Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
มินทราลัยหัวใจแห่งนาง บทสี่สิบเอ็ด : สูญสิ้น ติดต่อทีมงาน

ขอชี้แจงสักนิดค่ะ  กลัวว่าคนอ่านจะสับสน พอดีมนต้นไม้พิมข้ามบทไป
และไม่สามารถแก้ไขข้อความที่ขึ้นอัตโนมัติได้ จึงขอแก้ในเนื้อหาต้นกระทู้แทน
แต่เนื้อหาถูกต้องแล้วค่ะ

ช่วงนี้มนต้นไม้จะเริ่มลงเรื่องบ่อยขึ้นค่ะ และจะทยอยตามลบบทเก่าๆออกด้วย
เนื่องจากใกล้จะออกเป็นเล่มแล้ว ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เดือนหน้าคงมีข่าวดีมา
แจ้งให้ทราบกันอีกครั้งหนึ่งค่ะ

...................................................


บทสี่สิบ : สูญสิ้น




ชั่ววิบตากฤตยามนตราที่ผู้มีอวิชาสะกดเอาไว้คลายลง ประดาทหารประจำยามแลโขลนนางทั้งหลายจึงได้พากันฟื้นคืนสติขึ้นมา ท่ามกลางความงุนงงสับสนที่มิรู้ว่ามีสิ่งใดบังเกิดขึ้นแก่พวกตนบ้างจึงพากันแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนตามปกติ


นางกำนัลสองนางที่หมอบฟุบอยู่เบื้องหน้าบานพระทวารคอยเฝ้ารับใช้อยู่เบื้องนอกทยอยลืมตาตื่นขึ้นมาสบเข้ากับบานประตูห้องบรรทมเผยกว้างออกจึงได้มองเข้าไปข้างในแลเห็นข้าวของหกตกหล่นเกลื่อนกราดระเกะระกะคล้ายกับมีเหตุร้ายบังเกิดขึ้น


ต่างพากันชักสีหน้าตื่นตระหนกสอดส่ายสายตาแลหาเจ้าของห้องในทันที แต่หาพบเห็นแม้แต่เงาไม่สร้างความประหลาดระคนพรั่นใจให้ยิ่งนัก เร่งสืบเท้าเข้าไปช่วยกันหาผู้เป็นนายใหญ่ที่เพลานี้มิรู้ว่าดำเนินไปที่ใด แต่ที่แน่แก่ใจคือมิใช่เหตุปกติวิสัยอย่างแน่นอน


“นี่มันบังเกิดสิ่งใดขึ้น เหตุใดข้าวของตกเกลื่อนกราดคล้ายกับมีการต่อสู้บังเกิดขึ้นเยี่ยงนี้เล่า ฝ่าบาท ฝ่ายบาทเล่าอุษา”

“จะไปรู้ฤานงราม แต่ว่าข้ากลัวเหลือเกิน เกรงว่า เอ่อ...ไปเร็ว ไปดูเบื้องนอกกัน ผิว่าจักเสด็จออกไปชมจันทร์”


สิ้นเสียงพูดของนางอุษา ต่างพากันวิ่งพรวดถลันออกจากห้องเที่ยวเดินค้นหาพระผู้เป็นใหญ่อยู่ชั่วอึดใจใหญ่


“ไม่ได้ประทับอยู่ในห้องบรรทม ทรงดำเนินไปที่ใดฤา เจ้ารู้ฤาไม่นงราม ”

เสียงนางอุษาเอ่ยถามคนเคียงข้างอย่างแปลกใจ แต่หาได้รับความกระจ่างใดๆไม่ ด้วยคนที่ถูกถามก็เพิ่งได้สติคืนมาเฉกเช่นกัน


“ข้าจักไปรู้ได้เยี่ยงใดเล่า พิลึกจริง จักอย่างไรก็ช่างเถอะ ไปเร็วอุษารีบตามหาฝ่าบาทให้เจอก่อนหัวจักขาดไปตามกัน เร็วอย่าร่ำไร”


เสียงนางบ่าวกระซิบกระซาบหน้าตาตื่นเดินพล่านไล่เรื่อยมาจนถึงทางเดินปูลาดด้วยหินทรายหน้าพระตำหนักหลวงที่เชื่อมต่อกับที่ประทับของพระมเหสีพระองค์ใหม่ มองเห็นเงาทะมึนคล้ายมีคนนอนราบอยู่บนพื้นแต่หาเห็นถนัดชัดไม่ จึงพากันสาวเท้าเข้าไปดูสิ่งที่ชวนให้สงสัย


ทว่าสืบเท้ามาได้เพียงสองสามก้าวสายลมยะเยือกเย็นยามรัตติกาลโชยมาปะทะผิวท่ามกลางความเงียบสงัดวังเวงทำเอาสองนางในขนลุกเกรียวถึงกับต้องยกมือขึ้นลูบต้นแขนไปตามกัน พากันเร่งฝีเท้าไปยังที่หมายในบัดดล


ศศิธรเพ็ญบัณรสีราตรีนี้งามกระจ่างตากว่าคราใดสาดส่องแสงเรืองรองสลัวเพียงพอให้คนที่เดินใกล้เข้ามาทุกขณะจิตมองเห็นเงาทะมึนที่กองอยู่กับพื้นศิลาได้ถนัดชัด ทันทีที่สองนางในเห็นร่างไร้วิญญาญาณปราศจากเศียรว่าเป็นผู้ใด ต่างพากันถอยหลังกรูดสะดุดขาตนเองล้มลงนั่งยกสองมือขึ้นปิดหน้าที่เผือดซีดถอดซีด หวีดร้องร่ำไห้ออกมาอย่างตระหนกตื่นตกใจกลัวสุดชีวิต


“กรี๊ด  ฝ่าบาท อุษา ข้ากลัว อุษา ฮือ ฮือ พระองค์สิ้นเสียแล้ว ”

“กรี๊ด เราจักทำเยี่ยงใดดีนงราม ฮือ ฮือ ฝ่าบาท ฝ่าบาทเพคะ ฝ่าบาท ไม่น่าเลย”


เสียงร้องเอะอะเอ็ดอึงดังสะท้อนไปไกลยินถึงพระตำหนักเคียงใกล้ ทำเอาสองนางในที่หมอบก้มอยู่หน้าบานพระตำหนักพระอัครมเหสีองค์ใหม่ถึงกับสะดุ้งตื่นตกใจผุดลุกขึ้นนั่งมองหน้ากันอย่างงวยงง เสียงหวีดร้องระคนร่ำไห้ระงมดังแว่วรอดเข้าไปกระทบโสตเรียกให้ของคนที่บรรทมอยู่ภายในลืมตาตื่นลุกขึ้นเผยวิสูตรออกมาด้วยความกังขาสงสัย ตรัสถามออกไปในบัดดล


“เบื้องนอกมีเหตุอันใดบังเกิดขึ้นฤา เจ้าสองคนได้ยินหรือไม่“


สุรเสียงนุ่มสมวัยเอ่ยปากถามสองนางนั่งที่หมอบก้มเฝ้าอยู่ภายนอกในทันทีที่ลุกขึ้นนั่ง มิพักรอคำตอบจากคนเบื้องนอกแต่อย่างใด ถลันลุกพรวดผลักบานพระทวารเดินรี่ดิ่งไปยังต้นเสียงในทันที ตามติดด้วยสองนางในที่ลุกพรวดตามมาแทบมิทัน พระดำเนินมาตามทางลาดปูหินทรายมุ่งสู่พระตำหนักสุริยเทพ




มีต่อค่ะ

แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 54 09:40:19

จากคุณ : Setakan
เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 09:30:14




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com