ตอนที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10698426/W10698426.html ตอนที่ 2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10699379/W10699379.html
- 3 -
ภายในห้องคับแคบเต็มไปด้วยตำราเก่ากองพะเนิน บางเล่มยังคงสภาพดี แต่ส่วนใหญ่ราวกับวัตถุคู่โลก เนื้อกระดาษสีน้ำตาลลอกล่อนตามกาลเวลา มีทั้งเล่มใหญ่ต่างหมอน บางตำราเป็นเพียงแผ่นกระดาษไร้ร่องรอยตัดเย็บ ห้องของทีเฟลมีชั้นไม้อัดแน่นด้วยตำรายาและศาสตร์แขนงอื่นทางการแพทย์ บนพื้นใกล้ประตูเป็นกองกระดาษร่างภาพสมุนไพรและหนังสือประเภทพฤษศาสตร์อีกหลายเล่ม รวมถึงภาพร่างทางกายภาพ โครงกระดูกและอวัยวะของมนุษย์ ตำรามากมายเหล่านี้ทำให้นึกถึงห้องเก็บรวบรวมเอกสารหรืออะไรเทือกนั้นมากกว่าจะมาเป็นห้องนอนของเด็กผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่ง
ที่มุมห้องมีกองผ้าพับไว้เรียบร้อยใช้สำหรับปูนอน ไม่มีของตกแต่งอะไรอื่นนอกจากพรมผืนใหญ่ไร้ลวดลายที่กลางห้อง เด็กชายรู้ดีว่าใต้พรมผืนนั้นซ่อนวงแหวนแปรธาตุเขียนขึ้นจากแร่ป่นละเอียดร่วมกับเลือดผู้ประกอบพิธีเป็นสื่อนำพลังเอาไว้
วิธีการต่างๆ เด็กชายได้รับมาจากพ่อแทบทั้งหมด หลังจากไปพบสมุดบันทึกของพ่อ และได้รู้ความลับหลายอย่างรวมถึงเรื่องที่พ่อของเขาเคยเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุมาก่อนที่จะเป็นบาทหลวง แล้วผันตัวเป็นแพทย์สมุนไพรดั่งปัจจุบัน
แน่นอนว่าเขาไม่ได้ศึกษาเรื่องเหล่านี้อย่างไร้จุดหมาย เขามีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่พอจะกระทำเรื่องอันตรายเช่นนี้ได้ แต่เดิมศาสตร์แห่งการเล่นแร่แปรธาตุมีไว้เพื่อฟื้นคืนอยู่แล้ว หากเขาจะนำชีวิตหนึ่งกลับมาจากความว่างเปล่าคงไม่ใช่เรื่องผิด
เป้าหมายของเขาคือ การฟื้นคืนชีวิตแม่...
แม่เป็นคนแบบไหน หน้าตาอย่างไร เป็นคนดีรึเปล่า เขาไม่เคยรู้ เพราะพ่อไม่ยอมบอกเขาเลย ครั้งจะถามก็กลัวไม่ได้คำตอบ ที่รู้คือแม่ตายหลังคลอดเขาได้ไม่นาน เขาคิดว่าแม่ต้องเป็นคนสวยมากแน่ๆ เพราะพ่อไม่เคยมองหญิงใดเลยและไม่คิดจะหาแม่ใหม่ให้
ทีเฟลจมกับความคิดตัวเองจนกระทั่งรู้สึกตัวเมื่อเห็นฟ้าภายนอกมืดลง เด็กชายเคลื่อนกายในความมืดอาศัยความคุ้นชินจุดไฟ
เขาวางตะเกียงที่เพิ่งจุดลงข้างพรมบนพื้น เพียงแสงจากเปลวไฟของตะเกียงดวงเล็กก็สามารถทำให้ทั่วทั้งห้องสว่างขึ้นมาได้ ทีเฟลยกกรงซึ่งมีกระต่ายป่าอยู่ภายในออกมาจากที่ซ่อน กรงเหล็กรองด้วยผ้าหนาเพื่อไม่ให้เจ้ากระต่ายถูกกรงบาด มันมีขนสีขาวนุ่มนิ่ม ขนาดตัวเท่าฝ่ามือถือได้ว่ายังเป็นลูกกระต่าย ดวงตาของมันที่จ้องมองเขาเป็นดวงตาสีดำกลมโตราวกับลูกแก้ว ในตอนแรกที่พามามันแทบไม่ยอมขยับตัวเมื่อเขาเปิดกรงให้เพื่อขอดูบาดแผลตรงขาหรือเวลาให้อาหาร ตอนนี้ก็ผ่านมาสามวันแล้วมันถึงกับยอมกินอาหารในมือ
“ถึงเวลาที่ฉันต้องใช้แกแล้ว”
พรึบ!
ทีเฟลสะบัดพรมบนพื้น เผยวงแหวนสีขาวขนาดใหญ่ที่หน้าดินประกอบด้วยสัญลักษณ์และอักขระตรงตามแบบแผนการเล่นแร่แปรธาตุ เขานำกระต่ายออกจากกรง แล้ววางลงบนจุดกึ่งกลาง เพราะบาดแผลที่ขาทำให้มันไม่สามารถขยับออกจากวงนี้ได้
เด็กชายทำการตวงสารที่เตรียมไว้ พร้อมกับราดลงบนตัวกระต่าย ทันใดนั้นเองวงแหวนแปรธาตุเรืองแสงขึ้น เขามองด้วยดวงตาเป็นประกาย รอยยิ้มปรากฏบนริมฝีปากอย่างพึงพอใจ
“ขั้นสุดท้าย...” เด็กชายหยิบขวดแก้วมาไว้ในมือ ภายในคือของเหลวสีแดงข้นคลั่ก เขาเปิดจุกไม้ออก “โลหิตผู้วายชนม์”
เขาเทของเหลวภายในลงบนตัวกระต่ายทั้งหมด เปลี่ยนสีขนขาวพิสุทธิ์เป็นสีแดงก่ำของเลือด!
วงแหวนเรืองแสงจนแสบตาเมื่อครู่พลันดับวูบลง พร้อมกับฉีกกระชากร่างกระต่ายกระจายเต็มห้อง เลือดสาดกระเซ็นมาถูกใบหน้าของทีเฟล ส่งกลิ่นคาวคลุ้งน่าสะอิดสะเอียน ตามปกติคงหวีดร้องลั่นเพราะความรังเกียจ แต่ในตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์นั้น
ทีเฟลตาค้างกับภาพเบื้องหน้า ที่ถูกต้องคือกระต่ายไร้ซึ่งบาดแผล ไม่ใช่ซากกระต่าย เขาตั้งใจจะรักษามัน ไม่ใช่ทำให้มันตาย สีหน้าเด็กชายในเวลานี้เต็มไปด้วยความงุนงง ระคนสับสน “ทำไมล่ะ...”
“เพราะมันเกินกำลังเจ้าน่ะสิ เจ้าลูกบ้า” เสียงนี้แทรกขึ้นภายหลัง เด็กชายสะดุ้งสุดตัวเพราะความตกใจ หันขวับตามเสียง เขาตระหนกระคนตกตะลึงเมื่อพบพ่อยืนอยู่ไม่ไกล หากคุมน้ำเสียงไม่ให้รู้ว่าหวาดหวั่น
“ข้า ข้าแค่อยากรักษามัน ไม่คิดว่า...”
“ไม่ ลูกเพียงอยากลองวิชา จริงไหมเล่า” น้ำเสียงบิดายังอ่อนโยนเหมือนเวลาท่องบทสวด ไม่มีทีท่าตำหนิ
ทีเฟลไม่ตอบ
“ช่างเถอะ” คารอสตัดบท ไม่คาดคั้นเอาความเนื่องจากรู้ดีอยู่แก่ใจ คารอสอายุย่างเข้าห้าสิบ แต่รูปลักษณ์ภายนอกกลับอ่อนกว่าอายุจริงสักยี่สิบอย่างเหลือเชื่อ ทำให้เรียกว่าชายหนุ่มได้อย่างไม่กระดากปาก ชายหนุ่มนำสารเคมีที่ลูกชายเคยใช้ในครั้งแรกมาตวงใหม่ เพิ่มส่วนประกอบอย่างอื่นเข้าไปอีกมาก จนดูซับซ้อนต่างจากที่ทีเฟลทำไว้ แล้วถือมาหยุดยืนหน้าวงแหวนแปรธาตุแทนที่เจ้าของพิธีซึ่งบัดนี้หลีกหนีไปยืนด้านข้าง
คารอสเทสารลงบนซากกระต่าย ขณะเดียวกันก็ยกอีกมือขึ้นมากัดนิ้ว หลังเทสาร ชายหนุ่มได้ยื่นนิ้วที่กัดจนเลือดชุ่มออกไป ทันทีที่หยดเลือดเพียงหยดเดียวตกลงกระทบขนเปียกชื้นของซากกระต่าย วงแหวนพลันเปล่งแสงสีขาวสว่างวาบไปทั่วห้อง ทีเฟลจ้องมองราวกับตกอยู่ใต้มนต์สะกด
เหมือนเวลาไหลย้อนกลับ เศษซากเมื่อครู่ค่อยๆ ขยับซับสารเคมีและเลือดไปจนหมด แสงสว่างจากวงพิธีดับลงแทนที่ด้วยกระต่ายตัวเดิม มันกระโดดเข้าหาทีเฟลเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“คืนนี้ดึกแล้ว ไปนอนเถิด” คารอสกล่าว
“เมื่อครู่ พ่อทำได้อย่างไร” ทีเฟลโพล่งขึ้นหลังจับกระต่ายใส่กรง โทสะไร้ที่มาพลุ่งพล่านในใจ
“การคืนชีพพร้อมรักษากายหยาบเป็นส่วนหนึ่งของศาสตร์การเล่นแร่แปรธาตุ” คารอสหันกลับมาพูดกับลูกชาย “ถ้าลูกอ่านบันทึกนั่น คงรู้เรื่องที่พ่อเข้าใกล้ความเป็นอมตะ แต่ทีฟ ไม่มีอะไรที่เราจะได้มาอย่างง่ายดาย เมื่อลูกต้องการสิ่งใด ก็จำเป็นต้องจ่ายเทียบเท่าสิ่งนั้น มันทำให้ลูกมีความต้องการไม่สิ้นสุด...”
“ในเมื่อทำได้ถึงขนาดนั้น แล้วทำไมไม่คืนชีวิตให้กับแม่ !” โทสะอัดอั้นพรั่งพรูเป็นคำพูด เสียงตะคอกดังก้องจนเด็กชายเองยังหูอื้อ
“มีแต่เรื่องนั้นที่พ่อทำไม่ได้” คารอสตอบเสียงแผ่ว ทีเฟลได้ยินชัดทุกถ้อยคำ แต่ไม่เข้าใจ
“ว่าไงนะ”
“สักวันลูกจะได้รับรู้ความจริง แต่ไม่ใช่ตอนนี้...” คารอสเอ่ย พลางหันหลังให้แก่เด็กชาย “ส่วนจะเข้าใจหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับตัวลูกเอง”
ผู้เป็นพ่อเดินออกจากห้องไป ทิ้งปริศนาไว้ให้ลูกชายจมลงสู่หลุมมืดที่เรียกว่าความคิด
- - - - - - ขอหยุดลงไว้แค่นี้นะคะ เผอิญว่าไม่คุ้นกับการเล่นในพันทิพย์น่ะค่ะ ใครอยากติดตามต่อ ไปตามลิ้งค์นะคะ http://writer.dek-d.com/silent_salva/writer/view.php?id=716055
แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 54 14:51:23
จากคุณ |
:
ไซเลนท
|
เขียนเมื่อ |
:
18 มิ.ย. 54 14:49:35
|
|
|
|