Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
พิศวาศ ณ ยามสาง - 20 ติดต่อทีมงาน

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10724787/W10724787.html

บทที่ 20

การเค้นพลังออกมาปะทะคารมกับสรัล มันเป็นงานหินเหลือเกิน วัสอรไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า ตนต้องมาเจอกับเรื่องพิสดารชวนสังเวชปานนี้

อยากรู้จริงๆ ว่า เวลานี้คุณยายอยู่ที่ไหน ทราบหรือยังว่าหลานสาวของท่านถูกคุกคามอำมหิต เธอไม่ต้องการทุกข์ทรมานอยู่ในสภาพอิหลักอิเหลื่อเช่นนี้ไปจนตายหรอกนะ ท่านน่าจะมีวิธีช่วยให้หลานสาวหลุดพ้นจากเงื้อมมือปีศาจร้ายตนนี้บ้างสิ

"เป็นยังไงล่ะ ยอมอ่อนข้องอฤทธิ์แล้วหรือ" สรัลถามถากถางขึ้น หลังจากที่เห็นเหยื่อเงียบลง

"คุณแน่ใจหรือว่า ทำอย่างนี้แล้ว คุณจะมีความสุขจริงๆ " วัสอรจำต้องเปลี่ยนท่าทีจากแข็งกร้าว มาเป็นเตือนสติด้วยไม้อ่อน "อย่างน้อยที่สุด คุณก็เห็นแล้วว่า คุณปูไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณทำ ไม่ใช่เขาไม่รักคุณ ไม่ใช่เขาอยากลืมคุณ แต่สิ่งที่คุณทำนี่แหละ กำลังจะฆ่าความรักที่เขามีต่อคุณให้ตายลงอย่างช้าๆ อีกหน่อย คุณจะไม่มีอะไรเหลืออยู่ในความทรงจำของเขาเลย คุณต้องการอย่างนั้นหรือ"

"ไม่ต้องการ แล้ววันบัดซบที่เธอว่าก็จะไม่มีวันเกิดขึ้น หุบปากของเธอเสียที อย่าหาเรื่องให้ตัวเองเหนื่อยเปล่าเลย ฉันหวังดีนะ ไหนๆ ก็ต้องอาศัยร่างเธอไปจนกว่าจะตายอยู่แล้ว เราก็น่าจะประนีประนอม ทะนุถนอมไมตรีซึ่งกันและกันหน่อย"

"ฉันน่ะมี แต่คุณไม่เคยมีเลย"

"ใช่ ฉันไม่มีวันมีไมตรีกับผู้หญิงทุกคนที่คิดจะแย่งปูไปจากฉัน"

"ฉันเคยได้ยินแต่คนเขาพูดกันว่า ความรักทำให้คนตาบอด ก็เพิ่งจะเคยเห็นนี่ละว่า ความรักทำให้ผีหน้ามืด จนแยกไม่ออกว่าตัวเองอยู่ในสถานะไหน และภพไหน"

"เธอนี่.. "

"ทำไมไม่หยุดสักก้าว นิ่งสักครู่ แล้วมองความจริงให้ถ่องแท้ บางที คุณอาจจะเจอความจริงที่น่าตกใจว่า สิ่งที่คุณทำอยู่ ไม่ได้พิสูจน์ว่าคุณรักคุณปูสักนิด แต่มันตรงกันข้าม คุณกำลังทำลายเขา ไม่ใช่ทำลายแบบโครมเดียวนะ แต่ค่อยๆ ทำลายให้พังลงอย่างช้าๆ "

"วัสอร เงียบเดี๋ยวนี้นะ"

"ฉันไม่เคยรักคุณปูสักนิด แต่สิ่งที่คุณทำ มันทำให้ฉันสงสารเขา เป็นห่วงเขา แล้วฉันก็ไม่รู้สึกว่าตัวเองผิดเลย หากว่าวันหนึ่ง ความสงสารความห่วงใยที่ฉันมี และมีมากขึ้นกับมากขึ้น มันจะทำให้ฉันรักเขาในที่สุด"

พอสิ้นวาจาร้อนแรงเช่นนั้น สรัลก็โกรธเกรี้ยวดุร้ายขึ้นมาทันที หล่อนยอมถอนมวลควันดำหนาออกจากร่างผู้หญิงกำแหง เพื่อจัดการสั่งสอนให้รู้สำนึก

วัสอรโดนเหวี่ยงด้วยจิตโทสะ ร่างอรชรลอยเหนือพื้น ก่อนจะปลิววืดไปกระแทกกับผนังข้างอ่างล้างจาน ไหล่ร้าวรุนแรง และเจ็บลึกจนไม่อาจกลั้นเสียงร้องคราง

แต่มันก็ยังไม่พอ ไม่สาแก่ใจแค้นคลั่งของปีศาจเสน่หา สรัลปราดไปจิกผมแล้วตบหน้าไปสองสามฉาด หล่อนถลึงตาไร้แววที่เย็นเยียบไปด้วยแรงพิฆาต จ้องมองเลือดที่ไหลเป็นเส้นเล็กตรงมุมปาก

"นังสารเลว อยากปากเก่งยังไงก็เชิญตามสบาย เพราะอีกไม่นาน ฉันก็จะต้องกลายเป็นเธอตลอดกาลอยู่แล้ว"

"คุณจะทำอะไร"

วัสอรตวาดสั่นและแผ่ว รู้สึกขยะแขยงกับวงหน้าขาวหลอนที่ยื่นมาประจันจนชิด สิ่งแรกที่เห็นถนัดถนี่ที่สุด ก็คือ ดวงตาไร้แววที่แดงคั่งด้วยเลือด โอ.. มันช่างเป็นดวงตาที่น่าเกลียดน่ากลัวจนขนทั่วกายลุกเกรียวทีเดียว

ร่างบอบช้ำฟุบคุดคู้ติดซอก จึงขยับบ่ายเบี่ยงมวลควันดำหนาของปีศาจไม่ได้ เวลานี้ มันแทรกทับคร่อมร่างไว้จนมิด ด้วยความหวาดกลัวสุดขีด เธอจึงหลับตาปี๋ กรีดร้องออกมาสุดเสียง

"คุณปู"

แล้วเลือดเส้นเล็กๆ ที่เปรอะข้างปากก็ถูกลิ้นเรียวขาวซีดเลียตวัดกลืนกินสิ้นทุกหยด ในสมองของเหยื่อก็พลันเกิดอาการตื้อ

ในร่างกายก็เหมือนจะโป่งพองเต็มที่แล้วแฟบเหี่ยวกะทันหัน ดั่งว่าโดนเจาะด้วยหอกปลายทู่ จนเกิดรูกลวงขนาดใหญ่ จากนั้น กลุ่มควันมหาศาลก็พรูทะลักเข้ามาอัดคั่ง วัสอรกระอักเลือดออกมากระจายเต็มพื้น น้ำตาไหลพรากอย่างเจ็บปวด

"คุณทำอะไร"

ปุราณปราดเข้ามาตวาดอย่างตกใจ เขาเบิกตากว้างกับภาพน่าสังเวชของวัสอร พริ้มเพราน้ำตาไหลทันทีด้วยความสงสารระคนห่วงใย และทุกครั้งที่เกิดความรู้สึกนี้ สาวใช้อาภัพมักจะลืมความหวาดกลัวที่เกาะกุมฝังหัวเสมอ

หล่อนปราดได้เร็วกว่าเจ้านายหนุ่ม ที่มัวแต่หยุดชะงักเบื้องหน้ามวลควันดำหนา ตาแตกตื่นที่เบิกกว้างอยู่ก่อน ก็ยิ่งเบิกกว้างกว่า พร้อมกับในใจ ก็ตั้งคำถามตระหนกผวาว่า 'นี่คือสรัลหรือ'

หากแต่เพียงแวบเดียวจริงๆ ที่สรัลรั้งร่างไร้มวลแสนอัปลักษณ์ให้ยลอย่างเผลอไผล หล่อนเองก็ตระหนก และไม่คาดคิดว่าสามีจะโผล่พรวดพราดเข้ามา จึงเลือนร่างไม่ทัน

แต่ก็ไม่เป็นไร มันก็แค่ชั่วกะพริบตาครั้งสองครั้งเท่านั้น บางที เขาอาจจะปลอบใจตัวเองด้วยซ้ำไปว่า 'ตาฝาด' เพราะเวลานี้ หล่อนกลับเข้ามาซ่อนสิงอยู่ในร่างใกล้จะแน่นิ่งของวัสอรแล้ว

เลือดหลายหยดที่ได้ดื่มกลืนเมื่อครู่ มันกำลังสำแดงอานุภาพ หล่อนลิงโลดอย่างสุดประมาณ เมื่อประจักษ์ว่า การแทรกสิงในคราวนี้ แลแน่นหนักขึ้น มั่นคงขึ้น มวลเนื้อแน่นกำลังเชื่อมประสานกับร่างเบาโปร่งทีละส่วน

มันยังไม่สมบูรณ์หรอก หล่อนต้องรอคืนนี้ก่อน เลือดพรหมจรรย์ที่ต้องหลั่งอย่างแน่นอนในคืนนี้เท่านั้น ที่มันจะกอปรร่างตายให้ฟื้นสู่ร่างเป็นอย่างสมบูรณ์แท้จริง

"คุณฝน เป็นอะไรไปคะ คุณฝน ได้ยินฉันเรียกไหม"

"ได้ยิน หูฉันยังดีอยู่ ตาก็ไม่บอด แล้วสมองก็ปกติดี จำได้ว่าเธอคือสาวใช้ แต่ริอ่านกำแหงอยากยกระดับตัวเองเป็นภรรยาคนใหม่ของปู แล้วตอนนี้ก็ยังกำเริบมาแตะเนื้อต้องตัวฉันก่อนได้รับอนุญาต ถอยออกไป นังผู้หญิงหน้าด้าน"

ปุราณสะดุ้งเฮือก รีบถลันรับร่างสาวใช้อย่างตกใจ หล่อนโดนผลักด้วยมือปีศาจ ตอนแรกยังนึกว่าลอยข้ามไหล่ไปแล้ว ซึ่งก็โชคดีที่เขายังยืนอยู่ จึงฉวยรวบเอาไว้ได้ทันท่วงที

"แต่ละนาทีที่ผ่านไป มันคงทำหน้าที่เกลาความเป็นผีธรรมดาทั่วไป ให้กลายเป็นปีศาจร้ายสินะ" ปุราณตำหนิอย่างคับแค้น "คุณเปลี่ยนไปแล้วล่ะ ไม่มีเค้าสรัลสุดที่รักของผมหลงเหลืออยู่เลย หรือว่าคุณไม่ใช่ คุณอาจจะเป็นผีเร่ร่อนที่ไหนก็ไม่รู้ แอบบุกรุกเข้ามาในเรือนริมน้ำ แล้วคุณก็อาจจะรังควาน รังแก หรือไม่ก็ขับไล่สรัลของผมไปแล้ว"

"ปู"

"อย่ามาเรียกผม เสียงนี้ก็ไม่ใช่เสียงคุณไม่ใช่หรือ นี่มันเป็นเสียงของฝน เธอเป็นเหยื่อที่น่าสงสาร แล้วผมก็สงสารเธอมาก คุณทำอะไรเธอ ผมได้ยินเธอเรียกให้ผมมาช่วย"

"อ้อ แล้วปูก็รีบมาอย่างร้อนรนด้วยความเป็นห่วง กลัวว่ามันจะตายหรือยังไงคะ"

"ใช่ ผมกลัวมาก ถ้าฝนเป็นอะไรไป ผมจะไม่ยกโทษให้คุณ ไม่ยกโทษให้ตัวเองที่แม้จะไม่ใช่ต้นเหตุใหญ่ แต่ก็เป็นต้นตอทำให้เธอต้องมาที่นี่ มาเจอกับปีศาจโหดร้ายซึ่งหลุดมาจากภพภูมิที่คนอย่างเราไม่รู้จัก ไม่เคยเห็น และไม่อยากไปร่วมเสวนาอาศัยอยู่ด้วย"

"ปู"

"คุณอยากทำอะไรก็เชิญ แต่จงท่องให้จำขึ้นใจก็แล้วกัน ถ้าฝนเป็นอะไรไป ผมจะไม่ยกโทษให้คุณ แล้วสิ่งที่คุณจะได้รับตลอดกาลจากผมก็คือ ความเกลียดชังที่ไม่มีวันสิ้นสุด"

สองมือเล็กกำแน่นสั่นและเกร็งอย่างคลั่งอย่างแค้น สรัลไม่เคยนึกเคยฝันว่า ตนจะต้องมายืนฟังสามีประกาศกร้าวฉอดๆ ปกป้องแม่บ้านวัยใสอย่างเต็มกำลังขนาดนี้

เขากล้าพูดออกมาได้ยังไงว่า จะเกลียดชังหล่อนอย่างไม่มีวันสิ้นสุด ไม่คำนึงสักนิดเลยใช่ไหมว่า ภรรยาไร้ร่างฟังแล้วจะสะท้านสะเทือนในจิตแค่ไหน

ไม่ใช่หล่อนหรอกที่เปลี่ยนไป หล่อนรักเขา ทำทุกอย่างลงไปก็เพราะว่ารักเขาเท่านั้น เป้าหมายเดียวที่ต้องการคือ คืนมวลแน่นให้กับร่างเบาโปร่งร่างนี้ สลัดสถานะ 'ผี' ทิ้งไป แล้วกลับมาสวมร่าง 'คน' ดังเดิม เพื่ออะไรเล่า เพื่อครองรักกับเขาต่อไปอย่างมีความสุขไม่ใช่หรือ

ไม่เลย หล่อนไม่เคยเปลี่ยนไป แล้วจะไม่มีวันเปลี่ยน ไม่ว่าจะตกอยู่ในสภาพไหน ความรักของเขากับของหล่อน ก็ต้องอยู่เคียงคู่กันเช่นนี้ตลอดไป ตราบสิ้นภพสิ้นชาติ และทุกภพทุกชาติด้วย

เขาต่างหาก เขาเปลี่ยนไป เขาไม่ซาบซึ้งในความมุ่งมั่นพยายามที่หล่อนไม่เคยย่อท้อแม้สักนาที เขาไม่ยินดีต้อนรับความสำเร็จบางส่วนที่หล่อนทำได้แล้วในเวลานี้ ไม่เต็มใจที่จะครองคู่ชู้ชื่น และมีความสุขร่วมกันตามครรลองพิศวาส แม้มันจะไม่ใช่ร่างของหล่อนก็ตาม

ก็แล้วทำไมเล่า ขอเพียงให้เขารับรู้ว่า ร่างที่เขาครอบครองมีหล่อนแทรกปนเป็นหนึ่งอยู่ข้างใน เขาจะคิดมากไปทำไมนักหนา แค่ระลึกว่า เขากำลังมีความสุขกับภรรยาของเขาก็พอแล้วไม่ใช่หรือ

เพราะวัสอรใช่ไหม เพราะผู้หญิงบัดซบสารเลวคนนี้ คนที่หล่อนกำลังสิงร่าง ทั้งที่จิตแสนเกลียดแสนชัง

เพราะตระหนักจำอย่างไม่เคยลืมว่า ผู้หญิงคนนี้ เกิดมาเพื่อเป็นคู่แข่ง เป็นเสี้ยนหัวใจ เป็นมารความรัก หล่อนเกลียดวัสอร นับแต่ล่วงรู้ความลับของฟ้าว่า เธอถูกกำหนดให้เป็น 'เนื้อคู่แท้'

เป็นเนื้อคู่แท้แล้วทำไมหรือ จะมาต่อกรแย่งชิงสามีคนเดียวกันกับหล่อนได้อย่างนั้นหรือ อย่าได้ฝันไปเลย

หากวัสอรต้องลงเอยครองคู่กับปุราณไปทุกภพทุกชาติจริง หล่อนก็จะตามประกบ แทรกปนเป็นหนึ่งเดียวกับร่างผู้หญิงคนนี้ไปทุกภพทุกชาติเช่นกัน อย่าได้หวังเลยว่า ความรักของเนื้อคู่หญิงชายคู่นี้ จะสุขสำราญได้อย่างราบรื่น ไม่มีทาง ไม่มีวัน




แม่อ่อน ณ มุมหนึ่ง รับรู้ความมุ่งมั่นในจิตรักอันแรงร้อนด้วยอาการสงบสำรวม

นางส่ายหน้าอ่อนระอา แต่ขณะเดียวกัน ก็จำต้องยอมรับและสดับในประกาศิตปรารถนาของฟ้าที่กำลังเล่นตลก ท่านบัญชาลงมาแล้ว วิถีชะตาของหนึ่งหนุ่มกับสองสาวต้องแปรเปลี่ยนไปอีกครั้ง

จะด้วยแรงบุญแรงกรรม หรือแรงรักแรงพิศวาสโน้มนำก็ตามที แต่ก็เอาเป็นว่า ฟ้าได้กำหนดแล้ว ปุราณจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป โดยมีวัสอรเป็นเนื้อคู่แท้ไม่ห่างกาย และ 'สรัล' ก็คืออีกหนึ่งความว่างเปล่า ที่ซ่อนแทรกและผนึกเป็นหนึ่งอยู่ในร่างของวัสอร

บางที นี่อาจจะเป็นบทลงโทษขั้นเฉียบขาด ที่ฟ้าต้องการให้สรัลได้สำนึกในความผิดที่บังอาจท้าทายลิขิตเคร่งครัด ในเมื่อหล่อนปล่อยวางไม่ลง เป็นผีที่บ้าคลั่งในอำนาจรัก เป็นปีศาจที่เหิมเกริมในพลังกามร้อน อย่างนั้นก็จงน้อมรับสิ่งที่ปรารถนาไปอย่างโดดเดี่ยวเถอะ

หล่อนต้องถูกกักขังอยู่ในร่างของวัสอร ต้องรู้ต้องเห็นทุกวินาทีที่สามีภรรยาคู่ใหม่ก้าวไปตามครรลองใหม่ การปฏิบัติต่อกันท่ามกลางสังคมที่มองเห็นและยอมรับ ว่ากันไปเลยจนถึงเรื่องในมุ้งบนเตียง ที่สังคมยังคงยอมรับ แต่ 'ไม่ให้เข้าไปมองเห็น'

แม่อ่อนถอนใจอีกเฮือก เวลาของนางหมดแล้วล่ะ เงาโปร่งจึงแลจางกว่าปกติ เว้นเสียแต่ประกายบุญที่โอบอุ้มเท่านั้น ที่ยังแผ่กระจายอย่างเจิดจรัส นางนึกภาพไม่ออกเลยว่า สรัลจะเจ็บปวดและทุกข์ทรมานอย่างสาหัสสากรรจ์แค่ไหนกับโทษทัณฑ์ที่ฟ้าประทานลงมา

ยิ่งนึกไม่ออกว่า หลานสาวสุดที่รักของนาง จะต้องใช้ความอดทนมากน้อยแค่ไหน ต่อการเผชิญกับชีวิตพิสดาร ที่ใกล้จะอุบัติ ซึ่งก็ไม่เร็วไม่ช้าไปกว่าคืนนี้ เพราะมันไม่ใช่แค่วันครึ่งวัน เดือนครึ่งเดือน หรือปีครึ่งปี แต่เธอต้องอยู่ในสภาพเช่นนั้น 'ทั้งชีวิต'




เจ้านายหนุ่มกับสาวใช้อาภัพ ต้องหลบมาอยู่ในห้องทำงานตั้งแต่ยามสายจัดๆ ล่วงมาจนถึงพลบค่ำ ต่างฝ่ายต่างเงียบกันอยู่คนละมุม

พริ้มเพรานั่งตัวลีบบนเก้าอี้หวายยาว สีหน้าเศร้าเผยความหวาดกลัวกึ่งระแวงว่าผีอาจจะลอยไปลอยมาอยู่ใกล้ๆ ปุราณนั่งซึมเซาบนเก้าอี้ทำงาน เขาโยกมันเบาๆ บางทีก็ส่ายให้มันขยับซ้ายทีขวาที สีหน้าหม่นหมองเผยความเสียใจกับผิดหวังเร้นลึก

"ค่ำแล้วนะคะ" พริ้มเพรากล่าวขึ้น เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วกระทบกับความมืด "คุณปูคงหิวแล้ว ฉันจะลงไปทำอะไรให้กินก่อนดีกว่าค่ะ ปัญหาอื่น เราก็ค่อยมาหาทางแก้กันภายหลังนะคะ ป่านนี้ คุณฝนก็คงจะหิวแล้วเหมือนกัน"

"ไม่หรอก" เจ้านายส่ายหน้าเนือยๆ แย้งก็เฉื่อยๆ "ปีศาจมันไม่หิวข้าว มากไปกว่าอยากกินตัณหาที่ครอบงำจิตจนมืด แล้วฉันก็คือเหยื่อที่มันรอตะครุบ ทำไมสรัลของฉันเปลี่ยนไปมากมายขนาดนี้ได้ ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่ามันเป็นเพราะความรัก"

"แต่ก่อนหน้านี้ คุณปูก็ยอมรับเธอในสถานะนี้นะคะ" แม้จะสงสารเสียงรำพันแผ่วเครือ แต่พริ้มเพราก็อดย้ำไม่ได้

"ใช่ ฉันยอมรับว่า หลังจากที่ได้เจอกับสรัลอีกครั้ง เราก็กลับมาใช้ชีวิตคู่ด้วยกันเหมือนเดิม แล้วฉันก็มีความสุขดีกับสภาพที่มันอิหลักอิเหลื่อแบบนั้น"

"ทั้งที่รู้เต็มอกว่า มันผิดธรรมชาติน่ะหรือคะ" พริ้มเพราทั้งแย้งและทั้งย้ำให้อีกฝ่ายใจช้ำอีก

"ใช่ ฉันยอมรับ แล้วก็ไม่เคยเรียกร้องให้ใครมายอมรับและเข้าใจในสายสัมพันธ์แบบนี้ของฉัน อันที่จริง เราก็มีความสุขตามประสาของเราไปอย่างเงียบๆ ดีอยู่แล้ว จนกระทั่งฝนมาที่นี่"

"เอ้อ ไม่ใช่ความผิดของ.. "

"ฉันรู้" ปุราณลุกจากเก้าอี้ไปยืนกอดอก พิงขอบโต๊ะทำงานแทน "ฝนไม่ผิด เธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับฉัน กับสรัล เธอแค่มีความแปลกไปจากคนอื่น ตรงที่เธอเห็นสรัลเหมือนที่ฉันเห็น แล้วฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมสรัลถึงจงเกลียดจงชังเธอนัก ทำไมต้องจำเพาะเจาะจงเลือกร่างของเธอมาสิงเพื่อก่อร่างใหม่ เพื่ออยู่กับฉัน ทำไมไม่เป็นเธอเล่าพริ้มเพรา"

ขณะที่กล่าวย้ำข้อสงสัยเดิม หนุ่มพ่อหม้ายก็ค่อยผินหน้าทอดตาไปจับวงหน้าเศร้าของคนฟัง แล้วอดเปรยตั้งข้อสังเกตอีกไม่ได้ว่า

"อันที่จริง เธอก็อยู่ที่นี่มานาน ใกล้ชิดกับฉัน พอกันกับฝนไม่ใช่หรือ อายุก็ไล่เลี่ยกัน หน้าตาก็สะสวยพอกัน แล้วเธอเองก็เคยโดนสรัลเกเรหึงหวงใส่มาแล้วเหมือนกัน แล้วทำไม เธอไม่นึกแปลกใจบ้างหรือ ทำไมสรัลต้องเลือกฝนด้วย"

"ก็เหมือนที่ฉันบอกนั่นละค่ะ อาจมีความลับบางอย่างที่เราไม่ทราบ แต่คุณสรัลทราบ ปัญหาในเวลานี้ คงไม่ใช่การค้นหาคำตอบ แต่มันอยู่ที่ว่า เราจะช่วยคุณฝนยังไงดี"

ปุราณส่ายหน้าแล้วถอนใจดังๆ เขาจะไปช่วยอะไรได้ ลำพังจะกำราบผีเกเรก็ไม่มีปัญญา สวดมนต์เพื่อคุกคามด้วยอำนาจพระพุทธคุณก็สงสาร เพราะใจยังรักยังผูกพันไม่เสื่อมคลาย

เมื่อเขาหลับตาลง พริ้มเพราก็ได้แต่ถอนใจยาวบ้าง อีกทั้งยังไม่กล้าส่งเสียงรบกวนความคิดของเขา นอกจากหันกลับไปมองความมืดนอกหน้าต่างด้วยใจมืดมน

ความสงบใต้เปลือกตา กำลังช่วยปุราณค้นหาทางออกที่เหมาะสมอย่างเนิบช้า เขามองลึกเข้าไปในความมืดผืนเล็กๆ เพื่อให้ตัวเองได้มองเห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาเคยเห็นอยู่แล้ว แต่มองข้ามไปหมด

เริ่มตั้งแต่วันแรกที่พบว่า ตนต้องอยู่อย่างเดียวดาย ความรักต้องว้าเหว่ ความผูกพันต้องขาดสะบั้น ที่เขามีเหลืออยู่เพียงอย่างเดียวก็คือ 'ความทรงจำ'

"สรัลเปลี่ยนไปเพราะฉันแท้ๆ "

ความมืดนอกหน้าต่างถูกทิ้งในทันที ที่เสียงทุ้มของเจ้านายหนุ่มเปล่งขึ้น เขาลืมตาอวดความเศร้า พาร่างสูงเพรียวมานั่งเก้าอี้ตัวตรงข้าม ให้พริ้มเพราได้มีโอกาสยลกรอบหน้าของสุดที่รักในระยะใกล้แสนใกล้

"ฉันเป็นคนทำให้สรัลเปลี่ยนไปหมดทั้งรูปร่างหน้าตา ทั้งจิตใจและความคิด"  

"ทำไมโทษตัวเองอย่างนั้นคะ" พริ้มเพรารีบแย้งอย่างสงสาร "คุณปูไม่มีความผิดอะไรเลย ตรงกันข้าม หัวใจที่มั่นคงในความรักของคุณปู กลับจะน่ายกย่องชื่นชมเสียด้วยซ้ำ หากจะมีฝ่ายหนึ่งที่ต้องผิด ฉันว่าน่าจะเป็นคุณสรัลนะคะ เธอจากไปอยู่คนละโลกกับเราแล้ว แต่ว่าดวงวิญญาณ.. "

"ฉันรู้" ปุราณพยักหน้า "เป็นเพราะความรักของฉันใช่ไหม ความผูกพันมั่นคงของฉันด้วย แล้วก็เป็นเพราะการคร่ำครวญฟูมฟายอยู่กับความเศร้าโศกไม่เลิกราของฉันอีก สามสิ่งนี้เอง ที่ฉุดรั้งดวงวิญญาณของสรัลให้ลอยวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ไม่ยอมไปตามทางที่ควรไป"

"นั่นคือความดีงาม คือความซื่อสัตย์ คือความจงรักภักดีในความรักที่มีต่อกัน มันไม่ใช่ความผิดนะคะ"

"ผิดสิ ฉันผิด พริ้มเพรา ฉันผิดเอง" เจ้านายหนุ่มตอกย้ำเข้ม ยิ้มหยันตัวเองนิดๆ ก่อนจะสำทับขื่นว่า "น่าสมเพชตัวเองจริงๆ ทำไมฉันถึงเพิ่งจะมาคิดได้ในวันนี้ วันที่ทุกอย่างมันเลวร้ายลง และมีคนที่ไม่เกี่ยวข้อง ต้องมารับเคราะห์รับกรรมแทนความรักที่ไม่รู้จักหักห้ามของฉัน"

"คุณปูคะ"

"ฉันนับถือศาลนาพุทธ บวชเรียนมาแล้วด้วยซ้ำ น่าจะเข้าใจและถ่องแท้ว่า เกิด แก่ เจ็บ ตาย มันเป็นสัจธรรม ทำไมฉันไม่หนักแน่นและคิดให้ได้ว่า ไม่ใช่ฉันคนเดียวสักหน่อยที่เป็นสามีที่ต้องสูญเสียภรรยา"

"คุณปู พอแค่.. "

"ในโลกนี้ มีสามีเป็นหมื่นเป็นแสนที่ตกพุ่มหม้าย เพราะภรรยามาจากไปก่อนวัยอันควร แล้วพวกเขาก็มีชีวิตอยู่ได้ เพื่อเริ่มต้นกับก้าวใหม่ บนเส้นทางสายใหม่ พันธะและความผูกพันใหม่ หรือแม้แต่จะพบกับความรักครั้งใหม่"

"คุณปูคะ พอแล้วค่ะ อย่าซ้ำเติมตัวเองอย่างนั้นเลยค่ะ มันไม่มีประ.. "

"ฉันผิดเอง" ปุราณยังคงครวญตำหนิตัวเอง "ฉันเป็นคนใช้ความรัก และความเศร้าโศก หน่วงเหนี่ยวสรัลเอาไว้ ทำให้เธอไม่อาจตัดใจทิ้งฉันไว้กับความโดดเดี่ยว ทำให้เธอต้องดิ้นรนที่จะพลิกชะตาฟ้า"

โอ.. ดูเขาสิ คู้ตัวลง ฟุบหน้าปวดร้าวซ่อนไว้ในสองฝ่ามือ พริ้มเพรากลืนความสะท้านสะเทือนลงลำคออย่างทรมาน แสนสงสารจนอยากจะลุกไปกอดปลอบประโลม

ไม่อยากได้ยินเขาสะอื้น ไม่อยากฟังเขารำพันรันทด และทุกประโยคนั้น มันก็คอยย้อนกลับไปเชือดเฉือนโหดร้าย ทิ่มแทงความรู้สึกผิดของเขาให้เกิดรอยแผลฉกรรจ์ลึก

สาวใช้อาภัพเลียปากว้าวุ่น หล่อนปรารถนาแรงกล้าต่อการสารภาพอย่างไม่อายว่า หล่อนพร้อมจะอยู่เคียงข้างเขาเสมอ ไม่ว่าเขาจะต้อนรับหล่อนไว้ในฐานะใดก็ตาม หล่อนเจียมตัวเสมอนั่นล่ะ ตระหนักว่าตัวเองต่ำต้อยและไม่คู่ควร

ดังนั้น ต่อให้ได้เป็นแค่ 'คู่นอน' ชั่วครั้งชั่วคราว หล่อนก็ยินดีและเต็มใจอย่างยิ่ง ขอแค่ว่าให้ช่วงเวลาอันสั้นนั้น สามารถหันเหและปัดเป่าความทุกข์ผืนใหญ่ๆ ออกไปจากใจระทมดวงนั้น แล้วหลังจากนั้น เขาก็จะ 'มีความสุข'

จากคุณ : รัชนีกานต์
เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 08:23:08




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com