Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ใต้เงาพระจันทร์ บทที่ 5 ติดต่อทีมงาน

ลิ้งค์ตอนก่อนๆ ค่ะ

ลิ้งค์บทนำ -1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10616157/W10616157.html

บทที่ 2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10639313/W10639313.html

บทที่ 3 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10675486/W10675486.html

บทที่ 4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10701298/W10701298.html

ตามกันต่อเลยนะคะ ^_____^

***********

บทที่ 5

“ตกลง เราไปอเมริกากัน”

“อะไรนะคะ” คริสต์ตาโตกับการตัดสินใจปุบปับของวาเลน แต่เขาคว้ากระเป๋ามาวางไว้ตรงหน้าและล้วงมือลงไป หยิบกล่องเครื่องประดับออกมาเปิด

แล้วโยนมันทิ้งทันที

“ทะ... ทำไมหรือคะ” เด็กสาวมองวาเลนซึ่งกำลังแยกเขี้ยวสลับกับเข็มกลัดทับทิมล้อมเพชร ต้นเหตุที่ทำให้เขาดูเหมือนเสือตัวหนึ่งทั้งที่ยังอยู่ในร่างมนุษย์ “เข็มกลัดนี่มีอะไรผิดปกติหรือ”

“มันเป็นของพวกบาโทรี่” วาเลนแยกเขี้ยวคำราม ดวงตาสีทองของเขาวาววามน่ากลัว “ผู้เฝ้าประตู”

“ผู้เฝ้าประตู ประตูอะไรคะ” คริสต์ถาม หากยังไม่ทันได้รับคำตอบ วาเลนก็ลุกขึ้น คว้ากระเป๋าพร้อมกับดึงตัวเธอกระโจนเข้าไปซ่อนในพุ่มไม้ เธอเริ่มงุนงงหนักขึ้นและคิดจะสะบัดตัวหนีจากเขา แต่วาเลนกดตัวเธอไว้พร้อมกับสั่งด้วยเสียงคำราม

“หายใจตามผมเดี๋ยวนี้!”

คริสต์ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ แต่เมื่อตกอยู่ในความเงียบงัน เธอก็ได้ยินจังหวะลมหายใจของวาเลน มันแผ่วเบาและเนิบช้ากว่าปกติ ฟังดูสงบ ผ่อนคลาย

เธอเลียนแบบเขาได้สำเร็จพอดีในตอนที่ได้ยินเสียงฝีเท้าของม้า

นั่นคือม้าสีดำ อย่างน้อยภาพแวบแรกจากปลายหางตาก็ทำให้เข้าใจว่าเป็นเช่นนั้น จนกระทั่งได้เห็นรูปร่างอันใหญ่โตของมันกับดวงตาสีแดงใต้หน้ากากที่ดูเหมือนเกราะนักรบโบราณ คริสต์ก็ต้องยกมืออุดปากกลั้นเสียงอุทานอย่างตกใจ เธอชำเลืองมองวาเลนด้วยดวงตามีคำถาม แต่เขาส่ายศีรษะเป็นเชิงบอกว่านี่ไม่ใช่เวลาที่ควรใช้เสียง ซึ่งเป็นคำเตือนที่ถูกต้องที่สุด

สิ่งที่น่ากลัวไม่ได้มีแค่ม้ายักษ์ คนที่อยู่บนหลังของมันยิ่งน่าสยดสยองกว่าหลายเท่านัก เขาเป็นชายร่างผอม ผอมจนดูเหมือนมีแค่หนังหุ้มกระดูก จมูกใหญ่งองุ้มและดวงตาลึกโหล ผิวส่วนใบหน้าของเขาขาวซีดราวกับซากศพ แต่คริสต์มั่นใจว่าผิวส่วนอื่นๆ ที่ซ่อนอยู่ในชุดสุภาพบุรุษสีดำราคาแพงก็คงเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม แม้จะดูผอมอย่างน่ากลัว แต่ท่าทางที่เขากระโดดลงจากหลังม้ากลับดูปราดเปรียวคล่องแคล่ว เขาเดินมาตรงจุดที่เข็มกลัดตกอยู่แล้วใช้ไม้เท้าเขี่ยมัน หัวกะโหลกเล็กๆ ซึ่งเป็นส่วนหัวของไม้เท้ามีแสงสีแดงกะพริบตรงจุดที่เป็นดวงตา จากนั้นเขาก็ก้มตัวลงหยิบมันใส่กระเป๋าเสื้อ

“นายคิดว่าคนที่ขโมยมันมาจะตายหรือเปล่า แดกดา”

ม้ายักษ์ร้องเป็นคำตอบรับ ชายร่างผอมตบแผงคอของมันเบาๆ “ใช่ ฉันรู้ว่านายรู้ เขายังอยู่” ดวงตาลึกโหลของเขากวาดมองทั่วบริเวณ และหยุดตรงพุ่มไม้ จุดที่วาเลนกับคริสต์หมอบคุดคู้ซ่อนตัวอยู่ “แถวนี้แหละ”

แต่จากนั้นเขาก็ยักไหล่ “ฉันได้ยินมาว่าแถวนี้มีมนุษย์กลายร่างตัวหนึ่ง หลังจากคืนพระจันทร์เลือดมันคงออกมาอาละวาดน่าดู ฉันเดาเอาจากกลิ่นเลือดในหมู่บ้านน่ะนะ” เขาลูบแผงคอของม้า ยิ้มและพูดต่อเมื่อมันสะบัดหน้า “ใช่ ไม่ฉลาดเลยถ้าจะหาเรื่องมนุษย์กลายร่าง”

วาเลนคำรามลั่น เสียงของเขาดังก้องไปทั่วบริเวณ ถ้าเป็นมนุษย์ธรรมดา ปิศาจธรรมดาหรือแม้แต่คริสต์ ดีแลนอาจเผ่นหนี แต่ม้ายักษ์กลับยกขาหน้าขึ้นตะกุยอากาศราวกับต้องการจะท้าทาย ชายร่างผอมหัวเราะและจับเชือกเพื่อห้ามม้า “อย่า แดกดา ไม่คุ้มหรอก อีกอย่าง หน้าที่ของเราคือเอาตัวพวกสาวๆ ในหมู่บ้านไปเท่านั้น”

เขาแสยะยิ้มให้กับพุ่มไม้ก่อนจะกระโดดขึ้นนั่งบนหลังม้าด้วยท่วงท่าที่คล้ายกับลอยตัวขึ้นไป จากนั้นเขาดึงสายจูงเพื่อให้มันหันหลังแล้วควบมันเดินจากไป คริสต์ยังคงอุดปากของตนเองแน่น ขณะที่วาเลนเกร็งร่างเตรียมพร้อมรับการจู่โจม จนกระทั่งแน่ใจว่าชายผู้น่ากลัวคนนั้นไม่ย้อนกลับมาอีกจึงค่อยผ่อนคลายลง

เด็กสาวสูดลมหายใจทางปากแล้วระบายออกมายาวเหยียด “โอ เขาน่ากลัวจัง” เธอทำคอตก แล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับวาเลน “เขาเป็นใครหรือคะ”

“ทูเอทา เด ดานานน์”

คริสต์เอียงคอ ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ทูอะไรนะคะ”

“ทูเอทา เด ดานานน์ เป็นเทพเผ่าหนึ่งที่กลายมาเป็นพวกรับจ้าง” เขาพ่นลมทางปากแล้วหันไปยิ้มให้เธอ “แต่ไม่ต้องกังวล พวกเขาไม่ทำอะไรนอกเหนือคำสั่งหรอก ค่าจ้างของพวกเขามีราคาที่สูงมาก ขนาดพวกเชื้อพระวงศ์ยังไม่ใช้บริการสุ่มสี่สุ่มห้าเลยถ้างานนั้นไม่สำคัญจริงๆ”

“เชื้อพระวงศ์หรือคะ” คริสต์นิ่วหน้า “คุณหมายถึงกษัตริย์ของเราใช้พวกเขาให้มาเอาตัวเด็กสาวไปอย่างนั้นรึ”

“โอ ไม่ใช่หรอกคริสต์ ราชาของมนุษย์ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย” แต่คำว่า ‘ไม่เกี่ยวข้อง’ แผ่วเบากว่าปกติ วาเลนขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิดเมื่อนึกขึ้นได้ ก่อนหน้านี้นานมาแล้วที่เขาเคยได้ยินแผนการบางอย่างที่พวกปิศาจคิดจะกระทำต่อกษัตริย์อังกฤษองค์ปัจจุบัน พวกมันได้ทำลงไปแล้วใช่หรือไม่ ข่าวลือที่ว่าพระเจ้าจอร์จที่สามทรงไม่รู้พระสติเป็นระยะๆ จะเกี่ยวข้องกับพวกปิศาจไหม

“ที่บอกว่าไม่เกี่ยวผมหมายถึง...” วาเลนกระแอมเมื่อรู้สึกว่าเสียงของตนเบาเกินไป “เขาไม่ได้ให้เทพพวกนั้นมาจับตัวเด็กสาวไปแน่นอน พวกเชื้อพระวงศ์ที่ผมหมายถึงคือปิศาจระดับสูง แต่ในเรื่องอื่นๆ จะเกี่ยวข้องกันหรือไม่ ผมไม่แน่ใจ”

“อ้อ ค่ะ” คริสต์พยักหน้า แต่ท่าทางของเธอบอกชัดเจนว่าเธอยังไม่เข้าใจดีนัก “สรุปคือพวกปิศาจเชื้อพระวงศ์ให้พวกเทพมาเอาตัวเด็กสาวไปใช่ไหมคะ แล้วเขาจะเอาตัวเด็กสาวไปทำไมกันคะ”

“ไม่ให้ประตูนรกปิด” วาเลนตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย เมื่อเห็นคริสต์ส่ายศีรษะช้าๆ เหมือนยังไม่เข้าใจเหตุผล เขาก็พูดต่อ “พวกเขาใช้เลือดสาวบริสุทธิ์หล่อเลี้ยงประตูไว้ไม่ให้มันปิด”

“พระเจ้าช่วย ช่างโหดร้ายอะไรอย่างนี้!” คริสต์อุทาน ยกมือปิดปากและใบหน้าซีดเผือด แต่วาเลนกลับยักไหล่เหมือนเห็นเป็นเรื่องปกติ

“ก่อนหน้าที่ผมจะถูกจับ เคยได้ยินข่าวมาเหมือนกันว่าพวกปิศาจทำแบบนี้ตั้งแต่เจ้าชายรัชทายาทของปิศาจไม่ยอมกลับไปรับสืบทอดตำแหน่งราชาต่อจากพ่อของเขา”

“เพราะเหตุผลเหลวไหลแค่นี้ พวกเขาถึงกับต้องเข่นฆ่าพวกเด็กสาวที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างนั้นหรือคะ!” คริสต์ตะโกน ใบหน้าของเธอเครียดเข้ม มือทั้งสองข้างกำแน่น “ตอนนี้ฉันอยากเป็นแม่มดจริงๆ แล้ว ฉันจะสาปแช่งพวกเขาให้หมดทุกคนเลย”

“คุณสาปแช่งปิศาจไม่ได้หรอก พลังอำนาจส่วนใหญ่ของแม่มดมาจากปิศาจที่ทำสัญญาผูกพันวิญญาณร่วมกัน” วาเลนพูด “แล้วอันที่จริง การหล่อเลี้ยงประตูให้เปิดอยู่ตลอด ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เลือดมากจนถึงขนาดส่งคนมาไล่กวาดต้อนเด็กสาวแบบนี้หรอก ตามปกติ ผู้หญิงบริสุทธิ์คนหนึ่งสามารถหล่อเลี้ยงประตูได้นานห้าปี แต่ที่พวกเขาต้องใช้เลือดเยอะเพราะทับทิมนั่นถูกถอดออกมา”

เขาลุกขึ้นนั่ง และชี้ไปยังกล่องที่เอียงกะเท่เร่ว่างเปล่า “มันเป็นเหมือนเสาค้ำยันประตู ถ้าถูกถอดออก ประตูก็จะปิดลงโดยอัตโนมัติ และการเปิดประตูแต่ละครั้งต้องใช้เลือดของเด็กสาวบริสุทธิ์จำนวนมาก”  

“มากหรือคะ” คริสต์ตาโต ลุกขึ้นนั่งบ้าง “สักเท่าไหร่คะ”

“ไม่รู้ ผมไม่เคยเห็นขั้นตอนนั้น” วาเลนกอดอก “แต่ก็พออธิบายได้ว่าทำไมพวกปิศาจถึงจ้างทูเอทา เด ดานานน์ ทับทิมนั่นไม่มีใครแตะต้องได้ นอกจากจะใช้ไม้เท้าของจอมเทพีมอริแกนสยบมันก่อน”

“จอมเทพีมอริแกนเป็นใครคะ”

“ราชินีแห่งเทพทูเอทา เธอเป็นเทพีแห่งสงคราม ว่ากันว่าเธอมีของวิเศษมากมายและมักจะให้พรแก่พวกปิศาจ ถ้าพวกมันสามารถทำตามเงื่อนไขที่วางไว้ได้น่ะนะ” วาเลนยิ้มแบบยกมุมปาก “แต่ก็ร่ำลือกันว่าเงื่อนไขนั่นทำให้พวกปิศาจฆ่ากันตายไปเยอะพอสมควร”

จากคุณ : g_maru
เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 54 17:52:43




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com