ฟอร์เซ็ตติร้องเรียกเอลฟ์สาวด้วยความตกใจเมื่อเห็นร่างระหงล้มลงแทบเท้าของจอมมาร จอมเวทหนุ่มรู้สึกแทบคลั่งเมื่อคอร์ฟคาคาร์สก้มตัวลงไปขยุ้มผมของรัคเชนน์และกระชากให้นางเงยหน้า
อย่าได้ขยับ หากยังอยากเห็นนางมีชีวิต
ราชันย์ปิศาจขู่ รัคเชนน์มองหน้าเขาด้วยสายตาอาฆาตและตวาด
ฆ่าข้าเสียเจ้าปิศาจไม่เช่นนั้นข้าจะเป็นฝ่ายไปหาเจ้าและสังหารให้ตายคาบัลลังก์
คำขู่ของเจ้าทำให้ข้ากลัวแทบขาดใจ คอร์ฟคาคาร์สเยาะ ข้าจะปล่อยเจ้าไว้เพื่อรอให้ถึงวันนั้น นางดาร์คเอลฟ์
จอมมารโยนร่างของรัคเชนน์กลับไปหาฟอร์เซ็ตติ จอมเวทหนุ่มรีบทรุดนั่งลงและประคองร่างของนางด้วยความเป็นห่วงแต่ดาร์คเอลฟ์สาวกลับปัดมือของเขาออกก่อนดันกายหันไปจ้องจอมปิศาจด้วยสายตาพยาบาทพร้อมกับยกมือขึ้นปาดเลือดที่ไหลย้อยออกมาจากมุมปาก
ข้าจะเสียบร่างของเจ้าด้วยกรามร์ นางคำราม และเผาร่างของเจ้าไม่ให้เหลือแม้เถ้าธุลี
กลัวแต่ว่าเจ้าจะทำได้แค่คำพูด คอร์ฟคาคาร์สเชิดหน้าขึ้นและยิ้มอย่างน่ากลัวที่สุด เพราะข้าจะนำร่างยับเยินของพวกเจ้าไปมัดกองเอาไว้ในวังหลังจากสนุกกับการทรมานพวกเจ้าจนสาแก่ใจ หลังจากนั้นข้าจะให้พวกเจ้าทุกคนมองดูข้าฉีกเนื้อนังเด็กน้อยผมทองนั่นกินเป็นอาหารอย่างมีความสุขบนบัลลังก์
คำพูดของจอมมารสร้างความเดือดดาลให้กับโมไดและฟอร์เซ็ตติเป็นอย่างยิ่ง บรุนนาลาในมือของเด็กหนุ่มลุกสว่างราวกับเปลวไฟเมื่อเขาตวัดมันไปในอากาศเต็มแรง
ข้าไม่ยอมให้เจ้าทำอย่างนั้นแน่เจ้าปิศาจชั่ว! อัซซ์บรุนน์!
เพลิงรูปจันทร์เสี้ยวพุ่งวาบออกจากดาบวิ่งเข้าร่างในผ้าคลุมสีดำสนิทพร้อมกับพลังไฟสีฟ้าสดที่แผ่ออกมาจากผลึกคริสตัลบนยอดไม้เท้าของจอมเวทแห่งมาร์วัลลัส ดาม่อนถึงกับร้องเรียกชื่อของผู้เป็นนายด้วยความตระหนก แต่ราชันย์ปิศาจกลับทำเพียงยกมือทั้งสองข้างขึ้นตั้งรับ เสียงระเบิดดังกึกก้อง แรงสะท้อนอันเกิดจากการปะทะทำให้ร่างของจอมมารถึงกับเซถอยหลังไปหนึ่งก้าว เขาปัดเปลวเพลิงทิ้งออกไปด้วยสีหน้ารำคาญ
ข้าเบื่อที่จะเล่นกับพวกเจ้าเต็มทีแล้ว น้ำเสียงที่ใช้เต็มไปด้วยความหงุดหงิด กลับปราสาทของข้าเดี๋ยวนี้ ดาม่อน!
ร่างสูงในชุดดำหมุนกายเตรียมผละไป แต่ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงโมไดร้องเรียก
คิดจะหนีหรือเจ้าปิศาจ
ดวงตาของคอร์ฟคาคาร์สแดงก่ำวาวโรจน์ด้วยความโกรธ เขาหันกลับมามองหน้าเด็กหนุ่มและจ้องนิ่ง
หากเจ้าอยู่ในห้องใต้ดินของปราสาท ข้าจะฉีกเนื้อเจ้ากินวันละชิ้นเพื่อทรมานเจ้าจนต้องร้องขอความตายให้สมกับความปากดีของเจ้า! ไอ้เด็กโอหัง!
ข้าเบื่อที่จะฟังคำคุยของเจ้าต็มทีแล้วเจ้ามารชั่ว หากมันหงุดหงิดใจนักก็เข้ามาจัดการกับข้าเสียตอนนี้เลยไม่ดีกว่าหรือ
จอมปิศาจหัวเราะเสียงก้องและหยุดลงอย่างฉับพลัน ดวงตาสีเลือดจ้องมองดูโมไดด้วยความพิโรธรอยยิ้มอันโหดเหี้ยมปรากฏขึ้นที่มุมปาก
ข้าไม่มีเวลามานั่งเล่นกับสวะอย่างเจ้า ไอ้เด็กมนุษย์ แต่ไม่ต้องกลัว ข้ามีบริวารตนหนึ่งที่เหมาะจะนำมาเป็นเพื่อนเล่นกับเจ้า
พื้นดินไม่ห่างจากที่ราชันย์ปิศาจยืนเท่าใดนักเกิดอาการสั่นสะเทือนขึ้นอย่างรุนแรงและแยกออกเป็นรอยกว้าง ผงฝุ่นดินจำนวนมหาศาลพลุ่งขึ้นมาจากรอยแตกนั้นพร้อมกับร่างมหึมาอันน่าอัปลักษณ์ของปิศาจตนหนึ่ง มันอ้าปากร้องคำรามเสียงโหยหวนฟังแล้วชวนสยอง คอร์ฟคาคาร์ส กระตุกยิ้ม
จงจัดการพวกที่อยู่ตรงหน้าของข้า บดขยี้ร่างของพวกมันอย่าให้เหลือแม้สักชิ้น อันทรัสต์!
คำเรียกชื่อปิศาจของราชันย์มารทำให้ดาม่อนถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เขารีบหันไปดูร่างสยองซึ่งประกอบขึ้นมาจากชิ้นส่วนรวมถึงซากศพของคนตายเป็นจำนวนมาก หัวหน้าโจรแทบเข่าอ่อนเมื่อเห็นใบหน้าหนึ่งตรงกลางบริเวณที่น่าจะเป็นส่วนหน้าผากของอสุรกายตนนั้น
อันทรัสต์
ดาม่อนครางออกมาด้วยความรู้สึกสลดใจเป็นอย่างยิ่งเพราะใบหน้าของผู้ที่เคยเป็นลูกน้องมือหนึ่งของเขาบิดเบี้ยวเหยเก ดวงตาเหลือกถลนคล้ายกับเขาได้รับความเจ็บปวดและหวาดกลัวอย่างที่สุดก่อนจะสิ้นใจ เสียงคอร์ฟคาคาร์สดังขึ้น
จะกลับไปกับข้าหรืออยู่เป็นส่วนหนึ่งของมัน
หัวหน้าโจรก้มหน้าลงและเดินเข้าไปหาผู้เป็นนาย เขาหันไปมองดูอันทรัสต์ในร่างปิศาจอีกครั้งก่อนจอมมารจะยื่นมือออกมาคว้าคอของเขาและดึงเข้าหาตัว
ขอให้สนุก
เขาร้องบอกฟอร์เซ็ตติก่อนจางหายไป ปล่อยให้อันทรัสต์อ้าปากส่งเสียงร้องโหยหวนและพุ่งเข้าใส่คนทั้งสามอย่างดุร้าย มืออันประกอบด้วยร่างของคนตายกระแทกลงไปตรงที่ที่พวกเขายืนอยู่ ทุกคนรีบกลิ้งตัวหลบ เศษชิ้นส่วนมนุษย์อันเกิดจากแรงปะทะของหมัดที่กระทบพื้นดินกระเด็นไปรอบๆ โมไดถึงกับเบ้หน้าด้วยความรู้สึกสยอง
บลาสต์!
เขาปล่อยรันนิ่งออกไปทันทีที่ได้จังหวะ มีดบินโฉบร่อนโจมตีร่างอสุรกายนรก มันเชือดนิ้วมือทั้งห้าของปิศาจจนขาดกระเด็นและหมุนขึ้นไปบนฟ้าก่อนวนลงมาปาดลำคอของมัน รัคเชนน์อุทานเสียงดังเมื่อนิ้วของมันตกลงมากระแทกกับพื้นจนแตกกระจุย เศษอวัยวะของคนกระจัดกระจายเกลื่อน นางหมุนกรามร์ปักลงไปบนท่อนแขนมนุษย์ข้างหนึ่งซึ่งคลานเข้าไปหาในลักษณะคุกคาม
เศษชิ้นส่วนของมันมีชีวิต ดาร์คเอลฟ์สาวร้องบอกโมไดพลางเตะมือข้างหนึ่งซึ่งใช้นิ้วของมันแทนขาวิ่งเข้ามาหานางราวกับแมงมุม อย่าตัดร่างของมันโมได!
เสียงรันนิ่งหมุนกลับไปหาเด็กหนุ่มทันทีที่นางกล่าวจบ ฟอร์เซ็ตติใช้เพลิงของเขาเผาอวัยวะทุกชิ้นที่เคลื่อนไหว จอมเวทหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองร่างของอสุรกายแล้วขมวดคิ้วอย่างนึกขัดใจ
ถอยออกมาทั้งสองคน!
เขาร้องสั่งเสียงดัง ทั้งโมไดและรัคเชนน์ต่างวิ่งกลับมายืนขนาบข้างร่างของฟอร์เซ็ตติซึ่งกำลังรวบรวมสมาธิและประสานมือเขาไว้บนไม้เท้า ดาร์คเอลฟ์สาวตวัดดาบฟันมือที่ไม่มีนิ้วของอันทรัสเพื่อป้องกันมิให้มันทำร้ายจอมเวท
เร่งมือเข้า!
นางสั่งเสียงห้วน โมไดเหวี่ยงบรุนนาลาของเขาเข้าใส่ใบหน้าของอันทรัสที่ยื่นลงมา มันเจาะลงไปในเบ้าตาของเจ้าอสูรร้ายพอดี มันร้องลั่นและผงะถอยออกไป
ทำไมคราวนี้เจ้าร่ายเวทช้านักนะเจ้าจอม.....
เสียงของเด็กหนุ่มขาดหายไปจนรัคเชนน์นึกเอะใจและหันไปมอง ดวงตาของทั้งสองคนเบิกขึ้นด้วยความตระหนกเมื่อเห็นโลหิตสีแดงฉานไหลทะลักออกมาจากรอยแผลอันเกิดจากการทำร้ายของดาม่อนและจอมมารที่ตราไว้บนร่างของฟอร์เซ็ตติ เขากัดฟันแน่นและพยายามร่ายเวทต่อ
หยุดได้แล้ว! ดาร์คเอลฟ์สาวร้องห้าม เลือดของเจ้าจะไหลไม่หยุดนะหากยังขืนใช้พลังร่ายเวทหนักๆแบบนี้
ข้าไม่เป็นไร จอมเวทแห่งมาร์วัลลัสกัดฟันตอบ คอยป้องกันอย่าให้เจ้านั่นมาขัดขวางการใช้สมาธิของข้าเท่านั้นก็พอ
แต่...
รัคเชนน์!
ฟอร์เซ็ตติมองหน้านางนิ่ง เอลฟ์สาวเม้มปากของตนและกระชับกรามร์ในมือ
เร่งมือเร็วเข้า ข้าไม่ชอบการรอคอยอะไรนานๆ
จอมเวทหนุ่มยิ้มและเริ่มรวบรวมสมาธิของเขาอีกครั้ง ดวงตาสีฟ้าแปรเปลี่ยนไปเป็นสีน้ำเงินเข้มที่ดุดัน
ด้วยพลังอำนาจขององค์เบรนเนนเลสผู้พิทักษ์แห่งไฟ
เขากล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน ตาทั้งสองข้างเพ่งมองไปยังร่างของอันทรัสซึ่งกำลังย่างสามขุมเข้ามาหา
ขอทรงโปรดประทานพระเพลิงจากก้นบึ้งของขุมนรกมาให้ข้าเพื่อเผาผลาญทั้งร่างกายและวิญญาณของมนุษย์ซึ่งตกอยู่ในอำนาจของมารร้ายให้พินาศสิ้นไปด้วยเถิด
เสียงลั่นเปรียะดังขึ้นมาจากพื้นที่ฟอร์เซ็ตติยืนอยู่ ไอความร้อนระเหยขึ้นมาจากรอยแยกของผืนดินใต้เท้าจอมเวทหนุ่ม พลันเปลวไฟสีแดงฉานก็พวยพุ่งขึ้นมาจากใต้พิภพโอบล้อมกายของเขา โมไดและรัคเชนน์ถึงกับผงะถอยออกห่างทั้งที่สายตายังคงจ้องมองดูจอมเวทแห่งมาร์วัลลัสซึ่งกำลังถูกเพลิงกาฬลุกท่วมร่าง
ฟอร์เซ็ตติ!
ดาร์คเอลฟ์สาวร้องเรียกเขาด้วยความเป็นห่วง ร่างในกองเพลิงขยับเล็กน้อยจากนั้นเสียงทรงอำนาจจึงดังขึ้น
เฮลเบรนเนน!
เปลวไฟจากนรกบิดตัวหมุนวนรอบกายของฟอร์เซ็ตติราวกับอสรพิษเพลิง อันทรัสต์อ้าปากร้องคำรามและโผตัวเข้าหาจอมเวทหนุ่ม ไฟโลกันต์จึงพุ่งออกจากกายของเขาเข้าไปในช่องปากของ อสูรกายร้าย มันชะงักและยกมือขึ้นกุมลำคอของตนจากนั้นจึงบิดตัวไปมาด้วยท่าทางเจ็บปวดทรมานเมื่อ เพลิงนรกแผดเผาร่างกายของมันจนมอดไหม้จากภายในออกสู่ภายนอก ร่างอันประกอบจากซากของมนุษย์เริ่มปริแยกออกจากกันปล่อยให้เปลวไฟไหม้ลามเลียออกมา ชั่วพริบตาร่างสยองของอันทรัสก็แตกออกเป็นชิ้นและร่วงลงไปกองรวมอยู่กับพื้นที่ยุบตัวแตกออกเป็นหลุมกว้างปล่อยให้อัคคีใต้พิภพพุ่งขึ้นมาลากเศษซากไหม้เกรียมกลับลงไปในหลุมลึกอันร้อนระอุ รัคเชนน์มองดูเพลิงสีแดงซึ่งหดตัวหายกลับลงไปยังที่ที่มันมา เปลวของมันเต้นระริกอย่างเริงร่าราวกับกำลังยินดีที่ได้กวาดร่างของอมนุษย์ลงไปในนรกก่อนมอดดับลง
เจ้าจอมเวท!
เสียงโมไดร้องขึ้นด้วยความตกใจเมื่อเห็นร่างสูงล้มฮวบลงไปนอนกองกับพื้น เลือดไหลทะลักออกจากรอยแผลทั้งสองรอยจนท่วมร่างย้อมเสื้อขาวให้กลายเป็นสีแดงฉาน รัคเชนน์รีบถลาเข้าไปประคองเขาทันที
เป็นยังไงบ้าง
นางถามพลางคลายคอเสื้อของเขาและเปิดออกเพื่อทำการห้ามเลือด เขาฝืนยิ้มพร้อมกับตอบ
ข้าไม่เป็นอะไร
เจ้านี่โง่แท้ๆ ไม่รู้เลยหรือยังไงว่าการใช้เวทเรียกเพลิงของเบรนเนนเลสขึ้นมาจากนรกน่ะต้องใช้พลังมากมายขนาดไหน
รัคเชนน์ดุพลางใช้มือกดลงไปบนบาดแผลของฟอร์เซ็ตติ เขาผ่อนลมหายใจก่อนตอบเสียงแผ่ว
ข้ารู้
ในเมื่อรู้แล้วเหตุใดจึงยังฝืนทำ ดาร์คเอลฟ์สาวรับผ้ามาจากโมไดและฉีกมันออกเพื่อนำไปอุดปากแผลให้กับจอมเวท เขามองหน้าของนางนิ่ง
ข้ายินดีทำทุกอย่างเพื่อให้เจ้าปลอดภัย
รัคเชนน์นิ่งลงในทันที นางก้มหน้าลงขณะพันแผลให้กับเขา
คนโง่ เสียงของดาร์คเอลฟ์สาวสั่นพร่า ข้าสูญเสียคนที่ข้ารักไปคนหนึ่งแล้ว คิดว่าข้าจะดีใจหรือที่ต้องเสียเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตไปอีกคน
น้ำตาของรัคเชนน์หยดลงบนมือที่กำลังสาละวนอยู่กับการทำแผลให้ฟอร์เซ็ตติ เขารีบกุมมือของนางและพยายามดันกายลุกขึ้น
ข้าไม่ได้คิดเช่นนั้น
อย่าทำแบบนี้อีก ดาร์คเอลฟ์สาวกล่าวขณะมองหน้าเขา สัญญากับข้าว่าเจ้าจะไม่ทำอะไรที่เสี่ยงเช่นนี้อีก หากชนะเราก็ต้องชนะด้วยกัน และหากจะตาย พวกเราจะต้องตายพร้อมๆกัน
ข้าให้สัญญา จอมเวทหนุ่มรับคำ หัวใจของเขาเต้นระรัวราวกับตีกลองเมื่อเห็นใบหน้าแสนงามของรัคเชนน์ยิ้มให้กับเขาอย่างอ่อนโยน เขาเลื่อนมือออกไปเพื่อเช็ดน้ำตาให้กับนาง เสียงกระแอมไอดังมาจากทางด้านหลัง โมไดพูดขัดขึ้น
พวกเรามีกันอยู่สามคนนะ
ข้ารู้ ฟอร์เซ็ตติตอบและหันไปทางเขา และคำสัญญานั่นรวมไปถึงเจ้าด้วยโมได
เด็กหนุ่มยิ้มกว้างพร้อมกับยกมือขึ้นเกาคางราวจะแก้เก้อ เขามองดูจอมเวทหนุ่มด้วยสีหน้ากังวล
แล้วเจ้าจะเดินทางไหวหรือ
ข้าเป็นเอลฟ์ มีพลังรักษาตัวเองดีกว่ามนุษย์เจ้าอย่าลืมข้อนี้ไปเสียสิ ฟอร์เซ็ตติตอบ โมไดทำสีหน้าเคร่งขรึม
เรื่องนั้นข้ารู้ แต่ครั้งนี้บาดแผลของเจ้าดูจะหนักหนากว่าครั้งก่อน คงต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่าจะหายสนิทเหมือนทุกครั้ง ข้าคิดว่าคืนนี้พวกเราน่าจะหาที่พัก จากนั้นจึงค่อยเดินทางกันต่อในวันรุ่งขึ้น
เจ้าหนูนี่พูดถูก เจ้าควรจะพักนะฟอร์เซ็ตติ ข้ากับเขาจะผลัดกันเฝ้าเวรยามให้เองไม่ต้องกังวล
รัคเชนน์รีบกล่าวเมื่อเห็นจอมเวททำท่าคล้ายจะปฏิเสธ เขานิ่งไปเล็กน้อยจึงพยักหน้า
ในเมื่อเจ้าทั้งสองเห็นพ้องต้องกันแบบนี้ ข้าคงต้องยอมรับและทำตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ข้าจะร่ายเวทสร้างอาณาเขตคุ้มครองให้...
ไม่ต้อง ดาร์คเอลฟ์สาวพูดเสียงห้วน จงพักและนอนโดยไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น
โมไดแทบจะกลั้นเสียงหัวเราะของตนเองเอาไว้ไม่ได้เมื่อเห็นสีหน้าของจอมเวทแห่งมาร์วัลลัสสลดลงและยอมเอนกายลงนอนตามคำสั่งของรัคเชนน์อย่างว่าง่ายผิดกับทุกครั้ง จนเมื่อแน่ใจว่าเขาหลับสนิท ดาร์คเอลฟ์สาวจึงหันมามองเด็กหนุ่มและกล่าว
เจ้าเองก็จงนอนเสีย ข้าจะอยู่เฝ้าระวังให้ ไม่ต้องกังวล
แต่ว่า โมไดอ้าปากจะเถียงแต่รัคเชนน์กลับพูดขึ้น
ข้าเป็นเอลฟ์เหมือนกัน
เด็กหนุ่มมองดูใบหน้าเรียบเฉยของนางครู่หนึ่งจึงยอมเอนตัวลงนอนและหลับสนิทในไม่นาน ดาร์คเอลฟ์สาวดูเพื่อนทั้งสองด้วยสายตาห่วงใยก่อนเลื่อนขึ้นไปมองดวงดาวบนท้องฟ้า
โปรดคุ้มครองเพื่อนของท่านด้วย โซลย์
*/*/*/*/*
สีหน้าของดาม่อนเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองใจขณะที่มองตามหลังราชันย์มารซึ่งกำลังเดินไปนั่งยังบัลลังก์ของเขา หัวหน้าโจรขบกรามตนเองแน่นราวกับลังเลใจก่อนโพล่งคำถามขึ้น
เหตุใดอันทรัสต์จึงกลายเป็นแบบนั้น
ดวงตาอันดุดันของคอร์ฟคาคาร์สฉายประกายวาววับวูบหนึ่ง เขาเอนกายพิงพนักสูงก่อนตอบ
เจ้าคิดว่าข้าควรจะเก็บคนซึ่งกล้าแม้กระทั่งคิดจะหักหลังเพื่อนเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดเอาไว้อย่างนั้นหรือ
อันทรัสต์ไม่ได้หักหลังข้า เขาเพียงแค่....
การที่มันไม่ยอมรับคำสั่งของเจ้าซ้ำยังบ่ายเบี่ยงไม่ยอมออกไปต่อสู้กับเจ้าลูกครึ่งจอมเวทแต่กลับจ้องที่จะอยู่ในปราสาทนี่เพื่อหาทางเอาใจข้า ยังไม่เรียกว่าเป็นการหักหลังอีกหรือ
เขาแค่กลัวที่จะต้องออกไปสู้กับพวกจอมเวทเท่านั้น
แค่คำว่าขลาดก็สามารถสร้างคนทรยศได้ จอมมารกล่าวเสียงเหี้ยมและเอนกายมาข้างหน้า ดูเจ้าไม่พอใจในเรื่องนี้นัก
ข้าเพียงแต่นึกเสียดายลูกน้องที่ติดตามกันมานานเท่านั้น ดาม่อนแก้ตัว จอมปิศาจหรี่ตาของเขาลง
ก็แค่สวะตัวหนึ่งที่คอยกระดิกหางตามเจ้ายามมีอำนาจ เจ้าจะไปใส่ใจกับมันทำไม
ข้าจะเป็นเหมือนกับเขาหรือไม่
หัวหน้าโจรเอ่ยถามราชันย์มารที่กำลังนั่งอยู่ตรงหน้า เขาแสยะยิ้ม
ขึ้นอยู่กับการกระทำของเจ้า จอมปิศาจมองหน้าดาม่อนนิ่ง ข้าต้องการอยู่คนเดียว ออกไปได้
หัวหน้าโจรมีท่าทางลังเลใจคล้ายจะพูดบางอย่างต่อแต่เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาของราชันย์ปิศาจซึ่งกำลังทอประกายหงุดหงิดรำคาญขึ้นมาเขาจึงเปลี่ยนใจเป็นก้มตัวลงคำนับและกล่าวอำลาออกไปโดยไม่ลืมปรายหางตาไปมองดูลินซ์ซึ่งนั่งมองเขาอยู่เช่นกัน
ดูเหมือนเจ้าจะสนใจดาม่อนมากนะ
เสียงพูดคล้ายคำรามดังขึ้น ลินซ์มองหน้าเขาและตอบ
ข้าแค่นึกสงสารเขาเท่านั้น
เจ้านั่นมีอะไรน่าสงสาร จอมมารถามพลางยกแขนขึ้นเท้าคางด้วยท่าทางสบาย ดวงตาสีดำสนิทชำเลืองมองดูเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังขยับเปลี่ยนท่านั่ง
เขามีเรื่องวุ่นวายในใจ ลินซ์ตอบ เจ้าคงไม่อยากรู้นัก
ข้าอยากรู้ ราชันย์ปิศาจพูดเสียงเรียบ ลองเล่ามาให้ข้าฟังหน่อยว่าเจ้านั่นมันคิดอะไรอยู่
บุตรีแห่งเดฟล่อนขมวดคิ้วเข้าหากันคล้ายพยายามเรียบเรียงคำพูด จนคอร์ฟคาคาร์สรู้สึกรำคาญ
เร็ว!
เขาตวาดเสียงดังลั่นจนลินซ์สะดุ้งสุดตัว เด็กน้อยเม้มปากตนเองและโต้กลับ
ให้ข้านึกก่อนไม่ได้หรือยังไง
แค่คำพูดไม่กี่คำทำไมถึงใช้เวลานานนัก จอมมารขยับตัวและยื่นมือออกไปคว้าคอเสื้อของลินซ์และดึงเข้าไปจนใกล้ หรือต้องให้ข้าเปิดกะโหลกของเจ้าออกแล้วรีดความจำนั่นออกมาจากสมอง
เจ้าจะไม่ได้อะไรเลยหากทำแบบนั้น
อย่างน้อยข้าก็ได้กินก้อนเนื้อนุ่มๆนั่น จอมปิศาจแลบลิ้นเลียริมฝีปากตนเอง ข้าน่าจะทำแบบนั้นจริงๆมากกว่าที่จะมาเสียเวลาคุยกับเจ้า
กรงเล็บอันแหลมคมลากไปตามใบหน้าของเด็กน้อยราวข่มขู่ ดวงตาสีฟ้าใสจ้องมองตามมือของจอมมารด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น แต่แล้วนางกลับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตกใจ
เจ้าบาดเจ็บ!
คอร์ฟคาคาร์สชะงักและมองดูเด็กน้อยที่กำลังเอื้อมมือออกมาแตะแขนของเขาอย่างแผ่วเบา คิ้วของราชันย์ปิศาจขมวดเข้าหากันเมื่อพบว่าตั้งแต่บริเวณศอกไปจนถึงข้อมือทั้งสองข้างของเขาเต็มไปด้วยบาดแผลซึ่งแม้จะไม่รุนแรงนักแต่ก็มีเลือดไหลซึมออกมาเป็นบางแห่ง เสียงหัวเราะกระหึ่มอยู่ในลำคอเมื่อจอมมารดึงมือของเขากลับ
เวทของเจ้าลูกครึ่งชั้นต่ำนั่นไม่เลวเลยทีเดียว เขาเลียรอยแผลบนแขนของตนเองสองสามครั้งเสียงลินซ์ร้องห้ามขึ้นมา
ทำแบบนั้นไม่ได้นะ
นางเดินไปยืนข้างกายเขาและดึงมือของจอมปิศาจมาดูขณะที่ปากเล็กๆบ่นราวกับผู้ใหญ่
เดี๋ยวแผลจะยิ่งแย่หนักเข้าไปอีก เจ้าต้องทำความสะอาดแผลให้ดีแล้วหายามาใส่ให้เรียบร้อย
มือน้อยๆสาละวนอยู่กับการใช้ผ้าเช็ดรอยเลือดบนแขนของจอมมาร เขาหรี่ตามองดูการกระทำของเด็กหญิงตัวน้อยอยู่ครู่หนึ่ง แต่แล้วจู่ๆร่างสูงของราชันย์ปิศาจก็สั่นสะท้านขึ้นเมื่อมองเห็นรัศมีสีทองอร่ามแผ่ออกมาจากร่างของลินซ์ มันเป็นแสงที่นุ่มนวลและสร้างความอบอุ่นอย่างประหลาดคอร์ฟคาคาร์สถึงกับผงะไปข้างหลัง เขารีบกระชากแขนของตนออกจากมือของเด็กหญิงพร้อมกับตวาดเสียงดัง
ไม่ต้องมายุ่ง! ร่างกายของข้าสามารถรักษาแผลด้วยตัวเองได้!
มืออีกข้างผลักร่างน้อยๆจนกระเด็น จอมปิศาจแห่งแซฟเวจย์ผุดลุกขึ้นยืนและจ้องมองดูลินซ์ซึ่งกำลังนั่งมองเขาด้วยความรู้สึกงงงันอยู่เช่นเดียวกัน
วาลิหรือ จอมมารพึมพำ อย่างนี้นี่เองเจ้านั่นถึงได้พยายามปกป้องเจ้านัก เขาเดินเข้าไปยืนเหนือร่างของเด็กน้อยและกางกรงเล็บออก
มันจะเป็นยังไง หากฉีกเนื้อร่างที่มีเทพแฝงอยู่กินเสียตอนนี้
เล็บอันแหลมคมเลื่อนลงไปสัมผัสบนใบหน้าของลินซ์ คอร์ฟคาคาร์สกัดฟันตนเองแน่นและยืดตัวขึ้น
เจ้าคงถูกส่งมาเพื่อกำจัดข้า จอมปิศาจพูดกับเด็กน้อยซึ่งยังคงมองดูเขาด้วยสายตาฉงน ข้าจะรอดูว่าเจ้าและไอ้ลูกครึ่งจอมเวทนั่นจะจัดการข้าด้วยวิธีใด
ดวงตาสีดำอันดุดันแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำลุกวาวโรจน์ราวกับเปลวไฟขณะที่จ้องดูลินซ์ ราชันย์แห่งแซฟเวจย์สะบัดผ้าคลุมสีดำเมื่อหมุนตัวเดินกลับไปนั่งบนบัลลังก์ของเขาโดยสายตายังคงจับจ้องมองดูเด็กหญิงตรงหน้า นางขยับตัวคล้ายจะเข้าไปหาเขาแต่ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงของจอมมารดังขึ้น
หากเข้ามาใกล้ข้าเกินกว่าสามก้าว อย่าหาว่าข้าไม่ปรานี
เขาคำรามเตือนก่อนดวงตาสีแดงก่ำทั้งคู่จะปิดเปลือกลง
*-*-*-*-*-
ใกล้จะถึงบทอวสานแล้วนะคะ เรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องยาวที่สุดของมูนนี่เลยล่ะ และเป็นเรื่องแรกที่เขียนเพราะเดิมแต่งแต่แฟนฟิคลอร์ดออฟเดอะริงกับแฮรี่พอร์ตเตอร์ แต่ศาสตราแห่งเดราเนียร์เป็นนิยายที่มูนนี่รักและภูมิใจที่สุดค่ะ
สำหรับผู้ที่สนใจนิยายเรื่องนี้และมีความต้องการจะเก็บสะสม(ทำตาออดอ้อน) สามารถสั่งซื้อโดยตรงได้ที่สนพ.เราเพื่อนกันค่ะ
มาคุย ค้ย คุยกันนะคะ
ข้าจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง แม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตของข้าก็ตาม
เป็นคำพูดที่หล่อมากกกค่ะ พี่จอมเวทย์ อิๆ น่าคลั่งมั๊กๆๆ จากคุณ : มนต้นไม้๑^.^๑ (Setakan) - ความเป็นคนตรงไปตรงมาของฟอร์เซ็ตติ ทำให้ดูมีสเน่ห์ดี แต่เอ...จอมมารก็พูดตรงๆเหมือนกันนี่นา อิ อิ
กะถูกอีกว่าคงตายเกือบหมดกว่าจะฆ่ามารได้สำเร็จ จากคุณ : scottie - โซลย์ตายเพื่อให้ได้กรามร์ค่ะ เพราะเขาเป็นนักรบที่มีความกล้าหาญและเสียสละที่สุด
ซึ้งใจจัง ใครจะเป็นผู้ที่ต้องสูญเสียคนต่อไป จากคุณ : mementototem - อุบ...ไม่บอกค่ะ
ขอไว้อาลัยให้แก่ท่านแม่ทัพ 5 นาที ลาก่อน...ท่านแม่ทัพที่รัก ฮือ..ฮือ..ฮือ ทำร้ายจิตใจกันจังเลย คุณมูนนี่...กระซิกๆ จากคุณ : wor_lek - เง่อ ตอนน้องสาวครวจต้นฉบับโดนบ่นไปสามวันเลย เขาบอกว่าทำไมให้คนดีๆอย่างดซลย์ตาย ทีอิเด็กเกรียนโมไดดันรอด = =
งือ กำลังซึ้งๆตอนต้น มาตายตอนหลัง เศร้าไปอีกหลายวันเลย จากคุณ : GTW - ง่า ขอโทษค่า _(><)_ _( )_ _(><) _
จากคุณ |
:
moony (Moony_Lupin)
|
เขียนเมื่อ |
:
29 มิ.ย. 54 08:24:12
|
|
|
|