เสียงเอะอะโวยวายรอบตัวทำให้คริสต์ปวดหัว ปวดอย่างหนัก แต่เธอยังพยายามฝืนลืมตาพร้อมกับหยัดกายขึ้น มือคู่หนึ่งยื่นมาช่วยประคอง
ขอบคุณค่ะ คริสต์พูดออกไป แล้วรู้สึกได้ว่ามือนั้นชะงักงันและถอยห่าง เมื่อกะพริบตาสองสามครั้งเพื่อปรับประสาทการมองเห็นจนสามารถใช้งานได้ตามปกติ เธอก็พบว่าซิสเตอร์สูงวัยคนหนึ่งกำลังกุมปากของตนเองแน่นด้วยมือทั้งสองข้าง ดวงตาเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว
ซิสเตอร์ เธอหยุดคิด ดูเหมือนเธอจะลืมชื่อของซิสเตอร์คนนี้ไปครู่หนึ่ง ซิสเตอร์มาทิลด้าคะ
ปิศาจ เสียงของหล่อนแผ่วเบาไม่ต่างจากเสียงกระซิบ แต่แล้วมันก็ดังขึ้น ปิศาจอยู่ตรงนี้!
ซิสเตอร์มาทิลด้าตะลีตะลานคลานหนี คริสต์เอื้อมมือจะคว้าตัวหล่อนไว้เพื่อขอคำอธิบาย แต่กลับถูกกระชากให้ลุกขึ้นยืนด้วยอุ้งมือแข็งแรงคู่หนึ่ง ดวงตาของเด็กสาวเบิกกว้างเล็กน้อยอย่างตกใจเมื่อเห็นใบหน้าบิดเบี้ยวน่ากลัวของมิสเตอร์จอห์น โบการ์ด หัวหน้าหมู่บ้านและเป็นบิดาของเจมม่า โบการ์ด
มันเป็นผีร้ายจริงๆ ด้วย มิสเตอร์จอห์นคำรามหลังจากกวาดตามองทั่วใบหน้าของเธอ คริสต์เริ่มงุนงงหนักขึ้น เธออ้าปากกำลังจะไต่ถาม แต่เขากลับกระแทกหมัดเข้ากลางแก้มของเธอ เด็กสาวถลาล้ม ยกมือจับแก้มข้างที่ถูกต่อยพร้อมกับนิ่วหน้า แปลกที่เธอไม่รู้สึกเจ็บ
นางผีชั่ว แกดูซะว่าทำอะไรลงไป! มิสเตอร์จอห์นจิกผมของคริสต์ กระชากศีรษะของเธอให้แหงนเงยขึ้นและชี้นิ้วไปยังร่างไร้วิญญาณของซาร่า นั่นเพื่อนรักของแกแท้ๆ
แล้วนิ้วของเขาก็เปลี่ยนไปชี้ซิสเตอร์เดซี่ แล้วนั่นก็ผู้มีพระคุณของแก แม่ของแก นางปิศาจ!
คะ... คุณจอห์น นะ... นี่มันเรื่องอะไรกันคะ
ตอนนั้นเองที่คริสต์รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง เสียงของเธอแหบแห้งเจือด้วยเสียงคำรามคล้ายกับเสียงของวาเลน วอห์น เด็กสาวเบิกตาอย่างตื่นตระหนกพลางพยายามจะยกมือกุมลำคอ แต่มิสเตอร์จอห์นเหวี่ยงเธอลงกระแทกพื้น นั่งคร่อมและต่อยเธออีกสองสามหมัด
มัดนางเด็กผีนี่ไว้! เขาตะโกนสั่งพลางลุกขึ้นยืน แล้วถ่มน้ำลายใส่หน้าเธอ ตอนนี้เราต้องช่วยซิสเตอร์เดซี่ก่อน
คริสต์สะอึกสะอื้นและพยายามจะลุกนั่ง แต่พวกชาวบ้านกลุ้มรุมเข้ามาช่วยกันจับเธอมัด ระหว่างที่ดิ้นรนขัดขืน คริสต์ก็พบว่าเสื้อผ้ากับมือของเธอเต็มไปด้วยเลือด
นางปิศาจ คำกล่าวหาดังขึ้นและตามด้วยฝ่ามือหนักๆ ของผู้หญิงคนหนึ่ง ใบหน้าของคริสต์สะบัดไปตามแรงตบ กระนั้น เธอกลับไม่รู้สึกเจ็บ ลูกสาวของฉันอุตส่าห์เป็นเพื่อนกับแก ทั้งที่ฉันห้ามแล้ว
คุณนายกรีน คริสต์ครางแผ่ว และอีกฉาดก็ตามมาติดๆ พวกชาวบ้านผู้หญิงรีบกรูกันเข้ามาจับตัวมารดาของซาร่า หล่อนตะโกนด่าทอคริสต์อย่างกราดเกรี้ยว
อีผีร้าย อีฆาตกร! ฉันน่าจะยอมให้ซิสเตอร์เดซี่ฆ่าแกตั้งแต่สามปีก่อนแล้ว ถ้ารู้ว่าแกจะเนรคุณและฆ่าลูกสาวของฉันอย่างนี้ ฉันจะไม่ห้ามเลย!
คริสต์ตัวแข็งทื่อ มองชาวบ้านช่วยกันลากตัวมิสซิสกรีนที่ดิ้นรนพร้อมกับร้องเอะอะโวยวายไปทางลานโล่งด้านหนึ่ง ผ่านเจมม่าและอิลอยซาซึ่งจ้องเธอเป๋งด้วยสายตาขยะแขยงเหมือนมองสิ่งปฏิกูลก็ไม่ปาน ขณะที่นางเฮเธอร์ มารดาของอิลอยซาก้มลงกระซิบกระซาบอะไรบางอย่างกับลูกสาว ก่อนจะพาเด็กสาวทั้งสองออกจากกลุ่ม
แล้วเสียงคำรามของสัตว์ป่าก็ดังขึ้น
คริสต์มองผ่านม่านน้ำตาเห็นเสือดำร่างมหึมาตัวหนึ่งยืนจังก้าอยู่ทางด้านหลังของโบสถ์ติดกับทางเข้าหมู่บ้าน ในปากของมันมีอะไรบางอย่างส่องประกายแวววาวสะท้อนกับแสงอาทิตย์ยามเช้า เมื่อมันวิ่งตะบึงมาหาเธอ พวกชาวบ้านก็พากันกรีดร้องและวิ่งหนีกระเจิงกันไปคนละทิศละทาง เสือดำหยุดอยู่ตรงหน้าเด็กสาวและกลายร่างเป็นชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว เขาหยิบมีดที่อยู่ในปากตัดเชือกให้ จากนั้นก็ช้อนตัวเธอไว้ในวงแขนแล้ววิ่งออกจากหมู่บ้าน
ชั่วขณะหนึ่งทีเดียวกว่าที่ใครหลายคนจะหายตกใจกับภาพของเสือที่กลายร่างเป็นมนุษย์ จอห์น โบการ์ดละมือจากการดึงหมุดไม้ออกจากมือของซิสเตอร์เดซี่แล้วตะโกนก้อง อีวาน รวบรวมผู้ชายที่แข็งแรงทุกคนในหมู่บ้านแล้วตามฉันมา เอาอาวุธไปด้วย เราต้องไปฆ่าปิศาจสองตัวนั้น!
เดี๋ยวสิ จอห์น พวกมันเป็นปิศาจนะ อีวานเตือน ถ้าไม่มีเวทมนตร์ของซิสเตอร์เดซี่ พวกเราก็ไม่ชนะหรอก ออกไปล่าพวกมันตอนนี้ก็เท่ากับเอาชีวิตไปทิ้งเปล่าๆ
แต่ดูที่มันทำสิ! มันฆ่าลูกสาวคนโตของแม่ม่ายกรีน แล้วยังจะ... เขาชะงักพร้อมกับขมวดคิ้ว ก่อนเหลียวหลังมองผู้หญิงที่อยู่บนไม้กางเขน อีวานถอนหายใจด้วยท่าทางเบื่อหน่าย โคลงศีรษะ แล้วเดินผ่านจอห์นไปช่วยพวกชาวบ้านแก้เชือกให้ซิสเตอร์เดซี่
คิดหน่อยเถอะจอห์น ขนาดซิสเตอร์เดซี่ยังบาดเจ็บสาหัส แล้วอย่างพวกเราจะเอาอะไรไปสู้
จอห์นกอดอก ขยับปากอย่างไม่เห็นด้วยแต่ไม่พูดอะไร จากนั้นเขาลดมือลงและเดินไปช่วยอีวานแกะเชือกให้ซิสเตอร์เดซี่จนกระทั่งเสร็จสิ้น
เสียงอึงอลดังขึ้นอีกครั้ง
ชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงทางออกของหมู่บ้าน แสงอาทิตย์ที่ส่องจากทางด้านหลังของเขาทำให้เห็นหน้าไม่ชัดเจนนัก จอห์นละมือและเกร็งตัวเพื่อเตรียมจู่โจมผู้บุกรุก แต่เมื่อชายคนนั้นเดินโซซัดโซเซเข้ามาใกล้พอจนเห็นใบหน้าของเขา จอห์นก็คลายความระแวดระวังลง
บิลลี่ ไปบอกเดนให้เอาน้ำราดหัวให้สร่างเมาแล้วมาช่วยทางนี้หน่อย เราต้องการคนขุดดิน
บิลลี่ยักไหล่แล้ววิ่งไปหาเดน ยิ้มพร้อมกับชกบ่าเขา นายหายหัวไปไหนมาวะ
เดนไม่ตอบ ตาของเขาเลื่อนลอยดูไร้แวว ตอนนั้นเองที่บิลลี่สังเกตเห็นว่ามือของเดนแนบอยู่ข้างลำคอ และสิ่งที่แห้งเกรอะกรังเป็นก้อนสีแดงคล้ำ ติดอยู่ใต้ฝ่ามือของเขานั่นคือเลือดใช่หรือไม่
เวรเอ๊ย บิลลี่สบถแล้วตะโกน จอห์น เดนบาดเจ็บ!
บัดซบ นี่มันวันนรกแตกอะไรกันวะ! จอห์นโวยวายอย่างหงุดหงิด แล้วเรียกชายคนหนึ่งมาช่วยแบกซิสเตอร์เดซี่ไปยังบ้านพักของพวกแม่ชีแทนเขา จากนั้นก็วิ่งไปหาเดน
ปล่อยมือไอ้น้องชาย ให้ฉันดูแผลของนาย
เดนยังยืนเฉย จอห์นเริ่มโมโห เดน แกจะปล่อยมือเองหรือจะให้ฉันช่วยสงเคราะห์ให้แกไปที่ชอบๆ เร็วขึ้นวะ!
ในที่สุดเดนก็เริ่มขยับ จอห์นถอนหายใจและก้าวเข้าไปยืนชิดเขาเพื่อช่วยดึงมือออกจากลำคอ ทว่าส่วนที่เดนขยับนั้นไม่ใช่ร่างกาย แต่เป็นกล้ามเนื้อทุกสัดส่วน มันนูนโป่งแล้วยุบลง และนูนขึ้นมาอีกเหมือนมีสิ่งมีชีวิตอยู่ใต้ผิวหนังของเดน
นี่มันอะไรกันวะ บิลลี่พึมพำ ทันใดนั้นร่างของเดนก็ระเบิดออก เลือด ชิ้นเนื้อและเครื่องในกระจายไปทั่ว เปรอะเปื้อนผู้คนที่อยู่ในบริเวณลานโล่งแทบทุกคน พวกผู้หญิงร้องกรี๊ด ขณะที่พวกผู้ชายสบถด่ายาวเหยียด จอห์นปาดเลือดออกจากใบหน้าแล้วเตะชิ้นส่วนเครื่องในของเดนกระเด็นไปไกลด้วยความโมโห
มันถูกพวกปิศาจฆ่าตายนานแล้ว ไอ้บ้าเอ๊ย!
บิลลี่ตั้งท่าจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายเขาก็หุบปากและเปลี่ยนเรื่อง แล้วพวกเราจะทำยังไงกันดี
ฝังไม่ได้แล้ว เราไม่รู้ว่าพวกปิศาจทำอะไรกับศพของซาร่าบ้าง จอห์นเกาคางอย่างครุ่นคิด บิล บอกพวกชาวบ้านให้รวบรวมฟืนกับไม้แห้งมา เราจะเผาศพของซาร่าและเดนที่นี่แหละ
จากนั้นเขาชะงัก เหลียวไปมองชายสี่คนที่กำลังช่วยกันหามซิสเตอร์เดซี่ซึ่งนอนอยู่ในเปลชั่วคราวไปทางบ้านพักของพวกแม่ชีแล้วร้องเรียก เดี๋ยว อีวาน พาซิสเตอร์มานี่
ชายทั้งสี่มองหน้ากัน แต่ก็ทำตามคำสั่งของจอห์น พวกเขาหามซิสเตอร์กลับมา อีวานถาม มีอะไร จอห์น
ไม่ต้องตามหมอแล้ว เขาพูดพลางมองผู้หญิงร่างเล็กที่นอนนิ่งอยู่ในชุดแม่ชี มองปากอันซีดเขียวและคางที่เต็มไปด้วยเลือดแห้งกรัง หล่อนเสียเลือดมากจนไม่น่าจะมีชีวิตอยู่อีกแล้วใช่หรือไม่
เราจะเผาซิสเตอร์เดซี่ไปพร้อมกับซาร่าและเดน
*****
วาเลนหยุดตรงปากทางเข้าหมู่บ้านฝั่งตรงข้ามกับทางไปป่าเบอร์รี่ครู่หนึ่งเพื่อหยิบกระเป๋าที่ตนนำมาซ่อนไว้แล้วออกเดินทางต่อ คริสต์ยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุดขณะที่เขาพาเธอมาถึงลำธารไม่ห่างจากหมู่บ้านกรีนเลคนัก ชายหนุ่มเลือกต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่มีพุ่มไม้ล้อมรอบเหมือนจุดกำบัง วางเธอลงก่อนหันไปรื้อข้าวของ หยิบเสื้อผ้าและสบู่ออกจากกระเป๋าโดยไม่ชำเลืองมองเธอแม้แต่น้อย
ผมจะไปอาบน้ำ คุณก็ควรเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยนะ ในนั้นมีชุดของผู้หญิงที่ผมบังเอิญเจอในบ้านหลังหนึ่ง
คริสต์พยักหน้าพร้อมกับใช้หลังมือเช็ดน้ำตา ทำให้ใบหน้าของเธอสกปรกด้วยฝ่ามือที่มีทั้งคราบดินและเลือดแห้ง วาเลนถอนหายใจพลางโคลงศีรษะ เขาไม่มีเวลามาโอ๋ลูกไลเกอร์ขี้แย เนื้อตรงไหล่ของเขายังเปิดอ้า แม้จะทำความสะอาดเบื้องต้นแล้วแต่ก็ยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เพราะเขาไม่ได้อาบน้ำมาร่วมสิบปีแล้ว
หรือคุณจะอาบน้ำล่ะ แต่ต้องรอผมอาบเสร็จก่อนนะ หรือถ้าไม่อยากรอก็อาบพร้อมกันก็ได้ ผมไม่ถือหรอก
คริสต์พยักหน้าอีก แต่แล้วเธอก็ส่ายศีรษะอย่างแรง เสียงสะอึกสะอื้นแหบแห้งของเธอแว่วมา อาบก่อนเถอะค่ะ
รออยู่นี่นะ วาเลนรวบเสื้อผ้าพร้อมกับมีด ลุกขึ้นยืนและมุ่งตรงไปยังลำธาร เสียงจ๋อมแจ๋มของน้ำบอกให้รู้ว่าเขาอยู่ไม่ห่างจากเธอมากนัก
และเขาไม่สนใจด้วยว่าคริสต์จะเห็นเขาเปลือยหรือไม่
แต่เด็กสาวสับสนเกินกว่าจะใส่ใจ เธอชันเข่าขึ้นก่อนซบหน้าลงสะอื้นไห้ รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบถล่มลงมาต่อหน้าต่อตา เพื่อนรักของเธอตาย ผู้มีพระคุณของเธอบาดเจ็บสาหัสและยังไม่รู้ชะตากรรม หนำซ้ำเธอยังถูกพวกชาวบ้านกล่าวหาว่าเป็นผีร้าย เป็นปิศาจ เป็นฆาตกร
โอ พระเจ้าทรงโปรดเธอด้วยเถิด นั่นคือความจริง
คริสต์ยังจำความรู้สึกกระหายเลือดได้ดีในตอนที่เธอเผชิญหน้ากับแม่มดอัปลักษณ์คนนั้น วินาทีที่เธอเห็นซาร่าถูกแทงและกรีดช่องท้อง เธอไม่ต้องการอะไรมากไปกว่ากระทำแบบเดียวกันนั้นกับหล่อน อาจอำมหิตกว่าด้วยซ้ำ คริสต์ต้องการฉีกหล่อนเป็นชิ้นๆ ด้วยมือเปล่า ให้หล่อนดิ้นทุรนทุรายขอความเมตตาขณะที่ถูกควักเครื่องใน และ... โอ สวรรค์ทรงช่วยด้วย เธออยากลิ้มรสเลือดสดๆ ของนางแม่มดร้ายนั่น
เด็กสาวตัวสั่นด้วยความกลัว สองมือยกขึ้นจับใบหน้าของตนอย่างเผลอไผล ตอนนี้ร่างกายของเธอเปลี่ยนแปลงไปแล้วใช่ไหม ดวงตาเปลี่ยนสีไปหรือไม่ ความคิดนั้นทำให้เธอเบิกตากว้าง ก่อนจะล้มลุกคลุกคลานไปที่ลำธาร แล้วพยายามเพ่งมองเงาของตนในน้ำที่ไหวกระเพื่อม
ใบหน้าของเธอสกปรก แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือประกายแฉกสีเขียวอมเหลืองใกล้กับลูกตาดำซึ่งในยามปกติต้องสังเกตอย่างใกล้ชิดเท่านั้นจึงจะมองเห็น บัดนี้มันเด่นชัดและส่องแสงสว่างเรืองรองจนแทบกลืนสีสันส่วนใหญ่ของดวงตา
คริสต์ตกตะลึงตัวแข็งก่อนจะกรีดร้อง และวิดน้ำล้างหน้าตัวเองอย่างบ้าคลั่งเมื่อตั้งสติได้ แต่พอเห็นว่าสีของดวงตายังคงไม่เปลี่ยนแปลง เธอก็กระโจนลงไปในลำธาร กดตัวเองให้จมน้ำเนิ่นนานที่สุดแล้วลุกขึ้นยืน พยายามสำรวจเงาตัวเองในน้ำที่ไหวกระเพื่อมเหมือนคลื่นทะเลขนาดย่อมอีกครั้ง
ทำบ้าอะไรอยู่
เสียงของวาเลนดังอยู่เหนือศีรษะของเธอนี่เอง คริสต์แหงนคอมองและเกือบหลงลืมตนไปกับใบหน้าคมสันที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะมีได้ ผมสีดำของเขายังยาวมากแต่หนวดเคราหายไปหมดแล้ว และดวงตาสีทองงดงามคู่นั้นก็แสดงความหงุดหงิดเล็กน้อยขณะจ้องตาเธอ ทว่าคริสต์ตะลึงลานเกินกว่าจะใส่ใจหรือหยุดความสนใจแค่ที่ดวงตาของเขา ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เธอเคลื่อนสายตาลงต่ำมายังลำคอและฐานไหล่กว้าง ช่วงอกผิวสีน้ำตาลทองที่หนั่นแน่นเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อสมชายชาตรี หากก่อนจะได้ก้มลงมองลึกไปกว่านั้น วาเลนก็ใช้นิ้วชี้ดันคางของเธอให้แหงนเงยขึ้น
จากคุณ |
:
g_maru
|
เขียนเมื่อ |
:
18 มิ.ย. 54 09:12:36
|
|
|
|