๐๐ ... กมโลภิกขุ..ชายหนุ่มผู้บวชเป็นพระ ... ๐๐ (บทที่ 22)
|
 |
.
๐ กมโลภิกขุ..ชายหนุ่มผู้บวชเป็นพระ ๐ (บทที่ 22)
บทที่ 22
เฮ๊ย!..ไอ้นิด.. ใครคนหนึ่งร้องเรียกอยู่หน้าบ้าน
ไอ้นพ.. ผมกำลังรดน้ำต้นไม้ ไปไหนมา? เปิดประตูรั้ว
ตั้งใจมาหาแม่ ว่าจะถามข่าวของแก.. ยกมือสวัสดีแม่ที่ชะโงกออกมาดู เจอตัวเป็นๆ ซะงั้น
ยาง..ยังไม่ตายโว้ย
ลากตัวไปทำงานด้วยสินพ แม่ไม่ค่อยเลย
ตำแหน่งที่ว่าอีกสองวันต่อมาก็เต็มครับ วันนี้ผมเดาสุ่มมาไม่นึกว่าจะพบนิดคิดว่ายังบวชอยู่ ยกมือไหว้อีกครั้ง
อ้าว!..จะกลับแล้วหรือ? ถามเล่นถามจริงนะแม่
แหะ..แหะ.. ยิ้มแก้เขิน ไม่ใช่ครับ ผมขออนุญาตพานิดไปข้างนอกหน่อยครับ
ตามสบายนพ โตๆ กันแล้วไม่ใช่เด็กอย่างเมื่อก่อน พาไปเปิดสมองบ้างก็ดี ตั้งแต่สึกมาไม่เห็นออกไปไหน ไล่ให้ไปหางานก็ไม่ยอม
ถ้าไม่พบแกวันนี้ชั้นว่าจะไปหาที่วัด นพพาผมร่อนอยู่บนโนว่าดำน้ำเงิน
ไปถูกรื้อ.. ผมลืมบางอย่างสนิท
ทำไมจะไม่ถูก วัดที่แกบวชอยู่จังหวัดเดียวกับที่รุ่นพี่พาไปรับน้องเมื่อสามสี่ปีก่อนไง จำไม่ได้หรือ? นพเข้าจอดรถที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง
รับน้อง.. อะไรบางอย่างที่เลวร้าย บางคนฝังใจไม่รู้ลืม แต่ผมเลือกฝังไว้กับอดีตที่ไม่มีวันหวนกลับคืน
ที่เราถูกบังคับให้ทำอะไรพิเรนๆ .. นพโอบไหล่ผมเดินตากแอร์ ชั้นพอทนได้ แกเกือบอ้วก..ฮะ..ฮะ.. หัวเราะขึ้นมาดื้อๆ แต่ก็อ้วกออกมาจนได้ทั้งสองคนแหละวะ..ฮะ..ฮะ..ฮ่า..
ไหน..ใครอ้วก..ชั้นเปล่า จำได้ว่าไม่ได้เป็นอย่างนพกล่าวหา
ฮ่า..ฮ่า..ก็อ้วกอย่างนั้นไง..ฮ่า..ฮ่า.. สั่นไหล่ผมไปมา
ไอ้บ้านพ..
นึกออกแล้วใช่ไหม..เขิน..เขิน..
ชั้นจะล้มละไม่ว่า
นพและผมเดินเล่นกันสักพัก แวะกินฟาสท์ฟู๊ดพอตึงท้อง
ยังไม่กลับบ้านนะ นั่งรถเล่นก่อน.. นพขึ้นขี่เจ้าโนว่า บิดปุ่มสตาร์ท นานๆ เจอซี้ที ไม่ดึกไม่กลับ รถไม่ติด นพต้องกระแทกสตาร์ทอีกสองสามหน
โห!..ของเค้าดีจริง ผมกระเซ้า
ไปเยี่ยมวัดแกมั้ย?
เฮ๊ย!.. ตกใจกับความห่ามของนพ
เออ..ไปรถชั้นนี่แหละ.. ยื่นหมวกกันน็อคให้ผมแล้วออกรถ
สตาร์ทยังไม่ค่อยติดเลย
ไม่เกี่ยวกับสตาร์ทสักหน่อย.. นพเร่งเครื่องกะทันหัน เห็นไหม?
ไอ้บ้า! ผมคว้าเอวนพแน่น
บ่ายแก่ๆ โนว่าของนพเข้าเขตอำเภอ
หวอๆ..หวอๆๆ...
รถดับเพลิงคันหนึ่งวิ่งผ่าน
หวอๆๆๆ.. นพชิดซ้ายให้อีกคันที่ตามมา
นั่นมันทางไปวัดนี่นา.. ผมเอะใจ ลุยหน่อย ตบต้นขานพ
บอกทางด้วยแล้วกัน
ตามรถดับเพลิงไป ถ้าไม่ใช่แล้วจะบอก ผมภาวนาไม่ให้รถตรงไปที่วัด ถึงทางแยกทีไรอยากให้เจ้าบึกสีแดงเลี้ยวไปทางอื่น
มีเสียงลูกไฟและลมกระพือเมื่อใกล้วัดเข้าไป แสงสว่างวูบๆ หลังหมู่ไม้ทางทิศที่วัดตั้งอยู่
ไม่ใช่ไฟไหม้วัดหรอก ไม่มีอะไรให้ไหม้นี่.. ผมพึมพำปลอบใจตัวเอง ใจหวั่นถึงนึง หลวงพี่อาจและหลวงปู่
เฮ๊ย!..รถคันแรกเลี้ยวเข้าไปแล้ว.. นพตะโกนบอก ใช่วัดหรือเปล่า?
เออ.. เสียงแทบไม่ออกจากลำคอ ภาวนาอีกครั้งให้ไหม้ส่วนอื่นที่ไม่เกี่ยวกับวัด..อะไร?..เปลวไฟสูงอย่างนั้น
ไปทางไหน? นพลนลานเมื่อใกล้แสงเพลิง
แซงเลย.. ผมใจเต้นโครมคราม เลี้ยวไปทางกองไฟ
โบสถ์ใหญ่..อุโบสถกำลังติดไฟ ช่วงบนที่เป็นไม้สุกแดง มีเสียงระเบิดเปรี๊ยะเปรี้ยงพร้อมเศษไม้ ชิ้นส่วนวัตถุพุ่งออกมา พระภิกษุหลายรูปวิ่งเข้าวิ่งออกช่วยกันหอบขนสิ่งมีค่า..โบสถ์เล็กข้างๆ ที่เคยเป็นที่จำวัดของหลวงพี่อาจกำลังติดไฟเช่นกัน ผมใจหาย ไม่แน่ใจว่าหลวงพี่ยังใช้จำวัดหรือเปล่า นึงล่ะ? อยู่กับใครที่วัดหรือไม่..เสี้ยววินาทีผมนึกตำหนิตัวเอง สำนึกถึงความใจดำที่แฝงอยู่กับข้ออ้างและความจำเป็นที่ทิ้งนึงไป
นพ.. ผลักนพเมื่อโนว่าจอดสนิท ไปช่วยกัน ผมกระโดดลงวิ่งไปทางโบสถ์ที่กำลังลุกโชน
หนุ่ม!..อย่าเข้าไป พนักงานดับเพลิงตะโกนห้าม..มีหรือสองหนุ่มภายใต้หมวกกันน็อคจะเชื่อฟัง ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งตามเข้าไปด้วย
ครึนน น น . . . ด้านหน้าโบสถ์ที่ไม่แข็งแรงอยู่แล้วพังลงมา
หวือ..วืด ด ด . . ลมปั่นป่วนพาเปลวไฟพุ่งกลับพร้อมความร้อนมหากาฬ..ขนที่แขนเกรียมเปรี๊ยะ..ทุกคนถอยออกโดยไม่ต้องมีใครสั่ง
ด้านข้างๆ.. พนักงานดับเพลิงตะโกนแข่งกับเสียงไฟและสายน้ำที่พุ่งเข้าใส่อุโบสถ สองพนักงานอ้อมไปด้านหน้าต่าง พังนะ ขาวบ้านอีกกลุ่มช่วยกันกระทุ้งเสาเข้าที่บานหน้าต่าง
โครม!.. ควันดำพุ่งออกมา ชาวบ้านและพนักงานวิ่งสวนเข้าไป สักพักออกมาพร้อมภิกษุรูปหนึ่งป้อแป้อยู่บนบ่า ชาวบ้านออกมาพร้อมของมีค่า บ้างวิ่งหายไป บ้างนำของไปกองรวมไว้กับคนอื่น
นพและผมถูกกันไว้ด้วยชาวบ้านอีกกลุ่มและพระสองสามรูป
พระคงหวงสมบัติ พระรูปที่ยึดตัวผมตะโกนบอกอีกรูป
หลวงพี่คิม!.. ผมจำเสียงได้ หันไปมอง
ทิดนิดหรือ.. หลวงพี่จำได้ อย่าเข้าไปนะอันตราย ปล่อยมือผมวิ่งไปรวมกลุ่มกับพระที่มุงอยู่
นพ เราช่วยอะไรไม่ได้แล้ว.. ทั้งนพและผมเปียกโชกเพราะสายน้ำที่วกกลับไปกลับมา..รถสองคันสี่หัวฉีดช่วยอะไรไม่ได้เช่นกัน
ถอยออกมาให้หมด เสียงจากโทรโข่งดังลั่น..เสียงครืนๆ เหมือนฟ้าร้องตามมา
สัญชาตญาณการอยู่รอดทำให้ทุกคนวิ่งห่างตัวโบสถ์..พริบตานั้นโบสถ์ทั้งหลังร่วงลงกองกับพื้น..อนิจจา..ท่ามกลางเปลวเพลิงและกลุ่มควัน ไม่ปรากฏองค์หลวงพ่อนิล..เหมือนที่ผมเคยฝัน
โชคดีที่โบสถ์เล็กไหม้แค่หลังคา ถึงอย่างนั้นถ้ามีใครอยู่ก็คงคางเหลือง...มีเสียงเอะอะที่ท้ายวัดพร้อมแสงเพลิง
ช่วยด้วย!..ช่วยด้วย!..ไฟไหม้ศาลายาว เสียงร้องให้ช่วย
อะไรกันอีก? ใครคนหนึ่งหัวเสียกับเหตุการณ์ที่ดูเหมือนจงใจให้เกิดขึ้น
รถดับเพลิงคันหนึ่งแล่นไปด้านใน แต่ไม่ถึงศาลายาวเพราะทางแคบ
เร็วช่วยกันหน่อย ผมแทบจะวิ่งนำหน้า ตามด้วยนพและชาวบ้านกลุ่มใหญ่
กระป๋องๆๆ ดำวิ่งมาจากโบสถ์ขึ้นไปบนศาลาขนกระป๋องมาให้ทุกคนช่วยกันตักน้ำจากท่าใหญ่และท่าของหลวงตาใบ ส่วนท่าท้ายศาลาใช้ไม่ได้เพราะต้นเพลิงอยู่ที่ห้องหลวงพี่เรย์แบรนด์ติดกับท่าน้ำนั่นเอง
ผมตักน้ำจากท่าหลวงตาใบวิ่งผ่านห้องที่เคยอยู่สาดไปที่ห้องสุดท้าย..อดชำเลืองตามห้องไม่ได้..อยู่ไหนกันหมด ไม่มีใครสักคนบนศาลา..หลวงตาใบ..หลวงพี่อาจ..นึง..นึง..วิ่งไป..วิ่งกลับ..วิ่งไป..วิ่งกลับ..ตักน้ำสาด..สาด..สาด..
นึง..นึง..นึง.. ในใจมีเพียงแค่นี้..ลำคอตีบตัน..วิ่งไป..วิ่งมา..
ไม่ใช่แค่ศาลายาวเปียกปอน นายนิดก็เปียก เปียกร่างกายเพราะน้ำที่ช่วยกันสาด เปียกใบหน้าเพราะน้ำตาเจิ่งนอง...
.
แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 54 11:06:18
แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 54 10:26:53
จากคุณ |
:
ดาเรน
|
เขียนเมื่อ |
:
27 มิ.ย. 54 09:48:06
|
|
|
|