PANTIP.COM : W10688970 ++ N e v e r t h e l e s s ++ [บทที่ 34] [นิยาย]

ความคิดเห็นที่ 9

ขออนุญาตตอบพี่สก๊อตตี้ก่อนนะคะ เผื่อถ้ามีจุดไหนเข้าใจคลาดเคลื่อนกัน หรือเป็นความผิดพลาดของเราเอง ทั้งผู้อ่านและผู้เขียนจะได้เข้าใจตรงกัน และเราจะได้รีบแก้ไขค่ะ จากนี้ไปเราจะอธิบายแยกเป็นสองเรื่อง หนึ่งคือส่วนที่เป็นแผนของวิคเตอร์ล้วน ๆ และอีกหนึ่งคือส่วนที่เกิดขึ้นจริงค่ะ

flower ส่วนที่เป็นแผนของวิคเตอร์

1. ให้เบอร์นีเซียแทรกซึมเข้าไปในปราสาทเอดินบะระ โดยการปลอมตัวเป็นภรรยาของพ่อค้าชาวสเปน เข้าไปเป็นลูกมือให้กับแพทย์หลวงในปราสาท โดยใช้ชื่อปลอมคือมาร์ธา ทั้งนี้ กอนทาโลเข้าใจว่าเบอร์นีเซียหรือมาร์ธาทำงานให้กับราชสำนักสเปน (รายละเอียดอยู่ในบทนี้แล้วค่ะ)

2. ทุกครั้งที่กอนทาโลเอาสินค้ามาส่งให้เอดินบะระ จะมีถังสองถึงสามใบที่แอบยัดดินปืนเอาไว้ เบอร์นีเซียต้องเอาถังเหล่านั้นไปเก็บไว้เอง ห้ามใครยุ่มย่าม (รายละเอียดอยู่ในบทนี้แล้วค่ะ)

3. เบอร์นีเซียไปทำงานอยู่ที่นั่นตลอดช่วงหน้าหนาว (เพราะช่วงนี้อังกฤษไม่สามารถยกทัพได้) พอหมดหน้าหนาวอังกฤษก็นำทัพไปตีสก๊อตทันที ดัดลีย์เสนอให้เอาวิคเตอร์ไปด้วยในฐานะเสนาธิการประจำกองทัพ ซีมอร์โอเคซิกกะแร็ตทันที เพราะซีมอร์ไม่อยากปล่อยวิคเตอร์ไว้ตามลำพังอยู่แล้ว เขาไม่ไว้ใจวิคเตอร์ กลัวว่าวิคเตอร์จะแอบทำอะไรไม่ชอบมาพากลลับหูลับตาเขา (รายละเอียดอยู่ในบันทึกวิคเตอร์ตอนที่ 5 ค่ะ)

4. พอตีเอาเมืองได้สักเมือง วิคเตอร์เสนอให้อังกฤษส่งสารไปหาสก๊อต ระบุชื่อขุนนางสก๊อตสามคน (ขุนนางที่ถูกระบุชื่อทั้งหมดเป็นพวกขุนนางที่นิยมอังกฤษ) ให้ไปเจรจายังที่ที่ทัพใหญ่ตั้งค่ายอยู่ แต่จริง ๆ ทั้งหมดเป็นแผนลวง พอพวกขุนนางสก๊อตที่ว่าเดินทางมาถึงค่ายเมื่อไหร่จะโดนจับเป็นตัวประกันหมด ส่วนวิคเตอร์กับดัดลีย์จะยกทัพไปล้อมปราสาทเอดินบะระ แล้วยื่นคำขาดให้ฮามิลตันส่งตัวราชินีแมรี่ให้อังกฤษ ซึ่งในความคิดวิคเตอร์ ฮามิลตันต้องยอมแน่ เพราะเขาอยากจะยกราชินีให้อังกฤษอยู่แล้ว (รายละเอียดอยู่ในบันทึกวิคเตอร์ตอนที่ 5 ค่ะ)

5. ข้อ 4 ที่ว่ามานั่นก็เป็นแผนที่วิคเตอร์ลวงซีมอร์อีกที วิคเตอร์กับดัดลีย์ทำทีจะไปบังคับให้ฮามิลตันยกแมรี่ให้อังกฤษ แต่จริง ๆ แล้วจะไปลอบเอาแมรี่หนีออกมาต่างหาก ซึ่งซีมอร์ก็ว่าอะไรพวกเขาไม่ได้ เพราะพวกเขาทำตามหน้าที่ทุกอย่างแต่มารีกับแมรี่หนีไปเองอ่ะ ให้ทำไงได้ (รายละเอียดอยู่ในบันทึกวิคเตอร์ตอนที่ 5 ค่ะ)

6. วันก่อนที่วิคเตอร์จะมาล้อมปราสาท วิคเตอร์ก็ส่งจดหมายเตือนให้เบอร์รู้ตัวว่าถึงเวลาแล้ว คืนนั้นเบอร์นีเซียจะต้องไปหาพระนางมารี พร้อมกับถังใส่ผ้าปูที่นอน ในนั้นจะใส่เสื้อผ้าเด็กผู้ชายให้ราชินีเปลี่ยน พอราชินีเปลี่ยนแล้วก็เอาราชินีใส่ลงในถัง แล้วพระนางมารีจะสลับตัวเป็นเบอร์นีเซีย ออกจากห้องไปพร้อมกับถังที่ซ่อนราชินีเอาไว้

7. การที่ราชินีจะผ่านยามหน้าห้องออกไปได้ เดินโทง ๆ ในปราสาทเอาตัวพระนางแมรี่ไปซ่อนไว้ (ที่บ่อมาร์กาเร็ต) หรือออกจากปราสาทไปล่วงหน้าได้ ยังไงก็ต้องปลอมตัวเป็นหญิงทำยาที่โคตรไม่มีตัวตน ปัญหาคือเบอร์นีเซียเนี่ย ถ้านางให้มารีสลับตัวกับตน ก็หมายความว่านางจะต้องอยู่ในห้องเป็นคนสุดท้าย ออกจากห้องไม่ได้แน่เพราะยามจะงงว่านางนี่มันออกมาแล้วหนนึง แล้วมันออกมาอีกหนได้ไง? เสื้อผ้าก็ไปอยู่กับมารีแล้ว จะให้ใส่ชุดมารีก็คงไม่เวิร์คกระมัง คนคงเห็นได้จากรัศมีเป็นกิโล ได้เด่นดังแน่งานนี้
ดังนั้นตอนที่ฮามิลตันมาจ๊ะเอ๋เข้า พบว่ามารีกับแมรี่หายตัวไปแล้วจ้า เหลือเบอร์นีเซียอยู่ในห้องคนเดียว แน่นอนว่าเบอร์นีเซียต้องซวยหนักถึงขั้นชีวิตจะหาไม่แน่นอน ที่สำคัญ ใครจะไปเอาตัวแมรี่ที่ซ่อนไว้ในบ่อล่ะ? (รายละเอียดอยู่ในบทที่ 33 + บทนี้แล้วค่ะ)

8. เพื่อไม่ให้เป็นยังงั้น วิคเตอร์ก็เลยให้เบอร์นีเซียเรียกสาวใช้อีกคนหนึ่งขึ้นมา (อ้างว่าให้มาช่วยถวายยาราชินีเพราะตัวเองจะกลับแล้ว) ระหว่างนั้นเบอร์นีเซียต้องซ่อนตัวไว้ไม่ให้สาวใช้ (กริเซล) เห็น ส่วนพระนางมารีจะต้องมีรับสั่งให้สาวใช้คนนั้น (กริเซล) เปลี่ยนเสื้อผ้าเข้าไปทำงานในห้องสวดมนต์ แล้วขังนางไว้ในนั้นซะเลย และเพื่อไม่ให้สาวใช้ (กริเซล) พบว่าตัวเองโดนขังแล้วโวยวายวังแตกเอา ก็เลยต้องให้มารีกำชับด้วยว่าให้ทำงานในนั้นไปจนกว่าจะต้องมาเปลี่ยนผ้าปูที่นอนตอนเช้า ทีนี้เบอร์นีเซียก็จะเปลี่ยนเสื้อผ้าปลอมเป็นสาวใช้ (กริเซล) ออกจากห้อง ทิ้งสาวใช้ (กริเซล) ให้เป็นผู้รับเคราะห์อยู่ในห้องเป็นคนสุดท้าย (รายละเอียดอยู่ในบทนี้แล้วค่ะ)

9. พอพระนางมารีเอาราชินีออกจากห้องในคราบมาร์ธาแล้ว เบอร์นีเซียยังอยู่ในห้องอยู่ แกล้งดัดเสียงเป็นพระนางมารีกับราชินี เพื่อให้คนอื่นเข้าใจว่าสองคนนี้อยู่ในห้องตลอด จนกระทั่งเบอร์นีเซียเห็นว่าวิคเตอร์เข้ามาในตัวปราสาทแล้วถึงจะรีบออกจากห้องในคราบสาวใช้ (กริเซล)
ระหว่างนั้นวิคเตอร์ก็เจรจากับฮามิลตัน แล้วขอเข้าเฝ้าราชินี ฮามิลตันก็เลยพบว่าราชินีหายไปพร้อมกับพระนางมารีเสียแหล่ว แถมเพิ่งจะหายไปด้วยเพราะก่อนหน้านี้ยังได้ยินเสียงอยู่ในห้องอยู่เลย (รายละเอียดอยู่ในบทที่ 33 + บทนี้ค่ะ)

10. เบอร์นีเซียลงไปที่อุโมงค์ใต้ดินที่ตัวเองทำงาน เอาถังยัดดินปืนทั้งหมดมาวางไว้หน้าเตาเผา พอคนมาบอกว่าราชินีหายตัวไป เบอร์นีเซียก็อาสาจะไปตามหาตัวสาวใช้ที่อยู่กับพระนางมารีเป็นคนสุดท้าย (กริเซล) แล้ววานให้คนอื่นช่วยเผาถังให้ พอเผาเสร็จก็บรึ้ม ออกมาเป็นโกโก้ครั้นซ์ ...ไม่ใช่ล่ะ (รายละเอียดอยู่ในบทที่ 33 + บทนี้ค่ะ)

11. เบอร์นีเซียรีบไปที่ ๆ พระนางมารีซ่อนราชินีไว้ (บ่อมาร์กาเร็ต) เอาตัวออกมา แล้วเข้าไปปะปนกับพวกคนใช้แรงงานที่แตกตื่นจากระเบิด แล้ววิคเตอร์ก็สั่งให้ทหารอังกฤษต้อนคนพวกนี้ออกไปไต่สวนข้างนอกปราสาท เบอร์นีเซียเลยพาพระนางมารีออกจากปราสาทได้สำเร็จ แล้วทำทีเป็นบอกทหารว่าตัวเองเห็นสิ่งผิดปกติ ทหารเลยพาเบอร์นีเซียพร้อมราชินี (ที่คนเข้าใจว่าเป็นลูกชายนาง) ไปพบวิคเตอร์ (รายละเอียดอยู่ในบทที่ 33 + บทนี้ค่ะ)

12. พาราชินีไปหาพระนางมารีที่จุดนัดพบ เป็นอันเสร็จสิ้น (รายละเอียดอยู่ในบทหน้า ๆ ค่ะ)

จากคุณ : littlevalvie

เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 23:35:03