จนมาวันหนึ่ง ตาหวานหายไป ไม่ยอมมากินข้าว มันหายไปเลย ตอนแรกผมกับแม่ก็ชินๆกับมันแล้ว มันจะไปไหนมาไหนก็เรื่องของมัน เคยหายไปเป็นอาทิตย์ไม่กลับบ้านก็เลยชินๆ แต่คราวนี้ 1 อาทิตย์ก็แล้ว 2 อาทิตย์ก็แล้วจนกระทั่งเป็นเดือน พอแน่ใจแล้วว่าตาหวานคงไปในที่ชอบๆ ของมันแล้วแม่ผมก็ฟูมฟายคิดถึงมัน จนบางครั้งแกก็ยังคลุกข้าว กับ ปลาทู ปลากระป๋องไปเทไว้หน้าบ้าน ไว้ในจานข้าวของมันอยู่เป็นอาทิตย์ ด้วยความหวังลมๆแล้งว่ามันจะกลับมาในซักวันหนึ่ง แต่จนแล้วจนรอดมันก็ไม่กลับมา
อ้อลืมไปครับ ช่วงนั้นเกิดเหตุการณ์ประหลาด ทั้งแมวและไก่ที่เจ้าหน้าที่ในแฟลตเลี้ยงไว้ ทยอยหายไปอย่างไร้ร่องรอยหลายตัว ไม่รู้หายไปได้ยังไง
ตอนแรกคิดว่าน่าจะมีขโมยแต่พอนึกถึงหน้าไอ้ตาหวานแล้ว ความคิดนั้นก็ต้องตกไป เพราะหน้าอย่างมันใครจะกล้ามาขโมย จนในที่สุดความลับอันดำมืดก็ปรากฏเมื่อไก่ แทบจะหายไปทั้งเล้า
งูเหลือมตัวใหญ่ยักษ์ ใหญ่ปานอนาคอนด้าที่เราเห็นในหนัง กำลังเลื้อยผ่านทางเดินลงไปในป่าหญ้าด้านข้างแฟลตต่อหน้าต่อตาเจ้าหน้าที่แฟลตนับ 10 คนที่เดินกลับมาจากงานเลี้ยงปีใหม่ตอนนั้น และแน่นอน ไม่ว่ามันจะเป็นตัวต้นเหตุหรือไม่ได้เป็น จะเพิ่งมาหรือมาอยู่ตั้งนานแล้ว งูยักษ์ตัวนั้นก็กลายเป็นผู้ต้องหาฆาตรกรรม แมว และ ไก่ที่หายไปอย่างไร้ร่องรอยนั่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และโดนหมายหัวตั้งแต่วันนั้น
แต่ดูเหมือนมันจะรู้แกวเพราะตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ไม่มีใครเห็นแม้แต่เกร็ดของมันอีกเลย
..นอกจากผม ซึ่งจะเล่าให้ฟังในภายหลังเพราะขืนเล่าตอนนี้มันจะกลายเป็นเรื่อง งูยักษ์ STORY แทนที่จะเป็น คะน้า STORY
นั่นแหล่ะครับ เมื่อไอ้ตาหวานหายเอาตัวเองไปเป็นเหยื่อของงูยักษ์ (หรือเปล่า) ตั้งแต่นั้นบ้านผมก็ไม่เคยมีแมวอีกเลย จนกระทั่งมีเจ้าสามสีหน้าแหลมเดินเอียงๆตัวนี้แหล่ะครับ แม่บอกว่าจะเลี้ยงมันไว้ในบ้านแทนไอ้ตาหวานที่หายไป แต่ผมไม่เห็นด้วย เอาหัวชนข้างฝาจนเลือดโชกบอกแม่ว่าไม่เห็นด้วย
แต่ว่าผมเป็นเพียงผู้ชายตัวเล็ก ๆ ที่อาศัยอยู่กับหญิงสาวร่างยักษ์ถึง 2 คนภายในบ้าน นั่นคือ แม่ และ น้องสาวของผม เมื่อน้องสาวของผมกลับมาและเอ่ยคำแรกหลังจากได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดว่า
เลี้ยงมันไว้นะ อย่าเอามันไปปล่อย เท่านั้นเอง สิทธิ์และเสียงในบ้านของผมที่จะคัดค้านก็เป็นอันต้องจบไป
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา บ้านผมก็มีสมาชิกใหม่เป็นแมวสามสีหน้าแหลม มีขนซีกเดียว + มีแผลผ่าที่ท้อง เพิ่มมาอีก 1 ตัว แถมมาพร้อมกับวิญญาณลูกแมวอีก 6 ชีวิตที่ตายในท้อง โชคดีที่ตั้งแต่เอามันมาเลี้ยง วิญญาณลูกของมันไม่เคยมารบกวนอะไรเลย แสดงว่าสั่งสอนกันมาดีมากตั้งแต่ในท้อง
สั่งสอนกันจนตายคาท้องกันเลยทีเดียว
ก็อย่างที่บอกแหล่ะครับ ผมไม่ถูกชะตากับมันตั้งแต่แรกเห็นแล้ว ยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานว่า เกลียดมันสุด ๆ เกลียดสภาพมันยังไม่พอ ยังเกลียดที่มันผลาญเงินผมไปตั้ง 3000 บาท เรื่องนี้บ่นยันลูกคลอดก็ไม่จบครับ เรื่องเงิน 3000 เนี่ย!!
ผมไม่ใช่คนเกลียดแมวนะ ออกจะเอ็นดูมันเสียด้วยซ้ำ เคยช่วยชีวิตแมวจรจัดไว้ก็หลายตัว แต่ทำไมก็ไม่รู้สำหรับไอ้ตัวนี้ผมทำใจรักมันไม่ลงเลย ออกแนวขยะแขยงเสียด้วยซ้ำในตอนแรก ๆ หน้ามันผมยังไม่มองเลย มีเพียงแม่และน้องสาวผมเท่านั้น ที่คอยประคับประคองชีวิตอันริบหรี่ของมันไปเรื่อย ๆ
สภาพมันตอนแรกไม่น่ารอด ตรอมใจหรือไม่ก็ทนแผลไม่ไหว มันพะงาบ ๆ อยู่หลายวันเหมือนกัน โดยผมไม่เคยไปช่วยเหลืออะไรมันเลยแม้แต่น้อย เวลาผ่านไป ๆ ๆ นานเท่าไหร่ก็ไม่รู้
จนกระทั่งเช้าวันนึง ผมจำได้ว่าวันนั้นเป็นวันเสาร์ เป็นวันที่ผมไม่ต้องไปทำงาน ผมตื่นมาล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็นั่งกินข้าวดูทีวีของผมไปตามปกติ ส่วนแม่ผมอยู่ในครัวกำลังล้างจานอยู่ ส่วนน้องสาวมันไปโรงเรียนตั้งแต่เช้าแล้ว.....ผมนั่งกินข้าวอยู่ดี ๆ ก็มี
มี..........เอ่อ............ มี ...........เอ่อ.................. แมว!!!
ใช่แล้ว แมว คลับคล้ายคลับคราว่าเคยเห็นหน้าแหลม ๆ อย่างนี้ที่ไหนมาก่อน ใช่แล้ว มันเป็นตัวเดียวกับปูแปลงร่างนั่นเอง แต่คราวนี้มันโผล่หน้ามาจากห้องแม่ แล้วเดินตรงมาที่ผม เน้นว่า เดินตรง!!
ครับ มันเดินตรงแล้ว ใครจะเชื่อว่าขนแมวจะยาวเร็วโคตรปานนี้ หลักฐานว่าขนซีกนึงของมันหายไปทั้งแถบ ไม่มีให้เห็นอยู่เลย มันยาวเร็วสุดๆ ยาวออกมาเท่ากันทั้งตัว มันเดินตรงมาที่ผม ท่าทางกล้าๆ กลัวๆ จะเข้ามาหา มันเดินมาแล้วหยุดนั่งห่างจากผมระยะประมาณ 1 เมตร
ผมมองหน้ามัน มันมองจานข้าวผม!!!
ระหว่างที่ตาต่อตามาประสานกันอยู่นั้น เสียงแม่ผมก็ดังมาจากในครัว
คะน้ามา มานี่มาเร็วลูก มากินข้าว
เรียบร้อยโรงเรียนแม่ผมครับ แมวตัวนี้มีชื่อแล้ว เค้าตั้งกันตั้งแต่เมื่อไหร่ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน
เพราะผมไม่ได้สนใจ แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า ไอ้แมวสามสีหน้าแหลมเดินเอียงในตอนนั้น มันชื่อว่า คะน้า และต่อไปนี้ผมจะเรียกมันว่าคะน้า เช่นเดียวกัน แน่นอนครับชื่อมันถึงแม้จะไม่แปลกสำหรับคน แต่ก็แปลกสำหรับแมวซักตัวที่ดันมีชื่อว่า คะน้า พูดให้ใครฟังทีไร ก็ต้องมีคนถามย้อนกลับมาทุกที
ใครตั้งชื่อหว่า คิดยังไงให้แมวชื่อคะน้า
ซึ่งจนทุกวันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าแม่ผมเอาหลักเกณฑ์อะไรมาตั้งชื่อให้มัน มันชอบกินคะน้ารึ ก็เปล่า ผักมันกินที่ไหนกันมีแต่เขี่ยทิ้ง จะกินแต่ปลาทูอย่างเดียว เกิดในไร่คะน้ารึก็ไม่น่าจะใช่ เพราะที่ทำงานแม่ผมเค้าไม่ได้ขายผลิตภัณฑ์การเกษตร แต่ขายอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ จนแล้วจนรอดผมก็ยังไม่รู้ว่าแกเอาอะไรมาตั้งชื่อให้แมว!!!
แต่คิด ๆ ไป เออ ก็น่ารักดีนะ คะน้า ชื่อเชย ๆ เหมาะแล้วกับหน้าตาเชย ๆ ของมัน คะน้า คะน้า คะน้า เออใช้ได้ หากถามว่าตัวคะน้าเอง รู้ตัวไหมว่าตัวมันชื่อคะน้า ผมก็บอกไว้ตรงนี้เลยว่า มันก็คงไม่รู้หรอกครับ เพราะจากการสังเกต เรียกมันทีไร มันไม่เคยหันซักทีเดียว แต่ถ้าทุกวันนี้เรียก "อีอ้วน" เมื่อไหร่ละก็รับประกันว่ามีเฮ!!!
ก็อย่างที่บอกแหล่ะครับว่าผมไม่ถูกชะตากับมันเลย แม้ในตอนนั้นขนมันจะขึ้นทั้งตัวแล้ว แต่หน้ามันยังแหลมเป็นจิ้งเหลนอยู่ และสีก็ยังไม่สวยงามเหมือนตอนนี้ ผมก็ยังไม่ถูกชะตากับมันอยู่นั่นแหล่ะ
มันมานั่งมองผมกินข้าว ด้วยที่หวังว่า ไอ้มนุษย์ผู้ชายตัวโย่ง ๆ นี่จะแบ่งปันเนื้อทอดในจานให้มันซักชิ้น แต่ก็เปล่าเลย ไม่มีทางเสียล่ะผมไม่แบ่งเป็นอันขาด แมวบ้าอะไรจะกินเนื้อแดดเดียวทอด
(ซึ่งมารู้ในภายหลังว่า มันกินหมดทุกอย่าง แม้แต่แกงไก่มันก็ยังกิน ไอ้แมวตะกละเอ้ย!! )
แต่ทว่า Do you believe in Destiny?? คุณเชื่อในพรหมลิขิตไหมครับ??
จบตอน 2
จากคุณ |
:
สมันน้อย เบอร์ 14
|
เขียนเมื่อ |
:
22 มิ.ย. 54 17:44:47
|
|
|
|