กลุ่มเมฆสีขาวล่องลอยบนท้องฟ้าสีครามที่ปรากฏนอกหน้าต่าง เบื้องหลังโต๊ะสีน้ำตาลหน้าห้องรอตรวจ เป็นสิ่งเดียวที่เรียกสายตาปรายให้หยุดตรึงอยู่แทนการต้องคอยหลบหน้าผู้คนที่นั่งรออยู่ในห้องนั้นเพื่อรอพบหมอคนเดียวกันกับเขา ซึ่งส่วนใหญ่มองมาทางเขาอย่างสงสัยใคร่รู้
ผู้คนเค้าให้อภัยลูกแล้วล่ะจ้ะ เพียงแต่... เขายังไม่ลืมเท่านั้นเอง ถ้อยคำปลอบใจของแม่ยังก้องอยู่ในหัว แต่เขารู้ดี แม่ทำใจเรื่องนี้ได้น้อยกว่าลูกชาย เพราะตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลไป หมอนัดตรวจทุกสัปดาห์ และก็ค่อยๆ เว้นว่างห่างขึ้น มาตรวจตามนัดครั้งหลังๆ นางก็ไม่ค่อยอยากพามาเอง นางทนไม่ได้กับสายตาตำหนิ
ไป ไอ้เสือน้อย หมอเรียกแล้ว ปริญญ์ฉุดแขนปรายให้ลุกขึ้น
สองพี่น้องเดินตามหลังพ่อเข้าห้องตรวจ ปรายขึ้นไปนอนบนเตียงให้หมอตรวจโน่นตรวจนี่ รอฟังคำถามง่ายๆ จากหมอ เพื่อทดสอบความทรงจำและอาจรวมไปถึงสติปัญญาว่ายังปกติ
ปกติดี หมอยิ้มให้พ่อ แต่ปรายท้วงขึ้นอย่างไม่อย่างไม่แน่ใจ
แต่ผมรู้สึกว่า... ผมลืมครับคุณหมอ พอพยายามนึกก็... ปวดหัว และบางทีก็เหมือนคิดอะไรไม่ออก
แล้วลืมอะไรกันแน่ ปริญญ์ถามขึ้นทันควัน ปรายส่ายหน้าเซ็งๆ แทนคำตอบ กลับเป็นหมอที่เอ่ยขึ้นมา
ถ้าคุณปรายจำได้ว่าลืมอะไร เราคงไม่เรียกว่าลืมมั้งครับคุณปริญญ์ แล้วหมอก็อธิบายต่ออย่างเห็นใจคนไข้ คนที่สมองกระทบกระเทือน และยังป่วยหมดสติไปนานๆ ก็ต้องมีหลงลืมบ้างละครับ บางรายอาจมีผลรุนแรงขนาดชักหรือความจำเสื่อมถาวร ร่างกายเป็นอัมพาต แต่อย่างคุณปรายนี่ถือว่าโชคดีมากที่จำได้ขนาดนี้ อีกสักพักทุกอย่างจะดีขึ้นแน่นอนครับ ทำใจให้สบาย
เฮ่อ แกก็ดูปกตินี่ จะลืมอะไรอีก เสียงพ่อบ่นขึ้นทำให้ปรายหุบปาก ละความคิดที่จะบอกหมอว่าปวดศีรษะทุกครั้งที่รู้สึกว่าตัวเองลืม ได้แต่ฟังหมอคุยเรื่องยาและกายภาพบำบัดครั้งต่อไป เมื่อทั้งสามคนออกจากห้องตรวจ พ่อก็ขอตัวไปทำงาน ไม่ยอมฟังเสียงปริญญ์อ้อนวอนให้ไปเป็นเพื่อนเพื่อแจกการ์ดแต่งงาน คล้อยหลังพ่อ พี่ชายจึงมองน้องชายอย่างมีความหวัง
แต่น้องชายเกาศีรษะแกรกๆ
พี่อย่าจูงน้องชายเพิ่งหัดเดินเตาะแตะไปแจกการ์ดเลย อายเค้า
ไปคนเดียวก็อายว่ะ แก้มนะแก้ม... ทำกันได้ พวกพ้องตัวเองทั้งนั้นดันมาบังคับให้เราเป็นคนแจก ปริญญ์บ่นทั้งหน้าแดง เออ นายก็นั่งรออยู่นี้นะไอ้น้องชายตัวน้อย อย่าไปไหน เดี๋ยวล้มหัวคะมำ
ล้มได้ไง นี่มีไม้กายสิทธิ์ ปรายชูไม้เท้าขึ้นอวดพี่ชายที่ห่วงเขาเหมือนห่วงเด็ก พี่เอากุญแจรถมา เดี๋ยวผมไปนั่งรอในรถ ยืนอยู่นี่อายพยาบาล
เค้าจ้องเพราะอยากตามไปดูแลนายถึงบ้านมั้ง ! ท่าจะสมองพังแล้วจริง อายผู้หญิงก็เป็นด้วย !?
ไม่อายได้ไงล่ะพี่ บางคนนี่อาจเคยเช็ดก้นให้ผมหรือไม่ก็เห็นตับไตไส้พุงผมหมดแล้ว
ปรายบ่นปอดแปดพอๆ กับพี่ชายเมื่อครู่ รับกุญแจรถแล้วเขยกเดิน อึดอัดไม่น้อยเมื่อคิดว่าต้องหนีบไม้เท้านี้ไปอีกเป็นเดือนๆ แต่ยังนับว่าดีกว่านั่งอยู่บ้านให้แม่เช็ดปาก หรือคอยจูงแขนเข้าห้องน้ำ เขาถือโอกาสเดินอ้อมไปทางสวนหย่อมหน้าโรงพยาบาลแทนการเดินตรงไปยังลานจอดรถทันที ครู่เดียวก็เดินถึงสวนหย่อม เขาหยุดพักจ้องมองไปยังกลุ่มพนักงานเปลที่กำลังช่วยขนย้ายผู้ป่วยขาเลือดโชกลงจากแท็กซี่ที่เพิ่งเลี้ยวเข้ามา
เฮ่อ... ยังกะมองภาพตัวเองในอดีต แต่เขาคลับคล้ายไม่แน่ใจตัวเองมาถึงที่นี่ด้วยรถพยาบาลหรือแท็กซี่กันแน่ เขาละสายตาจากภาพกลุ่มคนพร้อมภาวนาไม่ให้มีใครบาดเจ็บหนัก แล้วเขยกเดินอ้อมไปยังลานจอดรถ แดดร้อนขึ้นทุกที... แต่เสียงสิ่งมีชีวิตแว่วมาเบาๆ ทำให้เขาหันซ้ายหันขวา
เฮ้ย... เสียงแมวนี่ ปรายพิงไม้เท้าไว้กับต้นไม้แล้วย่อตัวลงมองไปใต้ถุนบันไดหนีไฟ จึงเห็นที่มาเจ้าของเสียงซึ่งนอนขดตัวอยู่บนห่อผ้าสีเขียวๆ ดวงตามันสีเขียว ขนสีดำสนิท เขาเคากางอย่างนึกห่วงมัน เขตโรงพยาบาลห้ามมีสัตว์เลี้ยง เขาเกรงว่าจะมีใครมาไล่แมวตัวนี้ไป
หาอะไรเหรอครับคุณ เสียงทักอย่างสุภาพ ทำให้ปรายหันขวับไป จึงเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล
นี่แมวใครน่ะ ปรายเอื้อมมือไปแตะแมวนั่นเบาๆ กลิ่นมันไม่สะอาดนัก แต่ความนุ่มนวลของขนแมวหรืออะไรก็ไม่ทราบได้ทำให้เขาไม่ปล่อยมือออกมาจากกองผ้านั้น ใคร... มาแอบเลี้ยงแมวไว้ ?
เอ่อ... เจ้าหน้าที่อึกอักอย่างไม่แน่ใจ แต่เมื่อจ้องหน้าหนุ่มรักแมวไปนานๆ เข้าก็ยิ้มออก คุณปรายนี่เอง หายดีแล้วเหรอครับ
ดีขึ้นแล้ว บอกมาเถอะน่า ว่านี่แมวใคร ไม่ฟ้องใครหรอก
แหะๆ ก็ไม่ทราบว่าแมวใครครับ... สักสองเดือนก่อนมีรถมาส่งคนไข้ แล้วแมวนี่วิ่งมาจากไหนไม่รู้ โดนชนโครมเข้าให้ พวกเรานึกว่าตายแล้ว จะเอาไปฝัง... แต่ก็อย่างที่เห็นครับ มันไม่ตาย...
ปรายยังสติดีพออย่างที่หมอบอกจริงๆ เพราะเขาดูออกว่าเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลนี่พูดความจริงไม่หมด
อ้าว แล้วทำไมไม่ประกาศหาเจ้าของ !?
แหะๆ ก็... นี่มันโรงพยาบาลครับ เกิดประกาศตามหาเจ้าของแมว ก็โดนด่ากันพอดี แล้ววันนั้นมีเรื่องนิดหน่อย เพราะคนไข้ในรถที่ชนแมวตัวนี้ก็เสียชีวิตพอดี คนแก่น่ะครับ อายุ 80 แล้ว
แล้ว... เจ้าของเค้าไม่ตามหารึเนี่ย
มีคนมาตามครับ แต่วันที่เขามาตามพวกผมไม่อยู่ จึงไม่มีใครรู้ว่าแมวอยู่นี่ ผมก็รอพบเจ้าของที่ว่า แต่เขาก็ไม่มาอีก ได้ข่าวว่าเจ้าของแมวมาคลอดลูกครับ สงสัยพอมีลูกก็ไม่อยากเลี้ยงแมว และ...อีกอย่าง พวกเรากลัวเจอถูกฟ้องร้อง ผมเลย... เจ้าหน้าที่หยุดเล่าเอาเฉยๆ กลับไปบ่นเรื่องพฤติกรรมแมวแทน ขณะเทนมสดใส่จานแบนๆ ให้มัน ตอนนั้นมันอ้วนเชียว แต่พอแผลหายที่ขาหาย มันก็ผอมลงๆ เอาแต่นอนเหมือนคนแก่
ขาหักรึ เจ็บมั้ยแก ปรายลูบรอยแผลเป็นมันเบาๆ อย่างเห็นใจ ก่อนอุ้มขึ้นมา มันคงไม่ชอบนมสด
อาหารเม็ดมันก็ไม่กิน ผมจะเอาไปเลี้ยงที่บ้านแต่เมียไม่ยอมครับ มันว่าแมวพิการไม่เป็นมงคล เจ้าหน้าที่บ่นเรื่อยเปื่อย แต่พอเห็นไม้เท้าคนอุ้มแมวก็หัวเราะแหะๆ ขอตัวไปทำงาน ก็สวนกลับปริญญ์ที่เดินมาเห็นน้องอุ้มแมวสกปรกอยู่พอดี
เฮ้ย !!! แมวใคร มีเชื้อโรคหรือเปล่า วางลงๆ
โอ้โห ดุยังกับดุเด็ก 5 ขวบ ปรายแบะปากใส่พี่ชาย แต่ตัวเองก็ทำหน้าไม่ต่างจากเด็ก 5 ขวบจริงๆ แมวตัวนี่น่าสงสาร เอาไปเลี้ยงดีมั้ยพี่ เจ้าของทำหายน่ะ และคงไม่อยากได้แล้ว เพราะเขามีลูก
แน่ะ... เจอแมวจรจัดก็จะเอาไปเลี้ยง ปริญญ์ยกมืออุดจมูก แล้วคิดถึงแมวอีกสองตัวที่บ้าน มันจะเอาโรคอะไรไปติดไอ้สองตัวโน่นหรือเปล่า
น่า... เราเอามันไปหาหมอก่อน
เออๆ ตามใจโว้ย ปริญญ์มองห่อผ้าเก่าๆ นั้นแล้วยอมตามใจน้องชาย ทั้งคู่แวะพาแมวไปคลีนิครักษาสัตว์ เมื่อรู้ว่าเป็นแมวไม่มีเจ้าของ ทางคลีนิคจึงแนะนำให้ทิ้งไว้เพื่อตรวจดูอาการอื่นๆ ของแมว จนกว่าแน่ใจว่ามันปกติดีจึงจะโทรให้ไปรับแมววันหลัง
อยู่กับหมอก่อนนะ ปรายลูบคอแมวท่าทางเฉยชาตัวนั้น ก่อนถูกพี่ชายไล่ไปล้างมือเพื่อขึ้นรถกลับบ้าน
ถ้านายเปลี่ยนจากหนุมเพลย์บอยเป็นนักบุญเลี้ยงแมวจรจัด แม่คงปลื้มน่าดู ปริญญ์บ่นดักคอน้องชายไว้ก่อน เมื่อเห็นน้องชายยังมองกรงแมวอย่างเป็นห่วง ฮ่าๆ แต่เห็นแมวขนสีดำนี่แล้วคิดถึงเด็กเก่านายคนนั้นนะ ยายหนูน้อยคนนั้นเคยอุ้มแมวมาหาแกด้วย
เด็กผม !? ผมมีแฟนชอบแมวด้วยเหรอพี่ แฟนผมนี่บางคนชอบลูกหมา แต่ไม่มีใครชอบแมวสักคน ก้อยนี่กลัวแมวเลยล่ะ
ฮ่าๆ งั้นอาจเป็นเรื่องนี้ก็ได้ที่นายลืม ปริญญ์เปิดเพลงแล้วเล่าเรื่องเด็กชอบแมวต่อ พี่ก็ว่ายายหนูดาวนั่นไม่ใช่ฟงแฟนนายหรอกมั้ง คงแอบๆ คลั่งน่ะ มีแมวขนดำปี๋ชื่อดาวสอง เขารู้จักนายดีด้วย พี่ยังเคยจะถามนายตั้งหลายครั้งว่าไปทำอีท่าไหน ยายหนูนั่นถึงได้หลงเอาหัวปักหัวปำ
ดาว...? ปรายทวนคำแล้วปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด ดาวไหนกันพี่ ผมมีเพื่อนชื่อดาวหรือเดือนสักคน อยู่แคนาดา เคยรำลาวกระทบไม้คู่ผมตอนเรียนประถม ตัวใหญ่เท่าตึกได้ พี่ก็รู้จักนี่
คนละคนกันแน่ๆ นี่ไม่รู้จักกันจริงรึ ?
ปรายส่ายหน้ามั่นใจ เอ... รึใครเปลี่ยนชื่อ ? หน้าตาเป็นไงน่ะ
ก็ตัวเล็กๆ และก็... ปริญญ์พยายามนึกอีก แต่ก็เปลี่ยนใจ จำไม่ได้ก็ช่างเขาเถอะ ไม่ใช่แฟนก็แล้วไป พี่มั่นใจว่าเขาไม่ใช่สเป็คนาย และ... ที่สำคัญ ยายหนูน้อยมีครอบครัวไปแล้ว มีลูกด้วย
อ้าว แล้วไงกันแน่ ไหนพี่ว่าเขาหลงรักผมหัวปักหัวปำ !? ปรายเลิกคิ้วอย่างงงสุดขีด
ปริญญ์ก็อยากรู้เรื่องดาวจากน้องชายมานาน แต่ท่าทางปรายไม่รู้อะไรเกี่ยวกับดาวเลย ทำให้เขานึกเห็นใจเด็กสาวคนนั้นมากขึ้นจนไม่ค่อยอยากรู้อีก เฮ่อ ไว้ว่างๆ จะวาดภาพให้ดู แต่ให้ง่ายกว่านี่ก็ถามแม่หรือยายปริม
แม่กับปริมก็รู้จักเหรอ !?
อื้อ ก็เขามาเยี่ยมนาย เคยเจอแม่ เจอปริม ปริญญ์เห็นสีหน้าน้องแล้วนึกสงสารทั้งขบขันเต็มที อย่าคิ้วขมวดน่า มาฟังเพลงกันดีกว่า เพราะมั้ย
เพลงใครน่ะพี่ ปรายฟังเพลงแปลกๆ หูพวกนั้น
ลูกศิษย์สาขาดนตรี มันจบไปแล้วทำเพลงส่งมาให้ฟัง อ่อ... เพลงที่ 2 เพลงยายหนูดาวของนายนะ ฮ่าๆ
ปรายถึงกับหูผึ่ง ตั้งใจฟังเพลงที่ 2 เพลงรักเพลงแรก ...แล้วเขาก็คิ้วผูกโบว์อีก เฮ้ย ท่อนแรกนี่มันเพลงผม ผมร้องเพลงนี้ตอนอาบน้ำ แต่ทำนองมันแปลกๆ ไปนะ ! ทำไมมันก๊องแก๊ง ง้องแง้งอย่างนี้
อ่อ เพลงนี้ต้นฉบับมันอีกแบบหนึ่ง แต่เด็กๆ บอกว่ามันจืดไปเลยใส่ลูกเล่นเข้าไป พี่ก็ฟังแล้วหนวกหูเหมือนกันว่ะ ฮ่าๆ แต่ถ้านายคุ้นๆ เนื้อเพลง แสดงว่านายเคยไปอาบน้ำกับยายหนูดาวมาแล้ว
คำล้อของปริญญ์ทำเอาปรายฟังเพลงนั้นซ้ำไปซ้ำมา สี่ห้ารอบจนถึงบ้าน เขาจึงชักฉุกใจว่าเพลงนี้เกี่ยวกับเขา และเขาอาจรู้จักคนชื่อดาวอะไรนั่นก็ได้ เขาหยิบแผ่นซีดีเพลงนั้นติดมือมาด้วย แต่พอเข้าบ้านแม่ทราบเรื่องเขาอุ้มแมวจรจัดไปหาหมอ ก็เลยถูกไล่ไปอาบน้ำ ออกมาจากห้องน้ำอีกทีก็พบน้องสาวนอนพังพาบอยู่ข้างๆ แม่
พวกเขาคุยเรื่องผู้หญิงชื่อดาวกัน พี่ปรายจำพี่ดาวไม่ได้จริงเหรอ สวยเฉี่ยวสะเด็ดยาดแบบนั้น ลืมลงได้ไง
ปริมเริ่มซักไซร้ไล่เลียง แต่ปริญญ์ไม่เห็นด้วย เค้าก็น่ารักดี... แต่ในความคิดพี่ยังห่างคำว่าสวยเฉี่ยวมาก
นี่พี่ปริญญ์ว่าพี่ดาวไม่สวยเหรอ เขาเคยเป็นดาวมหาวิทยาลัยนะคะ หนูเห็นรูปเก่าๆ ที่มหาวิทยาลัย
ปริมเริ่มเถียงอย่างเข้าข้างรุ่นพี่ แม่จึงต้องช่วยสงบศึก แต่แม่เห็นด้วยกับพี่เรานะปริม หนูดาวเค้าตัวเล็กๆ หงิมๆ ผิวไม่ขาว ไม่ดำ สวยน่ารักก็พอได้ แต่ไม่สวยขนาดลูกว่าหรอกมั้ง
หา ? แม่ขา... ถ้าสูงหัวเกือบชนเพดานแบบพี่ดาวถูกเรียกว่าตัวเล็ก แล้วอย่างหนูไม่เป็นมดแคระเหรอคะ
เฮ้ย สูงขนาดนั้นเชียวรึ ปริญญ์ถึงกับอุทานด้วยความขบขัน
ค่ะ หนูกล้าสาบานว่าผู้หญิงที่เอาหมอนสีชมพูมาให้พี่ปรายสวยหุ่นดีขนาดเป็นนางแบบได้สบาย สวยแบบพี่ก้อยนั่นแหละ แต่มารยาทงามกว่ามาก ขี้อิจฉาอย่างหนูยังแอบนิยมเลยค่ะ
จ้ะๆ ปริญญ์หยุดคิดคำนวณอะไรในใจอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ยิ้มร่าท่ามกลางความงุนงงของปรายที่มองทุกคนไปมาด้วยสายตาปริบๆ ฮ่าๆ พี่ก็กล้าสาบานว่า เรากำลังพูดถึงดาวคนละดวงกันแน่ๆ เพราะคุณดาวเจ้าของแมวดำสูงแค่คอพี่ และตอนเจ้าปรายฟื้น เขาก็คลอดลูกพอดี จะมาสวยสง่าสูงโปร่งก่อนหน้านั้นไม่ได้หรอก
เอ่อ ...ตกลงมีดาว 2 คน ไปเยี่ยมผม คนหนึ่งสวยมาก คนหนึ่งท้อง !? ปรายพึมพำสรุป
ถ้าลืมได้ขนาดนี้ ก็อย่าไปรื้อฟื้นอะไรเลยลูก แม่ก็อยากขำแต่ขำไม่ออก แม่ทำสีหน้าอย่างที่พูดจริงๆ
ฮึ จะรื้อฟื้นกับใครก็ได้ แต่ห้ามคืนดีกับพี่ก้อยเด็ดขาด ! ปริมประกาศเสร็จก็นิ่วหน้า แต่พี่ดาวก็พูดทำนองว่าแกกับพี่ปรายไม่รู้จักกันแฮะ หนูว่าแกคงเคยรักพี่แล้วอกหักมังคะ แกตัดเล็บให้พี่ด้วย พอกลับไปก็ร้องไห้...
เอ่อ ปรายยกมือมาดูเล็บอย่างหวังจะนึกอะไรได้ แต่คิ้วเขาขมวดไปหลายรอบจนเมื่อยหน้าแล้วทำท่านับนิ้วจริงๆ จังๆ ผม...มั่นใจว่า ผมไม่รู้จักสักคนที่พูดมา แฟนผมที่เคยมี ชื่อ...
เอานิ้วเท้าพี่ชายไปช่วยนับมั้ยครับน้องชาย !? ปริญญ์ดัดเสียงอย่างจงใจ แล้วก้มลงพูดกรอกใส่หูปรายที่กำลังคิดหนัก แต่พี่ชายทึ่มๆ คนนี้แน่ใจว่า น้องชายอาจเคยแอ้มผู้หญิงชื่อดาวมาแล้วสองคน
ปรายจึงเลิกทวนชื่ออดีตคนรัก เสนวดขาข้างที่ยังมีปัญหาพร้อมหลบสายตาทุกคน แม้ปริมจะหัวเราะคิกๆ อย่างเด็กที่ยังไม่คิดอะไรมาก แต่แม่หน้าตาไม่ค่อยดีนัก นางไม่อยากพูดเรื่องทำนองนี้อีก มองไปข้างหน้าเถอะลูก อย่าย้อนคิดในสิ่งที่แก้ไม่ได้ ใครมีปัญหาอะไรหรืออยากให้เราช่วย เค้าคงมาปรากฏตัวเอง
ปรายรีบเขยิบไปกอดแม่ไว้ ผมขอโทษที่ทำให้แม่ไม่สบายใจฮะ ต่อไปผมไม่ทำแบบนั้นแล้ว
จ้ะ แม่เชื่อลูก นางกำชับเรื่องหยูกยาแล้วจะเดินจากห้องไปพร้อมลูกสาว จึงเหลือกันเพียงสองหนุ่ม ปริญญ์เลิกหมั่นไส้อดีตของน้องชายแล้วกลับมาหัวเราะสีหน้างุนงงเหมือนจะร้องไห้ของเจ้าตัวที่ยังบ่นไม่เลิก
ผมงงจังพี่ ก็ผมจำทุกอย่างได้ดี แล้วทำไมลืมเรื่องสองคนนี้สนิทใจ แล้วบังเอิญชื่อดาวเหมือนกัน ?
คงเพราะเขาไม่ใช่คนสำคัญ สองสาวนั่นอาจมาเยี่ยมนายเพราะเคยรักหรือรู้สึกดีและรู้จักตัวตนนายพอถึงยอมหายไปอีกครั้งเมื่อรู้ว่านายตื่นแล้ว... เขารู้ว่าการมาเยี่ยมแค่นั้นคงไม่ถึงกับทำให้นายเห็นค่าเขาละมั้ง
ปริญญ์คาดเดาเองทุกอย่าง แต่น้องชายก็ไม่ปฏิเสธ "พี่คิดว่าผมเคยทำอะไรไม่ดีไว้กับสองคนนี้ ?
ปริญญ์พยักหน้า แต่เชื่อที่พี่บอก ถ้าไม่ได้รักใคร่อะไรเขาก็ลืมๆ ซะ พวกเขาคงทำใจได้แล้ว
ก็จริงฮะ นี่ถ้ามาหาผมพร้อมกันสองคน ไก่ป่วยอย่างผมก็ไม่รู้จะทำไง ปรายก้มมองสภาพตัวเอง
สภาพนายไม่แย่นักหรอกน่า แต่จะวนกลับไปขอโทษสาวๆ ทุกคนไม่ได้หรอก จงใยดีคนที่พอมองเห็น
ที่จริงผมคิดถึงก้อยฮะ ปรายยิ้มให้พี่ชาย รู้ดีว่าพี่ชายใจอ่อน ผิดลิบลับกับปริมที่ต่อต้านการเอ่ยถึงก้อย แต่พงศ์กับผึ้งบอกว่าตั้งแต่ก้อยกับกริชทะเลาะกันบ่อยมาก ผมไม่อยากติดต่อกลับไปเพื่อให้ใครอึดอัดใจอีก
นายมีน้ำใจขึ้นมาก นึกว่าจะเดือดซะอีก... ดีแล้วปรายเอ๊ย... ผู้หญิงน่ะบางทีก็ไม่ได้มีทางเลือกมากมายอย่างผู้ชายเรา โดยเฉพาะเรื่องแบบนี้ พลาดไปแล้วก็ยากที่จะหวนคืน ก้อยกับกริชน่ะถูกเพื่อนทั้งกลุ่มลอยแพ
สองคนนั้นมีปัญหาอะไรกันเหรอฮะ ไอ้พงศ์มันไม่ค่อยยอมให้ผึ้งเล่าอะไรผม
ผึ้งบอกพี่ว่า เวลาไอ้กริชอารมณ์ไม่ดีมันชอบทุบตีก้อย แล้วพอได้ข่าวว่านายฟื้น พวกเขาก็เลิกกัน
อ้าว... เลิกกันแล้วเหรอฮะ !?
มีโอกาสก็ลองถามดูเองสิ การแยแสคนเคยรู้จักกันไม่ถือว่าเสียศักดิ์ศรีหรอก เขาไม่เคยมาเยี่ยมนายก็จริง แต่ก่อนหน้านั้นเขาทำให้นายมีความสุขนี่ และใครจะคิดว่าสภาพอย่างนายจะรอดได้ ดังนั้นไม่ใช่ความผิดก้อยซะทีเดียวที่ทำตัวให้คนครหาแบบนั้น
พี่อยากให้ผมคืนดีกับก้อยมั้ย
นั่นมันเรื่องของคนสองคน พี่ไม่เกี่ยว ที่พี่พูดเรื่องก้อยนี่ เพราะเห็นนายทำท่าอยากรู้เรื่องดาวสองคนนั้น ดาวที่พี่รู้จักดูมีความสุขกับการมีลูกไปแล้ว วันก่อนพี่เคยเจอเขา เขาก็ทำท่าไม่อยากคุยกับพี่ ส่วนอีกดาวที่ยายปริมเจอก็ดูทำใจได้ตั้งแต่มาเยี่ยมนายแล้วล่ะ ไม่งั้นคงมาหานายแล้ว ...แต่ก้อยเป็นความสุขที่นายยังไม่ลืมนี่
พี่นี่ไม่ค่อยมีอคติกับใครเลยนะ ผมน่าจะนิสัยเหมือนพี่บ้าง
ปรายชมพี่ชายอย่างจริงใจ แต่ปริญญ์กลับหน้าแหยเมื่อถูกชม เมื่อก่อนนายว่าพี่นายทึ่ม
พี่ไม่ทึ่ม หมอแก้มเขาหลงใหลหนุ่มติสท์แบบพี่ แต่ตอนนั้นผมอยากแกล้งแหย่พี่เล่นๆ ผมเลยทำแบบนั้น และผมจำได้ว่าแก้มผิดหวังมากที่ผมหยาบคายและไม่เหมือนพี่เลย
ฮ่าๆ ช่างมันเถอะ มันเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้เรากำลังจะแต่งงานกัน นายก็เห็นนี่ ปริญญ์พูดอย่างอารมณ์ดี พี่ว่านายนอนฟังเพลงให้สบายใจดีกว่า ...
ปรายยอมเชื่อฟังพี่ชาย แต่พอฟังเพลงนั้น เขายิ่งคิดถึงผู้หญิงชื่อดาวสองคน แต่ไม่มีอะไรผุดขึ้นมาในสมองจนเขาชักปลงโดยการคิดว่าอาจมีใครแกล้งล้อกันเล่น เขาเลยเปลี่ยนมาคิดถึงก้อย เพราะเรื่องราวของก้อยมันเต็มไปด้วยความจริง เขาควรพยายามหาทางอยู่กับความจริงดีกว่าคิ้วขมวดกับความรู้สึกที่ต้องคอยคิดว่าลืมอะไรไว้ที่ไหน
***
จากคุณ |
:
rainfull
|
เขียนเมื่อ |
:
21 มิ.ย. 54 20:58:13
|
|
|
|