 |
โบสถ์นี้มีความสำคัญมาก เพราะเป็นโบสถ์ที่ตั้งของสุสานของพระศพของราชวงศ์โรมานอฟ ที่เห็นโลงศพนั้น ตัวพระศพจริงจะถูกฝังอยู่ใต้ผืนดินในตำแหน่งใต้โลงศพ
ในโบสถ์มีสุสานของราชวงศ์อยู่ถึงสิบสามพระองค์ด้วยกัน นับตั้งแต่ปีเตอร์ลงมา เรื่องราวการผลัดเปลี่ยนอำนาจนั้นเข้มข้นมาก เราเลยเหมือนถูกจับเรียน crash course ประวัติศาสตร์ราชวงศ์โรมานอฟไปโดยปริยาย
เรื่องเริ่มตั้งแต่การที่ปีเตอร์สั่งประหารลูกชายและทายาทคนสุดท้ายของตน รัชกาลถัดมาจึงฝืนขนบธรรมเนียมโดยการให้ผู้หญิงขึ้นครองราชย์ ซึ่งตำแหน่งตกอยู่กับจักพรรดินีของปีเตอร์หรือ Catherine นั่นเอง ที่เธอมีตำแหน่งเป็นถึงจักรพรรดินีนั้น เป็นเพราะปีเตอร์รับวัฒนธรรมยุโรปเข้ามา ตั้งแต่การสถาปนาตัวเองให้มีตำแหน่ง "the Great, Father of His Country, Emperor of All the Russias" ปีเตอร์รักมเหสีองค์ที่สองคือ Catherine มาก จึงได้สถาปนาให้เธอมีตำแหน่ง Empress
ต่อจาก Catherine ที่หนึ่ง บัลลังก์ก็ตกมาอยู่ที่ Peter II ซึ่งครองราชย์อยู่ได้เพียงสี่ปีก็เสียชีวิตด้วยโรคฝีดาษ จากนั้น บัลลังก์จึงตกอยู่ในมือของผู้หญิงอีกครั้ง เริ่มจาก Anna มาจนถึง Elizabeth ลูกสาวของ Peter the Great
หมดจาก Elizabeth แล้ว Peter III หลานชายของ Peter the Great ก็ได้ขึ้นครองราชย์ แต่กลับถูกลอบปลงพระชนม์โดยแผนการอันแยบยลของมเหสีของตน ก่อนที่พระมเหสี Catherine เจ้าหญิงจากประเทศเยอรมัน จะสถาปนาตนขึ้นครองราชย์แทน Catherine II เป็นที่รักของชาวรัสเซีย และได้สร้างความยิ่งใหญ่ให้แก่ประเทศรัสเซีย จนได้รับขนานนามเป็นมหาราช หรือ Catherine the Great ซึ่งเธอเป็นเพียงคนที่สองในประวัติศาสตร์รัสเซีย ต่อจาก Peter the Great ที่ได้สมญานามนี้มาครอง
เมื่อสิ้น Catherine ลูกชายของเธอ Paul I ก็ได้ขึ้นครองราชย์ ก่อนจะถูกลอบปลงพระชนม์ในพระราชวังของตนเอง จากนั้นจึงเป็นช่วงของลูกชายทั้งสอง Alexander I และ Nicholas I ที่ได้ขึ้นครองราชย์ต่อมา ลูกชาย Nicholas I คือ Alexander II นั้นขึ้นครองราชย์เป็นรายถัดไป ก่อนจะถูกลอบปลงพระชนม์อีกเช่นเคย บัลลังก์จึงตกเป็นของ Alexander III ลูกชาย
จากคุณ |
:
Mnemosyne
|
เขียนเมื่อ |
:
วันสุนทรภู่ 54 12:30:55
|
|
|
|
 |