Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ลำนำรักใต้แสงจันทร์ ตอนที่7 ติดต่อทีมงาน

ตอนที่ 6 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10678302/W10678302.html

===========================================================


       เจ้าชายกันนาร์ทอดพระเนตรฝ่าเปลวแดดร้อนระอุไปยังถนนว่างเปล่าเบื้องพระพักตร์ด้วยความหงุดหงิดพระทัยเป็นที่สุด พระองค์อุตส่าห์เสด็จมารอรับอาจารย์ของน้องสาวตั้งแต่ยังไม่ถึงเวลานัด เปล่า... ไม่ได้คิดจะให้เกียรติเจ้าหมอนั่นเป็นพิเศษ แต่เป็นเพราะทรงรู้สึกเขม่นอีกฝ่ายขึ้นมาจนทนนั่งเฉยอยู่ไม่ไหว ต้องปลอมตัวออกมาขอดูหน้ากันให้ชัดๆ เสียก่อน หากเห็นแล้วไม่ถูกชะตาจะได้หาทางไล่กลับแลมพ์ตันเสียโดยเร็ว

       แม้จะเลยเวลานัดมานาน ก็ยังไม่มีวี่แววของนักบวชให้เห็นสักคน ที่หน้าประตูตะวันตกมีเพียงเด็กหนุ่มท่าทางเหมือนขอทานคนหนึ่ง นั่งหลบแดดอยู่แทบโคนไม้ใหญ่ใกล้กับชายในเสื้อคลุมเดินทางสีเข้ม นอกจากเจ้าสองคนนี้ เจ้าชายกันนาร์ก็ไม่เห็นใครอีก โดยเฉพาะคนในชุดนักบวชที่พระองค์เฝ้ามองหามาตลอดบ่าย

       ในที่สุดเวลาพลบค่ำก็มาเยือน...

       ทหารยามผลัดที่สามเข้าประจำที่ของตนหลังจากเดินตรวจตรารอบกำแพงแล้วรอบหนึ่ง เปลวไฟในกระถางบนขาตั้งทรงสูงถูกจุดขึ้นพร้อมกัน ก่อให้เกิดแสงสว่างสีส้มแดงสาดกระจายไปทั่ว เสียงลากโซ่ดังขึ้นกราวใหญ่แสดงว่าประตูปราสาทชั้นนอกกำลังจะปิด เจ้าชายกันนาร์ทอดพระเนตรไปที่ถนนเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนหันหลังเดินดุ่มกลับเข้าสู่ปราสาทลินเด็นด้วยพระอารมณ์โกรธกรุ่น

       “เอ่อ ขอโทษทีพี่ชาย ข้าขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย”

       เสียงที่ดังขึ้นทางเบื้องหลัง ทำให้พระองค์ต้องเบือนพระพักตร์กลับไปมอง เจ้าของเสียงนุ่มหูผู้นั้นคือชายในเสื้อคลุมขะมุกขมอมที่เดินป้วนเปี้ยนอยู่แถวหน้าประตูตะวันตกมาตั้งแต่บ่าย

       “มีอะไรหรือน้องชาย” ทหารยามผู้กำลังทำหน้าที่ปิดประตูย้อนถาม

       “ข้ามาเข้าเฝ้าเจ้าหญิงกาอิยาห์ แต่สงสัยว่าจะคลาดกับคนที่มารับซะแล้ว พี่ชายจะกรุณาให้ข้าผ่านเข้าไปได้มั้ย”

       นายทหารร่างใหญ่มองคนพูดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แล้วส่ายหน้าปฏิเสธเอาไว้ก่อน

       “ไม่ได้หรอก นอกจากเจ้าจะได้รับอนุญาตเป็นพิเศษ เจ้ามีหนังสืออนุญาตมาด้วยหรือเปล่าล่ะ”

       “หนังสืออนุญาต ต้องมีด้วยหรือ”

       “ใช่ ถ้าไม่มีใครมารับ เจ้าก็ต้องมีหนังสืออนุญาต ไม่งั้นข้าก็ให้เจ้าผ่านประตูไม่ได้”

       “โธ่...พี่ชาย ข้ามีเรื่องด่วนจริงๆ นะ ขอร้องล่ะ ให้ข้าเข้าไปเถอะ”

       บทสนทนาของชายหนุ่มแปลกหน้ากับทหารยาม ทำให้เจ้าชายกันนาร์ต้องเสด็จย้อนกลับมาที่ประตูชั้นนอกอีกครั้ง พระองค์ประทับยืนกอดอกฟังชายผู้นั้นพูดจาชักแม่น้ำทั้งห้าหว่านล้อมทหารยามเฉยอยู่ สายพระเนตรคมกริบทั้งคู่แลสำรวจร่างในเสื้อคลุมยาวรุ่มร่ามอย่างเพ่งพิศ ...สารรูปผอมแห้ง เสื้อผ้าก็มอมไปด้วยฝุ่น ไม่ว่าจะดูยังไงเจ้าหมอนี่ก็ไม่มีส่วนไหนเหมือนคนเป็นนักบวชเลยสักนิด ที่สำคัญ...มันหล่อเกินไป!

       เจ้าชายกันนาร์ทรงวาดภาพอาจารย์ของน้องสาวไว้ว่าจะต้องเป็นผู้ชายที่ภูมิฐาน มีสง่าราศีและคงแก่เรียน เหมือนนักบวชส่วนใหญ่ในลินเด็นที่พระองค์เคยเห็น หากเจ้าคนที่ดูไม่ค่อยจะเหมือนนักบวชผู้นี้กลับตรงกันข้ามไปเสียทุกอย่าง โดยเฉพาะรูปร่างหน้าตานั่น... ขนาดพระองค์เป็นผู้ชายยังอดรู้สึกสะดุดตากับความหล่อของหมอนี่ไม่ได้ แล้วถ้าเป็นผู้หญิงเล่า?

       เพราะเหตุนี้หรือเปล่ากาอิยาห์ถึงกระตือรือร้นอยากจะพบกับอาจารย์ของนางนัก ...ยิ่งคิดเจ้าชายกันนาร์ก็ยิ่งรู้สึกไม่ชอบหน้าชายหนุ่มผู้นี้มากยิ่งขึ้นทุกที
“...ยังไงก็ไม่ได้หรอกน้องชาย มันเป็นกฎ” เสียงทหารยามคนเดิมตอบกลับมาแว่วๆ

       “ให้เขาเข้ามาเถอะ”

       เจ้าชายกันนาร์ยอมออกพระโอษฐ์ในที่สุด พระองค์พยายามซ่อนพระพักตร์เอาไว้ในเงามืดเพราะกลัวทหารยามจะจำได้ แม้จะทรงย้อมพระเกศาให้เป็นสีน้ำตาล และใช้แป้งผสมเขม่าทำให้พระฉวีดูคล้ำลงแล้วก็ตาม

       “ถ้าท่านชื่อเมลละก็ เจ้าชายกันนาร์ให้ข้ามารับท่าน” พระองค์บอกเสียงห้วน

       ทหารยามจ้องมองชายหนุ่มในเครื่องแบบทหารองครักษ์อยู่เพียงครู่เดียว ก็ยอมปล่อยให้ชายแปลกหน้าและเด็กหนุ่มผมแดงผ่านประตูไปแต่โดยดี

       “เดี๋ยวก่อน..”

       เจ้าชายกันนาร์ยื่นท่อนพระกรออกไปขวางหน้าเด็กหนุ่มท่าทางยโส ที่เดินตามหลังชายชื่อเมลเข้ามาติดๆ เอาไว้ พร้อมกับตรัสถามเสียงเข้มงวด

       “เจ้าเป็นใครกัน อย่าบอกนะว่าเจ้าก็ชื่อเมลอีกคน”

       “ข้าชื่อซิส” หนุ่มน้อยตอบทันควัน ดวงตาคมสีน้ำตาลแลสบกับนัยย์ตาสีม่วงของคนถามอย่างท้าทาย

       “เป็น...”

       “คนติดตามของข้าเอง”

       เมลิอานาร์รีบชิงบอกเสียก่อน เพราะเกรงว่าเจ้าตัวดีจะพูดจากวนประสาทตามแบบของมันจนเสียเรื่อง

       เจ้าชายพยักพระพักตร์รับรู้แล้วตรัสถามประโยคต่อไป

       “ม้าของพวกท่านล่ะ ข้าจะได้ให้คนเอาไปเก็บไว้ในคอกเสียทีเดียว”
คนถูกถามยิ้มจืดๆ ตอบไม่เต็มเสียง “ข้าขายมันเพื่อจ่ายค่าที่พักไปแล้ว พวกเราใช้วิธีเดินเท้ามาน่ะพี่ชาย”

       เจ้าชายกันนาร์ถอนพระทัยเฮือกใหญ่ จ้องมองอาจารย์ของน้องสาวด้วยสายพระเนตรแสดงความไม่เชื่อถืออย่างเปิดเผย ...เจ้านักบวชคนนี้ ท่าทางก็ไม่เหมือนนักบวช คนติดตามก็เป็นเด็กขอทาน แถมยังถังแตกถึงขนาดต้องขายม้าแลกที่พัก นี่พระองค์ควรจะฝากชีวิตของเจ้าหญิงแคธรีนไว้ในมือคนแบบนี้จริงๆ ละหรือ?

       ชายหนุ่มถอนใจอีกเฮือก ก่อนจะจำใจออกเดินนำคนทั้งคู่ผ่านกำแพงชั้นในเข้าไปในอาณาเขตของปราสาทลินเด็น



       เมลิอานาร์และซิสเดินตามหลังทหารองครักษ์หนุ่มท่าทางถือตัวมาถึงเรือนแถวโอ่โถงสองชั้น ก่อสร้างแบบเรียบง่าย ตั้งอยู่ริมกำแพงไม่ห่างจากประตูทางเข้าปราสาทมากนัก สีขาวนวลของตัวอาคารทรงสี่เหลี่ยมขึงขังที่เต็มไปด้วยบานหน้าต่างเรียงเป็นระเบียบทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ตัดกับสีแดงคล้ำของหลังคาแลเห็นลางๆ อยู่ท่ามกลางแสงจันทร์สลัวเลือน

       นักบวชในชุดสีเทาเข้มยาวกรอมเท้าถือตะเกียงยืนรออยู่แล้วที่หน้าอาคาร เขาเดินนำคนทั้งสามขึ้นบันไดหินเตี้ยๆ ก่อนจะพาเลี้ยวไปทางด้านขวา ผ่านห้องที่มีมีประตูไม้หน้าตาเหมือนกันเปี๊ยบเรียงเป็นแถวอยู่ทั้งสองฟาก จนกระทั่งมาหยุดอยู่หน้าประตูบานสุดท้าย นักบวชผลักประตูบานนั้นให้เปิดออก ยกตะเกียงในมือชูขึ้นสูง แสงสว่างเรืองรองส่องให้เห็นสภาพภายในห้องขนาดกะทัดรัด ที่ตั้งอยู่กลางห้องคือโต๊ะไม้สี่เหลี่ยมแบบเรียบๆ พร้อมเก้าอี้พนักสูงเข้าชุดกัน ถัดไปเป็นเตาผิงขนาดเล็ก มีฟืนที่ยังไม่ได้ใช้กองสุมอยู่ข้างๆ จำนวนหนึ่ง ทางขวามือของเตาผิงคือหน้าต่างบานยาวกรุกระจกใส มีม่านเนื้อหนาสีอ่อนแขวนประดับ ใกล้ๆ กันนั้นคือประตูไม้อีกบานสำหรับเปิดเข้าสู่ห้องนอนด้านใน  

       “นี่คือห้องของพวกท่าน”

       นักบวชวางตะเกียงน้ำมันลงบนโต๊ะ ใช้สายตาสำรวจดูความเรียบร้อยของห้องอีกครั้ง ก่อนจะค้อมศีรษะให้ผู้เป็นแขกแล้วหันหลังเดินจากไป

       ทหารองครักษ์หนุ่มตั้งท่าจะก้าวตามนักบวชผู้นั้นออกจากห้องไปเช่นกัน หากถูกคนในเสื้อคลุมขะมุกขะมอมรั้งร่างไว้เสียก่อน เขาหันกลับมามองด้วยท่าทางไม่พอใจ สายตาเย็นชาเลื่อนจากใบหน้าของอีกฝ่ายไปยังมือที่เกาะอยู่บนไหล่ซ้ายเหมือนจงใจแสดงให้รู้ว่ารังเกียจ

       เมลิอานาร์รีบปล่อยมือจากไหล่ข้างนั้นทันที

       “มีอะไร?” ชายหนุ่มถามเสียงห้วน

       “คือ... เจ้าหญิงกาอิยาห์ล่ะ ข้าต้อง...”

       “พรุ่งนี้...” เสียงห้าวๆ ตอบสวนกลับมาโดยไม่รอฟังคำพูดของอีกฝ่ายให้จบประโยคด้วยซ้ำ

       พอตอบเสร็จเขาก็สะบัดหน้าพรืด เดินจ้ำอ้าวออกจากห้องไปชนิดไม่เหลียวหลัง ทิ้งให้เจ้าของประโยคยืนอ้าปากค้าง มองตามด้วยความงุนงง

       “ข้าพูดอะไรผิดหรือไง”

       “ไม่รู้สิ แต่อย่าไปสนเลยพี่ชาย คิดมากปวดหัวเปล่าๆ” ซิสยักไหล่ ตอบแบบไม่เดือดร้อน

        เด็กหนุ่มเดินสำรวจข้าวของในห้องอย่างตื่นเต้น ผลักประตูเข้าไปดูห้องนอนด้านใน แล้วรีบโผล่หน้าออกมารายงาน

       “เยี่ยมไปเลยพี่ชาย ในนี้มีเตียงด้วย เสียแต่เล็กไปหน่อยคงจะนอนได้แค่คนเดียวเท่านั้น งั้นข้าเสียสละนอนให้ก็แล้วกัน” พูดจบเจ้าตัวก็ผลุบหน้ากลับเข้าไปตามเดิม

       “เฮ้ย ได้ยังไง”

       เมลิอานาร์รีบสาวเท้าตามเด็กหนุ่มเข้าไปในห้องทันที ...แต่มีหรือจะทัน พอนางเข้าไปถึง เจ้าตัวดีมันก็ขึ้นไปนอนขดตัวกลมห่มผ้าสบายใจเฉิบอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว น้ำท่าไม่ต้องคิดจะอาบให้เสียเวลา

       “ซิส ลงมาเดี๋ยวนี้นะ เตียงนี่เป็นของข้า เจ้าเป็นแค่คนติดตามไม่ใช่หรือไง”

       หญิงสาวตั้งท่าจะขยับเข้าไปลากเจ้าเด็กตัวแสบลงมาจากเตียง แต่พอเลิกผ้าห่มขึ้นก็พบว่าเด็กหนุ่มหลับปุ๋ยไปเสียแล้ว

       “ทำไมหลับเร็วจัง เจ้าแกล้งหลับหรือเปล่านี่”

       คนพูดชะโงกหน้าเข้าไปดูจนชิด กลัวว่าเจ้าตัวดีมันจะเล่นลูกไม้อะไรอีก หากลมหายใจที่ทอดยาวเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ริมฝีปากเผยอน้อยๆ และดวงตาที่พริ้มปิดของเด็กหนุ่มบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวคงหลับจริง หญิงสาวถอนใจเฮือกอย่างยอมแพ้ ...ปล่อยให้หมอนี่ยึดเตียงนอนไปสักพักก็แล้วกัน ซิสเองก็คงเหนื่อยจากการเดินทางเหมือนกัน ถึงจะแสบยังไงเด็กก็ยังคงเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ

       หญิงสาวค่อยๆ จรดฝีเท้าถอยหลังออกมาจากห้องแล้วงับประตูให้ปิดลงตามเดิม จะว่าไปเวลานี้ก็ยังไม่ดึกนัก แถมเตียงนอนที่มีอยู่เพียงหนึ่งเดียวก็ถูกเจ้าซิสครอบครองไปเสียแล้ว นางจึงตัดสินใจออกไปเดินเล่นข้างนอก ถือโอกาสสำรวจสถานที่และหาโรงอาบน้ำไปด้วยในตัว ...เมลิอานาร์เป็นผู้หญิง ถึงจะถูกคนเข้าใจผิดมาตลอดทางว่าเป็นผู้ชายจนบางทีตนเองก็เกือบจะเผลอคล้อยตามไปเหมือนกัน แต่หญิงสาวก็ยังไม่สามารถเข้านอนทั้งๆ ที่เนื้อตัวสกปรกอย่างเจ้าซิสมันได้

จากคุณ : akihiro
เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 23:09:13




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com