เริ่มต้น ในหัวสมองมิได้สงบตามสถานการณ์ กลับหมุนติ้วเช่นกังหันวนซ้ำร้อยรอบพันรอบ เพื่อหาเหตุผลมารองรับสิ่งที่ได้พบเห็นว่านั่นไม่ใช่ความฝัน!
ไอ้รัช นี่แกไม่ได้ไปเรียนต่อ แต่กลับมาเป็นพญานาคเหรอวะ หรือว่ามันกำลังซ้อมถ่ายละคร แล้วไปเป็นดาราตอนไหน ชายร่างอ้วนสุดแสนจะประหลาดใจที่จู่ๆก็มาเห็นเพื่อนรักแปลงกายเป็นร่างมีเกล็ดทะยานสู่ฟากฟ้า
ว่าแล้วเมื่อเห็นทางปลอดโปร่งเบิ้มค่อยๆพยุงความสมบูรณ์ของตัวเองไปสู่ศาลาท่าน้ำ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีกองถ่ายละครที่ไหนมาออกหน่วยอยู่แถวนี้
แป่ะ แป่ะคิดไปพลางตบหน้าตัวเองเบาๆเพื่อตอกย้ำว่านี่คือความจริง
เฮ่อ รัชเอ้ย เหลือเชื่อโคตรๆ เขาได้แต่ถอนหายใจเงยหน้ามองในทิศทางเดียวกันกับที่เพื่อนรักได้ทะยานจากไป แม้นี่จะเป็นครั้งแรกที่เห็นคาตาว่าพญานาคมีจริง และเหาะเหินเดินอากาศกันแบบตัวเป็นๆแต่เบิ้มก็ไม่ได้ฝันหนีดีฝ่ออย่างคนทั่วไป เพราะแท้จริงเขาคุ้นเคยกับเรื่องนี้มาแต่เด็ก
จะว่าไปปู่ของเขาคือผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับพญานาคเลยทีเดียว ทว่าครั้งนี้กลับเป็นการตอกย้ำให้เบิ้มเชื่อในเรื่องราวที่ปู่เล่าขานถ่ายทอดมา
ถ้าอยากรู้ว่าฝันไปหรือไม่นั้น ข้าสงเคราะห์ให้ก็ได้นะ ทันใดนั้นในความเงียบกลับมีเสียงของใครบางคนเอ่ยทักขึ้นจากทางด้านหลัง
เบิ้มคาดเดาได้ดีว่าเขากำลังเผชิญกับสิ่งที่ไม่ธรรมดา เมื่อระลึกถึงคำสั่งสอนของปู่ทำให้สามารถสยบความตื่นเต้นและกลัวสุดขีดไว้ได้ ด้วยบทพุทธคุณที่ตอนนี้ได้แต่ท่องวนในใจซ้ำๆไปมาหลายรอบโดยไม่หันกลับไปมอง
ไม่ ขอบคุณ จากเสียงที่ทุ้มนุ่มนวลเมื่อร้องเพลง ตอนนี้กลับสั่นพร่า
รัชชตะนาคราชนั้นดูทีรึ บริวารแห่งตนรั้งรอไม่ช่วยเหลือ แต่กลับเห็นความรักเป็นใหญ่ ใคร่จะยอมสละชีวิตเพื่อคนรัก น่าอนาถใจแทนบริวารภุชนาคินนัก เสียงน่ากลัวนั้นพูดอยู่ใกล้กับแผ่นหลังของเบิ้มมากกว่าตอนแรกเสียอีก
.....นอกจากจะอึ้งงงงัน เบิ้มยังรู้สึกได้ดีว่าเหงื่อเขาพร่างพรมเต็มหน้าและตามเนื้อตัว
แล้วเจ้าล่ะ ไม่อยากไปช่วยเพื่อนรักอีกคนรึ
คราวนี้ไม่ใช่พูดแบบลมหายใจรดต้นคออีกแล้ว ทว่าร่างประหลาดที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังกลับลากลำตัวยาวอ้อมมาดักหน้าเพื่อเผยโฉมให้เห็นกันแบบเต็มตา
เฮ้ย พ่อเจ้า แม่เจ้า โคตรเจ้ามากันให้หมดเล้ย ชายหนุ่มหลุบเปลือกตาปิดมิดแล้วเรียกหาอะไรต่อมิอะไรที่ตนเองก็ไม่เข้าใจ นี่ขนาดว่าแน่ๆแล้วยังอดหวาดผวาไม่ได้ ชายหนุ่มรู้สึกถึงความเปียกชุ่มด้วยเหงื่อโทรมกาย
พรพยนต์ เจ้าจงนำไอ้เด็กหนุ่มร่างยักษ์ ตามรัชชตะนาคราชไปยังสุคันธา
และแล้วไม่ทันที่เบิ้มจะตั้งตัว เขากลับรู้สึกว่าร่างมวลหนักของตนถูกตบตวัดให้ลอยเคว้งคว้างไปสู่อากาศด้านบน เขาส่งเสียงร้องออกมาด้วยสัญชาตญาณเมื่อถึงคราวหวาดหวั่นและตกใจสุดขีด
ม่ายยยย....
ทว่าเพียงครู่เดียวที่รอลุ้นกลับมีร่างยาวม้วนรวบตัวพามุดลงสู่สายน้ำอันเชี่ยวเย็น เบิ้มรู้สึกว่าตนเองทั้งกลืนทั้งสำลักเอาน้ำพวกนั้นเข้าไปมากมายเหมือนเจออาหารอันโอชะ ในเวลาเดียวกันก็ถูกกระชากลากถูไปตามสายน้ำนั้นอย่างรวดเร็ว และแล้วก่อนจะสิ้นลมหายใจสุดท้าย กลับถูกยัดเยียดให้กลืนอะไรบางอย่างลงไปเพียงเท่านั้นเองที่เขารับรู้
ท่านพี่คิดจะทำอะไรกับมนุษย์ร่างใหญ่ผู้นั้น ร่างนาคาอีกตนหนึ่งที่ปลายสะพานเอ่ยถามด้วยความสงสัย
ก็ให้มันไปเป็นตัวถ่วงประมุขของเจ้าสู้ศึกอย่างไรเล่า ดูสิว่าจอมนาคาเกล็ดเงินยังจะมีฤทธิ์อันใด ฮะ ฮะ ฮะ
พยัพยนต์ชอบใจในแผนการนี้ของตนนัก! อย่างรัชชตะผู้อ่อนแอ มันช่างอ่อนไหวต่อความรู้สึกรักใคร่ผูกพันเช่นสตรี จะมีอุปสรรคใดยิ่งใหญ่ไปกว่าห่วงหน้าพะวงหลัง ที่มีต่อคนรักและเพื่อนที่ผูกพัน
ฮะ ฮะ ฮ่ะ พยัพยนต์พี่ชายข้านั้นเก่งทั้งต่อสู้ทั้งคิดวางแผน เช่นนี้สิจึงน่ายกย่องให้เป็นประมุขแห่งภุชนาคิน
สองนาคาพี่น้องเยินยอซึ่งกันและกันอยู่ที่ท่าน้ำหน้าบ้านหลังใหญ่ชั่วครู่ ก่อนจะร่ายคลายมนต์บดบังให้จางไปแล้วทะยานสู่ฟากฟ้าไปยังเป้าหมายเดียวกันก็คือริมฝั่งสุคันธา ทว่าต่างจุดประสงค์เพราะมิใช่ช่วยเหลือแต่เพื่อซ้ำเติม!
แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 54 23:15:30
แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 54 23:13:04
จากคุณ |
:
Kiwi_brown
|
เขียนเมื่อ |
:
10 มิ.ย. 54 22:52:44
|
|
|
|